อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ – ตอนที่ 127 เข้าเรื่องการประชุม 7 ประเทศ

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

              การประชุมดำเนินไปอย่างราบลื่น

              ตัวอย่างของเรื่องที่ถูกยกขึ้นมา

              ・เรื่องการขออนุมัติเงินรางวัลสำหรับการปราบปรามมอนสเตอร์ขยายพันธุ์ผิดปกติที่ป่าใหญ่อูน เอล โพลตัน(แก้ไขปัญหาจบแล้ว)

              ・เรื่องการปรับภาษีเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้(ปรับไม่ถึง 0.1%)

              ・ตรวจสอบจำนวนของคงเหลือหลังงานวันสถาปนาชาติ(อนุมัติภายหลัง)

              ・รายงานสรุปสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างราชอาณาจักรพอนโซเนียและจักรวรรดิควินแบรนด์

 

              ความขัดแย้งระหว่างพอนโซเนียกับควินแบรนด์ ให้ตัวแทนเอาข้อมูลที่มีมาพูดคุยกัน ซึ่งไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมทำให้จบลงด้วยการรายงานอย่างเดียว

              การประชุมเริ่มตั้งแต่ 10 โมงเช้า มีพักรับประทานอาหารและประชุมต่อไปจนถึง 5 โมงเย็น

              จะเริ่มลงมือตอนช่วงสุดท้ายของการประชุม ที่ให้ตัวแทนแต่ละคนเสนอความคิดเห็น

              สำหรับข้อเสนอแนะของตัวแทน จะให้ตัวแทนของสมาชิกในสหพันธรัฐจัดสรรงบประมาณ ยกตัวอย่างเช่น ตัวแทนของโคโทบี้ ทุกๆปีจะบอกว่า “ควรเพิ่มงบประมาณในการสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์” ซึ่งทุกคนจะตอบกลับไปด้วยความเงียบ

              จะไม่มีการพูดถึงเรื่องปัญหาการพัฒนาถนนระหว่างเมือง สิทธิ์ในการขุดเหมือง หรือปัญหาการฑูตของแต่ละประเทศ—-เพราะว่าเรื่องพวกนั้นจะไปต่อรองในฤดูหนาวอย่าง “ฤดูการเมือง”

              “ขอพูดอะไรหน่อยได้ไหมครับ”

              หลังจากที่ปฏิเสธข้อเสนอของราชานักเล่นแร่แปรธาตุแห่งโคโทบี้ ซิลเวสเตอร์ กี ซูบร้าได้ยกมือขึ้น

              เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลผสมที่รับผิดชอบในการจดการประชุมพูดขึ้นมา

              “เกี่ยวกับข้อเสนอแนะของโคโทบี้เมื่อครู่หรือเปล่าครับ? หรือว่าเป็นข้อเสนอแนะในฐานะตัวแทนของซูบร้าครับ?”

              “เป็นข้อเสนอแนะในฐานะตัวแทนของซูบร้าครับ”

              ตอนนั้นเองที่ตัวแทนของลูดันช่ากับยูราบะถึงกับเลิกคิ้วขึ้น ส่วนตัวแทนของลูมาเนียมองดูรอบๆ 

              แทบจะไม่เคยมีข้อเสนอแนะจากตัวแทนของซูบร้า—-ไม่สิ ต้องบอกว่าในอดีตไม่เคยเกิดขึ้นเลยสักครั้ง

              ตัวแทนทั้งสองที่แสดงความสงสัยว่า “มันหมายความว่ายังไง?” แต่บิริออนแห่งลูมาเนีย—-พ่อของรีกกลับแตกต่างออกไป เขาสังเกตุสีหน้าของตัวแทนคนอื่นๆ คนที่แสดงท่าทางสบายๆออกมา “คงรู้เรื่องข้อเสนอแนะนี้อยู่แล้ว” หมายความว่าไปเกลี่ยกล่อมในช่วงที่ตัวเองไม่รู้

              (แย่นะเนี่ย)

              พอรีกมาอยู่ตรงนี้ ทำให้รู้ได้เลยว่าพ่อของตัวเองอยู่ในโลกของการเมืองมานานขนาดไหน บทสนทนา สีหน้า ท่าทาง แต่ละอย่างนั้นถือเป็นวัตถุดิบในการวางกลยุทธ์ “เซอร์ไพรส์” เรื่องข้อเสนอของตัวแทนอย่างซิลเวสเตอร์ประสบผลสำเร็จ  ดังนั้น รีกที่อยู่ข้างๆบิริออน เลยพูดเสริมออกไป—-เพื่อแสร้งทำเป็นว่า “ตัวเองก็ไม่รู้เรื่องข้อเสนอของตัวแทนคนนี้”

              “……ท่านพ่อ เกิดอะไรขึ้นหรือครับ”

              “ไม่รู้ แล้วเจ้าไม่รู้อะไรเลยงั้นเหรอ คนคนนั้นเรียนอยู่ที่เดียวกับเจ้านี่”

              “ต้องขออภัยด้วยครับ”

              รีกแสดงท่าทางออกมาให้ไปแนวทางเดียวกับพ่อ สิ่งนี้เป็นการเตรียมการสำหรับการเคลื่อนไหวถัดไป

              “จาราซัก โคโทบี้รู้เนื้อหาของข้อเสนอนี้แล้ว ส่วนองค์ราชินียังไม่แน่ใจ……”

              พ่อ บิริออนมองออกถึงขนาดนั้น

              (จะร้อนรนไม่ได้ สำหรับพวกเราแล้วถือว่าได้เปรียบอยู่ ท่านพ่อ—-ไม่รู้ว่าฉันกับซิลเวสเตอร์เป็นพวกเดียวกัน)

              กล่าวคือรีกตระหนักได้ว่าทิศทางการประชุมขึ้นอยู่กับการกระทำของตัวเอง

              กระดาษที่เขียนข้อเสนอแนะของซิลเวสเตอร์ถูกแจกออกมา เนื้อหาคือ “ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการก่อตั้งสหพันธ์นักเรียน” ซึ่งรีกเป็นคนร่างขึ้นมาเอง

              ความเงียบปกคลุมห้องประชุม ตัวแทนของลูดันช่าและยูราบะที่ไม่รู้เนื้อหาภายใน ทำสีหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะอ่านรายละเอียด

              (เป็นอย่างที่คิด)

              เท่าที่ดูก็เป็นเนื้อหาที่ “ไม่มีภัย” ข้อเสนอแนะนี้—–อยากให้สร้างกลุ่มของนักเรียนเพื่อให้แสดงพวกเขาเหล่านั้นศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่

              ทันใดนั้นบิริออนก็พูดออกมาเบาๆ

              “เรื่องยุ่งยากนะเนี่ย……”

              “ท่านพ่อจะทำอย่างไรดีครับ”

              “เจ้าคิดว่าไงบ้าง?”

              ตอบคำถามด้วยคำถาม บิริออนแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา ไม่รู้เลยว่าอ่านเบื้องหลังของข้อเสนอแนะเรื่อง “สหพันธ์นักเรียน” ได้ถึงขนาดไหน

              (เลิกประเมินความเสี่ยงไว้ต่ำสุดได้แล้ว)

              แล้วรีกก็ตัดสินใจออกมาทันที

              ที่จริงได้คิดเผื่อเอาไว้หลายรูปแบบ ความเป็นไปได้ที่พ่อจะไม่รู้, ความเป็นไปได้ที่พ่อจะมีความสามารถ, ความเป็นไปได้ที่พ่อจะรู้หมดทุกอย่าง

              ถ้าไม่รู้อะไรถึงจะน่าเศร้าแต่ถือเป็นโอกาสอันดี ถ้ามีความสามารถถึงจะยากแต่คงพอเอาชนะได้ด้วย “เซอร์ไพรส์” แต่ถ้ารู้ทุกอย่างแล้วละก็?

              (คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนำทางให้ไขว้เขว้ซะแล้ว)

              รีกพูดออกมาเพื่อทำหน้าที่ของตัวเองให้สำเร็จ

              “ข้อเสนอนี้อันตรายมากครับ ท่านพ่อเองก็คิดอย่างนั้นใช่ไหมครับ?”

              “……พูดต่อไป”

              “ถึงพวกเราลูมาเนียจะเป็นเผ่าที่อยู่จุดสูงสุด แต่ก็ต้องส่งพวกคนหนุ่มที่ไร้ความสามารถไปโรงเรียน สิ่งนี้ทำเพื่อแสดงให้องค์ราชินีเห็นว่ากำลังให้ความร่วมมือในการพัฒนาโรงเรียนอยู่ แต่สหพันธ์นักเรียน กล่าวคือมันเป็นขั้วอำนาจที่สามซึ่งจะมาคานอำนาจระหว่างองค์ราชินีกับพวกเราครับ”

              “แล้วซูบร้าจะได้ผลประโยชน์อะไร?”

              “ได้กุมอำนาจของสหพันธ์นักเรียน แล้วสร้างเครือข่ายขึ้นมา เท่ากับว่าได้ข้อมูลจากเหล่านักเรียนที่เรียนจบไปแล้วครับ”

              “……รีก ยอดเยี่ยมมาก ข้าเองก็คิดแบบนั้นเช่นกัน”

              ไม่รู้ว่าพ่อพูดจริงหรือโกหก แต่รีกคิดว่ามันน่าจะเป็น “เรื่องจริง” เพราะถ้าเป็นการหลอกให้ติดกับมันคงเป็นอะไรที่ยากจะเกินทน

              “ท่านพ่อ ปล่อยให้ผมจัดการได้ไหมครับ”

              “เจ้าจะจัดการเอง งั้นเหรอ?”

              “เสนอเรื่องนี้ขึ้นมา ในขณะที่ผมยังศึกษาอยู่ ไม่คิดว่ามันเป็นการดูถูกกันไปหน่อยหรือครับ”

              บิริออนหัวเราะอยู่ในลำคอ เพียงแค่นั้น ก็รู้แล้วว่า “อนุญาต”

              “—-การที่ก่อตั้งสหพันธ์นักเรียนขึ้นมา เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียน ถึงฉันเพิ่งจะได้เข้าเรียน แต่ก็มีความคิดอะไรหลายอย่าง เลยเสนอแนะเรื่องนี้ขึ้นมาในฐานะตัวแทนครับ”

              ซิลเวสเตอร์อธิบายออกมาโดยย่อ

              ตัวแทนของแต่ละประเทศพอได้ฟังดังนั้นก็กระซิบกับคนสนิท

              “ถ้ามีคำถามหรือขอเสนอแนะของตัวแทนแต่ละประเทศแล้วละก็—-”

              “ขออนุญาตครับ”

              “ท่านรีก เรียวกิ ลูมาเนียสินะ เชิญครับ”

              รีกยืนขึ้น และจ้องมองไปยังซิลเวสเตอร์ที่ยืนอยู่เหมือนกัน ทำให้บางคนเริ่มส่งเสียงจอแจออกมา เพราะว่ารีกซึ่งไม่พูดอะไรมาก่อนยืนขึ้นมาก็เป็นได้

              “ไม่เห็นความจำเป็นในการมีสหพันธ์นักเรียนครับ”

              เป็นการคัดค้านออกมาตรงๆ ซิลเวสเตอร์ขมวดคิ้วแล้วพูดออกมาอย่างไม่พอใจ

              “เพราะอะไร”

              “ฉันเองก็เป็นนักเรียนเหมือนกัน แต่ไม่ได้ไม่พอใจกับสถานการณ์ในตอนนี้ แล้วมีนักเรียนที่ไม่พอใจอยู่จริงหรือเปล่า ปัญหาใหญ่ๆเองน่าจะได้รับการแก้ไขเรียบร้อยไปแล้ว ที่เหลืออยู่น่าจะแค่ความไม่พอใจเล็กๆน้อยๆเท่านั้น การที่จะก่อตั้งกลุ่มใหม่ขึ้นมา มันจะขยายอำนาจให้กับนักเรียนมากขึ้น และก่อให้เกิดผลเสียมากมายที่ทางโรงเรียนควบคุมได้ยากอยู่ครับ”

              “ตระกูลของท่านรีกคงมั่งคั่งอยู่แล้ว เลยไม่มีเรื่องให้ไม่พอใจก็ได้นี่ครับ แล้วก็นักเรียนส่วนใหญ่มีความไม่พึงพอใจอยู่ แต่ไม่มีหนทางให้สื่อสารสิ่งนี้ออกมาได้”

              “เนื่องจากตัวผมเองเรียนอยู่ที่นี่และค่อนข้างมีความสนใจ เลยตรวจสอบเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนได้มีการแบ่งสรรงบประมาณให้กับเจ้าหน้าที่ธุรการค่อนข้างมาก และมีการลงบันทึกรายงานประจำปีเกี่ยวกับ ‘ระบบร้องทุกข์ของนักเรียน’ ของสำนักงานธุรการนี้เอาไว้อยู่ครับ”

              บางส่วนถึงกับส่งเสียง “โอ้ว……” ขึ้นมา เพราะไม่นึกว่าจะมีนักเรียนที่อ่านสิ่งนี้อยู่ก็ได้ รีกเองก็แอบมองพ่อผ่านหางตา—-ซึ่งพ่อของเขาทำสีหน้าสงสัยอยู่

              (……พูดมาเกินไปหน่อยหรือเปล่านะ ถ้าท่านพ่อสงสัยฉันขึ้นมาคงพังไม่เป็นท่าแน่……คงต้องเพลาๆมือหน่อย ยากเอาเรื่องนะเนี่ย)

              อีกด้านหนึ่งซิลเวสเตอร์ หน้าซีดเพราะไม่นึกว่าจะสวนมาหนักขนาดนี้  คงอยากจะแย้งว่า “ทำเกินไปหรือเปล่า” ออกมาด้วยซ้ำ

               

              รีกพยายามกลั้นขำเอาไว้ ที่ซิลเวสเตอร์บอกคงเป็นเรื่องของฮิคารุ เขาเคยบ่นเรื่องสำนักงานธุรการให้ฟังอยู่ ซึ่งรีกเองก็เคยได้ยินเช่นกัน

              “ต่อให้สิ่งที่ท่านซิลเวสเตอร์พูดเป็นเรื่องจริง แต่การให้นักเรียนปกครองด้วยตนเองมันก็ดูไม่น่าชื่นชมสักเท่าไร เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไหนๆก็มีตัวแทนมาเข้าร่วมประชุมอยู่ตรงนี้แล้ว ควรจะร้องเรียนให้พวกเขาปรับปรุงโรงเรียนไม่ดีกว่าหรือครับ? สิ่งนั้นเป็นประวัติศาสตร์ของสหพันธรัฐยังไงครับ”

              “จนถึงตอนนี้ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ เพราะอย่างนั้นฉันเลยอยากจะเปลี่ยน เลยอยากจะก่อตั้งสหพันธ์นักเรียนนี้ มันคือปรัชญาตอนก่อตั้งโรงเรียนไม่ใช่เหรอที่ ‘ระดมสมอง’ และ ‘ช่ยืนด้วยลำแข้งของตนเอง’ ไงครับ”

              “ปรัชญาก่อตั้งโรงเรียนมีหัวข้อ ‘ความสามัคคีของสหพันธรัฐ’ อยู่ด้วย ซึ่งสหพันธ์นักเรียนเป็นการขัดต่อ ‘ความสามัคคี’ นั้นไม่ใช่หรือ?”

              “ไม่ใช่ว่าท่านรีกเห็นสิ่งนั้นเป็นอันตรายใช่ไหมล่ะครับ? ถ้าเด็ดหน่ออ่อนความเป็นไปได้สู่อนาคตจะไม่มีต้นไม้ใหญ่—-”

 

              *  *

 

              “นี่ โซฟีร่า”

              “……ฝ่าบาท บอกไปแล้วนี่คะว่าอย่าพูดระหว่างการประชุม”

              “เดี๋ยวสิ เด็กหนุ่มลูมาเนียคนนั้น”

              “ท่านรีก”

              “อ้อ ใช่แล้ว เขาอยู่ฝั่งที่จะก่อตั้งสหพันธ์นักเรียนไม่ใช่เหรอ?”

              “ได้ยินมาเช่นนั้นเหมือนกันค่ะ”

              “นี่คิดจะทำลายจริงๆงั้นเหรอ?”

              “ตั้งใจแสดงให้เห็นว่าตั้งใจจะทำลายจริงๆมากกว่าค่ะ เพราะพ่อของเขาบิริออน…… เป็นคู่แค้นของฝ่าบาท ถ้าไม่ทำถึงขนาดนั้นคงไม่ได้นี่คะ”

              “โห สุดยอดไปเลยนะ ตัวแทนของซูบร้าเองก็ทำได้ดีไม่แพ้กันเลย”

              “คงวางโครงเรื่องกันเอาไว้ล่วงหน้าบ้างแล้ว ทำให้พูดโต้กันได้อย่างจริงจัง อนาคตชักมีความหวังแล้วค่ะ”

              “ไม่หรอก ฉันทำไม่ได้หรอก ไม่ไหวๆ”

              “แต่ว่ายังไงก็ต้องทำไม่ใช่หรือคะ?”

              “ไม่เอา ขอทีเถอะ”

              “ดูสิคะ”

              “เอ๊ะ?”

              “พวกเขาโยนบอลมาให้ทางนี้แล้วค่ะ”

              โซฟีร่าทำหน้าไร้เดียงสาออกมา

              “เอ๊ะ!?”

 

              *  *

 

              “สิ่งไหนที่จะเหมาะสมกับปรัชญาก่อตั้งโรงเรียนนั้น คนตัดสินไม่ใช่ท่านรีกหรือฉันหรอก คนที่ควรตัดสินน่าเป็นผู้นำสูงสุดอย่างองค์ราชินีมัลเกโด้ครับ—-ฝ่าบาท มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ?”

              พอซิลเวสเตอร์โยนคำถามมาให้ ผู้ทำหน้าที่จดการประชุมเลยสอบถามความเห็นว่า “องค์ราชินี ต้องขอประทานอภัยด้วย ไม่ทราบว่าพอจะช่วยออกความเห็นได้ไหมครับ”

              มัลเกโด้ทำสีหน้าตกใจออกมาครู่หนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้ากลับคืน—-ทำสีหน้าแบบที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

              “……พอจะเข้าใจที่ทั้งคู่อยากจะบอกแล้ว โรงเรียนของประเทศนี้ มีเหล่านักเรียนชั้นยอดเรียนอยู่มากมาย ช่างน่ายินดีมากที่คิดถึงอนาคตเหล่านั้นอย่างถี่ถ้วนลึกซึ้ง”

              รีกกับซิลเวสเตอร์ ก้มโค้งขอบคุณ

              “แต่ที่นี่คือสหพันธรัฐ ความคิดเห็นของฉันคนเดียวไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ ถ้ามีข้อถกเถียงเกิดขึ้นหรือต้องการความเห็นจากฉันแล้วละก็—-มันควรที่จะตัดสินด้วยการโหวตเสียงข้างมากไม่ใช่หรือ?”

              รีกสะดุ้งไปครู่หนึ่ง จริงอยู่ที่การตัดสินขั้นสุดท้ายมันควรจะตัดสินด้วยการใช้เสียงข้างมากอยู่ แต่มันยังเร็วเกินไป โซฟีร่าที่อยู่ข้างๆมัลเกโด้ถึงกับทอดสายตามองออกไปไกล ดูเหมือนมัลเกโด้จะไม่คุ้นชินกับการแสดงที่เป็นการโต้เถียงอย่างนี้ หรือไม่ก็เพราะอาจจะเป็นพวกไม่อยากยุ่งยากก็เป็นได้

              “ฝ่าบาท อย่างนั้นก็ดีนะเนี่ย! ข้าไม่ชอบการถกเถียงอะไรเล็กๆ น้อยๆ อย่างนั้นด้วยสิ!”

              คนที่เห็นด้วยก่อนใครคืออเล็กเซ่แห่งจาราซักที่กลั้นหาวอยู่ ส่วนตัวแทนของยูราบะก็มองอเล็กเซ่ด้วยสายตาที่อยากบอกว่า “จะบ้าเหรอ” ซึ่งสายตาบอกได้มากกว่าปากอีก

              ถึงจะเป็นอะไรไม่คาดคิด แต่ก็มุ่งหน้าไปสู่การตัดสินด้วยเสียงข้างมาก รีกที่คิดข้อโต้แย้งไว้อีกหลายเรื่อง นั่งลงอย่างผิดหวัง

              “เสียเวลาเปล่า”

              บิริออนพึมพำออกมา รีกที่ผ่อนคลายไปแล้ว กลับมาเกร็งอีกครั้ง

              “ต้องขอประทานโทษด้วยครับ……ไม่นึกเลยว่าจะจบลงด้วยเสียงข้างมากเช่นนี้”

              “เอาเถอะ ถ้าคิดว่าได้เปิดตัวเจ้าก็ถือว่าดีอยู่ ยังไงราชินีก็คงวางแผนรวมหัวกันไว้ก่อนอยู่แล้ว ถ้าคิดอย่างนั้น ไม่ว่าเจ้าจะพยายามแค่ไหน ข้อเสนอนี้ก็คงดำเนินต่อไปอยู่ดี ซูบร้า, จาราซัก, โคโทบี้ แล้วก็คิรีฮาล ถ้าขาดเสียงใดเสียงหนึ่งไปก็จบเห่ แต่ยังไงชัยชนะก็คือชัยชนะ”

              “……ครับ”

              รีกที่ยังระวังเพราะไม่รู้เหมือนกันว่าบิริออนมองเกมขาดไปถึงขนาดไหน แต่บิริออนคิดไปเองว่าลูกชาย “ท้อแท้เพราะพ่ายแพ้”

              “ไม่ต้องใส่ใจ ต่อให้สหพันธ์นักเรียนก่อตั้งขึ้นมา แค่เจ้าเข้าไปควบคุมก็พอแล้ว หลังจากที่เจ้าจบการศึกษาไปก็ให้คนของลูมาเนียมาควบคุมต่อไป ให้เข้าใจอย่างนั้นไว้ซะ”

              “……เข้าใจแล้วครับ”

              พ่อบอกให้ “ไปเข้าสหพันธ์นักเรียน” โดยไม่ถามความคิดเห็น

              “แต่—-ที่คาใจก็คือ นี่เป็นแผนที่เจ้าหนูซูบร้าเป็นคนคิดขึ้นมาเหรอ? หรือว่ามีคนอื่นเขียนแผนการนี้มาให้……?”

              รีกรู้สึกเลยว่าพ่อเป็นคนที่หลักแหลมจริงๆ เขารู้ว่าซิลเวสเตอร์ไม่ได้เป็นคนคิดแผน แถมรู้สงสัยถึงการคงอยู่ของฮิคารุแล้วด้วย—-

              ข้อเสนอแนะของตัวแทนซูบร้าเรื่อง “การก่อตั้งสหพันธ์นักเรียน” จบลงด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 4 ต่อ 3 ผู้บริหารจัดการจะเป็นนักเรียน แต่ผู้ที่ควบคุมดูแลจะเป็นฝั่งโรงเรียน

              “จริงๆแล้ว ยังมีข้อเสนอแนะอีก 1 เรื่องครับ”

              จากรอยยิ้มของซิลเวสเตอร์ ทำให้บิริออน—-มั่นใจได้ในทันทีว่ามีใครสักคนเป็นมันสมองอยู่เบื้องหลังซูบร้า

              แต่คงนึกไม่ถึงว่าจะมาถึงขนาดนี้

              การจัดงานสมรสรวม งานแต่งงานของลูกชายตระกูลซาฮาร์ดแห่งคิรีฮาล กับลูกสาวของอดีตราชวงศ์แห่งลูดันช่า—-ข้อเสนอแนะนี้ทำให้เกิดความสับสนยกใหญ่

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้

Status: Ongoing
ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท