สกิลมหาปราชญ์ก็ไร้ค่า เมื่อไปต่างโลกกลางป่าของเหล่ามอนสเตอร์ – บทที่ 1 ต่างโลกแหละ สุดยอด

สกิลมหาปราชญ์ก็ไร้ค่า เมื่อไปต่างโลกกลางป่าของเหล่ามอนสเตอร์

รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่กลางป่าดงดิบซะแล้ว 

รอบๆนั้นมีต้นไม้ที่ดูเหมือนจะเปียกชื่นทั้งนั้น แล้วก็เย็นแล้วด้วยเลยดูมืด โดยรวมแล้ว ‘น่ากลัว’ แค่รูปทรงต้นไม้ก็กินขาดแล้วละ 

ผมหันซ้ายมองไปที่ต้นไม้ซึ่งตรงกลางคล้ายๆกับหน้าคนกำลังกรีดร้อง

“…ฮึย”

ผมไม่รอช้ารีบเร่งฝีเท้าของตัวเองเดินหวังจะหาทางออก แต่ก็ไม่เจออะไรเลยนอกจากต้นไม้และหญ้าที่น่ากลัวแห่งนี้

ทำไมจู่ๆถึงเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นกันนะ …ไม่รู้ แต่ดีแล้วละที่รอดต้าย แต่! แต่ถึงอย่างนั้นมันดีแล้วจริงๆเหรอ

ที่ย้อนเนี่ยไม่ใช่เพราะคำถามเชิงปรัชญาอะไรพวกนั้นหรอกนะ แต่โดนรถชนแล้วจู่ๆก็มาโผล่ที่ป่าดงดิบเนี่ย มันแปลก

หรือว่าก่อนหน้านี้แค่ฝันกัน …ผมล้วงกระเป๋ากางเกงตัวเอง

กระเป๋าตังค์ยังอยู่ดี กุญแจบ้านด้วย ทุกอย่างอยู่ครบเลย แต่คาบเลือดที่ควรมีมันหายไป ทั้งๆที่โดนรถชนขนาดนั้น

ทั้งหมดจึงสรุปได้ว่าที่โดนรถชนน่ะ ผมฝันไปเอง…เห้ย หรือว่าไม่ได้ฝันหว่า ก็ของอยู่ครบเหมือนในฝันเลย

ที่สำคัญที่นี่มันที่ไหนละนั่น?

ผมหันซ้ายหัวขวาอย่างงงนวย ได้แต่ยืนเอ๋อกลางป่าสุดจะสยอง

“ไม่จริงน่า …ชะ ช่วยด้วยครับ!! ใครได้ยินบ้าง ช่วยด้วยครับ!!”

ด้วยความตื่นตระหนกผมจึงร้องขอความช่วยเหลือทันที แต่ก็ไม่มีใครตอบรับ คงจะห่างไกลกับที่ๆคนอยู่…ผมหันไปทางขวาก็พบกับมดที่ขนาดใหญ่กว่าปกติราวสามสิบเท่ากำลังเดินผ่านไปเป็นฝูง ใช่แล้ว ตามสามัญสำนึก มันไม่ใช่เรื่องที่ผมพบเจอได้ในประเทศไทย 

บอกตามตรงโคตรน่ากลัวเลย

“ขอเถอะน่า เห้ย ขอเถอะ”

ผมก้มหน้าเร่งฝีเท้าตัวเองตรงไปข้างหน้าไม่หยุด เดินไปเกือบจะสิบนาทีก็ไม่เจออะไรเลย ไม่เจออะไรเลยนอกจากป่าที่มืดมิดและน่ากลัวแห่งนี้

“ไม่เอาน่า ทำไมตูต้องมาเจออะไรอย่างนี้ด้วยละ…แค่คิดจะหยิบแบงค์พันเอง มันผิดตรงไหนฟร้ะ โถ่”

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา—-พบกับสิ่งมีชีวิต?  ตัวประหลาดตรงหน้า 

เจ้าก้อนวงกลมสีฟ้า ไม่มีดวงตา แต่ในตัวเป็นคลื่นเหมือนน้ำทะเลซัดไปมา—-โดยรวมแล้วน่าขยะแขยง แต่สีสวยดี

เหมือนกับ ‘สไลม์’ ไม่มีผิด 

สิ่งมีชีวิตสุดกระจอกแห่งเมืองเริ่มต้น มักพบได้บ่อยทั้งในเกมออนไลน์หรือหนังสือนิยายไลทโนเวล เป็นมอนสเตอร์สุดกระจอกที่ทุกคนที่เล่นเกมรู้จักกันดี

เจ้าสิ่งมีชีวิตคล้ายตัวกระจอกของโลกแห่งเกมกำลังอยู่ตรงหน้าผม …เดี่ยวดิ ก็ดีใจอยู่หรอกนาที่เจอไอ้ตัวกระจอกน่ะ แต่โลกความจริงมันไม่มีทางมีตัวแบบนี้แน่นอน ถ้านั้นแล้ว—ตัวตรงหน้ามันอิหยัง?

เจ้าตัวคล้ายสไลม์เหมือนจะสังเกตุเห็นผมแล้วมันก็เขยิบเข้ามา

โลกเราไม่มีสิ่งมีชีวิตแบบนี้สักหน่อย คิดได้ผมก็หน้าซีด พยายามก้าวถอยหลังหนี แต่ก็ล้มลงกับพื้นอย่างหมดรูป ได้แต่กลัวจนไม่กล้ายืน

“-ย หยุดนะ อย่าเข้ามา ขะ ของเหลวขยับได้อย่าเข้ามาเชียวนะ ..ยะ อย่าเข้ามา”

มันไม่ฟังผม มันเข้ามาใกล้เรื่อยๆ—-ไม่มีดวงตาแท้ๆ แต่รู้สึกเหมือนถูกจ้องอยู่ โคตรน่ากลัว! ออร่าแห่งความดุร้ายแผ่มาอย่างชัดเจน สิ่งนี้ข่มขวัญผมได้อยู่หมัดเลย

“ก็บอกว่าอย่าเข้ามาไงเล่า!!!”

ผมหยิบหินข้างตัวขึ้นมาและปาใส่เจ้าของเหลวคล้ายสไลม์…ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย นอกจากก้อนหินที่ถูกดูดเข้าไปในตัวคล้ายสไลม์

จากนั้นก็เหมือนตัวคล้ายสไลม์จะรีบลงและผองขึ้น–น่าขยะแขยงที่สุด

ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นยืน …ฟิ๊ว!! เสียงตัดสายลมดังขึ้นพร้อมกันนั้นน้ำสีแดงก็ไหลอาบแก้มผม

…เอ๋?

ผมสัมผัสแก้มของตัวเอง พบว่าเลือดกำลังไหลอยู่ เลือดอาบแก้มของผม เลือด เลือด…เลือด?

หันกลับไปทำให้ผมว่าก้อนหินที่ปาไปเมื่อกี้อยู่ตรงพื้นมีคลายสีฟ้าของสไลม์ติดด้วย

เห้ยๆ

“นะ นี่แก อย่าบอกนะว่า..อย่าบอกนะว่าแกสะท้อนมันมาได้”

เจ้าตัวคล้ายสไลม์ ไม่สิ ตั้งแต่นี้ไปขอแต่งตั้งเป็น ‘เจ้าสไลม์’ มันไม่ตอบ มันทำเพียงเขยิบเข้ามาใกล้ชิดมากขึ้น เขยิบ เขยิบ เขยิบ เขยิบ เข้ามาซิ

“อย่าเข้ามานะเว้ย! กลัวแล้ว ขอร้องละอย่าเข้ามา ฮึ๊ย!!!”

ผมดีดตัวยืนขึ้นอย่างเร่งรีบ และออกวิ่งอย่างสะเประสะปะ ในหัวนึกถึงแค่ฉากที่ก้อนหินผ่านแก้มไปเฉียดกับหน้าผมนิดเดียวเอง ถ้าโดนไปละก็  คนไม่ต่างกับการมีกระสุนทะลุหัวสมองสักเท่าไหร่ หรือไม่ก็เป็นโดนัทชิ้นเล็กแน่นอน ใช่แล้ว โดนัทที่เขาใช้ล้อเลียนตัวละครท้องโบ๋นั่นแหละ ผมไม่ได้มีพวกแกเหล่านั้นเป็นไอดอลด้วย ขอลาแหละเฟ้ย!

ผมออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต คิดว่าตัวเองวิ่งเร็วพอตัวหากเทียบกับมาตรฐานแล้ว คิดเช่นนั้นก็หันกลับไปดู

พรู๊ด!!!!!! น้ำลายผมพุ่งทะลุออกจากปาก

ผมเห็นมัน เห็นเจ้าตัวที่มีความเร็วประหนึ่งเสียงกำลังซิกแซกใส่ต้นไม้ไปมา มองไม่เห็นร่างเพราะเมื่อจะมองไปที่จุดๆหนึ่ง มองไปที่ต้นไม้ที่ 1 เวลานั้นก็จะไปถึงต้นไม้ที่ 4 ที่ 5 ที่ 6 หรือที่ 10 ไปแล้ว เพราะฉะนั้นให้ตายก็มองไม่ทัน เห็นแต่เพียงควันหลงของความเร็วปีศาจนั่น 

ดวงตานี้ไม่สามารถหยั่งลึกไปถึงปรากฏการณ์นั้นได้ อย่าว่าแต่เห็นร่างเลย แค่ควันหลงบางทีอาจจะเป็นเหตุการณ์เมื่อหนึ่งวิก่อนที่เป็นภาพลวงตาไปแล้วก็เท่านั้น …ไม่สามารถรับรู้ได้

แสงสีฟ้าพุ่งไปมาด้วยความเร็วสูง ใช้ต้นไม้เป็นตัวช่วยในการพุงไปมา นั่นเป็นสไลม์ไม่ผิดแน่ ..แต่สไลม์บ้านใครมันแก้ปัญหาเรื่องความเร็วด้วยวิธีนี้กันฟร้ะ!?

“เป็นแค่มอนสเตอร์ต่ำสุดในเกมแท้ๆ! เป็นแค่สไลม์แท้ๆ!!!”

ผมร้องเสียงหลงประหนึ่งหมาขี้แพ้ ได้แต่วิ่งหนี โชคยังดีที่ถึงแม้จะเร็วแต่ก็ต้องชนต้นไม้ไปมาถึงจะเร็วขึ้นแต่ก็ติดปัญหาหลายจุดอยู่

ที่สำคัญเวลานั้นไม่มีอย่างอื่นที่ทำได้นอกจากวิ่งได้

แต่พอคิดไปว่าสไลม์อาจจะแจ็คพ็อตไปชนต้นไม้จนกระเด้งมาข้างหน้าได้เนี่ย—โชคร้ายหน่อยถ้าเกิดโดนหลังผมแทนที่จะเป็นต้นไม้ละก็

จบเห่แน่นอน

“กลัว กลัวแล้ว!!!!!”

ยิ่งกว่าผีอีก

ผมวิ่งจะเป็นจะตาย หันหลังกลับมาด้วยท่าทางหวาดระแวงตลอดทาง ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง กระทั่งความเจ็บปวดตรงฝ่าเท้า หากไม่ฝืนตัวเองผมต้องโดนสไลม์ปิดบัญชีแน่นอน

อ๊ะ

ดันไปสะดุดกับรากไม้ข้างทางเข้าจนถะไลกับพื้น …ผมหันกลับไปก็พบว่าสไลม์ยังคงเคลื่อนไหวตามต้นไม้ไปมาด้วยความเร็วหลุดโลก

ดึ่งๆๆๆๆ!!!!! เสียงกระแทกต้นไม้ดังสนั่นไปทั่วทั้งป่า มันคือหลักฐานความรุนแรงในการเคลื่อนที่ของสไลม์

สัตว์ประหลาดชัดๆ

“ไม่เอา ไม่เอา ไม่เอานะเห้ย”

ผมลุกไม่ขึ้นได้แต่คลานนี้ ดิ้นลนสุดแรงเกิด ทำได้เพียงเท่านี้

ไม่เห็นรู้มาก่อนเลยว่าสไลม์มันจะดุขนาดนี้ ไม่เอาแล้ว อยากกลับบ้าน ไม่เอาแล้ว

..เงียบไปแล้ว

เสียงวุ่นวายในป่าได้หายไป เงียบกริบในชั่วขณะเดียว น่าแปลก

ไม่สิ ไม่ได้น่าแปลกอะไรเลย

ผมกัดฟันกรามแน่น ข่มใจหันหลับไปและพบกับสไลม์ตามคาด

มันมาถึงตัวผมแล้วนั่นแหละ กำลังเคลื่อนที่ไปถึงขา…หนืดๆตัวสไลม์ที่น่าขยะแขยงกำลังจะเกาะกินขาของผม

ในห้วงเวลาที่ไร้ซึ่งจุดสิ้นสุดในหัวของผม ผมนึกถึงคำพูดหนึ่งขึ้นมา

‘ความโรแมนต์ของลูกผู้ชาย..ไม่สิ ต้องบอกว่าของมนุษย์ต่างหาก ฟังไว้นะเจ้าลูกชาย’ ผู้เป็นพ่อยกนิ้วโป้งให้—- ‘ความโรแมนต์ของคนเราคือการได้ปีนต้นไม้ในป่ายังไงละ จงรู้ไว้ซะ พวกเจ้ามันก็แค่ลิงกายพันธุ์ วะฮ่าๆๆๆๆ!!’ ผู้เป็นลูกตอบกลับ ‘หน๊อยแน๊เทพผู้ชั่วร้าย บังอาจมาแปลงพันธุ์ลิงอย่างพวกเราซะได้ แกนะแก!!’ 

—–ลิงกลายพันธุ์บ้านเอ็งสิฟร้ะ! ไอ้คนไม่เอาไหนนั่น อย่ามาเสี้ยมอะไรบ้าๆให้ลูกตัวเองด้วยนะเฟ้ย!!!

ผมถีบข้างในตัวสไลม์รัวๆ พยายามดิ้นให้หลุด

“เพราะแกเลยทำให้นึกถึงแผลใจได้ ไอ้สไลม์สารเลว เป็นแค่สไลม์แท้ๆ เป็นแค่สไลม์กระจอกแท้ๆ เป็นแค่ตัวเก็บเวลเริ่มต้น กับมาสคอตเกม ก็ช่วยทำตัวให้มันน่ารักหน่อยสิฟร้ะ!”

ผมเร่งตีนสุดแรงเกิดจนหลุดจากสไลม์ได้ รีบลุกขึ้น และถีบตัวเองวิ่งหนี

‘จงภูมิใจที่เกิดเป็นมนุษย์ จงภูมิใจที่เกิดเป็นลิงซะไอลูกชาย อู่วๆๆๆๆ!!!’ ผู้เป็นพ่อเลียงเสียงหัวเราะลิงอย่างสนุกสนาน ในห้วงเวลานั้นผู้เป็นลูกก็หัวเราะแบบลิงตาม

ก็รู้อยู่หรอกนะว่าชอบลิงน่ะ แต่อย่างน้อยๆก็ช่วยหัวเราะให้สมเป็นผู้เป็นคนหน่อยเถอะน่า!

ผมกระโดดหมับเข้าให้กับต้นไม้ และ—–ปีนขึ้นไป

คล่องแคล่วและสมบูรณ์แบบนั่นคือการปีนต้นไม้ที่ยอดเยี่ยมอย่างหาได้ยาก มันคือการเคลื่อนไหวที่อย่างกับลิงตัวเป็นๆเขาปีนกัน

ทักษะแสนไร้ประโยชน์ของผม ในตอนนี้มันได้สำริดผล…ทั้งน้ำตาอะนะ ฮือออออออ

ผมขึ้นไปยืนอยู่ตรงต้นไม้ได้สำเร็จ เป็นผู้มองจากที่สูง ว่าอีกอย่างคือผู้เหนือกว่านั่นแหละ นี่แหละพลังของวานรที่พัฒนาแล้ว

เล่นเอานึกถึงเรื่องสมัยประถมเลยแหะ สมัยที่ยังเบียวเป็นราชาวานรตามพ่ออยู่ บ้าจริง …เอาเถอะ ตอนนี้ชนะเจ้าสไลม์นั่นได้แล้วไม่ผิดแน่ ผมรอดแล้ว ฮะๆ

พอได้ใจก็แสยะยิ้มเหยาะเย้ยเจ้าสไลม์

“สไลม์อย่างแกคงปีนต้นไม้แบบตูไม่ได้สิท่า! หึ!”

ไม่มีเสียงตอบรับ แหงอยู่แล้วแหละ…ยังไงก็ช่าง ตอนนี้ผมรอดแล้วละ

รอดแล้ว รอดชีวิตแล้ว

“เยี่ยม เยี่ยมเลยแบบนี้ ในที่สุด…”

ผมเงียบลงกระทันหัน ได้ยินเสียงตัวอะไรสักอย่างกำลังมาทางนี้ ผมหันซ้ายไปทางเสียงนั่น…งูยักษ์

คล้ายกับอนาคอนด้า เพียงแต่มีลวดลายประหลาดมากมาย อย่างกับเป็นงูที่มีลายจากภูมิปัญญาของคนป่า ลิ้นของมันแยกเป็นสิบแฉกด้วย

“ให้..ตายเถอะ!!!”

งูพุ่งเป็นสปิงเข้าใส่ ผมกระโดดลงพื้นโดยไม่สนว่าต้นไม้จะสูงแค่ไหน———-ตู้ม!! ร่างผมกระแทกกับพื้นดังลั่น

ทั้งอย่างนั้นมันกลับไม่หักหรืออะไรราวกับร่างกายแข็งแรงขึ้น แต่เรื่องนั้นจะยังไงก็ช่างแล้ว ตอนนี้ต้องหนีก่อน เพราะไม่อยากตาย

งูดิ่งลงพื้นพร้อมผม มันกำลังจะฉกผม—เร็วมาก!

“อ้า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

ผมร้องเสียงหลง ก่อนที่จะถูกงูนี่พิฆาต แสงสีฟ้าก็พุ่งตัดผ่านข้างหลังเข้าเสียก่อน ร่างของงูปลิวขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว มันถูกเจ้าก้อนสีฟ้ากระแทกเข้าอย่างจัง

สไลม์ลอยอยู่กลางอากาศ มันทำให้ร่างกายตัวเองยืดเพื่อดีดตัวขึ้นไปติดกับงู และกลืนกินมันทั้งอย่างนั้น และเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นแสง เป็นแสงจากดวงจันทร์ ที่มีร่างของสไลม์กลืนกินงูประหลาดประทับไว้ ณ จุดศูนย์กลาง

ผมเห็นหนังสดของงู ถูกสไลม์กินกับตา ร่างถูกบดให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จนสุดท้าย…ไม่เหลือแม้แต่เศษซาก

ท่ามกลางแสงจันทร์ของป่าอันน่ากลัวแห่งนี้ คือร่างของสไลม์ที่ลอยอยู่กลางฟ้า ราวกับประกาศศักดาให้ไอ้กระจอกตรงหน้าว่า ‘ข้าคือเจ้าป่า’

“…มันชักจะเพี้ยนไปกันใหญ่แล้ว”

ผมไม่มีกระทั่งเสียงจะตะโกน เพราะภาพตรงหน้าคือภาพของเจ้าป่าที่พึ่งล่าเหยื่อไปเมื่อกี้ มันดิ่งลงพื้นอย่างงดงาม ไม่มีแม้แต่เสียงกระแทก และเจ้าป่าผู้ละโมภนั่นก็ดูเหมือนจะไม่อิ่มเสียด้วย

มันจ้องมาที่ผมร่างกายบิดเบี้ยวเหมือนกำลังชาร์จอะไรบางอย่าง…ไม่ทันแน่ ต้องรีบหาที่แอบ

ผมที่หมดหนทางบังเอิญไปพบกับผนึกสีเหลืองตรงผิวมือผม

“—-อ้า!!! อา เชี่ยไรวะเนี่ย มันคืออะไรวะ!!?”

มีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่กับมือแบบสมจริง ผมอดไม่ได้ที่จะตกใจและเผลอเอามืออีกข้างไปจับมัน ทันใดนั้นภาพที่ราวกับโฮโลแกรมก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า

ตารางบ้าบออะไรไม่รู้อยู่ข้างหน้า คล้ายกับการคราฟของในเกม

……………

…………ในที่สุดก็มาแล้วสินะ

ไม่ผิดแน่ ที่นี่คือ ..อืม อย่างน้อยก็ไม่น่าใช่โลกของเราแหละนะ เอาเป็นว่า ได้เวลาสวนกลับ

ผมจิ้มเข้าไปที่ภาพโฮโลแกรมนั่น และไม่มีอะไรเกิดขึ้น …

“ขอทีเถอะ …อย่ามาให้ความหวังว่าตูว่าจะมีพลังแฝงแล้วจบลงอย่างนี้เซ้!”

เสียงผมแหบแห้งโหยหวน 

สไลม์เข้ามาใกล้เรื่อยๆ อีกไม่นานผมคงจะกลายเป็นอาหารให้สไลม์นี่เหมือนกับงูตัวตะกี้นี้

ระหว่างนั้นมือก็ไปสัมผัสเข้ากับอะไรบางอย่าง—-ตารางคราฟเบื้องหน้าส่องประกายกว่าเดิมตรงมุมขวาบนมีบางอย่างที่เขียนไว้ว่า [18/50] จากที่ตอนแรกเป็น [0/50]

ผมได้แต่งง และภาพของคราฟก็เปล่งแสงออกมา จู่ๆก็มีแสงสีเหลืองเลืองลางอยู่เบื้องหน้า เป็นรูปทรงที่คล้ายกับโล่ขนาดเท่าลำตัวคน พร้อมกันนั้นสไลม์ก็พุ่งเข้าใส่ผมอย่างจัง เพียงแต่สามารถป้องกันไว้ได้ด้วยโล่ที่โผล่มาจากความว่างเปล่านั่น

“ย๊ากกก!!!”

ผมพยายามจะดันกลับ แต่เพียงเสี้ยววิเดียวร่างผมก็ลอยขึ้นฟ้าระดับที่เหนือกว่าต้นไม้สุดสยองรอบตัวได้—โดยง่ายดาย เจ้าสไลม์แค่พุ่งใส่ผม ผมก็วัดแรงแพ้แล้ว แหงละ สไลม์นั่นระดับเจ้าป่านี่นะ … 

จากการชนกันตะกี้ เพราะสไลม์เพียงตัวเดียวก็ทำให้สายลมปั่นป่วนไปหมด จากแรงกระแทก

หวาาาาา

อย่างไรก็ช่าง ความจริงในตอนนี้คือผมกำลังลอยอยู่บนฟ้าและปลิวอยู่

“ไม่ๆๆๆ!”

ถ้าดิ่งลงพื้นมาเมื่อไหร่ ไม่ตายก็พิการ

ต้องรีบทำอะไรสักอ—–ตั้บ!!!!!! ร่างผมกระแทกเข้ากับบนต้นไม้กระเด้งหนึ่งที ไม่สามารถคิดตามได้ทันตามเวลาจริงๆ

..นั่นสินะ คนที่กำลังดิ่งลงพื้นน่ะมันจะไปมีเวลาคิดอะไรเยอะแยะเล่า…..

ผมนอนแน่นิ่งอยู่บนต้นไม้ แต่ก็สัมผัสได้ว่ายังขยับตัวเองไหว หมายความว่ายังไงกันนะ ตกที่สูงขนาดนั้นแท้ๆ หรือว่าผมจะกลายพันธุ์กลับกลายเป็นลิงเหมือนดั่งความตั้งใจของพ่อ เพราะผมเป็นมนุษย์วิจัยหมายเลข1ของความตั้งใจ ประหนึ่งมนุษย์มดแดงกันนะ สุดท้ายผมเลยกลายพันธุ์กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่ามนุษย์ การผสมกันระหว่างลิงและมนุษย์ ..มนุษย์กลายพันธุ์ผู้ก้าวข้ามกำแพงระหว่างคนกับลิง ผม…ผมกำลังกลายเป็นตัวอะไรกันนะ?

แค่คิดก็เสียวสันหลังแล้วละ….บ้าบอ สงสัยกระแทกแรงไปหน่อยสมองเลยใหล

ผมพยุงร่างตัวเองขึ้นมา พบว่าสไลม์กำลังรอผมอยู่ข้างล่าง

“อย่างแกน่ะจับฉันไม่ได้หรอกเฟ้ย ไสหัวไปซะ”

สไลม์ไม่ตอบกลับมันทำเพียงยืนรอ อย่างกับเด็กประถมเวลารอเพื่อนหน้าบ้าน แต่เสียใจด้วยผมไม่ใช่เพื่อนมันหรอก เพราะตอนประถมหลังจากคนในครอบครัวเสียชีวิตไปผมก็กลายเป็นหนุ่มหล่อเท่เย็นชาฉลาด มีปม จนไม่สุงสิงกับใครแล้วปากเสียใส่คนอื่นไปทั่วละนะ …โดยสรุปตอนประถมผมไม่มีเพื่อน เพราะนิสัยแบบนั้น 

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ และนั่งชันเข่า มองไปที่พระจันทร์ ..พอสังเกตุดูดีๆ พระจันทร์ก็มีรูปร่างแตกต่างกับสามัญสำนึกของผม

พระจันทร์บนโลกนี้ มีรูปร่างเหมือนกับ ‘ประสาท’

…หลังจากนี้จะทำอะไรดีนะ ผมถอนหายใจเฮือกโต

ณ โลกที่ไม่มีทางเป็นโลกของผมได้

ณ ต่างโลก–ที่เริ่มต้นด้วยกลางป่า และเหล่ามอนสเตอร์

สกิลมหาปราชญ์ก็ไร้ค่า เมื่อไปต่างโลกกลางป่าของเหล่ามอนสเตอร์

สกิลมหาปราชญ์ก็ไร้ค่า เมื่อไปต่างโลกกลางป่าของเหล่ามอนสเตอร์

Status: Ongoing
อดิเทพ กรงจักร ผู้หายใจรดไปวันๆกับชีวิตของตัวเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้ถูกนำพาสู่ต่างโลก พร้อมด้วยความสามารถประหลาดที่เขาตั้งชื่อมันว่า มหาปราชญ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท