Kuro no Maou (มารดำ) – ตอนที่ 6 พิธีกรรมสีขาว

บทที่ 6 – พิธีกรรม สีขาว

“ ยินดีต้อนรับสู่ห้องปฏิบัติการพิธีกรรมสีขาวที่สาม พระองค์คาร์ดินัล อาร์ส อัครสาวกที่ 7 ลอร์ด ซาเรียล”

พวกเขาเดินผ่านประตูห้องทดลองด้วยการทักทายอย่างเร่งรีบ

“ บิชอปยูดาสไม่อยู่ที่นี่หรือ”

ในขณะที่เดินเข้าไปในทางเดินที่มืดมนตามปกติ อาร์ส ถามชายในเสื้อคลุมสีขาวที่นำทางพวกเขา

“ ฉันเสียใจมาก ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้กลับมาเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งปี เนื่องจากมีการอัญเชิญจากเมืองศักดิ์สิทธิ์เมื่อวานนี้ ”

“ คิดถึงเขาเหรอ? นี่เป็นการมาเยือนที่ไม่คาดคิดแม้ว่าจะน่าเสียดาย แต่ก็ช่วยไม่ได้ ”

ชายคนนั้นถอนหายใจด้วยความโล่งใจที่เห็นอาร์สไม่ขัดใจมากเกินไป

ชายที่เป็นผู้นำทั้ง 2 คนปัจจุบันเป็นผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดในฐานะตัวแทนของยูดาส

แม้ว่าจะเป็นนักบวชอาวุโส และเป็นหัวหน้าหน่วย ที่มีผู้ใต้บังคับบัญชา 100 คน แต่ถึงกระนั้นเขาก็เต็มไปด้วยความตึงเครียดต่อหน้าชายที่อยู่ถัดจากพระสันตปาปาพระคาร์ดินัลและอัครสาวก

ทั้ง 2 คนเดินต่อไปโดยไม่สนใจพฤติกรรมของชายคนนั้น ระหว่างทาง อาร์ส ถามนักบวชเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสิ่งอำนวยความสะดวก ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงจุดหมายซึ่งก็คือห้องประชุม

“” ยินดีต้อนรับพระองค์คาร์ดินัล อาร์ส ท่าน อัครสาวกที่ 7 ลอร์ดซาเรียล -”

ภายในห้องนักวิจัยอีกหลายคนในชุดคลุมสีขาวคล้ายกับนักบวชเข้ามาพบพวกเขา

นักบวชและคนอื่น ๆ ล้วนอาวุโสกว่าพระคาร์ดินัลและอัครสาวก แต่ทุกคนต่างก็ก้มศีรษะแสดงความเคารพต่อหน้า 2 คนนั้น

“ เชิญนั่งที่นี่”

พระองค์คาร์ดินัลอาร์ส ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สีขาวมีอายุเพียง 30 ปี แต่เขามีสถานะที่เหมาะสมกับตำแหน่งของเขาแล้ว สวมเสื้อคลุมที่สั่งทำพิเศษจากมิธริล เขามีผมสีบลอนด์และดวงตาสีฟ้าที่คมกล้า และด้วยใบหน้าที่ดูเหมือนวีรบุรุษในสมัยโบราณ ร่างของเขาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นวมขนาดยักษ์นั้นจึงดูสง่า

คาร์ดินัล อาร์ส มีอายุเพียง 30 ปีนั้นควรค่าแก่การชื่นชมอย่างแน่นอน แต่ผู้หญิงที่รู้จักกันในนามอัครสาวกที่ 7 ซาเรียลนั้น มีผมสีเงินยาวและดวงตาสีแดงสดใสมีผิวสีขาวนวลที่ดูเหมือนจะกลมกลืนกับเสื้อคลุมสีขาวของเธอ

รูปร่างหน้าตาที่ดูเหมือนตุ๊กตานั้นยังเด็ก ยังเด็กมาก

ปัจจุบันนั่งบนเบาะแบบเดียวกับอาร์ส เท้าของเธอไม่สัมผัสกับพื้น ร่างการเล็กและบอบบาง ทำให้เธอดูแปลกแยกที่สุด แต่ในฐานะคนที่ดำรงตำแหน่งพิเศษของอัครสาวกเธอไม่แสดงอาการตึงเครียดหรือไม่สบายใจเลย

“เอาละ ถ้าอย่างนั้นโปรดให้คำอธิบายเกี่ยวกับโครงการด้วย”

หลังจากทั้งคู่นั่งลงและรับเอกสารแล้วนักบวชก็เริ่มพูด

“ —- โครงการ ทหารศักดิ์สิทธิ์  มีขึ้นเพื่อทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ให้สำเร็จโดยไม่ต้องเสียสละพลเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่อาศัยอยู่ในสาธารณรัฐซึ่งเป็นโครงการที่มีมนุษยธรรมและเหมาะสมอย่างยิ่ง อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าฝั่งตะวันออกของทวีปอาร์คและในทวีปแพนโดร่านั้นมีการแพร่ระบาดของโรคร้ายอย่างกว้างขวางและพื้นที่ที่ปกครองโดยเทพเจ้าแห่งความชั่วร้ายนั้นขยายวงกว้างออกไป วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการตอบโต้สิ่งนี้คือเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ของคริสตจักรของเราหรือที่เรียกว่ามนต์ขาว แต่จำนวนนักบวชที่สามารถใช้มนต์ขาวนี้ได้ยังไม่เพียงพอ

ผู้ใช้เวทมนตร์สีขาวทั้งหมดถูกใช้ในการปกป้องและควบคุมสาธารณรัฐพร้อมกับพื้นที่ปัจจุบันภายใต้คริสตจักร เราไม่มีบุคลากรที่จะส่งไปยังฝั่งตะวันออกหรือทวีปแพนโดร่าที่ห่างไกล

แต่ถึงกระนั้นนักบวชหลายคนก็มีความตั้งใจที่จะทำภารกิจของพวกเขาให้สำเร็จโดยข้ามไปยังทวีปแพนโดร่า และกำลังพยายามในการปราบปราม แต่ไม่สามารถพูดได้ว่าพวกเขามีคนเพียงพอที่จะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ ดังนั้นเพื่อตอบโต้มนต์ดำที่ชั่วร้ายของพวกเราจะต้องใช้มนต์ดำด้วย

แน่นอนว่าการสอนมนต์ดำชั่วร้ายให้กับพลเมืองศักดิ์สิทธิ์จะเป็นการก่ออาชญากรรมต่อพระเจ้าสีขาว ด้วยเหตุนี้เราจะใช้ ผู้ใช้มนต์ดำจากคนนอกรีต ปีศาจ และคนต่างชาติ

เพื่อที่อมนุษย์ที่มีอำนาจชั่วร้ายเหมือนกันจะทำลายกันและกัน การต่อสู้กับพิษด้วยยาพิษถ้าฉันพูดอย่างนั้น ด้วยวิธีการนี้สิ่งที่ได้คือโครงการ ทหารศักดิ์สิทธิ์

ขณะนี้ความคืบหน้าของโครงการสามารถกล่าวได้ว่าไปในทางที่ดีมาก โดยเฉพาะ 3 เดือนย้อนหลัง การทดลองหมายเลข 49 ผู้เป็นชาวต่างชาติ ได้รับการเสริมพลังที่สูงพอที่จะเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของการวิจัยทั้งหมดของเราจนถึงตอนนี้

ความสามารถของเขาแน่นอนจะสามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้เช่นกัน ต่อจากนี้ไปโดยมีหมายเลข 49 เป็นกำลังหลักแม้ว่าความสามารถอาจลดลงเล็กน้อย แต่เราวางแผนที่จะทำการวิจัยต่อไปเพื่อทำการปรับเปลี่ยนบางอย่างเพื่อที่จะสร้างนักรบมนต์ดำจำนวนมาก วันนี้เรามีแผนจะทำพิธีศีลจุ่มครั้งสุดท้ายในวันที่ 49 และภายในปีนี้ ไม่สิสิ้นเดือนนี้เราจะเปิดเผยความสามารถของมันในเมืองศักดิ์สิทธิ์ -“

นักบวชที่กำลังพูดคุยกันอย่างกระตือรือร้นก็ถูกขัดจังหวะโดยซาเรียลผู้ที่เฉยเมยอยู่โดยไม่พูดอะไรเลยจนถึงตอนนี้

“ พระองค์คาร์ดินัล”

มันเป็นการเรียกที่ละเอียดอ่อนและเงียบสงบ แต่มันไปถึงหูของ อาร์ส อย่างชัดเจน

“ มีอะไรลอร์ดซาเรียล”

มันอาจไม่ใช่คำถามในหัวของเขา อาร์สที่รู้นิสัยพูดน้อยของซาเรียล 

“ มุด”

ด้วยคำต่อไปความสงสัยใน อาร์ ก็ยิ่งมากขึ้นไปอีก ซาเรียลเริ่มลงมือและพูดอีกครั้งโดยไม่สนใจอะไรเลย

“ มุด”

ซาเรียลลุกขึ้นจากที่นั่งและคลานเข้าไปใต้โต๊ะยักษ์ เมื่อมองไปที่ฉากแปลก ๆ เสียงของความสับสนก็เริ่มดังขึ้น

“ ……เข้าใจแล้ว”

“ เอ๊ะ?พระองค์คาร์ดินัล!?”

อาร์ส ตัดสินใจที่จะเชื่อฟังคำพูดลึกลับของซาเรียล

จู่ๆ 2 คนที่มีอำนาจสูงสุดรองลงมาก็คลานเข้ามาใต้โต๊ะ ไม่มีใครเข้าใจความหมายเบื้องหลัง ครู่หนึ่งบรรยากาศที่น่าเบื่อก็เข้ามาภายในห้อง แต่ผู้ที่นำบรรยากาศนี้มาคือซาเรียล พร้อมกับ อาร์ส ไม่ได้ใส่ใจกับมัน นี่เป็นเพราะสำหรับอาร์สคำพูดของอัครสาวกมักจะได้รับความไว้วางใจ

และจากความไว้วางใจดังกล่าวทำให้ อาร์ส ตระหนักว่าเขาตัดสินใจถูกต้องแล้ว

การสั่นสะเทือนราวกับว่ามาจากส่วนลึกของโลกเสียงของอาคารที่ดังเอี๊ยดอ๊าดและแรงสั่นสะเทือนที่แรงพอที่จะเขย่าร่างทั้งร่าง

“ แผ่นดินไหวเหรา!?”

มีคนตะโกนแสดงสถานการณ์ปัจจุบันอย่างชัดเจน

ขณะนี้แผ่นดินไหวขนาด 6 ริกเตอร์เพิ่งเกิดขึ้นที่นี่

“ อึก อ๊าาาาา !!”

เสียงกรีดร้องมาจากทุกที่ ชั้นวางหนังสือที่เก็บไว้ในห้องล้มทับและล้มลงบนเก้าอี้

ภายในเสียงร้องของผู้คน  “นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น” อาร์สมองไปที่ ซาเรียล ด้วยสายตาที่เข้าใจ

แม้ในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวซึ่งหาได้ยากในสาธารณรัฐ แต่เมื่อมองไปที่ ซาเรียล ที่ไม่แสดงความเปลี่ยนแปลงแม้แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ อาร์ส ก็ไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องอธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อความปลอดภัยของเขา

และในไม่ช้าแผ่นดินไหวที่สร้างความสั่นสะเทือนภายในห้องปฏิบัติการก็สงบลงหลังจากนั้นไม่กี่วินาที

ทั้งสองคนเดินออกมาจากใต้โต๊ะ นักวิจัยทั้งหมดวางอยู่บนพื้นโดยไม่มีข้อยกเว้น

“ ทุกคนสบายดีไหม”

โชคดีที่ไม่มีใครเป็นลมเนื่องจากชั้นหนังสือล้มทับและถูกกระแทก ในขณะที่คร่ำครวญพวกเขาทุกคนต่างลุกขึ้นยืนอย่างไม่ย่อท้อ

“ ระ เร็ว ๆ เราต้องออกไปจากที่นี่… .. ”

“กรุณาใจเย็น ๆ. ห้องทดลองนี้ไม่ได้สร้างขึ้นโดยใช้ซากปรักหักพังทางประวัติศาสตร์โบราณ หรือไม่ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ไม่มีทางที่จะพังทลายลงเพียงแค่นี้หรอก”

“ ใช่แล้ว……เป็นอย่างที่คุณพูด”

“ ยังคงเป็นเรื่องฉุกเฉิน เพื่อความปลอดภัยเราควรอพยพ ท่านนักบวช โปรดใช้มาตรการอพยพโดยไม่ทำให้มวลชนตื่นตระหนก”

จากคำพูดของ อาร์ส นักบวชและนักวิจัยจึงเริ่มลงมือ หากองค์กรอันดับต้น ๆ ออกคำสั่งแม้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นก็ตามสถานการณ์ก็ควรจะได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม

อาร์ส และ ซาเรียล นักวิจัยเริ่มออกจากห้องประชุมโดยไม่ต้องตกใจมากนักวิจัยนำโดย อาร์ส และ ซาเรียล

“ พระ – ท่าน! เรามีปัญหา !!”

ในขณะนั้นชายในชุดคลุมสีขาวซึ่งอาจเป็นหนึ่งในนักวิจัยเข้ามา

แม้ในมุมมองของ อาร์ส และ ซาเรียล เขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นพวกเขาหมายความว่าเขาต้องเป็นคนใจร้อนมากในตอนนี้

“ใจเย็น ๆ. คุณอยู่ต่อหน้าพระองค์คาร์ดินัลและลอร์ดซาเรียลแผ่นดินไหวก็สงบลงเช่นกัน”

นักบวชเตือนเขาสำหรับการบุกรุกในลักษณะที่หยาบคายเช่นนี้

“ นั่นไม่ใช่! ระหว่างเกิด แผ่นดินไหว—– ”

ทันทีที่เขาพูดเช่นนั้นการสั่นสะเทือนด้านล่างก็ดังก้องพร้อมกับเสียงฟ้าร้อง

“ อะไรนะ? จะมีแผ่นดินไหวอีก”

นักวิจัยตะโกนต่อว่านักบวชที่มีเหงื่อออกเย็นนักวิจัยตะโกนต่อจากประโยคก่อนหน้าของเขา

“ —— หมายเลข.49 หนีไปแล้ว !!”