พวกเราเดินทางบนถนนสายหลัก Yohel ตั้งแต่ออกเดินทางจากเมืองลัคซีเรียตอนนี่ก็ผ่านมาแล้ว 2 อาทิตย์
เพราะว่ามันยังคงเป็นนกเด็ก ซิลเบอร์จึงไม่ค่อยมีพลังกายมากนัก ดังนั้นระยะทางที่เราเดินทางได้ในแต่ละวันจึงไม่มากนัก และตอนนี้ผมกับซิลเบอร์ได้มาหยุดอยู่ที่หน้าทางเข้า ป่าแห่งความสับสน มันเป็นป่าที่อยู่ใกล้ๆกับเมือง Lizwadia
ผมลืมบอกไป ซิลเบอร์คือนกตัวสีเงินที่ผมขี่อยู่นั้นแหละ ดังนั้นชื่อ ซิลเบอร์ คือชื่อที่ผมตั้งให้ ก็หมายถึงสีเงินตามชื่อนั้นแหละครับ
[ อืม ดูๆแล้วคงไม่น่ามีปัญหาอะไรหรอกมั้ง ทำไมพวกเราไม่ลองเข้าไปดูกันล่ะ ถ้าเรายังไปทางถนนสายหลัก เราจะไม่หลงทางก็เถอะ แต่ในป่านี้คงทำให้พวกเราหลงทางไม่ได้หรอกนะ ]
[คุ เคะ?]
กว่าจะมาถึงที่นี่ ผมเคยไปมาแล้วหลายเมืองมาก ดังนั้นผมก็พอจะรู้ทางไปเมือง ลิสวาเดีย อยู่พอสมควร
เมื่อ 3 ปีก่อน แม้กองทัพจอมมารเกือบทั้งหมดจะมุ่งตรงมาที่เมืองลีซาเรี่ยน พวกเราได้ออกกวาดล้างพวกมันไปทั่ว ตั้งแต่นอกเมือง ลีซาเรี่ยน ที่ ลิสวาเดีย ก็เช่นกันพวกเราเดินทางผ่านโดยไม่ได้สนใจเมืองเลย ที่ลีซาเรี่ยน แม้ผมจะเคยไปที่ ป่าแห่งภูติพราย แต่ผมก็ไม่เคยเข้าไปเมืองหลวงเลยสักครั้ง
สำหรับตอนนี้ ผมได้ยินเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนเวทย์มนตร์ ลิสวาเดีย นั้นมันทำให้ผมต้องไปให้ได้
และที่สำคัญผมรู้จุดเที่ยวของเมือง ลิสวาเดีย มาพอสมควร
1 ในนั้นคือที่นี่แหละ ป่าแห่งความสับสน
ที่ป่าแห่งนี้มีเวทย์มนตร์บางอย่างทำให้ผู้คนที่หลงเข้ามามีการรับรู้ที่ผิดเพี้ยนไป
แต่ที่นี่นั้นเป็นเหมือนสถานที่สำหรับออกภาคสนามของเหล่านักเรียนใน ลิสวาเดีย เพราะถ้าหากคุณใช้เวทย์มนตร์ไม่ได้แล้วล่ะก็ คุณจะหลงทางจนออกจากที่นี่ไม่ได้เลย แต่ถ้าคุณยังฝืนเดินทางต่อโดยไม่ใช้เวทย์มนตร์ชี้ทาง ดูเหมือนว่าคุณจะถูกส่งกลับไปที่ทางเข้าป่าเองถ้าหากตกอยู่ในสถานการณ์ขับคัน
เมื่อมองจากจากมุมนี้ดูเหมือนว่ายังไงคุณก็ปลอดภัยนะถ้าหากคุณเข้าป่ามาจากทางของโรงเรียน แต่สำหรับผมที่เข้ามาในป่าจากทาง ลัคซีเรีย ถึงแม้ผมจะมุ่งขึ้นเหนืออย่างเดียวแต่ก็ยังหลงทางอยู่ดี พูดได้เพียงว่าขำไม่ออกหรอกนะ
แต่ถ้าหากเราเดินทางโดยใช้ถนนหลัก โยเฮล พวกเราจะถึงเมืองโดยไม่หลงทาง แต่จะเสียเวลาเพราะต้องอ้อมแทน
[ เอาล่ะ ผมอยากจะไปพักที่โรงแรมไวๆซะแล้ว พวกเราเข้าไปในป่ากันเถอะ ]
[คุ เคะ!]
ซิลเบอร์ตอบสนองต่อคำพูดของผมด้วยเสียงร้อง ในขณะเดียวกันเสียงร้องของซิลเบอร์ก็ทำให้ผมรับรู้อารมณ์ของมันได้เช่นเดียวกัน
รู้สึกว่าตอนนี้มันกำลังจะอารมณ์ดีอยู่นะ
[ อุว้าา ในป่านี้มันมืดจริงๆ มีต้นไม้ขึ้นหนาทึบไปหมด ทั้งๆที่เพิ่งจะเที่ยงแท้ๆแต่กลับแทบจะไม่มีแสงแดดเลย ]
เมื่อพวกเราเข้ามาในป่า ผมถึงกับตกใจกับบรรยากาศมืดหม่นภายในป่า มีต้นไม้สูงใหญ่อยู่โดยทั่ว เมื่อมองขึ้นไปด้านบนจะเห็นแสงลอดผ่านมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นี่มันมิดกว่าที่ผมคาดไว้ซะอีก
คบไฟที่ผมซื้อมาจากคุณลุงที่โรงแรมตอนนี้ช่วยผมได้มากเลย
[ ต่อให้ไม่ใช่เพราะเวทย์มนตร์ ป่าแห่งนี้ก็หลงได้ง่ายๆเลยนะเนี้ย ]
ผมคิดว่ามันแปลกๆอยู่นะ เพราะถ้าหากเป็นเพราะเวทย์มนตร์ คงทำให้แค่ผู้คนเสียการรับรู้ทิศทางเท่านั้นเอง ไม่ได้ทำให้เราสับสนเพราะเห็นภาพหลอนต่างๆซักหน่อย ดังนั้นเพียงแค่คุณมองขึ้นฟ้ายืนยันทิศที่พระอาทิตย์ขึ้นและตก คุณก็สามารถยืนยันทิศทางที่ถูกต้องได้แล้วแต่ที่นี่มันมืดอยู่ตลอด ดังนั้นยังไงคุณก็หลงอยู่ดี
ผมมัดคบไฟติดไว้กับส่วนหัวของซิลเบอร์
[เป็นไงซิลเบอร์ มันสว่างดีใช่มั้ย]
[. . .. .คุ เคะ . . . .]
ซิลเลอร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงแบบเซ็งๆ พอเดินไปซักพัก ก็หยุดเดิน
[ อ้าว เป็นอะไรหรอ ซิลเบอร์]
มอนเตอร์หรืออะไรบางอย่างกำลังมารึ? ผมคิด ขณะมองไปรอบๆแต่ก็ไม่พบอะไร
[ ซิลเบอร์? . . . .โอ้]
ซิลเบอร์หันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ นั้นมันทำให้ผมหันตามมัน
ผมก็พบกับผลไม้สีแดงลูกเล็กๆขึ้นอยู่บนต้นไม้
[ นั้นมันผลไม้ชนิดใหนกันนะ แล้วมันกินได้รึปล่าว ]
เมื่อมองดูใกล้ๆ มีผลไม้พวกนั้นร่วงอยู่บนพื้นเต็มไปหมด
ซิลเบอร์เดินไปใกล้ๆต้นไม้นั้น และเริ่มกินลูกที่ตกอยู่บนพื้น
[ โอ้ แกแน่ใจนะว่ามันกินได้ แล้วมันอร่อยรึปล่าว ]
ซิลเบอร์ที่ตอนนี้กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อผมลองถามดู ซิลเบอร์ก็ย่อตัวให้ผมลงจากหลังมันและเริ่มกินต่อ
[ แกกำลังพยายามบอกผมว่าให้ลองกินดูเองสินะ เอ๊ะ ]
ดูเหมือนว่ามันไม่ต้องการให้ผมรบกวนมันตอนที่มันกำลังกิน อาจเพราะตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ผมให้มันกินแต่ถั่วมาโดยตลอด ดูเหมือนว่าเจ้านี้จะถูกผลไม้เหล่านี้ครอบงำซะแล้ว
[ ง่ำๆ หือ นี่มันอะไรกัน!! ]
เมื่อผมลองกินดู ความหวานของมันก็พวยพุ่งอยู่ทั่วปาก
ผมก็ชอบมันอยู่นะ แต่เหมือนน้ำตาลจะเยอะไปหน่อย มันเลยทำให้รู้สึกไม่อยากทาน
[ หือ แกชอบกินของแบบนี้หรอกรึ . . .เอ๊ะ ]
ซิลเบอร์ที่ตอนนี้กำลังตั้งใจกินอยู่อย่างเดียว อยู่ดีๆมันก็ชูหัวขึ้น และเริ่มมองไปรอบๆ
[ อะไร? แกกำลังมองหาผลไม้ชนิดอื่นหรือของกินอย่างอื่นหรอ . . . . โอ้ย อย่าดึงผมคนอื่นสิ โอ้ยยยย ]
คำพูดของผมคงทำให้ซิลเบอร์โมโหแหะ
[ เอาล่ะๆ มีอะไร——เดี่ยวนะ เสียงเหมือนอะไรล้มลง แต่ ]
[ คุ เคะ! ]
หลังจากที่ผมแงะผมของผมคืนจากซิลเบอร์ผมก็ได้ยินเสียงต้นไม้ถูกทำลายจากที่ใหนสักแห่ง มันไม่ใช่เสียงของกิ่งไม้หักหรอกนะ มันเป็นเสียงของต้นไม้ใหญ่ถูกโค่นลงมากกว่า มีเพียงสิ่งเดียวที่ยืนยันการเกิดเสียงนั้นได้
[ รึว่า พวกมอนเตอร์งั้นรึ? ]
[ คุ เคะ ]
ซิลเบอร์ในตอนนี้เลิกกินผลไม้แล้ว มันเดินมาใกล้ผมและเอาหัวมาคลอเคลียกับแขนของผม มันคงพยายามบอกผมว่าให้ขึ้นหลังมันสินะ
[ มันอาจจะเจ็บตัวก็ได้นะ ซิลเบอร์ ทำไมพวกเราไม่หนีดีกว่า ]
ขณะที่ผมขึ้นไปขี่หลังซิลเบอร์ รู้สึกว่าเสียงนั้นกำลังใกล้เข้ามา และทันใดนั้น—
[ มาน่า เร็วเข้า ]
[ อะ อืออ ]
ผมได้ยินเสียงของเด็กสาว 2 คนกำลังตกอยู่ในอันตราย
[ซิลเบอร์ ! !]
[ คุ เคะ ! !]
แทบจะพร้อมกับที่ผมตะโกนออกมา ซิลเบอร์ได้ออกวิ่งในทันที ขณะที่ผมอยู่บนหลังซิลเบอร์ ผมได้ชันเข่าขึ้นข้างหนึ่ง และมือขวาของผมล้วงไปที่กระเป๋าที่เอว
[ เห็นพวกเขาแล้ว . . .]
สิ่งที่ปรากฎในสายตาขอผมในขณะนี้ คือเด็กสาว2คนที่สวมผ้าคลุมทั้งตัว และหมูป่าขนาดยักกำลังไล่ตามพวกเธออยู่
เสียงต้นไม้ถูกโค่นที่ผมได้ยินเมื่อตะกี้คงเป็นฝีมือของเจ้าหมูที่วิ่งชนทุกอย่างที่ขวางทางมันสินะ ดูๆแล้วขนาดตัวของมันคงไม่มีอะไรหยุดมันได้
[ว๊ายย]
[มาน่า!!]
เด็กหญิงคนหนึ่งพลาดล้มลง
ใบหน้าของเด็กสาวตอนนี้ซีดเผือกด้วยความกลัว
ผมไม่รอช้ารีบปล่อยกระสูนออกไปทันที
[[กระสูนยางลบ]]
มันคือท่าโจมตีลับของผมไว้โจมตีระยะไม่ไกลมากนัก ผมฝึกฝนมันเพื่อที่จะมาใช้หลังจากกลับมาที่โลกนี้
ที่จริงท่านี้ควรเรียกว่า กระสูนนิ้ว มันคือการดีดนิ้วด้วยความเร็วสูงสุด จนทำให้เกิดกระสูนอากาศพุ่งไปโจมตี
ผมเอาท่านี้มาประยุคใช้โดยฝึกดีดยางลบใส่เพื่อนในชั้นเรียนแทน แต่ในกรณีนี้ ศัตรูเป็นมอนเตอร์ ผมจึงไม่จำเป็นต้องออมพลังอะไรทั้งนั้น
และเสียงที่ตามมาคือเสียงของบางอย่างระเบิด เจ้าหมูป่าถูกแรงระเบิดลอยขึ้น และผมได้ยิงนัดที่ 2 ต่อมาในทันที เจ้าหมูป่าถึงกับลอยออกไป
[ พวกเธอไม่เป็นอะไรนะ ]
ผมลงจากหลังของซิลเบอร์ มายืนที่ด้านหน้าของพวกเธอ และได้หยิบเซตมีดสำหรับขว้างออกมาจากกระเป๋ามิติที่4 ที่เอวของผม
[ วะ ว๊ายยย]
[มาน่า !!]
เด็กสาวคนนั้นสะดุดล้มอีกแล้ว เธอกำลังคลำหาแว่นของเธอที่พื้น และเด็กหญิงทรงผมโพนี่เทลได้วิ่งเข้าไปช่วยสาวแว่น
[ โฮ แกยังลุกขึ้นมาได้หรอเนี้ย แกคงจะเป็นเจ้าป่าที่นี่สินะ ]
เจ้าหมูป่ายักลุกขึ้นมาหลังจากรับกระสูนยางลบของผมไป2นัด แม้จะมีเลือดไหลออกจากปากมัน มันจ้องมาที่ผมพร้อมกับคำรามออกมา
ในหัวของเจ้าหมูป่ายักตอนนี้ มีมีดที่ผมขว้างไปทะลุอยู่ในหัวของมัน
เจ้าหมูป่าล้มลงในทันที
ถึงมันจะโดนกระสูนยางลบของผมไป 2 นัดแต่ยังลุกขึ้นได้ แต่มันไม่มีทางรอดจากการโดนมีดแทงทะลุหัวได้หรอก
[พวกเธอไม่บาดเจ็บตรงนะ]
ผมหันหลังกลับไปถามพวกเธอ
และพวกเธอตอบผมกลับมาด้วยการผยักหน้าแบบรัวๆเลยล่ะ