ที่โลกรูนเบิร์กแห่งนี้ 1 สัปดาห์มี 7 วัน ซึ่งเหมือนกับที่โลกของผม
และ ใน 1 สัปดาห์นั้น ดูเหมือนว่าผมจะต้องมาเป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาเวทย์มนตร์ศาสตร์ 3 วันด้วยกัน
ดูเหมือนว่า โดโต้ซัง เค้าจะทำสิ่งที่ดีที่สุดอยู่เสมอ
หลังจากจบการแนะนำตัวกับเหล่านักเรียน ผมให้ตารางเวลาของผมแก่โดโต้ซัง และ บอกล่วงหน้ากับเขาว่า ผมจะอยู่ที่เมืองนี้เพียง แค่ 2 อาทิตย์ เท่านั้น
พอผมบอกตารางเวลาของผมไป โดโตซังจึงเตรียมหลักสูตรของบทเรียนที่ผมจะต้องสอน เป็นเวลา 6 คาบด้วยกัน
” สอนแค่ 6 วัน เนี้ยนะ !! จะดีจริงๆหรือเนี้ย ” คุณคงจะคิดแบบนั้นสินะ
ซึ่งผมเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน จึงได้ถามโดโต้ซังเหมือน ซึ่งเขาเพียงพยักหน้าอย่างเงียบๆแก่คำพูดของผม
หลังจากจบพิธิการแนะนำตนเอง ในระหว่างที่ผมกำลังไปที่ห้องพักของโดโต้ซัง ในตอนนั้น ที่มุมหนึ่งของโรงเรียน ผมได้ถูกรอบโจมตีด้านหลังของผมอย่างกะทันหัน !!
[ อูวว เธอแรงเยอะกว่าเดิมอีกนะเนี้ย ]
เมื่อผมหันกลับไปมองหาต้นตอของการโจมตีที่เอวของผม
ผมก็พบกับเด็กผู้หญิงผู้มีผมสีเงินเปร่งประกาย
[ ฮิฮิ~ ]
เธอมองขึ้นมาพร้อมกับยิ้มกว้างให้กับผม
เด็กสาวที่กำลังกอดเอวผมตอนนี้คือ อลิเซีย นั้นเอง
[ อลิเซีย เธอรอโอกาสจนหาจังหวะเข้าจู่โจมตอนผมเผลอจนได้นะ ]
เมื่อผมหันมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีคนอื่นๆอยู่แถวนี้ เพราะผมกลัวว่าจะมีคนมาเห็นเจ้าหญิงของอาณาจักรกำลังกอดเอวผู้ชายที่เรียกได้ว่าเป็นใครก็ไม่รู้(ผมหมายถึงไม่เป็นที่รู้จักในทางสังคมน่ะ)
. . . . ผมหวังว่ามันคงจะไม่เกิดเป็นข่าวอื้อฉาวหรอกนะ
[ บู่วว~ พูดอะไรออกมาน่ะ นี่ใช่คำพูดที่ควรจะพูดต่อภรรยาที่ไม่ได้พบหน้ากันนานกว่า 3 ปี อยู่หรอ ]
แม้เธอจะงอลจนแก้มป๋อง แต่เธอก็ยังคงปล่อยคำพูดชวนเข้าใจผิดถ้าหากคนอื่นมาได้ยินเข้า . . .
แต่ก็นะ เธอยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย
[ เดี่ยวนะ ผมไปมีภรรยาตอนไหนกัน ไม่สิ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ อลิเซีย รู้มั้ย ตอนพบกันตะกี้ เธอเปลี่ยนไปเยอะจนผมเกือบจำแทบไม่ได้เลย ]
เพราะเมื่อ 3 ปีก่อนนั้น เธอไว้ผมทรง side tail อาจเพราะตอนนี้เธอโตขึ้นมาก จะให้ไว้ทรงผมเหมือนแต่ก่อนคงไม่เข้ากันนัก ผมคิดว่านะ
[ บุฮิฮิ~ ฉันเติบโตกลายเป็นหญิงสาวแสนสวยแล้วยังไงล้าาา ]
เธอได้หมุนโชว์ตัวไปรอบๆ พร้อมกับโพสท่า hi post . . .
ถ้ามีแสงไฟซักหน่อย คงคิดว่าเธอเป็นไอดอลแน่ๆ
ผ่านไปเพียงแค่ 3 ปี อลิเซียเธอเติบโตขึ้นเป็นสาวสวยและมีสเน่ห์จริงๆนั้นแหละ
แต่ถึงอย่างงั้น เธอก็เพิ่งจะ อายุ 12 เองนะ . .
เดี่ยวนะ ถ้าหากเป็นผมเมื่อ 3 ปีก่อน
พวกเราคงได้เป็นเพื่อนสมัยเด็กกันและโตมาด้วยกัน,, แล้วก็ . . .
เฮ้อ ยังไงก็เหอะ เธอก็ยังเป็นแค่เด็กล่ะนะ ถ้าเธอจะมาเป็นภรรยาผมล่ะก็ กลับบ้านไปก่อนแล้วอีก 10 ปีค่อยมาใหม่นะ
[ อ่า ,, จ้า จ้า จ้า อลิเซียจัง เติบโตมาอย่างงดงาม . . รึ-ปล่าว-น้าา ~]
[ บู่ววว~,,, แม้กระทั้งหน้าอกของฉันก้อเติบโตขึ้นมากเลยนะ ดูสิ คิกๆ]
อลิเซียเธอพูดออกมาพร้อมกับเปิดสิ่งที่อยู่ใต้ผ้าคุมของเธอออกมา
. . . มันคือชุดกระโปรงแบบคอเต่า แต่สิ่งที่สำคัญอยู่ที่บริเวณส่วนด้านบนของชุด มันคือภูเขาที่ถูกสร้างโดยหนองโพ . . .
เห้ย !! ทำไมมันถึงใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เอ๊ะหรือว่า มันเป็นเพียงแค่รอยยับของเสื้อ
[ เดี่ยวนะ เหล่าพี่สาวของเธอเป็นพวกหน้าอกกระดานนี่นา ]
[ บู่ววว~ ก็เพราะฉันแตกต่างไงล้าา พวกพี่สาวแค่น่าอกรูปทรงสวยเท่านั้นแหละน่าาา ]
อันที่จริง สามพี่น้องนี้ค่อนข้างเหมือนกันเอามากๆเลยนะ แม้กระทั้งบุคคลิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าอกที่เล็กเหมือนกัน
[ พักเรื่องหน้าอกเอาไว้ก่อน รู้มั้ยฉันตกใจมากๆเลยนะ ที่อยู่ๆ ยูก็โผล่มา ]
อลิเซียเข้ามากอดที่แขนผม พร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้
[ คือผมถูกขอร้องให้มาเป็นอาจารย์โดยท่านอาจารย์โดโตเรกเก้น่ะครับ แต่ก็เพียงแค่ช่วงสั้นๆเท่านั้น เพราะงั้นฝากตัวด้วยนะ ]
[ คิกคิกๆ~ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง . . งานดูแลคุณสามี คือหน้าที่ของภรรยาอยู่แล้วจ้าาาา , , ฉันอุทิศตนเพื่อเป็นภรรยาที่มีประโยชน์ต่อคุณสามีเลยนะ เป็นไงล้าาา ยูเริ่มจะตกหลุมรักฉันบ้างรึยังน้าา~ ]
[ ถ้าเธอมีหนองโพขนาดใหญ่ด้วยล่ะก็ ผมคงกลายเป็นทาสรักของเธอไปแล้วนะ รู้มั้ย ]
ถ้าหากเธอพูดว่า ” ยูเริ่มจะตกหลุมรักฉันบ้างรึยังน้าา ” ในขณะที่กดหนองโพขนาดยักมาที่หน้าของผม ผมรับรองได้เลยในวันนั้นผมจะต้องจับกดเธอแน่นอน . . . . .
ย้ำอีกครั้ง ถ้าหากเธอมีหน้าอกใหญ่เท่านั้นนะ
[ มู่ววววว~ ยูยังคงเป็นพวกคลั่งหนองโพยักไม่เปลี่ยนเลยย ]
อลิเซียเธอหน้ามุ้ยอีกแล้วว
[ เอาน้า ไม่ต้องกังวลไป มีพวกแปลกๆที่รสนิยมผิดปกติมักบอกว่า “กระดานสิยืนยง”อยู่นะ เพราะงั้นไม่ต้องกังวลไป . . . จะมองว่าผมโชคร้ายก็ได้นะ แต่ผมไม่มีทางที่จะมองหน้าอกเล็กๆเหล่านั้นเป็นสมบัติไปได้หรอกนะ หนองโพยักต่างหากที่คู่ควรแก่การบูชา ]
[ ฮืมมมมม . . . ยูกำลังจะบอกว่า หน้าอกของชั้นกระตุ้นยูไม่ได้สินะ ]
เพราะคำพูดของผม อลิเซีย เธอยิ้มออกมาราวกับคิดแผนบางอย่างออก มันเป็นรอยยิ้มของปีศาจร้าย
[ ไม่ใช่เพราะหน้าอกใหญ่ หรือ หน้าอกเล็กหรอกนะ แต่ผมไม่มีทางถูกกระตุ้นโดยหน้าอกเด็กหรอกนะ . . . เดี่ยวๆ ไม่ๆ มันมีข้อยกเว้นอยู่ เอ่อ ผมหมายถึง ผมไม่มีทางถูกกระตุ้นโดยหน้าอกอลิเซียได้หรอกนะ ]
ในหัวของผมตอนนี้ ผมกำลังนึกถึงหนองโพของมาน่า ด้วยขนาดที่ใหญ่ขนาดนั้น ทำให้คุณเห็นได้ชัดแม้จะอยู่ใต้ผ้าคลุม . . .ไม่ๆ ลืมมันไปก่อน ตอนนี้คิดแค่เรื่องหน้าอกของอลิเซียก็พอ แต่เอ๊ะ ผ้าคลุมของเธอก็บางๆเองไม่ใช่หรอ? ทำไมก่อนหน้านี้ในห้องเรียน ผมถึงไม่เห็นขนาดของมันล่ะ ทำไมตอนนี้มันบวมขึ้นได้นะ ?
[ งั้นหรออออ~จ้ะ. . .คอยดูนะ เพราะชั้นจะทำให้ยูถูกกระตุ้นโดยอลิเซียคนนี้เอง ]
เมื่อพูดออกมาอย่างนั้น
อลิเซียก็ได้เดินมาที่ข้างหลังของผม
[ เอาล่ะ นั่งลง! ]
[ จ้า จ้า จ้า ]
เฮ้อ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกนะครับ ที่ผมต้องมาดวลอะไรไร้สาระนี้เพราะความเอาแต่ใจของเจ้าหญิง . . .
นอกจากนี้ ตอนที่หายตัวกลับโลกไปอย่างกะทันหัน ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้กล่าวคำอำลากับเธอเลย
เพราะงั้น ผมจึงอยากจะทำตามใจเธอเหมือนที่เธอเค——–
[ เอ๊ะ !#%& ]
หนุบหนับ
นั่นมันอะไร ?? !!
อะ- . .อลิเซีย
ที่ข้างหลังผม . . .
เธอกำลังกอดผม
ผมรู้ได้ในทันที เพราผมรู้สึกถึงน้ำหนักเธอที่หลังของผม
นอกจากนั้น แขนของอลิเซีย ,
เธอได้โอบกอดผมโดยที่มือของเธออยู่ที่หน้าอกของผม
แต่นี่ !! ความนุ่มนี้มันอะไรกัน !!
มัน- , รึว่ามันคือ !! ใช่แน่ๆ ที่ผมคิดไว้ ต้องไม่ผิดแน่ ถ้าผมยื่นมือออกไป แล้วจับมันล่ะก็ !! ผมต้องขยำมันไม่หยุดแน่ๆ
มันคือ ภูเขาหนองโพ !!
ไม่มีทาง !! เป็นไปไม่ได้ !! มันไม่ควรจะเป็นอย่างนี้ ผมรู้ขนาดหน้าอกของอลิเซียดี ของเธอมันเรียบแบนราวกับหน้าผา ไม่ใช่ภูเขาแบบนี้!!
แล้ว- !! มันอะไรกัน ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ !!
[ ฟุฟุ~ , เป็นไงล้าา ~ รู้สึกดีใช่ม๊าา ~ก็เพราะหน้าอกของฉัน มันสุดยอดยังไงล่ะ คิคิๆ ]
อลิเซีย เธอเข้ามากระซิบที่ข้างหูของผม พร้อมกับ กดหน้าอกของเธอลงมาที่แผ่นหลังของผม . . .
คุ , บ้าเอ้ย มันเป็นแบบนี้ไปได้ไงกัน . . . .
[ ก็เพราะอะไรที่ยูเรียกมันว่า” หน้า-อก-ของ-เด็ก ” ยังไงล่ะ ~ ]
งับ
[ บุฮิ !? ]
[ คิกๆ~ ร่างกายของยูเนี้ย ซื่อสัตย์อยู่เสมอเลยนะ รู้ตัวบ้างมั้ย ]
อลิเซียเธอกัดที่หูของผมเบาๆ จนมันทำให้ผมเผลอร้องเสียงแปลกๆออกมา . . .
ไม่มีทางเลย แบบนี้ , ถ้าเป็น——-
[ ไม่ !!! ผมจะไม่มีทางยอมแพ้ให้กับหน้าอกเด็ก เด็ดขาดด !” ]
[ ฮืมมมมมม , จะจริงล๊ออ~ แบบนี้ ฉันคงจะต้องเอาจริงสักหน่อยแล้ววว ]
หนุบหนับหนุบหนับหนุบหนับหนุบหนับ ๆๆ
[ หยุ,,, หหหหหยยยยยยยุยุยุดดดดดดดด น้าาาา]
ไม่เลย ,
ไม่มีทางที่ผมจะต่อกรกับหน้าอกของเธอได้เลย
บ้าเอ้ย นี่มันแย่แล้ว ,, แย่มากๆ
ผมกำ-,,กำลัง
ผมกำลังจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า”โลลิคอนนน”
ตุ๊บ
[ อ้าา~ นมหลุดตกซะได้ ]
[ ห๊ะ นมมันตกได้ด้วยหรอ ?? ]
เมื่อความรู้สึกหนุบหนับที่หลังของผมได้หายไป ความจริงจึงได้ปรากฏดังแสงสว่าง
[[ประกาศด่วน]] หน้าอกผู้หญิงนั้นสามารถถอดออกได้ครับ
ดึ๋งๆ
เดี่ยวนะ !!!!
[ มะ- มันคือ สไลม์ ? ]
เมื่อผมหันกลับไปมอง ผมก็พบกับ สไลม์ขนาดเท่าฝ่ามือเด็ก กำลังกระโดดดึ๋งๆขึ้นไปที่แขนของอลิเซีย . . .
ความรู้สึกรื่นรมณ์เมื่อกี้. . . .
มาจากเจ้านี่สินะ. . .
จากสไลม์. . .
ผมถูกกระตุ้นโดยมันสินะ . . .
โดยสไลม์ !!!!!!!!!
[ อร้า อร้า , ยูรู้ความจริงซะแล้ววว~ ]
[ ธะ-,,เธอทำแบบนี้กับหัวใจอันบริสุทธิ์ของผู้ชายคนนี้ได้อย่างไร , ,เธอกล้าทำแบบนี้ได้ไงกัน . . .]
ได้โปรด อภัยให้ผมด้วยครับ เชอร์รี่ซัง มารีด้าซัง
ที่ผมเกือบจะกลายเป็นพวกโลลิค่อนซะแล้วว . .
ยังไงผมก็ชื่นชอบสายพี่สาวที่ซูดดด เท่านั้นนนนน . . .
[ แม้ชั้นจะทำลงไปแบบนั้น แต่ชั้นก็เป็นเพียงเด็กสาวรู้มั้ย การที่ออกมาข้างนอกโดยที่ไม่รู้ว่าพบใครโดยบังเอิญนั้น เพราะฉนั้น สิ่งที่ชั้นทำลงไปจึงไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหรอกนะ ]
อลิเซียยิ้มอย่างเยาะเย้ย พร้อมกับยืดอก ที่เหลือแต่กระดานตอนนี้
บ้าเอ้ย พอได้ฟังเหตุผลนั้น มันทำให้ผมยิ่งรู้สึกท้อแท้ . . .
เดี่ยวนะ พอมองดู อลิเซียดีๆแล้ว . .
[ เอ๊ะ !! รอเดี่ยวนะ อลิเซีย ]
นั้น !! ผมเห็นบางอย่างที่มันผิดปกติ !!
[ เอ๋ . . อ . .อะไร รึว่า !! เรื่องเมื่อกี้มันจะทำให้นายคลั่งขึ้นมางั้นรึ ]
[ ไม่ๆ ผมไม่ได้คลั่ง . . . คือว่าบางสิ่ง ที่ผมต้องการจะถามน่ะ ]
มันค่อนข้างชัดเจนมาก
ถ้าได้เห็น จะต้องรู้สึกตัวได้ในที
ผมคงละอายใจแน่ถ้าหากผมไม่สังเกตุเห็นมัน
ถ้าผมจะคลั่ง ผมจะคลั่งเรื่องที่ทำไมตัวผมในอดีตถึงไม่สังเกตุเห็นมันนะ
[ . . . อะไรหรอ ? ]
อลิเซียเธอเอียงคออย่างสงสัย
ที่ช่องว่างของผ้าคลุมเธอ มันทำให้ผมแอบเห็นชุดกระโปรงที่เธอสวมอยู่ . . .
[ อลิเซีย , ชุดเครื่องแบบนักเรียนเธอไปใหน ]
[ หือ !? . . มันไม่มีหรอกนะอะไรที่นายเรียกว่าเครื่องแบบนักเรียนนั้นน่ะ , ถ้าจะมี ก็คงเป็น ผ้าคลุมนี้ล่ะมั้ง ฉันคิดว่านะ ]
เมื่อกล่าวออกมาอย่างงั้น อลิเซีย เธอโชว์ผ้าคลุมสีเทาของเธอให้ดู มันมีเพียงเข็มกลัดที่ประดับด้วยอัญมณีสีแดงสด ส่องประกายแวววับอยู่บริเวณคอเธอเท่านั้น
[ . . . พวกเขาไม่มีเครื่องแบบอื่น ???? ]
—————-
[ . . . . . . . . ]
[ โฮะ ๆ เซลก้าจัง ดูเหมือนว่าเธอจะโมโหเรื่องที่ข้าตัดสินใจก่อนหน้านี้สินะจ้ะ ]
[ . . . ไม่ใช่ทั้งหมดค่ะ เพราะนั้นเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของดิชั้น ยังไงการตัดสินใจของท่านอาจารย์ใหญ่ ที่เป็นถึงหัวหน้ากิลด์ของ Lizwadia ด้วยนั้น คำตัดสินของท่านหัวหน้านั้นเป็นที่สุดอยู่แล้วค่ะ ไม่มีทางที่ดิชั้นจะต้องคัดค้านอยู่แล้วค่ะ ]
[ อืม ถ้าหากเซลก้าจังว่าอย่างงั้น . . ถ้างั้น ข้าอยากจะให้เธอสวมชุดคอสเพลพยาบาลจัง .. เซลก้าจังก็จะทำตามขอร้องข้าใช่มั้ย ]
[ อุก . . ]
[ โฮะๆ ]
ดูเหมือนว่าเธอจะพยายามพูดเหน็บแนมการตัดสินใจของท่านอาจารย์ใหญ่ แต่ท่านอาจารย์ใหญ่ใช้คำพูดของเธอตอบโต้กลับไปได้
[ ที่สำคัญ ในเมื่อความเห็นของข้าถูกต้องเสมอ ข้าขอสั่งให้ตัวข้าไม่ต้องทำงานเอกสารของทางกิลด์อีกต่อไปละกัน แบบนี้เป็นไงจ้ะ ]
[ ถ้าท่านทำแบบนั้นจริงล่ะก็ ดิชั้นคงต้องขอให้คุณลาออกจากตำแหน่งหัวหน้ากิลด์ด้วยค่ะ ]
[ ล้อเล่นจ้า ล้อเล่น ]
ในที่สุดเซลก้า ก็ทนไม่ไหว
[ ทำไมท่านถึงให้เจ้านั้น , นักผจญภัยนั้น ยู ยาชิโระ มาเป็นอาจารย์ผู้ช่วยกันคะ ดิชั้นต้องขอให้ท่านช่วยอธิบายเหตุผลให้ฟังด้วยค่ะ ]
[ . . . .อืมม ]
รูการอน กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง และเริ่มอธิบาย. . .
[ เธอ รู้สึกถึงพลังเวทย์มนตร์ในตัวของเขาร——— ]
ตูมมมมมมมมม
แทบจะพร้อมกับคำพูด ที่หน้าต่างของห้องอาจารย์ใหญ่ ที่อยู่ชั้นบนสุดของหอนาฬิกา ได้แตกเป็นชิ้นๆพร้อมกับอะไรบางสิ่งที่ปรากฏขึ้น
[ . . . . . . . ]
สิ่งที่ปรากฏมาจากทางหน้าต่างนั้น คือบุรุษผู้ปกคลุมด้วยความโกรธเกรี้ยว ชายผมดำที่ดูราวกับถูกความมืดมิดครอบงำจิตใจ
คือเขาเอง ยู ยาชิโระ
[ . . .นะ- , นายจะทำอะไรกัน , ทะ-, ที่สำคัญ นายมาที่นี้ได้อย่างไร นี่มันชั้นบนสุดของหอนาฬิกานะ ทั้งๆที่ไม่ใช้เวทย์มนตร์เคลื่อนย้ายด้วย !! ]
บนพื้นห้องนั้นมีเศษแก้วกระจายอยู่ทั่ว
เซลก้า เธอได้ชี้คถาของเธอไปทางยู ยาชิโระ ซึ่งเขาทำเพียงเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ
[ . . . . . ทำไมคุณไม่บอกเรื่องนั้นกับผม !! ]
[ . . . เรื่องอะไรที่ข้าไม่ได้บอกกับเธอกันล่ะ ]
ชายที่มีดวงตาที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง
แม้แต่ รูการอน เพียงแค่มอง เขาเองก็ตกอยู่ในความหวาดกลัว
มันเป็นดวงตาที่เก็บซ่อนความเกลียดชังมากมายอยู่ภายใน
มันเป็นดวงตาที่เขาไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อนในชีวิต
แม้การเจรจาตอนนี้อาจจะดูไม่ฉลาดนัก
แต่ รูการอน ก็ได้ถามสิ่งที่ ยู ยาชิโระ ต้องการออกไปอย่างไม่เกรงกลัว
ดวงตาของยูนั้น กลับกลายเป็นถูกย้อมด้วยความสิ้นหวัง และสั่นคลอนราวกับว่าพร้อมที่จะร้อง ออกมาตลอดเวลา
[ ทำไมกัน !!! ทำไมโรงเรียนแห่งนี้ถึงไม่มีเครื่องแบบนักเรียน !! ]
เขาได้กู่ร้องเจตนารมณ์ของเขาออกมา
มันเป็นเสียงที่ร่ำร้องราวกับว่ามาจากวิญญาณ
เสียงของเขานั้นดังก้องไปทั่วห้องของอาจารย์ใหญ่