ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ – ตอนที่ 74 ผู้กล้าคนก่อนกับงานประลอง 4

ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ

[ โฮ … เพียงแค่มองเพียบแว๊บเดียวข้าก็รู้สึกได้เลย ความคมของดาบนั้นสามารถเทียบเท่ากับดาบเวทย์มนตร์ของข้าได้เลย ! ]

[ วัสดุหลักที่ใช้สร้างมันทำมาจากเศษแร่จากร่างกายของบาซิลิสก์ตัวผู้และตัวเมียและดวงตาปีศาจของจ่าฝูงน่ะ ถึงแม้ผมจะไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรเพราะผมไม่เคยลองใช้มันกับคนมาก่อน แต่ว่าพิษชาที่อยู่ในตัวดาบนี้คงไม่ทำให้ลุงตายได้หรอกครับ อย่างมากคงทำให้ลุงรู้สึกมึนๆชาๆไปทั้งตัวทั่วนั้นแหละ ]

ยูถือดาบที่ดูราวกับอัญมณีสีฟ้าไว้ในมือขวาที่ซึ่งเป็นแขนข้างที่หัก และกำดาบอัญมณีสีเขียวในมือข้างซ้ายไว้แน่น

เพื่อเป็นการยืนยันความรู้สึกของการถือดาบไว้ในมือข้างขวา เขายังคงกำมันแน่นขึ้นและคลายมือลงอยู่เรื่อยๆ 

( …. ดีล่ะ ดูเหมือนแขนข้างขวาของเราจะฟื้นฟูจนอยู่ในระดับที่เราจะสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว )

ในขณะที่ยูกำลังยืนยันเรื่องแขนขวาของเขา ฟาลฮาร์ดที่มองดูยูอยู่ถึงกับตกใจ

นี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี ในความเป็นจริง กระดูกแขนของยูนั้นหักไปแล้ว ไม่สิ แทนที่จะใช้คำว่าหัก มันควรจะถูกเรียกว่าแตกละเอียดซะมากกว่า

แล้วแขนนั้นดันสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างปกติทั้งๆที่เวลาเพิ่งจะผ่านไปเมื่อสักครู่ มันคงบ้าไปแล้วถ้าหากใครเห็นแล้วจะไม่ตกใจ

[ ข้าตกใจจริงๆ แสดงว่านั้น ? มันคือความสามารถของดาบเวทย์มนตร์สินะ ? ]

[ ก็ .. ความลับทางธุระกิจ ]

แน่นอน มันคือผลข้างเคียงของพลังจากดาบศักดิ์ศิทธิ์ แต่ว่าต่อให้ปากฉีก ยูก็จะไม่มีทางพูดออกมา

อย่างไรก็ตาม สภาพแขนของยูตอนนี้ยังห่างไกลกับคำว่าฟื้นฟูเต็มที่มากนัก และความเจ็บปวดยังคงเจ็บจี๊ดอยู่ตลอดแขนอยู่เช่นเคย มันเจ็บราวกับว่าโดยทุบอย่างรุนแรงอยู่ตลอดเวลา

[ เอาล่ะ มาต่อยกที่ 2 กันเถอะ ลุงอัศวิน !! ]

แม้ว่ามันจะยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่ถ้าแค่พอเคลื่อนไหว มันก็ไม่เป็นปัญหาอะไร ความเจ็บปวดสำหรับเขานั้นมันไม่มีปัญหาอะไรในเวลาที่ความกระหายสู้ของเขาพุ่งขึ้นถึงขีดสุด!

[ ฮ่าฮ่า งั้นข้าขอพูดอีกครั้ง ….. รับไปซะ !! ]

ชักดาบของเขาออกมาจากพื้นดิน อีกครั้งที่เขาอยู่ในท่าเตรียมพร้อมและ . . ฟาลฮาร์ทเตะพื้นดินพุ่งเข้ามา

「ッ!!」

ราวกับตอบสนองต่อสิ่งนั้น ยูเองก็เตะพื้นเช่นกันและพุ่งเข้าประชิดลุงอัศวิน

จากที่ทั้งคู่ต่างพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายพร้อมๆกัน ระยะห่างระหว่างยูและอัศวินได้หายไปอย่างรวดเร็ว

[ ฮ่าาา !! ]

ดาบเวทย์มนตร์ของอัศวินได้ฟันมาในแนวนอน

ยูเองก็ตอบสนองต่อการฟันนั้น โดยการงอตัวหลบการโจมตี มันเป็นการงอตัวไปข้างหน้าราวกับว่ายูกำลังจะล้ม และในจังหวะที่หลบนั้น เขาเองก็บิดร่างของตนราวกับเป็นแกนหมุนในการเหวี่ยงดาบคู่ของตนหมายจะฟันไปที่หน้าอกของอัศวิน ….แต่ว่า

[ โอ้ะ สุดยอดมาก . . . !! ไอ้การ “หลบแบบนั้น” มันทำให้ข้าตกใจมาก ! ]

ทั้งการโจมตีและการป้องกันตอนนี้ยุ่งเหยิงไปหมด อัศวินนั้นได้ถอยหลังออกมาและฟันสวนกลับด้วยความเร็วที่น่าตกใจ ยูจำต้องใช้ดาบคู่ของเขาป้องกันการโจมตีนั้น

[ ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าวางแผนจะล้มนายให้ได้ในจังหวะฟันสวนกลับไปในตอนป้องกันแท้ๆ . . ! ]

เพราะคาดเอาไว้แล้วว่ายูจะต้องเข้ามาในระยะประชิด ในท่าฟันครั้งแรก มันเป็นท่าที่สามารถถอยออกมาได้อย่างโดยง่าย

ถ้าหาก ยูตอบโต้ช้ากว่านี้สักนิดล่ะก็ . . . .

[ บ้าจริงๆ มันจะตื่นเต้นเกินไปแล้ว !! ]

หัวใจของผมมันถึงกับเต้นไม่หยุดราวกับว่ากำลังดีใจ มันเหมือนกับความดีใจในตอนนั้น เมื่อ 3 ปีก่อน ตอนที่ผมพยายามฟันฝ่าหลีกหนีจากความตายจากอัคนีร่าและคนอื่นๆ

ไปอยู่ที่ด้านหลังของอัศวิน ยูจับดาบคู่ของตัวตนในท่ากลับด้าน เขาใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางเป็นตัวค้ำยัน มันดูราวกับว่าเขาอยู่ท่ายืน 4 ขาในขณะที่ยังจับดาบ

[ หือ !? ]

ในตอนที่ยูใช้ แขนขาทั้ง 4 กระโดดไปทางขวา ดาบเวทย์มนตร์นั้นก็ถูกฟันลงมาในจุดที่ยูหลบออกไปเมื่อสักครู่ พื้นหินของสนามประลองถึงกับแตกกระจาย

อีกครั้งที่ยูกลิ้งหลบการฟันลงมาของอัศวินนั้นและเขาก็ลดระยะห่างลงด้วยก้าวพริบตา

[ ย๊ากกกก !! ]

[ ฮ่าฮ่า ข้าไม่ยอมหรอก!! ]

อัศวินนั้นพลันเคลื่อนดาบของเขากลับมาป้องกันราวกับใช้วิชาดาบทั้งหมดของเขาเพื่อป้องกันการโจมตีของยูที่ถูกฟันด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง

การโจมตีของทั้ง 2 ต่างสูสีกัน ยูยิ่งใส่พลังในการโจมตีมากขึ้นและการเคลื่อนไหวของอัศวินยิ่งเฉียบคมขึ้น

ลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นลงจนน้อยที่สุด และเปลี่ยนมันเป็นการเคลื่อนไหวที่หวังได้ผลได้ดีที่สุด ด้วยเทคนิคชั้นสูงเหล่านี้ที่ยูกำลังเผชิญ มันทำให้ยูถึงกับเผลอหัวเราะ *ฮี่ๆ*ออกมาพลางพยายามที่จะคว่ำตาลุงอัศวินนี้ให้ได้

การปรับเปลี่ยนท่าจับดาบกลับหลังแบบที่เขาถืออยู่ มันทำให้ความเร็วการโจมตีต่อเนื่องของเขาสูงขึ้นไปอีก

การโจมตีของยูที่เป็นรูปแบบฟันมาโดยตลอด ตอนนี้กลับปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบการแทง

[ ชิ แทงงงงง ! ]

[ โอ้วววววววววววว !! ]

การโจมตีรูปแบบแทงนี้มันถูกเสียบออกมาด้วยความเร็วที่ตาไม่สามารถตามความเร็วได้ทัน และท่ายืนของอัศวินนั้นก็อยู่ในรูปแบบป้องกันราวกับว่าเขากำลังเฝ้ารอการโจมตีนี้อยู่

หากให้เปลี่ยนการโจมตีและการป้องกันนี้มันดูราวกับว่ามันคือการโจมตีด้วยหอกและป้องกันด้วยโล่ แต่ยังไม่ได้พักหายใจ เขาก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว

อาจเพราะจุดที่ยูใช้พุ่งเข้าไปโจมตีมันไม่ค่อยดีนัก หรือเพราะสติของอยู่ขาดผึงไปชั่วขณะเพราะความเจ็บปวดจากแขนขวา แต่การแทงที่อยู่ปลดปล่อยไปด้วยมือขวาของเขานั้นถูกป้องกันได้โดยฟาลฮาร์ด ผู้ที่ตั้งท่ารออยู่ก่อนแล้ว

และแล้วก็ถึงคิวที่ ฟาลฮาร์ดเปิดการโจมตีบ้าง ! 

*อึก!*

ดาบอันแข็งแกร่งที่สามารถทลายได้แม้กระทั้งหินผา ได้ฟันตัดผ่านสายลมลงมา

สำหรับการป้องกันนั้น ยูป้องกันโดยการฟันดาบอัญมณีสีเขียวที่ถูกกำแน่นในมือซ้ายสวนกลับไป

แรงปะทะมันมากกว่าทุกๆครั้งผ่านมา มันแล่นไปตามแขนของยู

ยูรู้สึกว่าเขาคิดผิดจริงๆที่เขาใช้แขนรับแรงประทะตรงๆแบบนี้ แต่ เขาก็ไม่คิดที่จะสนใจนอกเสียจากเรื่องของอีกมือของเขา

ดาบอัญมณีสีฟ้าที่ถูกกุมแน่นในมือขวาของเขา เขาได้ “เชื่อมต่อ” มันเข้ากันดาบอัญมณีสีเขียว และ บังคับหมุนแรงไปทางขวาราวกับพยายามตัดอะไรสักอย่าง

[ อะไรกั–!? ]

ดาบเวทย์มนตร์ของอัศวินฟาลฮาร์ดถูกฟัดหมุนวนขึ้นไปบนอากาศและ *คิเชียส* เสียงที่แหลมสูงของมันคือเสียงของดาบที่ถูกปักลงในพื้นดิน

ห่างออกไปที่ด้านหลังของเขา

[ . . . ข้าขอยอมแพ้ ]

มันเป็นความช็อค ที่ดูราวกับว่ากำลังดีใจ ฟาลฮาร์ดจ้องเขม็งไปยังดาบสีเลือดที่เกิดจากการหลามหลอมของอัญมณีทั้ง 2 และพึมพัมออกมา

โถ่เพื่อน~~ ผมเกือบจะเป็นคนที่จะต้องพูดยอมแพ้ซะแล้ว ผมไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมีความสามารถเทียบเท่ากับลีโอเลย

ถ้าหากผมยังคงฝืนโจมตีต่อไปเรื่อยๆ ไม่ต้องสงสัยเลย เขาคงจะสามารถป้องกันเอาไว้ได้หมด . . . และนั้นคือเหตุผล

ผมต้องการฉากที่มีอิมแพ็คมากพอที่จะทำให้การเคลื่อนไหวของตาลุงอัศวินนี้หยุดฉงักไปชั่วครู่เพราะต้อง [ คิด ] และมันก็สำเร็จ น่าแปลกอยู่เหมือนกันที่ตาลุงอัศวินนี้ไม่ได้คาดเอาไว้ว่าดาบคู่นี้สามารถเชื่อมต่อกันได้ มันเลยทำให้เขาหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ

ก็ มันเป็นอะไรคล้ายๆกับการเดิมพัน ถ้าหากลุงอัศวินไม่ฉงักล่ะก็ ตาลุงนั้นคงรู้ถึงการโจมตีนั้นและกลับไปอยู่ในโหมดป้องกันอีกแน่

แต่ว่า ถ้าหากผมไม่ใช่วิธีเดิมพันเช่นนี้ มันจะต้องกลายเป็นการต่อสู้ที่โดนลากยาวแน่ๆ ทักษะที่ตาลุงนั้นแสดงออกมาถึงแม้มันจะดูธรรมดาทั่วๆไปแต่ในตอนที่ได้ดวลกับลุงนี้นั้นผมกลับพบว่าเขานั้นไม่มีจุดอ่อนเลย

และถ้าหากต่างฝ่ายต่างต่อสู้กันแบบนี้ต่อไป มันคงจะหมดวันก่อนแน่ๆ

[ ….เอาล่ะ ผู้แพ้ควรที่จะจากไปอย่างมีเกียรติ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ข้าจะไป ข้าขอทราบชื่อนายจะได้รึปล่าว ? ]

หลังจากเก็บดาบเวทย์มนตร์ของจนกลับไปยังฝักดาบ ตาลุงอัศวินยืนมือของตนออกมาพร้อมกับยิ้มกว้าง

มาคิดๆดูแล้ว ตาลุงไนท์นี้ประกาศชื่อของตนเองมารึยังนะ ?

[ ยู ยาชิโระ เอ่ออคือ . . . ฟาลฮาร์ทใช่รึปล่าวครับ ? ]

[ เอ็นแฮนด์ ข้าชื่อ ฟาลฮาร์ด เอ็นแฮนด์ ยาชิโระคุง ]

เมื่อผมยืนมือออกไป ฟาลฮาร์ทจับแน่นมาที่มือของผมจนถุงมือเหล็กของเขาคลุมมือผมจนมิด

[ ฮ่าฮ่าฮ่า นานแค่ไหนแล้วนะที่ข้าไม่ได้รู้สึกดีขนาดนี้ เอาล่ะ ข้าหวังว่าข้าจะได้มีโอกาสสู้กับนายใหม่ในสักวันหลังจากนี้ ]

ตาลุงอัศวิน ฟาลฮาร์ดกล่าวออกมาพลางหัวเราะ และ เขาก็กระโดดลงไปในทะเลที่อยู่รอบๆสนาม . . . เดี่ยวดิเห้ย แกสวมชุดเกราะเหล็กอยู่นี่

[ เห้ๆ เดี่ยวก็จมหรอกลุง !? ]

ก็ ผมเคยมีประสบการณ์เกือบจมน้ำตายเพราะใส่ชุดป้องกันเต็มยศลงไปในน้ำมาแล้ว ในขณะที่คิดจะกระโดดตามลงไปช่วย ผมก็ผลันหยุดเอาไว้ทัน

ทั้งๆที่อยู่ในเครื่องป้องกัน ฟาลฮาร์ทก็ยังว่ายน้ำอย่างสบายๆไปยังขุดที่ผู้ตกรอบคนอื่นๆอยู่

[ . . . จริงๆเลย โลกนี้มันกว้างใหญ่จริงๆ ]

ถึงเขาจะไม่ได้ใช้เวทย์มนตร์ แต่ถ้าในด้านเทคนิคดาบ ตาลุงอัศวินนี้มีฝีมือเทียบเท่ากับลีโอได้เลย เขาแข็งแกร่งที่สุดในหมู่มนุษย์

การต่อสู้นี้ทำให้ผมคิดขึ้นได้ว่า ในโลกนี้นั้นยังมีอะไรที่ผมนั้นไม่รู้อีกมากนัก

[ เอาล่ะ ถึงเวลาที่จะต้องจบการต่อสู้นี้เสียทีสินะ ? … หือ ? ]

และในจังหวะที่ผมหันเหสายตาไปยังกลุ่มของเบอร์นาเดส บางอย่างสีดำก็ผ่านหน้าผมไปอย่างรวดเร็ว

ผมรีบมองตามมันไปอย่างสนใจทันทีและ ก็เกิดน้ำสาดกระจายขึ้นที่นอกสนามประลอง

[ ดูเหมือนว่าทางนี้จะรู้ผลแล้วเหมือนกันเช่นกัน ]

และเมื่อผมหันเหสายตากลับไปยังทิศทางที่เสียงนั้นพูดขึ้น ผมก็พบกับ หูจิ้งจอก เด็กชายผมบอร์นที่อายุราวๆกับผมกำลังอยู่ในชุดที่คล้ายๆกับคาราเต้กำลังยืนยิ้มแฉ่งอยู่

ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ

ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ

Status: Ongoing
ยู ยาชิโระ” เขาเคยถูกอัญเชิญมายังต่างโลกเมื่อตอนเขาอยู่ม.ต้นปี 2 มันคือโลกที่เต็มไปด้วยดาบและเวทย์มนตร์!! หลังจากได้ต่อสู้เพื่อเหล่าองค์หญิงที่น่ารัก(ผู้อัญเชิญเขามา) แม้จะมีหลายครั้งที่พ่ายแพ้ แต่เขาก็ไม่เคยท้อที่จะลุกขึ้น . . ในที่สุด เขาก็นำพาความสงบกลับมายังโลกใบนี้ 3 ปีหลังจากนั้น จอมมารที่เคยถูกผู้กล้าคนก่อนจัดการได้กลับมาฟื้นคืนชีพและนำพาโลกสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง. . ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องอัญเชิญ 4 ผู้กล้าคนใหม่ !! และเพื่อที่จะนำพาความสงบสุขกลับมายังโลกแห่งนี้ ท่านผู้กล้ารุ่นที่2 “อามากิ ไคโตะ” ได้ชักดาบของเขาขึ้น …….แต่ว่า กลับไม่มีใครรู้เลยว่า เด็กนักเรียนชายม.ปลายผู้ซึ่งไร้พลังเวทย์ในร่างกายคนนั้น คนที่ถูกอัญเชิญมาพร้อมกับ อามากิ ไคโตะและผองเพื่อน เขาคือ ท่านผู้กล้าคนก่อน ผู้ที่เคยปราบจอมมารลง เมื่อ 3 ปีก่อน !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท