เพราะเป็นเทพมังกรเลยไม่มีระบบพิเศษเหมือนเขาอ่ะ! – ตอนที่ 18 อัตลักษณ์

เพราะเป็นเทพมังกรเลยไม่มีระบบพิเศษเหมือนเขาอ่ะ!

บทที่ 18 – อัตลักษณ์

 

มังกร.. สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถใช้เวทมนตร์หรือพลังพิเศษอะไรได้ นั่นคือจุดด้อยของพวกมันอย่างเห็นได้ชัดการวิวัฒนาการของพวกมันจึงเน้นไปที่ ‘อัตลักษณ์’

พวกมังกรนั้นเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอัตลักษณ์.. อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่พึ่งพาการใช้อัตลักษณ์ที่สุดในโลก

และยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอัตลักษณ์ที่ทรงพลังที่สุดในโลกก็ว่าได้ แต่ถึงแบบนั้นคิดว่ามันจะเพียงพอสำหรับการถูกนับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในโลกจริงๆ หรือ

เวทมนตร์นั้นสามารถวิวัฒนาการและสร้างสิ่งใหม่ๆ ได้ตลอดในบางระดับมันคงสามารถสร้างขึ้นมาเพื่อฆ่ามังกรได้

แต่ทำไมกลับไม่สามารถทำเช่นนั้นได้.. คำตอบนั้นมีเพียงอย่างเดียวเพราะมังกรมันไม่ได้มีแค่ตัวมันคนเดียวยังไงล่ะ

ไม่ได้หมายถึงว่ามันอยู่รวมกันเป็นฝูง.. แต่มันมีหนึ่งสิ่งที่สิ่งมีชีวิตอื่นไม่สามารถมีได้.. ‘กลืนกินอัตลักษณ์’ ยังไงล่ะ

ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล้วนมีอัตลักษณ์ ไม่ว่าจะมนุษย์หรือปีศาจหรืออะไรก็ตามอัตลักษณ์ของพวกมันล้วนมีความโดดเด่น

มนุษย์ก็อาจจะเป็นปัญญาที่สูง ปีศาจก็อาจจะเป็นพละกำลังวังชา.. ทุปอย่างที่ว่ามานั้นคือ ‘อัตลักษณ์’ เพราะว่า ‘อัตลักษณ์’ นั้นไม่ใช่ทั้งพรสวรรค์หรือพรแสวง

แต่เป็นลักษณะดั้งเดิมตั้งแต่กำเนิดที่บรรพบุรุษพวกมันวิวัฒนาการขึ้นมาเพื่อให้สามารถดำรงอยู่ในโลกแบบนี้ได้

และใช่.. มังกรนั้นสามารถช่วงชิงสิ่งนั้นได้.. แทนที่จะบอกช่วงชิงต้องบอกว่ากลืนกินเสียมากกว่าแล้วก็การกลืนกินของมังกรนั้นมันก็ค่อนข้างจะ…

บ้าบอ.. คำนี้คงเหมาะกับมันมากที่สุดเพราะหากเป็นมังกรในระดับสูงขอแค่สัมผัสกับสิ่งมีชีวิตนั้นก็จะสามารถ ‘มีอัตลักษณ์’ ของศัตรูได้แล้วล่ะ

นั่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง ‘เทพมังกร’ อย่างมิวเลย ไม่มีใครทราบว่าการกลืนกินอัตลักษณ์ของเทพมังกรนั้นทำงานในรูปแบบไหนเช่นเดียวกัน

แต่ที่แน่นอนก็คือ.. ตามปกติแล้วเมื่อมังกรใช้อัตลักษณ์จากสิ่งมีชีวิตอื่นพวกมันจะทำหน้าที่เหมือน “แปลงร่าง” เป็นสิ่งนั้นๆ ไม่ก็ใช้ ‘อัตลักษณ์’ ของสิ่งอื่นทั้งที่เป็นมังกรอยู่

ที่แน่ๆ เลยก็คือไม่ได้เรียกออกมาแบบที่มิวทำแน่ๆ สาเหตุที่เป็นแบบนั้นคงเป็นเพราะร่างกายของมิวได้วิวัฒนาการมาสู่ร่างมนุษย์

ทำให้เธอไม่อาจใช้คุณลักษณะดั้งเดิมของการกลืนกินอัตลักษณ์ได้..เพื่อที่จะยังคงสามารถใช้อัตลักษณ์ดั้งเดิมทุกอย่างได้ร่างกายจึงวิวัฒนาการมาเช่นนี้

แม้มิวจะรู้ว่ามังกรมีอัตลักษณ์แบบนี้ แต่ตอนแรกเธอเพียงแค่จะใช้อัตลักษณ์บางอย่างเพื่อรับมือเท่านั้นไม่คิดว่าจะหลุดออกมาแบบนี้เลย

นอกจากนี้เมื่อที่มือตัวเองแล้วเหมือนยังมีไม้ที่คล้ายไม้กายสิทธิ์โผล่ออกมาตอนไหนก็ไม่รู้ด้วยเพราะก่อนหน้านี้เธอทำไปด้วยสัญชาตญาณ

“ร่างกายฉันนี่แปลกเอาเรื่องอยู่นะ..”

มิวพึมพำกับตัวเอง

“แต่จะว่าไปฉันไม่เคยเห็นคิเมร่าหรืออะไรมาก่อนทำไมถึงมีอัตลักษณ์เจ้านั่นได้ล่ะ.. อืมมมม”

“อ้ะ เข้าใจแล้ว เจ้าคิเมร่าคงจะเป็นสัตว์ที่เทพมังกรคนก่อนฉันไปกลืนกินไว้สินะ… ไม่สิ แต่เจ้านั่นตายไปแล้วนี่น่าทำไมอัตลักษณ์ที่กลืนกินถึง..?”

ในขณะที่มิวยังตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งความคิด ด้านหลังของมิวก็มีเสียงแกร๊กขึ้น ดึงเอาสติของตัวเธอกลับมา

“เอาเถอะเรื่องร่างกายฉันมันจะมีพลังแบบไหนก็คงไม่แปลกแล้วมั้ง”

มิวถอนหายใจกลับคืนมาหันไปมองเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเหมือนถอยหลังหนีมิวอย่างสุดกำลัง

แต่พอมิวหันมาเธอก็สะดุ้งเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าคนที่ทำภาพเบื้องหน้าอย่างโหดเหี้ยมโดยไม่สนใจอะไรเลยจะเป็นคนดี

อันที่จริงถ้ามิวเป็นคนทำเองก็คงรู้สึกอยู่.. ไม่สิ เพราะจิตใจตอนนี้เธอก็เป็นมังกรแล้วถ้าหากมีมังกรกับคนตายตรงหน้าเธอ

เธอคงจะอาลัยอาวรณ์มากกว่าด้วยซ้ำ.. จะอย่างไรก็ตามคนที่ลงมือก็คือคิเมร่าไม่ใช่เธอ เธอยกมือขึ้นไม้คล้ายไม้กายสิทธิ์ก็สลายหายไปพร้อมกับเงาคิเมร่า

“ฉัน.. ฉัน…”

เธอดูเหมือนกังวลจนพูดไม่เป็นความ มิวเองก็เข้าใจสถานการณ์ดี

“ใจเย็นก่อนนะ ฉันมีชื่อว่ามิว เป็นตัวแทนจากกิลด์นักผจญภัยน่ะ”

ถึงจะยังไม่ใช่ก็เถอะ แต่ก็อีกไม่นานนี่น่า เอาอันนี้มาใช้เป็นข้ออ้างว่าเป็นคนดีถึงจะพึ่งฆ่าคนอย่างโหดร้ายไปก็น่าจะได้นะ

มิวคิดแบบนั้น แล้วก็อย่างที่คาดสาวน้อยได้แต่เอียงคองงอย่างช่วยไม่ได้ มิวเลยจัดการอธิบายไปยกใหญ่ว่าคืออะไร

“…เข้าใจแล้ว.. พี่ไม่ใช่คนไม่ดีจริงๆ สินะ”

“อืมๆ เข้าใจก็ดีแล้ว”

มิวพยักหน้าแต่รู้สึกประหลาดอยู่ในอก เหมือนตัวเองกำลังหลอกเด็กยังไงชอบกลต้องมาอธิบายว่าตัวเองเป็นตัวแทนของบางอย่าง

แล้วต้องมาอธิบายว่าไอ้บางอย่างนั่นคือของฝั่งคนดียังไง.. แต่ถ้าผลลัพธ์ออกมาดีขนาดนี้ก็ช่างมันเถอะเนอะ

ไม่สิ เพราะสาวน้อยคนนี้ดูเป็นคนเชื่อคนง่ายอยู่แล้วสิ นี่ยิ่งดูเหมือนมิวเป็นพวกเดียวกับพวกนั้นเลยแฮะ!

“ฉันมีชื่อว่ารินนะค่ะพี่.. อันที่จริงแล้ว…..”

สาวน้อยไม่ได้เห็นความคิดอันยุ่งเหยิงของมิว เธอแนะนำตัวและเหมือนมีบางอย่างอยากจะแต่ก็ลังเลนิดหน่อย..

“คืออันที่จริงแล้วหนูตามหาน้องชายค่ะพี่..”

“น้องชาย.. ในหอคอยนี่นะ?”

“ค่ะ”

มิวมองรินนะที่อายุประมาณ 16-17 ปีเท่านั้น.. ถ้างั้นน้องชายก็น่าจะน้อยกว่านี้น่ะสิ.. แล้วเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี.. ทำไมถึงปล่อยให้เข้ามาในหอคอยได้ล่ะ

ไม่สิ แรกเริ่มเดิมทีมันมีการกำหนดอายุขั้นต่ำในการเข้าหอคอยหรือเปล่า..ในเน็ตเขียนบอกแค่ว่าขอแค่เป็นผู้ใช้อารยธรรมก็พอแล้ว

อย่าบอกนะว่าแม้แต่เด็กเองก็…?

“น้องฉันต่างจากฉันพี่.. เขาเป็นคนใจดีและกล้าหาญ เพราะครอบครัวเราไม่ค่อยจะมีเงินเท่าไหร่น้องชายที่พอรู้ว่ามีคุณสมบัติเข้ากับแร่พิเศษจึงไปยื่นขอและได้รับอารยธรรมมาทันทีเลยค่ะ”

“แล้วน้องชายฉันก็มักจะแอบเข้ามาในหอคอยคนเดียวโดยตลอด ทั้งที่ในความจริงมันต้องฝึกและเรียนก่อนด้วยซ้ำ”

“แต่เด็กคนนั้นก็มักกลับมาด้วยเงินจำนวนหนึ่งหนึ่งเสมอเลย จนกระทั่งเมื่อประมาณห้าวันก่อน…”

เธอพูดถึงตรงนี้เสียงก็คลุมเครือเหมือนจะร้องไห้

“ฉันพยายามจะตามหาน้องชายถึงได้ใช้เงินที่เก็บไว้ทั้งหมดของบ้านมาจ้างผู้ใช้อารยธรรม.. แต่ไม่คิดว่า..”

เธอร้องไห้ออกมาทั้งแบบนั้น มาในที่ที่ไม่รู้จักไม่พอแต่ยังถูกหลอกอีกคนที่กลัวที่สุดในเวลานั้นคงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากรินนะ

“น้องชายฉันพึ่งจะอายุได้ 14 ปีเองนะคะพี่.. ฉันไม่ยอมให้เด็กคนนั้นเห็นโลกสั้นกว่าฉันแน่นอนค่ะ”

เธอพูดทั้งน้ำตา.. มิวที่ได้ยินก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เธอวางมือลงบนหัวของรินนะพร้อมกับคิดในใจว่า

“ผู้คนในปัจจุบัน.. นับวันยิ่งจะแฟนตาซียิ่งกว่าโลกมันซะอีก”

เธอคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้น

“เข้าใจแล้ว ฉันจะช่วยเธอตามหาน้องเอง”

“อ้ะ.. เอ้ะ.. แต่ว่า..?”

“ไม่เป็นไรหรอก ได้ค่าจ้างมาแล้วนี่น่า?”

มิวพูดแบบนั้นพร้อมกับโยนกระเป๋าเงินให้สาวน้อยดู.. แน่นอนว่าเป็นเงินของพวกโจรน่ะนะ.. อย่างที่บอกว่ามิวไม่ใช่คนดีน้ำใส

ถึงจะดูไม่ดีไปสักหน่อยแต่มิวก็คิดว่าถ้าเสียไปด้วยก็คงเสียเปล่า ทำลายเงินมันผิดกฎหมายนี่น่า!

รินนะที่เห็นกระเป๋าเงินก็ลุกขึ้นแล้วก็ยิ้ม

“ขอบคุณมากค่ะพี่!”

เธอก้มหัวให้กับมิว.. มิวยิ้มก่อนจะโยนกระเป๋าเงินเข้าไปในกระเป๋าสะพายของรินนะ เธอแค่คิดจะคืนเงินให้เด็กคนนี้เท่านั้นแหละ

ในตอนนั้นเองเอริเนียก็เดินมาหยุดอยู่ข้างๆ เหมือนเธอจะสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของมิวด้วย ยังไงซะมิวก็แค่เร็วไม่ได้มีทักษะพิเศษอะไร

เอริเนียมองหน้ามิวด้วยสายตาประหลาด มิวที่รู้สึกถึงสายตาดังกล่าวก็หัวเราะแห้งๆ แล้วก็

“ชู่ว อย่าบอกเธอล่ะ เด็กนั่นเอาเงินทั้งบ้านมาเลยขืนไม่มีเงินใช้ละก็ต่อให้ช่วยน้องได้ก็คงจะตกเป็นเรื่องลำบากกว่าเดิม”

ดวงตาของเอริเนียเหมือนเบิกขึ้น.. มีแสงริบรี่โผล่ขึ้นมา.. เมื่อมิวเดินจากไปเอริเนียยังคงมองตามเธอ…

“มิว…”

เธอพึมพำเบาๆ…

 

 

………

[แจ้งเวลาอัพเดต]

ช่วงเช้า (จะไม่เกินเที่ยง ถ้าเกินเที่ยงคือช่วงเช้าไม่มี)

09:00 น. ~ 11:00 น. (อย่างช้าคือหลัง 11 นาฬิกา)

ช่วงเย็น (จะไม่เกินสองทุ่ม ถ้าเกินสองทุ่มคือช่วงเย็นไม่มี)

16:00 น. ~ 19:00 น. (อย่างช้าคือหลัง 19 นาฬิกา)

แต่จะอัพอย่างน้อยวันละหนึ่งตอนครับ ขอบคุณครับ

เพราะเป็นเทพมังกรเลยไม่มีระบบพิเศษเหมือนเขาอ่ะ!

เพราะเป็นเทพมังกรเลยไม่มีระบบพิเศษเหมือนเขาอ่ะ!

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท