บทที่ 48 – เบาะแส
“หือ เกิดอะไรขึ้นเหรอ..? …เอ่อ.. คุณมิว?”
พอเห็นท่าทางแปลกๆ ของมิว เทรต้าก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย มิวเองก็ตอบอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย
“เด็กคนหนึ่งที่มากับฉัน เธอซ่อนอยู่ในนี้… แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว”
“เอ้ะ.. คุณพาเด็กมาในที่อันตรายแบบนี้ด้วยเหรอ”
“ก็นะ พวกเราเป็นคู่หูกันน่ะ”
แน่นอนว่าสำหรับเทรต้าที่แห่งนี้มีแต่ของอันตรายไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดหรือซากปรักหักพังที่สามารถพังถล่มลงได้ทุกเมื่อ
ทุกอย่างในที่แห่งนี้ล้วนอันตรายทั้งสิ้น.. เอาเข้าจริงถ้าไม่ใช่เพราะการยื่นมือเข้ามาของคาเอะ การจะพาเด็กเข้ามาในหอคอยนั้นก็ยากจริงๆ แหละนะ
แต่ว่าเพราะมิวมีหน้าที่ต้องปกป้องเอริเนีย เพราะสัญญากันไว้แล้ว.. ถึงจะเป็นในฐานะคู่หูก็เถอะ แต่มิวก็ไม่ได้ใจร้ายใจดำพอจะไม่สนใจชีวิตของเด็กคนหนึ่งได้
แน่นอนว่าเอริเนียไม่ใช่คนประเภทที่จะไม่เชื่อฟังคำพูด แล้วออกไปดินเล่นตามใจชอบ แม้มิวจะอยู่กับเธอได้ไม่นาน
แต่เอริเนียก็เชื่อฟังคำพูดมิวทุกอย่าง บอกให้รอเธอก็รอ บอกให้มาเธอก็มา เอาเข้าจริงเธอแทบจะเป็นโรบอทมีชีวิตด้วยซ้ำ
ซึ่งนั่นหมายความว่าไม่มีทางที่เธอจะไม่ฟังคำพูดของมิวแล้วเดินจากไปแน่ๆ… นั่นหมายความว่าต้องมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างเกิดขึ้นที่นี่
อย่างเช่น.. เธอถูกพาตัวไป
“แต่ว่า….”
มิวมองไปที่หน้าต่างเควส ถ้าหากเป็นการฆ่าสัตว์ประหลาดสำหรับมิวมันคงไม่ยากเลยสักนิด แต่ว่านี่เป็นการตีสนิทล้วงความลับจากผู้หญิงที่ชื่อเทรต้า
แม้ชีวิตของเอริเนียจะสำคัญกว่าเควสแบบนี้แน่ๆ แต่ทว่ามิวก็อดที่จะกังวลถึงบทลงโทษหรือรางวัลเมื่อเควสล้มเหลวนี้ไม่ได้
มิวไม่ลืมว่าหอคอยนี้เป็นหอคอยที่สามารถบันดาลความปรารถนาทุกอย่างให้เป็นจริงได้ สเกลมันค่อนข้างใหญ่สุดๆ
เรียกได้ว่าอาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงกฎของความเป็นจริงได้เลยหรือเปล่าก็ได้.. มิวเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นักว่าหากเจอบทลงโทษมันจะถึงชีวิตหรือเปล่า
“หรือจะให้ผู้กล้าเอริเนียไปตามหาดี…”
มิวก็แทบจะส่ายหน้ากับความคิดนั้นทันที เดิมทีอัตลักษณ์ผู้กล้าเอริเนียที่มิวมีไม่ใช่การตามหาคนแน่ๆ ทำให้เธอไม่มีทักษะในการตามหาคน
ถ้าจะตามหาคน มิวจะไวกว่า… ไม่สิๆ มิวส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว.. ก่อนที่จะคิดเรื่องนั้นมิวต้องคิดก่อนว่าทำไมเอริเนียถึงหายตัวไปแบบนี้
มีเหตุการณ์เกิดขึ้นแน่ๆ น่ะใช่.. แต่ว่าได้ยังไง.. ที่นี่ถูกป้องกันการตรวจหาด้วยไคอิชินคิโร.. นั่นหมายความว่าไม่ควรจะมีใครหาเอริเนียเจอ
แน่นอนว่าการซ่อนที่มิวใช้มันคือการซ่อนกลิ่นอายแล้วสร้างภาพลวงตาขึ้นตรงนั้นๆ.. จริงๆ แล้วชินคิโรมันไม่ใช่ท่าที่สะดวกสบายแบบอยากจะใช้ก็ใช้เลย
เพราะไคอิมันคือปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ..ที่สร้างสิ่งลวงขึ้นมาผ่านการรับรู้ของทุกอย่างที่อยู่ในระยะ หากผ่านเงื่อนไขทั้งหมดก็จะไม่มีใครหลีกพ้นจากไคอิได้นั่นเอง
ซึ่งเงื่อนไขของชินคิโรนั้นก็ค่อนข้างง่าย ขอแค่ในระยะสายตามีอะไรที่เหมือนๆ กันเต็มไปหมดจะสามารถสร้างภาพลวงตาได้
เช่นกลางทะเล หรือเมืองยามกลางคืนที่มีแสงไฟจากนู้นนี่จนลายตา.. รวมไปถึงซากปรักหักพังที่มองไปทางไหนก็มีแต่ซากปรักหักพัง
อย่างเช่นที่แห่งนี้.. และชินคิโรมันจะไปสร้างของลวงตา ความรู้สึกของผู้ที่มองดูหรือตามหาบางอย่าง จนทำให้ไม่สามารถค้นพบความจริงในที่แห่งนี้ได้นั่นเอง
“ถ้าจะหลุดพ้นจากเงื่อนไขที่ว่านี่มีแค่อย่างเดียว…”
“คือมีคนเห็นตอนฉันใช้ชินคิโร”
แม้อาจจะฟังดูง่าย.. แต่ทว่าแค่การกะพริบตาก็ทำให้ถูกหลอกได้โดยชินคิโรแล้ว ทว่าหากไม่ถูกหลอกก็หมายความว่า
มันมีคนแอบตามมิวอย่างลับๆ และจ้องจะลักพาตัวเอริเนียมาตั้งแต่แรกแล้วนั่นเอง แน่นอนเมื่อพิจารณาจากทุกอย่างที่ว่ามามิวไม่จำเป็นต้องคำนึงอีกแล้วว่าบทลงโทษหากเควสล้มเหลวจะเป็นยังไง
เพราะตอนนี้… เอริเนียกำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน!
สิ่งที่มิวต้องทำคือรีบไปช่วยเธอ ช่างเรื่องเควสไปก่อน.. ทุกอย่างที่มิวคิดเมื่อกี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่ถึงยี่สิบวินาที
เห็นได้ชัดว่า.. มิวเองก็เริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งที่ไม่คาดคิดและรับมือได้อย่างรวดเร็ว หากมีใครสักคนมาเห็นความคิดเธอแล้วเทียบกับเธอเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
คนเหล่านั้นคงจะบอกว่ามิวเป็นปีศาจแห่งพรสวรรค์ที่เรียนรู้และเติบโตได้ไวเกินมนุษย์แน่ๆ .. เพราะไม่ใช่แค่พลังที่มิวใช้คล่องขึ้น
แม้แต่ปัญญามิวเองก็ยังลับมันให้คมขึ้นเช่นเดียวกัน
“ขอโทษนะ คุณเทรต้า ดูเหมือนว่าเพื่อนตัวน้อยของฉันจะถูกลักพาตัวไปแล้ว คงต้องขอแยกกันไว้ตรงนี้ล่ะ”
“อ้ะ เดี๋ยวก่อนสิ…?”
มิวที่กำลังจะพุ่งตัวจากไปก็ถูกเรียกขัดไว้ก่อน.. ทำให้เธอหยุดชะงักและหันมามองเทรต้า พร้อมกับขยายอาณาเขตจิตมังกรออกไปรอบตัว
แต่ก็อย่างที่คาดมิวไม่สามารถสัมผัสถึงเอริเนียได้ บางทีมันคงหนีไปไกลแล้ว แหงล่ะ.. ถ้ามันตามดูมิวกับเอริเนียอยู่นานแล้ว
คงรู้ว่ามิวมีท่าในการหาคนแบบนี้แน่ๆ มันคงไม่รอให้มิวใช้จิตสัมผัสหาจนเจอหรอก …
ทางด้านเทรต้าเองก็ใช้ความคิดอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน ใจหนึ่งเธอก็ต้องตามหาคนคนหนึ่งเหมือนกัน แต่เทรต้ารู้ว่าที่เจ้าแอเรียนยังหาเธอไม่เจอก็เป็นเพราะมิวอยู่ด้วย
หากมิวหายไปแล้วพลังซ่อนตัวบางอย่างของมิวสลายหายไป เธอก็คงถูกจับได้แน่ อีกฝ่ายเปิดโหมดล่าสังหารแล้ว แถมถ้ามี ‘คนนอก’ เข้ามาเกี่ยวแล้ว
เจ้าหมอนั่นคงเรียกกำลังเสริมทันทีแน่.. ซึ่งมันไม่ดีต่อเทรต้ามากๆ อีกอย่างเทรต้าเองก็อยากจะตอบแทนมิวดังนั้น….
“เอาแบบนี้ เรามาร่วมมือกันไหมคุณมิว.. ฉันจะช่วยคุณตามหาน้องสาวตัวน้อยของคุณ แลกกับการที่คุณต้องช่วยไม่ให้ฉันถูกเจ้าผู้ชายคนเมื่อกี้จับ”
“…..?”
มิวที่ได้รับข้อเสนอแบบนั้นเธอถึงกับชะงัก.. มิวมองหน้าเทรต้าด้วยสีหน้างงๆ เธอเองก็ไม่คิดว่าเป้าหมายที่ต้องสนิทให้มาก
จะเสนอตัวมาอยู่ใกล้ๆ กับเธอเองแบบนี้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็เข้าทางมิวเลยน่ะสิ มิวไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปฏิเสธ
“ตกลง”
พอมิวพยักหน้าเทรต้าก็ยิ้มออกมา ก่อนจะถามมิว
“มีความเป็นไปได้ไหมว่าเด็กคนนั้นยังอยู่ใกล้ๆ แถวนี้”
“เป็นไปได้น้อยมาก”
มิวตอบไม่ลังเล เพราะเมื่อกี้เธอใช้อาณาเขตจิตมังกรตามหาแล้วไม่เจอ แถมยังใช้อาณาเขตจิตมังกรแบบเรดาร์ตรวจแล้วก็ยังไม่เจอ
นั่นหมายความว่าระยะเวลาครึ่งชั่วโมงอีกฝ่ายสามารถเคลื่อนที่ได้ไกลมากกว่าหนึ่งร้อยกิโลได้.. ซึ่งมิวไม่คิดว่าจะเป็นแบบนั้นได้
เพราะคนที่ตามมิวมา.. ต้องเป็นคนจากโลกด้านนอก และคนจากโลกด้านนอกมิวไม่คิดว่าจะมีคนที่เคลื่อนที่ได้ไกลกว่าหนึ่งร้อยกิโลเมตรในระยะเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเพื่อหลบหนีจากมิว
ดังนั้นทางเดียวที่โจรลักพาตัวจะทำได้ก็คือ….
“ตรงนี้ใช่ไหมที่เด็กคนนั้นเคยอยู่?”
“ใช่”
“งั้นหลบไปหน่อยนะ”
เทรต้าเดินไปทางที่เอริเนียเคยอยู่ เธอหันมาพูดกับมิวว่า
“เรื่องที่ฉันทำนี้อย่าเอาไปบอกใครนะ พอดีการแสดงมันให้คนนอกดูถือเป็นความผิดร้ายแรงน่ะ”
“คนนอก…? … อะ อืม เข้าใจแล้ว”
แม้มิวตอบด้วยความสับสนเล็กน้อย แต่เทรต้าก็เคลื่อนไหวทันที ที่มือของเธอมีวัตถุอะไรสักอย่างที่เล็กจิ๋วมากบินว่อนออกมาหลายชิ้น
ก่อนที่มันจะฉายแสงบางอย่างไปยังที่ดังกล่าวพร้อมกับสะท้อนภาพของเอริเนียที่นั่งนิ่งๆ อยู่ตรงนั้นคนเดียว
มิวที่เห็นภาพนี้ก็ถึงกับสะดุ้ง.. ไอ้นี่มันเหมือนที่เคยเห็นอยู่ในหนังไซไฟอะไรทำนองนั้นเลย เทรต้าที่แอบเหลือบมองรีแอคชั่นของมิวเธอก็ยิ้มอย่างภูมิใจ
อย่างไรซะ นี่ก็เป็นวิทยาการของดาวเธอ มันคือการฉายภาพของอดีตมายังปัจจุบัน ชุดนี้เป็นชุดเดียวที่ทำได้
หลักการของมันค่อนข้างซับซ้อน แต่ถ้าจะเอาง่ายๆ ก็คือ.. มันจะใช้ควอนตัมในการฉายภาพจากอดีต เพราะเดิมทีแนวคิดของเวลาในควอนตัมก็เป็นสิ่งที่เลือนราง
สิ่งที่เทรต้าต้องทำก็มีแค่การให้เครื่องทำงานในที่ที่อยากดูแล้วก็เจาะเข้าควอนตัมเพื่อแทรกแซงข้อมูลในอดีตแล้วฉายมายังปัจจุบัน
หนึ่งในวิทยาการที่ทำให้ดาวของเธอสามารถศึกษาเรื่องในอดีตได้อย่างแม่นยำแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ละนะ..
และแน่นอนว่าสิ่งที่ฉายอยู่เบื้องหน้ามิวก็คือภาพของเอริเนียที่จู่ๆ ก็โดนใครไม่รู้สวมชุดดำไปทั้งตัว ที่ไหล่มีอีกาตัวหนึ่งเกาะอยู่
เมื่อเอริเนียถูกจับปิดปาก พร้อมทำให้ดิ้นรนไม่ได้.. แล้วมันก็โยนร่างของเธอไปทางอีกาที่อยู่บนไหล่ อีกามันเปิดปากออกแล้วก็ดูดร่างเธอเข้าไปอย่างไร้ร่องรอย
“ดูเหมือนเจ้านี่จะเป็นคนลักพาตัวนะ รู้จักมันหรือเปล่า”
เทรต้าชี้นิ้วไปที่ชายลึกลับ มิวส่ายหน้าแต่เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมหาเอริเนียไม่เจอ เพราะเธอถูกขังไว้ในอีกมิตินี่เอง
“งั้นก็ต้องเริ่มจากตามหาเบาะแสก่อน”
“เรื่องนั้นไม่จำเป็น”
“หือ.. หมายความว่าไง?”
ภายใต้ความสับสนของเทรต้า เพราะเมื่อกี้มิวตามหาเอริเนียถึงไม่เจอ แต่ถ้าตามหาไอ้คนสวมชุดดำในระยะ หนึ่งร้อยกิโลเมตรนี่ละก็..
อาณาเขตจิตมังกรแบบเรดาร์เริ่มทำงานแทบจะทันที..
และใช่ ในระยะรอบตัวหนึ่งร้อยกิโลเมตรนี้มีคนสวมชุดดำอยู่หลายร้อยคนเลย แต่นั่นก็ไม่ได้นับว่าเยอะอะไร
แค่ตามล่ามันทุกคนก็พอ
ดวงตาของมิวดูน่ากลัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!