บทที่ 51 – คนที่กลัวความตาย
มันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อาจจะเริ่มขึ้นนานแล้ว หรืออาจจะพึ่งเริ่มขึ้นแต่ว่า ‘เอวาน’ เธอได้รับรู้เกี่ยวกับความจริงอันโหดร้ายของโลกเมื่อหนึ่งปีก่อน
เอวาน เธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดา.. ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถูกคือเธอกลัวความตาย ความกลัวของเธอที่มีต่อความตายนั้น
มันมีมากกว่าคนอื่นหลายเท่า… เธอคือคนที่อยู่ในตอนที่พ่อแม่และพี่ชายของเธอตายต่อหน้า เพราะประตูบอร์เดอร์
ความตายนั้นจู่ๆ ก็เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว.. ตึกที่ถล่มลงมานั้นทับรถทั้งคันที่ครอบครัวเธอกำลังเดินทางกลับจากไปเที่ยว
เธอสาวน้อยอายุ 15 สูญเสียครอบครัวที่แสนสำคัญไปในปีค.ศ 2025 .. ช่วงการปรากฏตัวของประตูบอร์เดอร์ครั้งแรก
เธออยู่ในรถคันเดียวกันกับครอบครัว.. แต่เธอเป็นคนเดียวที่รอดจากอุบัติเหตุจากประตูบอร์เดอร์ในครั้งนั้น
ความตายที่เกือบมาเยือนกะทันหัน.. ทั้งที่ก่อนหน้านี้หนึ่งนาทีเดียว ครอบครัวเธอที่อยู่บนรถยังหัวเราะกับมุกตลกที่ฝืนๆ ของพี่ชายเธออยู่เลย
ทุกคนตายหมด.. ตายต่อหน้าเธอ.. เอวานกลายเป็นคนที่กลัวความตายยิ่งกว่าคนปกติ ไม่ว่าจะทำอะไรเธอก็จะรอบคอบอยู่เสมอ
แน่นอนว่างานอันตรายอย่างการไปเป็นผู้ใช้อารยธรรมนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย ดังนั้นเธอจึงเข้าร่วมกับองค์กรบอร์เดอร์ไลน์
ไม่ใช่ทั้งในฐานะผู้ใช้อารยธรรม แต่เป็นในฐานะผู้ประสานงานเบื้องหลัง.. ใช่ นั่นคือสิ่งที่เธอวางแผนเอาไว้ ตั้งแต่อายุ 15
แต่ทว่า.. มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายกับเธอ ความตายของครอบครัวเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความตกต่ำชีวิตเธอ
เธอเข้าทำงานกับองค์กรบอร์เดอร์ไลน์ตอนอายุได้ 20 ปี.. หรือก็คือปีที่แล้วนั่นเอง แต่ทว่าก็มาพร้อมกับหนี้ก้อนโตที่ดันไปติดไว้ในช่วงระหว่าง 5 ปีที่ผ่านมา
ทำให้เธอนอกจากจะเป็นคนกลัวตายแบบสุดขีด ยังเป็นคนที่ต้องการเงินยิ่งกว่าใครด้วย.. และเธอพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองปลอดภัยและได้เงินดี
เธอจึงไม่เลือกวิธีการ… ใช่แล้ว
จนกระทั่งเธอได้รู้จักกับ ‘บอส’ นี่ไม่ใช่ชื่อของเขา อันที่จริงทุกคนล้วนเรียกเขาว่าบอสหมดแต่คนที่รู้ชื่อเขานั้นมีไม่กี่คนเท่านั้น
แม้เอวานจะเป็นแค่พนักงานเกรดต่ำในองค์กรบอร์เดอร์ไลน์แต่เธอก็พอจะรู้ระดับชั้นของตำแหน่งต่างๆ ในองค์กรอยู่บ้าง
แต่ก็ไม่ทั้งหมดเพราะอยู่ในข้อจำกัด.. องค์กรบอร์เดอร์ไลน์นั้นเป็นองค์กรที่ใหญ่กว่าที่เธอคิดมาก เพราะพวกเขามักจะประสานงานกับทางรัฐบาลโลกอยู่เบื้องหลังเลยทำให้องค์กรนี้ไม่ได้ใหญ่
แต่ทว่า.. เอวานรู้ดีว่าองค์กรบอร์เดอร์ไลน์นั้นแทบจะเป็นผู้ส่วนร่วมกับหลายอย่างมาตั้งนานแล้ว.. อาหารสำเร็จรูปบางอย่างก็มีองค์กรบอร์เดอร์ไลน์เป็นสปอนเซอร์ให้ด้วยซ้ำ
ใช่แล้วองค์กรนี้มันหยั่งรากลึกลงไปในโลกนี้หนามากพอแล้ว ทำให้เอวานเข้าใจว่าที่องค์กรนี้สามารถบีบได้แม้แต่รัฐบาลโลกก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไรเท่าไหร่.. และแน่นอนว่าแม้แต่คนในองค์กรเองก็ยังมีบางเรื่องที่ไม่รู้กันด้วยซ้ำ
คือทางใครทางมันนั่นแหละ มันเหมือนกับองค์กรมาเฟียขนาดใหญ่เลยด้วยซ้ำ.. และคนที่ถูกเรียกว่า ‘บอส’ นั้นเป็นหนึ่งในคนที่มีตำแหน่งสูงมากในองค์กร
อย่างน้อยก็สูงที่สุดเท่าที่เอวานรู้จักเลยนั่นแหละ บอสมีลูกน้องภายในสังกัดค่อนข้างเยอะ โดยเขาจะควบคุมขุมอำนาจด้านกำลังรบเยอะมาก
ว่ากันว่าเขามีคนที่มีพลังที่ว่ากันว่าสามารถฆ่าองค์หญิงหรือองค์ชายได้หลายคนเลย.. โดยเขามีลูกน้องใต้สังกัดแบ่งออกเป็นหลายหน่วย
เอวานก็ไม่รู้รายละเอียดมากนัก.. แต่เธอได้หลวมตัวมาทำงานเงินดีให้กับบอส.. เธอได้กลายเป็นลูกน้องของหน่วยวังมายา
ลูกน้องของชายที่ชื่อนันโจ.. และนั่นแหละเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้รู้จักกับตลาดมืดที่แท้จริง.. ตลาดมืดในนิยายแฟนตาซีที่เธอเคยอ่าน
ส่วนใหญ่นั้นมักจะลักลอบขายของผิดกฎหมาย… แต่ในที่แห่งนี้มันโสมมยิ่งกว่านั้น ยิ่งกว่าในนิยายเสียด้วยซ้ำ
มันมีทั้งการฆ่าผู้ใช้อารยธรรมมาเพื่อขาย.. จับผู้หญิงมาขายเป็นทาส ในยุคแบบนี้การทำอะไรแบบนี้สำหรับเอวานแล้วมันคือเรื่องที่โหดร้ายมาก
เธอเองก็ไม่สามารถถอนตัวออกจากงานได้เช่นกัน.. เพราะทางฝั่งเบื้องบนคงไม่อยากให้ใครรู้ว่าองค์กรบอร์เดอร์ไลน์มีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดมืดผิดกฎหมายและศีลธรรมขนาดนี้
ดังนั้นเธอจึงทำงานเปื้อนเลือดมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการขนหัวของผู้ใช้อารยธรรมไปยังรถขนส่งข้ามมิติ
หรือทำความสะอาดหัวมนุษย์.. ดูแลทาส.. ทุกอย่างเธอแทบจะเคยทำมาจนหมด.. มือทั้งสองข้างเธอได้เปื้อนเลือดไปแล้ว
เธอมักตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่าหากเธอกล้ากว่านี้ หากเธอไม่กลัวตายกว่านี้ บางทีสิ่งที่เธอทำมันอาจจะสุจริตกว่านี้หรือเปล่า
แม้เธอจะไม่ได้ลงมือฆ่าใคร แม้เธอจะจำเป็นต้องทำเพราะไม่มีทางเลือก แต่ทุกอย่างที่ว่ามามันก็แค่ข้ออ้างที่ทำให้ตัวเองสบายใจ
ความจริงแล้วที่เธอทำงานกับคนชั่ว และรับเงินจากคนชั่ว.. มันก็คือความผิดของเธออยู่ดี.. เอวานก้มลงมือสองข้างตัวเองที่ตอนนี้เหมือนจะมีเลือดมนุษย์เปื้อนอยู่
แต่ว่าถึงเธอจะทำไปแต่หนี้สินของเธอก็ยังไม่หมดเลย หนี้สินของเธอมันมีมากกว่านั้น เธอต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้
เธอตัดสินใจแบบนั้นไปแล้ว
แม้เธอจะเป็นแค่คนธรรมดา แต่หน้าที่ของเธอก็ไม่ใช่แค่ต้องอยู่ในเมืองแห่งวังวน เธอต้องเอาเข็มวังวนไปปักด้านนอกเมืองทุกๆ เดือนด้วย
เอาจริงก็ไม่ใช่แค่เธอ.. เพราะทุกคนที่เป็นคนธรรมดาต้องออกมาทำแบบนี้ทุกเดือนเหมือนกัน…
หากถามว่าเข็มวังวนคืออะไร เข็มวังวนคือเข็มที่จะไล่ให้พวกสัตว์ประหลาดที่อยู่ใกล้ๆ ไม่หลงเข้ามาในเมืองแห่งวังวน
แม้ในความจริงจะไม่มีใครเข้ามาได้ แต่ทว่านั่นก็เพราะเป็นคนที่มีสติปัญญาให้ลวงหลอก แต่พวกสัตว์ประหลาดนั้นไม่มี
พวกมันสามารถเดินหลงเข้ามาได้ และเข็มวังวนคือจะสร้างคลื่นขับไล่เป็นวังวนออกมาไล่พวกมันให้เดินมาไม่ถึงเมืองแห่งวังวนนั่นเอง
ห่างออกไปจากเมืองแห่งวังวนประมาณห้าร้อยเมตร เอวานก้มลงปักเข็มขนาดยาวประมาณไม้บรรทัดลงกับพื้นและดึงอันเก่าออกมา
สายตาของเอวานมองที่มือตัวเอง แม้จะไม่ได้เปื้อนเลือด แต่ทว่าเธอรู้สึกเหมือนกับมันโชกไปด้วยเลือดตลอดเวลา
เอวานนั้นมักรู้สึกผิดกับตัวเองอยู่เสมอ.. ภาพของหัวมนุษย์ที่ตายอย่างโหดเหี้ยมมันยังคงตราตรึงในใจเธอทุกหัว
มันตามหลอกหลอนเธออยู่ตลอด.. เมื่อนึกถึงสีหน้าของศพเหล่านั้นมือทั้งสองข้างของเอวานก็สั่นอย่างช่วยไม่ได้
เธอส่ายหน้าพร้อมกับค่อยๆ ลุกขึ้น.. ทว่าในขณะที่เงยหน้าขึ้นในนั้นเองเงาสีแดงบางอย่างก็ยืนอยู่ตรงนั้น
เมื่อเงยหน้าขึ้นไปเธอก็เห็นกับคนคนหนึ่งที่สวมชุดสีแดงเลือด เอวานถึงกับสะดุ้งพยายามจะถอยตัวออกไปทันที
เพราะ.. นี่มัน..ปีศาจสีเลือดที่กำลังเป็นข่าวลือในช่วงนี้
ทว่ามันก็ยังช้าไป เอาเข้าจริงการที่คนธรรมดาจะมาแข็งแกร่งเท่าองค์หญิงสีเลือดนี่.. มันก็ไม่ใช่แล้ว
ฝ่ามือของหญิงสาวสวมอาภรณ์สีแดงรัดเข้าที่คอของเอวานอย่างโหดเหี้ยมพร้อมกับยกมันขึ้น เอวานแทบจะไม่มีแรงที่สามารถดิ้นรนไหวเลย
“อ้อก…”
เธอหายใจไม่ออกน้ำลายไหลออกมา.. สภาพดูไม่ได้อย่างเห็นได้ชัด เพราะเธอไม่ใช้ผู้ใช้อารยธรรมแค่โดนจับคอสำหรับเธอก็แทบจะถูกหักคออยู่แล้ว
แน่นอนว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของเอวานก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากรินนะ
“เ..ธอ..มัน…”
“แก..รู้จักตลาดมืดไหม…?”
รินนะในตอนนี้สภาพน่ากลัวอย่างยิ่ง..ทุกครั้งที่เธอฆ่าคน ทุกครั้งที่เธอฉีกร่างคนตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมา
ความรุนแรงในตัวของเธอยิ่งมากขึ้น.. มากขึ้น.. ผมที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด ร่างกายที่อาบโชกไปด้วยเลือดไม่แน่ใจว่ามาจากอาภรณ์โลหิตหรือมาจากเลือดคนอื่นด้วย
ดวงตาแดงก่ำของเธอจ้องมองไปยังดวงตาของเอวานราวกับดวงตาของค้างคาว.. เคี้ยวสองข้างแหลมคมดูน่ากลัวยิ่งกว่าอะไร
รินนะในตอนนี้ได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่..ไม่สนใจในศีลธรรมอีกแล้ว.. เพื่อที่จะล้างแค้นให้น้องชายเธอ
ความตายที่มาเยือนตรงหน้าเอวาน.. มันรวดเร็วเกินไป ลมหายใจก็หายใจไม่ออก หัวใจเต้นระรัวจนแทบกระเด็นออกมาจากหน้าอก
แขนขาเริ่มด้านชาเพราะความกลัว
เธอรีบพยักหน้าด้วยความหวาดกลัว.. พร้อมกับตอบแม้จะพูดไม่ค่อยออกเพราะโดนบีบคอ แต่เธอก็ตอบสุดกำลัง
เธอ..กลัวความตาย!
“ฉัน… รู้..อ่อก.. ฉันรู้”
ความบ้าคลั่งในดวงตาของรินนะที่ได้ยินสิ่งนั้นครั้งแรกตลอดเวลาที่ตามหามาเธอถึงกับ… เบิกตากว้างแทบจะทันที
“รู้งั้นเหรอ..?”
มือของเธอปล่อยออกจากคอของเอวาน เอวานร่วงลงกับพื้นพร้อมกับไอค่อกแค่ก ออกมาแต่ก็ไม่พยักหน้าด้วยสภาพที่น่าสมเพช
เพราะเธอกลัวตาย…