บทที่ 67 – ผนึก?
มิวเห็นทุกอย่างผ่านอาณาเขตจิตมังกร แม้ในตอนแรกเธอจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะใช้แบบเรดาร์ แต่พอเข้ามาในระยะเธอก็เปลี่ยนเป็นแบบครอบคลุม
ถึงได้เริ่มเห็นฉากต่างๆ ที่เกิดขึ้น.. ตอนแรกเธอสับสนว่าตัวของเอริเนียเคลื่อนที่จากอีกจุดไปอีกจุดได้เร็วขนาดนั้นได้ไง
แต่พอมารับรู้แบบครอบคลุมถึงได้รู้ว่ามีคนหนึ่งกำลังปกป้องเอริเนียจากกลุ่มคนที่เคยโจมตีเธอเมื่อกี้
มิวจึงเดาว่าผู้หญิงไม่ทราบชื่อคนนี้คงช่วยเอริเนียมาจากเจ้าผ้าคลุมโจรชุดดำนั่น.. แต่เมื่อเห็นไอ้กลุ่มคนพวกนี้เธอก็ได้ยินสิ่งที่เจ้าปีศาจยักษ์นั่นพูดด้วย
เป้าหมายของพวกมันไม่ใช่ผู้หญิงแปลกหน้า แต่เป็นเอริเนีย.. มิวไม่ได้โง่พอที่จะไม่เข้าใจสถานการณ์ว่าทำไมพวกมันถึงเล็กเอริเนีย
เพราะว่าตั้งแต่การพบกันก่อนหน้านี้ พวกนี้มันโจมตีหวังจะฆ่าเธอตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งเธอไม่ตอบโต้ไปก็เพราะพวกมันคือคนสนิทของเทรต้า
คนที่มิวต้องการจะสนิทด้วย.. ถึงจะไม่รู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังของเควสเป็นอย่างไร แต่ถ้าทั้งคู่คือครอบครัวหรืออะไรทำนองนั้น
หากมิวไปทำร้ายเข้า เทรต้าก็คงไม่ยอมสนิทด้วย มิวจึงเลือกที่จะไม่ตอบโต้กลับไปและเลือกที่จะหลบออกมานั่นเอง แถมตอนนั้นเธอยังต้องตามหาเอริเนียด้วย
แต่ตอนนี้พวกมันมุ่งเป้ามาที่เอริเนีย แม้มิวจะไม่รู้ว่าทำไมมันถึงรู้ตำแหน่งหรือรู้ความสัมพันธ์ของมิวกับเอริเนีย
ต่อให้เทรต้าบอกข้อมูลพวกมัน.. พวกมันก็ไม่น่าจะรู้จักหรือเข้าใจได้ แต่เรื่องนั้นมิวก็พอเดาเอาได้ว่าสาเหตุคงเพราะพลังแปลกๆ ของพวกมัน
ซึ่งเป็นพลังแบบเดียวกับที่เทรต้าใช้ต่อหน้าเธอเลย…
แต่จะอย่างไรก็ตาม ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมพวกมันถึงหมายหัวเธอ เพื่อที่เควสสำเร็จราบรื่น นี่อาจจะเป็นเงื่อนไขเควสอะไรตามสถานการณ์เหมือนกับตอนชั้นสองก็ได้
แต่การที่พวกมันมุ่งเป้ามาที่เอริเนียแบบนี้ แสดงให้เห็นว่าพวกมันก็คงไม่ต่างจากสัตว์ประหลาดในชั้นสองเท่าไหร่
สัตว์ประหลาดที่ต้องกำจัดน่ะนะ— ไม่สิ พวกสัตว์ประหลาดต่างทำด้วยสัญชาตญาณ แต่เจ้าพวกนี้เต็มไปด้วยประสงค์ร้ายชัดเจน
เพื่อที่จะเอาชนะเธอ พวกมันถึงเลือกวิธีนี้.. ซึ่งแน่นอนว่าแม้มิวอาจจะไม่ใช่คนที่โกรธหรือหงุดหงิดง่ายขนาดนั้น
แต่การที่พวกมันมุ่งเป้มาที่เอริเนีย ทั้งที่นับตั้งแต่เริ่มเควสมาเอริเนียก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องชัดเจน
มิวไม่คิดว่าคนประเภทแบบนั้นจะเป็นคนดีสักเท่าไหร่ อีกอย่างเอริเนียก็คือคนที่มิวต้องปกป้อง ดังนั้นเมื่อเห็นพวกมันเริ่มรังแกคนแปลกหน้า
เพื่อที่จะเอาเอริเนียโดยไม่สนวิธีการนั้น.. ความเกลียดชังที่มีต่อพวกมันจึงเพิ่มสูงขึ้นกลายเป็นความโกรธ
พวกมันไม่ใช่สัตว์ประหลาด ถึงจะเป็นสิ่งมีชีวิตในหอคอย แต่พวกมันมีสติปัญญาที่สูงมาก แต่เลือกวิธีสกปรกแบบนี้มันคงไม่แปลกเท่าไหร่ที่มิวจะพุ่งด้วยความเร็วสูงสุดมาซัดหน้าแอเรียนจนกระเด็น
ความเร็งของเธอเร็วจนทิ้งเทรต้าไว้ข้างหลัง เพราะมันเต็มไปด้วยความร้อนรน.. แน่นอนว่าคนที่ช่วยเอริเนียเอาไว้ก็นับเป็นผู้มีพระคุณของมิวเช่นกัน
ความตายนั้นเกิดขึ้นเร็วมาก และเป็นสิ่งที่มิวเกลียดยิ่งกว่าอะไร เพราะความตายที่เธอได้รับมันคือสิ่งที่ยุ่งยากเกินกว่าความตาย
“เป็นอะไรหรือเปล่า?”
มิวถามผู้หญิงแปลกหน้าที่นั่งอยู่ข้างๆ เอวานที่ถูกคนแปลกหน้าถามเธอก็ไม่ได้ตอบทันทีได้แต่มองอย่างโง่งมเพราะตามสถานการณ์ไม่ทัน
ในขณะที่ทุกอย่างเงียบลงอย่างน่าประหลาดนั้นเอง
“หยุดนะ ถ้าไม่อยากให้เด็กคนนี้ตาย”
เสียงผู้หญิงก็ดังขึ้นพร้อมกับจับร่างของเอริเนียเป็นตัวประกัน.. แน่นอนคนที่จับเอริเนียขึ้นมานั้นก็คือเอมิลี่
คนที่ไม่ได้กระดูกหักเพราะการพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงเหมือนคนอื่นๆ มิวหันไปมองเอมิลี่ด้วยสายตาเย็นเยียบ
“…พวกเธอต้องการอะไร ฉันจำได้ว่าไม่ได้ทำอะไรให้พวกเธอนะ”
มิวจู่ๆ ก็พูดขึ้นพร้อมกับก้าวเดินเข้าไปยังทิศทางของเอมิลี่ที่ยืนอยู่ เอมิลี่ที่เห็นการโจมตีของมิวและความทนทานของมิวก็ตกใจพร้อมสั่นกลัว
“หยุดนะ ฉันบอกให้หยุด ไม่งั้นฉันฆ่าเด็กคนนี้จริงนะ”
เธอหยิบมีดขึ้นมาจอคอเอริเนีย พร้อมกดมันลงไป.. เอมิลี่เข้าใจสถานการณ์นี้ดีกว่าใคร หากเธอไม่สามารถจัดการกับสัตว์ประหลาดตรงหน้าได้
ทุกอย่างที่ทำมาก็จะสูญเปล่าไปจนหมด.. ต่อให้รอดจากที่นี่กลับไปได้พวกเธอก็คงไม่มีที่อยู่อีกต่อไปอยู่ดี
เพราะสถานการณ์ในตอนนี้ย่ำแย่ยิ่งกว่าภัยพิบัติจากอิออนในอดีตเสียอีก.. ในตอนนี้อิออนตกอยู่ในมือคนนอก ซึ่งคนนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลภายในได้
สัตว์ประหลาดที่เป็นภัยต่อดาวของเธอ พูดให้ถูกคือเป็นภัยต่อไอออน แม้ไอออนจะกลับมาทำงานแล้วแต่เอมิลี่สัมผัสได้ว่า
หากให้ไอออนคำนวณเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดตัวนี้อีก ไอออนคงจะอาการเหมือนเดิมแน่ ดังนั้นเธอจึงปิดใช้การคำนวณอนาคตเอาไว้
ทำให้เธอในตอนนี้ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคืออะไร.. แต่ถึงแบบนั้นเธอก็มีตัวประกันแล้ว
เธอกดมีดใส่คอมเอริเนีย แม้จะไม่เข้าเนื้อแต่ก็ยังน่าหวาดเสียวอยู่ดี มิวหน้าคล้ำกว่าเดิม
“ฉันถามว่าพวกแกต้องการอะไรจากฉันคนนี้… ฉันไม่เคยไปทำอะไรให้พวกแก พวกแกก็ไม่ได้น่าจะเห็นฉันเป็นศัตรูมาตั้งแต่แรกเหมือนสัตว์ประหลาดพวกนี้”
“เพราะฉันพาตัวเทรต้าออกมาจากพวกแกเหรอ? แล้วนั่นมันเกี่ยวอะไรกับเอริเนีย”
ยิ่งพูดมิวยิ่งเดินเข้าหาเอมิลี่ ความโกรธเธอยิ่งมากขึ้นเหมือนกัน..
เอมิลี่ที่เห็นภาพนี้เธอก็ถอยหลังออกห่างตามจังหวะที่มิวก้าวเข้ามาพร้อมกับขู่อีกรอบ
“หุบปาก ขืนแกก้าวเข้ามาอีกก้าวฉันแทงคอเธอแน่”
พูดแล้วเธอก็ยกมีดขึ้นพร้อมกับแทงไปที่ขาของเอริเนีย.. แต่ทว่าดวงตามิวกับหรี่ลงกะทันหันพร้อมกับวินาทีถัดมาที่แขนเอมิลี่ยกขึ้นและแทงลง
มีดกลับไม่ได้ถูกแทงไปที่ขาของเอมิลี่ ซึ่งดวงตาของเอมิลี่เผยความสับสนอย่างเห็นได้ชัดแต่ทว่า บางอย่างก็ร่วงลงต่อหน้าเธอ
เป็นแขนของคนคนหนึ่งที่ถือมีดอยู่… สีหน้าของเอมิลี่เปลี่ยนสี ชุดนาโนของเธอเริ่มทำการปิดปากบาดแผลก่อนที่เอมิลี่จะพบว่าแขนตัวเองขาดเสียอีก
ยาชาถูฉีดเข้าที่แขนและทำงานทันที ทำให้ความเจ็บปวดหายไปก่อนที่เธอจะได้ทรมาน แต่ถึงแบบนั้นเอมิลี่ก็ได้แต่กัดฟันกรอด
“นายท่านฉันเคยบอกไหมว่า ฉันเกลียดการใช้ตัวประกันที่สุดรองจากนายท่านเลยนะ ขอฟันเลยได้ไหม”
ดาบเล่มหนึ่งพาดผ่านคอของเอมิลี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้.. เมื่อหันไปด้านหลังก็เห็นผู้หญิงที่มีบรรยากาศคล้ายกับคนที่เอมิลี่จับอยู่ปรากฏตัวขึ้นตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้
คนที่เอมิลี่จับอยู่กับคนที่เอาดาบจ่อคอเอมิลี่จากด้านหลังนี้เหมือนกันเหมือนกับคนเดียวกัน ทั้งที่หน้าตาไม่เหมือนกัน
มันสร้างความสับสนให้เอมิลี่เป็นอย่างมาก
“อ้อ แล้วก็ถึงจะบอกว่าฉันเกลียดนายท่านคือหมายถึงตอนที่ฉันยังมีชีวิตอยู่นะ ตอนนี้ไม่ได้เกลียดแล้ว”
แน่นอนว่าคนที่พูดอยู่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้กล้าเอริเนีย เจ้าตัวพูดเสริมให้กับคำพูดที่ดูชวนหาเรื่องของตัวเองด้วย
มิวไม่ได้สนใจคำพูดของผู้กล้าเอริเนีย เธอยังถามเอมิลี่ต่อไปว่า
“ฉันจะถามอีกรอบ… พวกแกทำไมถึงเล็งมาที่ฉัน มีเป้าหมายอะไร?”
ในขณะที่เอมิลี่กำลังคิดว่าจะหาทางรอดยังไงนั้น เธอเหมือนจะไม่ตอบคำถามของมิว ดาบในมือของผู้กล้าเอริเนียก็เข้าใกล้คอเธอกว่าเดิม
เธอสัมผัสได้ว่าหากดาบเล่มนี้ตัด.. ต่อให้เป็นวิทยาการของดาวเธอก็คงรักษาไม่ได้.. เพราะแขนที่ขาดนี้เธอก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน
เธอสูดลมหายใจเบาๆ
กำลังจะหาเรื่องมาพูดโกหกนั้นเอง
“ถ้าหากเธอโกหกฉันจะฆ่าไอ้พวกที่กองอยู่ตรงนั้นซะให้หมด”
“ฉันจับโกหกได้นะ”
มิวพูดแบบนั้นและคนที่พูดตามก็คือผู้กล้าเอริเนียกดดันให้เอมิลี่ตอบคำถามตามความจริง แน่นอนว่าเอมิลี่นั้นก้มีวิธีจับโกหกอยู่จริงๆ
“เพราะแกคือคนที่ทำให้ไอออนถึงกับระบบล่มได้ ซึ่งหากระบบไอออนล่มมันจะเป็นภัยต่อดาวของพวกฉัน.. จึงต้องกำจัดเธอทิ้งให้ไวที่สุดเพื่อความปลอดภัยของดาวฉัน”
“ไม่ใช่เพราะเทรต้า?”
“นั่นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น”
“ไอออน…”
มิวขมวดคิ้ว เรื่องของไอออนมิวรู้มาจากเทรต้าบ้างแล้วก็จริง แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมไอออนถึงล่มเพราะเธอ
เธอมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรให้พวกมันเลยสักอย่าง.. มิวเงยหน้ามองหน้าผู้กล้าเอริเนีย ผู้กล้าเอริเนียเองก็พยักหน้าให้แสดงให้เห็นว่ามันไม่ได้โกหก
“แล้วทำไมพวกแกถึงเล็งมาที่เอริเนีย”
“…..พวกเรารู้จากอิออนว่าอัตลักษณ์ ‘นิรันดร์’ ของเธอสามารถกันการโจมตีทางกายภาพได้แทบทุกอย่างดังนั้นพวกเราจึงจำเป็นต้องใช้ตัวประกันเพื่อเอาชนะเธอ”
เอมิลี่เงยหน้ามองมิวพร้อมกับพูดต่อว่า
“เพื่อที่จะผนึกแกไงล่ะ”
ในวินาทีที่เธอพูดคำนั้นนั่นเอง แอเรียนก็พุ่งขึ้นมาจากใต้พื้นอาคารต่อยเข้าที่หน้าของมิว แต่แน่นอนว่ามิวที่กางอาณาเขตจิตมังกรอยู่ก็รับรู้
เธอถอยหลังออกไปพร้อมกับหลบออกด้านข้าง.. แน่นอนว่าเอมิลี่คุยกับมิวเพื่อถ่วงเวลาให้แอเรียนฟื้นฟูเสร็จและตรึงการเคลื่อนไหวมันไว้ที่นี่เพื่อที่จะให้แอเรียนมาจัดการมิว
แต่มิวกลับหลบการโจมตีได้อย่างง่ายได้
“หัวหน้า เจ้านี่มันมีความสามารถในการรับรู้ทุกอย่างรอบด้านแน่ๆ ระวัง”
เอมิลี่พูดแบบนั้น ผู้กล้าเอริเนียดึงดาบกลับพร้อมกับต่อยหน้าเธออย่างแรงจนกระเด็นไปอีกทิศ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่แอเรียนต่อยพลาด
เขาพยายามจะปลดปล่อยพลังงานบางอย่างออกมาจากมือนั้นเอง มิวเตรียมตัวตั้งรับ.. แต่ทว่าสิ่งที่เหนือความคาดหมายมิวก็คือ—
วัตถุหากมองมุมเดียวคงเป็นว่าเป็นวัตถุทรงหกเหลี่ยม แต่มันมีหลายเหลี่ยมกว่านั้นพร้อมลักษณะของมันยังแปลกตาเหมือนไม่ใช่วัตถุในโลกสี่มิติแห่งนี้
มิวเลิกคิ้วขึ้นเพราะวัตถุทรงประหลาดนั้น ก่อนที่ทันจะได้ตกใจอะไรร่างของเธอก็พลันถูกดูดเข้าไปในวัตถุดังกล่าวทันที
วัตถุนั้นร่วงลงพื้นพร้อมกับจังหวะที่มิวหายไป.. ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากเร็วจนเกินไป..
มิวถูกผนึก..? ไปแล้ว
ทว่าผู้กล้าเอริเนียที่จับเอริเนียเอาไว้ เธอไม่ได้หายไปพร้อมมิวแต่อย่างใด เธอมองพวกแอเรียนด้วยสีหน้าไม่เป็นร้อนเป็นหนาวอะไร