เพราะเป็นเทพมังกรเลยไม่มีระบบพิเศษเหมือนเขาอ่ะ! – ตอนที่ 108 อิกดร้า

เพราะเป็นเทพมังกรเลยไม่มีระบบพิเศษเหมือนเขาอ่ะ!

บทที่ 108 – อิกดร้า

 

อย่างที่เคยกล่าวไป แม้ส่วนหนึ่งของเรนะจะเป็นเรย์น่า และส่วนหนึ่งของเรย์น่าจะเป็นของเรนะ แต่เดิมทีแล้วพวกเธอนั้นไม่ได้ต่างกัน

แม้จะมีจุดขัดแย้งกันอย่างความรู้สึกที่มีต่อมิว.. แต่สุดท้ายแล้วโลกนี้ หรือโลกก่อนมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน อย่างน้อยก็ในระดับที่เรนะรู้

ซึ่งนั่นหมายความว่าถ้าหากเรนะมีอิทธิพลต่อเรย์น่ามากเท่าไหร่ ในทางตรงกันข้ามเรย์น่าก็มีอิทธิพลต่อเรนะมากเท่านั้น

เพราะงั้นเมื่อเธออ่านความเชื่อของศาสนจักรอิกดราซิลแล้ว เธอไม่ได้เชื่อมันแต่อย่างใด เพราะอย่างไรเสียเธอก็เติบโตมากับศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์

แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะไม่เก็บเอาเรื่องดังกล่าวมาคิดต่อเช่นกัน หากไม่มีเรนะอยู่ในตัว เรย์น่าอาจจะอคติไปเลยก็ได้

แต่เพราะมีเรนะในตัวเลยทำให้ไม่ว่าจะเรย์น่าหรือเรนะต่างก็มองสถานการณ์ได้เป็นกลางมากกว่ามีอยู่แค่คนคนเดียวนั่นเอง

เรนะวางคัมภีร์ดังกล่าวลงอย่างช้าๆ พร้อมกับใช้ความคิด.. มิวก็เดินมาหยุดอยู่ด้านหลังเรนะ พร้อมกับพูดขึ้น

“แล้ว..เราต้องไปไหนต่อล่ะ?”

เสียงพูดที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นทำให้เรนะที่กำลังใช้ความคิดสะดุ้งแทบจะทันที เธอร้องออกมาด้วยความตกใจแต่พอเห็นหน้ามิวก็..

“อะไรกัน.. เธอหรอกเหรอ.. ไม่เป็นไรแล้วเหรอ?”

“ก็เธอบอกว่ามันรักษาได้ใช่ไหมล่ะ?”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเสียความทรงจำหรือเปล่า การถูกบอกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่แม้จะจิตตก แต่ก็กลับมาปกติได้ทันที

เหมือนกับที่มีผู้ใหญ่บอกเด็กว่าแบบนั้นมันไม่ดีหรือดีนั่นแหละ หรือเรียกอีกอย่างว่าเชื่อฟัง..

“อะ..อืม”

พอเห็นท่าทางที่สดใสกระปรี้กระเปร่าของมิว เธอก็ไม่รู้จะรู้สึกอย่างไรดีเพราะทางมิวเองก็ไม่ได้รู้สี่รู้แปดอะไรขนาดนั้น

หลังจากใช้ความคิดอยู่พักหนึ่งเรนะก็อธิบายให้มิวฟังว่าที่นี่คือที่ไหน ซึ่งมิวเองก็ไม่ได้เข้าใจอะไรมาก

“สรุปก็คือ ที่นี่อาจจะเป็นต้นตอของไอ้ตัวประหลาดที่เล่นงานพวกเราสองคนให้มาตกอยู่ที่นี่สินะ?”

“ใช่แล้ว เพราะงั้นแหละ เราถึงต้องเดินหน้าต่อ.. เพราะไม่รู้ว่าศาสนจักรอิกดราซิลนั้นทำอะไรไว้ แถมอย่างที่เคยบอกว่ามันน่าจะมีด้านใน”

“อืม”

“แต่ว่า.. มันค่อนข้างจะอันตรายด้วย เพราะงั้นเธอต้องระวังตัวให้มากกว่านี้เข้าใจไหม?”

เรนะพูดแบบนั้นพร้อมกับมองไปที่แขนของมิว.. เอาเข้าจริงเธออยากจะให้มิวรออยู่ที่นี่ แต่ไม่มีอะไรรับประกันว่าที่นี่จะไม่มีสัตว์ประหลาดแบบนั้นโผล่มาอีก

เพราะเท่าที่เธออ่านข้อมูลมา.. บางตัวที่เธอจัดการไปมันมีความสามารถในการฟื้นฟูด้วย ซึ่งเธอไม่รู้ว่าการฟื้นฟูมันยังทำงานอยู่ไหม

ขืนปล่อยมิวไว้คนเดียวมีหวังโดนเล่นงานแน่.. ทางเดียวที่เรนะสามารถทำได้คือพามิวไปด้วยและปกป้องเธอให้สุดชีวิต

อย่างน้อยก็จนกว่าความทรงจำของมิวจะกลับมา.. เพราะถ้าความทรงจำของมิวกลับมาแล้วละก็เธอคงจะเก่งกว่าทั้งเรนะและเรย์น่า

หลังจากตัดสินใจได้แบบนั้นเรนะกับมิวจึงเปิดประตูเข้าไปภายในโบราณสถานที่ลึกกว่าเก่า.. โดยไม่รู้ว่ากำลังมีอะไรรอพวกเธออยู่

……..

……

“ที่นี่…มัน..”

“ฉัน..คือ..”

ในความมืดสนิทภายในส่วนลึกของห้องทดลอง มีสิ่งมีชีวิตปริศนาถูกขังอยู่ในหลอดแก้วที่ภายในนั้นมีน้ำสีน้ำตาล

สิ่งมีชีวิตปริศนานั้นแม้ร่างกายเหมือนจะทำจากไม้ก็จริง แต่ก็ไม่เหมือนไม้เลย.. ราวกับว่ามันเป็นผิวหนังจริงๆ ที่เป็นซีขาวซีด

หากไม่มองดีๆ ว่าก็คงจะไม่สามารถสังเกตเห็นรอยแตกของผิวหนังที่เป็นไม้อยู่อย่างแน่นอน.. ผมของมันเป็นสีเขียวราวกับใบไม้

ร่างกายดูเหมือนกับผู้หญิง แต่กลับไม่มีอวัยวะสืบพันธุ์… เปลือยอยู่ในหลอดแก้วราวกับตัวทดลองอะไรบางอย่าง

รอบๆ คือห้องสีเขียวที่ตกแต่งด้วยต้นไม้ใบหญ้า ที่มีแสงแดดเทียมสาดส่อง.. ราวกับว่ามันต้องการให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่สะสมพลังงานให้กับสิ่งที่อยู่ในแก้ว

แม้รูปลักษณ์ภายนอกของมันจะไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม.. แต่ดวงตาที่เคยปิดสนิทนั้นค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ

ลืมขึ้นเพราะว่าความรู้สึกเจ็บปวดที่ถูกใครบางคนทำร้าย.. ใช่ มันลืมตาขึ้นมาตอนที่สัตว์ประหลาดที่มีร่างเป็นไม้ถูก ‘คนนอก’ จัดการไป

เมื่อดวงตาของมันลืมขึ้น.. ม่านตาของมันไม่ได้มีสีขาวเหมือนคนปกติ แต่เป็นสีดำสนิท ส่วนนัยน์ตากลับเป็นสีเหลืองทองแปลกประหลาดและน่ากลัว

มันค่อยๆ ยกมือขึ้นมาอย่างช้าๆ และแก้วก็แตกน้ำสีขุ่นก็ไหลทะลักออกมาเต็มห้องขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กนี้

ร่างของมันร่วงหล่นลงตามแรงโน้มถ่วง.. ทว่าวินาทีที่มันหลุดออกมา ไม่สิ ตั้งแต่ตอนที่มันลืมตาขึ้นดอกไม้ใบหญ้าก็ขยับเคลื่อนไหวราวกับเคารพ

พลังอันมากมหาศาลพวยพุ่งออกมาจากภายในร่างของมัน.. มันคือร่างที่สมบูรณ์ที่สุดในสถาบันวิจัยแห่งนี้

แต่ทว่ามันกลับเป็นของที่ล้มเหลวที่สุดเช่นกัน… เนื่องจากมันไม่สามารถดึงพลังงานจากต้นไม้ใบหญ้ามาได้

นั่นคือสาเหตุว่าทำไมห้องนี้ถึงถูกสร้างมาให้มีแต่ต้นไม้ใบหญ้า นั่นก็เพื่อให้มันซึมซับพลังงานเข้ามา

แต่ทว่า.. มันทำไม่ได้ มันจึงขยับไม่ได้.. นอกนั้นไม่ว่าจะประสิทธิภาพหรือทุกสิ่งทุกอย่างของมันล้วนอยู่เหนือกว่าเกณฑ์ทั่วไปมากนัก

ดังนั้นนักวิจัยหรือคนจากศาสนจักรจึงไม่อยากทิ้งมัน… เลยเก็บมันไว้ในที่แห่งนี้ หวังว่าสักวันมันจะสามารถซึมซับพลังงานจากธรรมชาติได้

แต่จนกระทั่งสถานที่แห่งนี้ล่มสลาย ศาสนจักรอิกดราซิลล่มสลาย มันก็ไม่ลืมตาตื่นแม้แต่น้อย จนกระทั่งพลังงาน ‘ลึกลับ’ เข้ามาแทรกแซง

ทำให้บางส่วนถูกกลับตาลปัตร.. และใช่.. ส่วนที่กลับตาลปัตรของมันก็ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจาก ‘ไม่มีพลังงานขยับเขยื้อน’ จึงเปลี่ยนเป็น ‘พลังงานอันไม่สิ้นสุด’

ทันทีที่มันเหยียบย่างลงบนพื้น.. ราวกับทุกสรรพชีพที่เกี่ยวข้องกับต้นไม้ใบหญ้าล้วนเชื่อมต่อกับมัน

จะสัตว์ประหลาดไม้ หรือโกเล็มไม้..ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในที่แห่งนี้ล้วนเชื่อมโยงกับมันอย่างลึกซึ้ง

และไม่เพียงแค่นั้นมันยังเชื่อมโยงออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้ อาจจะเป็นเพราะพลังที่มันได้มาก็มาจากสถานที่กลับตาลปัตรแห่งนี้ที่เรียกว่า Abyss

เลยทำให้มันเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวในห้วงลึกนี้..

ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังโลกภายนอกได้

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ..

มันคือทางออกเดียวของที่แห่งนี้

“ฉัน..คือ”

ความทรงจำที่สับสนของมันเหมือนกับหมุนวนไปมา.. แม้จะไม่มีพลังงาน.. แม้จะไม่สามารถซึมซับอะไรได้

แต่วินาทีที่มันถูกสร้างขึ้น มันเคยลืมตาเห็นคนสร้างมันมาก่อนแล้ว.. และสิ่งที่มันได้ยินจากคนคนนั้น คือเหมือนตัวตนของมัน

“อิกดร้า”

เพราะเป็นเทพมังกรเลยไม่มีระบบพิเศษเหมือนเขาอ่ะ!

เพราะเป็นเทพมังกรเลยไม่มีระบบพิเศษเหมือนเขาอ่ะ!

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท