บทที่ 114 – สถานการณ์ย่ำแย่
“ศัตรู… ทำลาย..บ้าน.. ทำลายสวน”
“ต้อง..ฆ่า..”
เสียงพึมพำของมันนั้นมุ่งเป้ามาที่เรนะโดยเฉพาะ ราวกับต่อให้ไม่เห็นว่าเรนะเป็นต้นเหตุมันก็เดาออกว่าคนที่ทำก็คือเรนะ
แม้มันจะยังพูดไม่ชัดเท่าไหร่ แต่ทว่านั่นก็เป็นแค่ปัญหาด้านการใช้ภาษาก็เท่านั้น ไม่ใช่ปัญหาด้านความคิด
ซึ่งความคิดของมันนั้น อย่างน้อยในตอนนี้ก็ไม่ต่ำกว่าเด็กอายุสิบขวบแน่นอน เพราะจังหวะที่เรนะทิ้งตัวลงบนพื้นนั้น
ขาของเธอยังไม่ถึงพื้นด้วยซ้ำ เศษซากหญ้าที่เกือบตายเพราะแรงระเบิดก็แปรเปลี่ยนรูปลักษณ์ตามการควบคุมของอีกฝ่าย
กลายเป็นคมมีดที่เกิดจากพืชหญ้าพุ่งเสียบใส่ท้องเรนะ.. เรนะตอบสนองโดยการจับหญ้าที่แข็งตัวพร้อมกับอาศัยแรงพุ่งนั้นดีดตัวออกห่าง
หลังจากถอยไปในจุดที่ไม่มีพืชหญ้างอกอยู่เรนะก็หอบหายใจ.. เมื่อกี้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ถ้าเป็นเธอก่อนหน้านี้สักสิบวันคงตายไปแล้ว
แถม..
เมื่อเรนะก้มมองมือตัวเอง เธอก็เห็นแผลที่เกิดจากรอยทิ่มที่งอกออกมาจากหญ้าเหมือนกับหนามจากดอกกุหลาบ
แน่นอนว่าตอนเธอจับมัน มันยังไม่มีหนาม มันมีหนามตอนที่เธอจับ หรือก็คือเจ้าสัตว์ประหลาดดังกล่าวมันตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวเธอและสร้างบาดแผลให้เธอ
“ประสบการณ์ต่อสู้ก็ได้มาพร้อมกับการต่อสู้ผ่านตัวสัตว์ประหลาดไม้อื่นๆ ด้วยงั้นสินะ..”
เรนะกัดฟันกรอด พร้อมกับใช้พลังศักดิ์สิทธิ์รักษาบาดแผลให้หาย พร้อมจ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดอิกดร้าตรงหน้าโดยไม่ละสายตา
เจ้านี่มันเคลื่อนที่เร็วกว่าเธออีก เพราะงั้นจะปล่อยมันหลุดจากสายตาไปไม่ได้โดยเด็ดขาด ไม่งั้น..เธอถูกมันจัดการแน่
“อีกอย่าง ต่อให้ไม่สัมผัสพื้นหรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับพืชอยู่ ก็สามารถควบคุมพืชได้.. แบบนั้นมันออกจะโกงไปหน่อยมั้ยนั่น”
เรนะได้แต่บ่นอุบอิบในใจ..
“แก.. ศัตรู.. ทำไมถึงต้อง..ทำลายบ้าน”
จู่ๆ มันก็พูดขึ้นอีกรอบพร้อมค่อยๆ หันหน้ามาทางมิว เหมือนมันจะสงบสติอารมณ์ได้แล้ว แน่นอนว่าถ้ามันชวนคุยเรนะก็พร้อมคุย
เพื่อให้เธอได้ฟื้นฟูร่างกายให้เตรียมพร้อมน่ะนะ..
“ก็เพราะแกโจมตีมาก่อนไม่ใช่หรือไง?”
“โจมตี..ก่อน..? ข้า?”
“จะเป็นใครไปได้อีกล่ะ ฉันกับเพื่อก็แค่อยากหาทางออก แล้วแกก็มาขวางทางฉันเอาไว้นี่”
“……”
มันไม่ได้ตอบเรนะทันที แต่ในใจมันก็คิดตามซึ่งพอมานึกๆ ดูแล้วคนที่โจมตีอีกฝ่ายแล้วอีกฝ่ายก็เอาแต่ตั้งรับมันก็เป็นความจริง
งั้นจะบอกว่าตัวมันเองเป็นคนผิดงั้นเหรอ? เพราะไปโจมตีก่อนเลยถูกตอบโต้ไปตามระเบียบ งั้นถ้าไม่โจมตี เจ้าพวกนี้ก็จะไม่ทำลายป่า
ความคิดต่างๆ มากมายหมุนในหัวของอิกดร้า แต่พอคิดไปคิดมา.. แรกเริ่มเดิมทีที่มันตื่นขึ้นมาก็เพราะเครือญาติของมันถูกสังหาร
มันเลยตื่นขึ้น.. และที่นี่ก็คือบ้านหรือสถานที่เกิดของมันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมผู้บุกรุกถึงเข้ามาแต่แรกล่ะ
จะว่าไปแล้ว นอกจากอิกดร้าแล้วสัตว์ประหลาดไม้อื่นๆ เป็นเจ้าของที่แห่งนี้ แต่มีคนนอกเข้ามาโดยไม่ขออนุญาต.. คนนอกก็ต้องผิดสิ
“เข้าใจหรือยัง เพราะงั้นจะบอกว่าฉันผิดก็ไม่ถูกซะทีเดียวนะ”
เรนะพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่ปลิ้นปล้อนนิดหน่อยให้เหมือนกับหัวหน้าแผนกหนึ่งสักแผนกในชีวิตก่อนของเธอ
ทว่าอิกดร้ามันก็ตระหนักถึงความจริงที่ว่าคนผิดไม่ใช่มัน แต่เป็นผู้บุกรุกไม่ใช่เหรอ ทันทีที่คำพูดปลิ้นปล้อนของเรนะหลุดออกมา
มันก็คำรามออกมาด้วยความโกรธกริ้ว
“เพราะพวกแก.. บุกรุก.. ต้องฆ่า”
“ทำลายบ้าน.. ต้องฆ่า”
“ต้องกำจัด”
เสียงคำรามมันมาพร้อมความกริ้วโกรธของธรรมชาติ กิ่งไม้ที่เหลือแค่รากกำลังจะตายมิจะตายแหล่อยู่แล้วก็ดูดซึมซับพลังจากผืนแผ่นดินขึ้นมา
ก่อนที่จะกลายเป็นกิ่งก้านไม้นับสิบพุ่งฟาดใส่จุดที่เรนะอยู่อย่างพร้อมเพรียง แต่ร่างของเรนะกลับสลายหายไปแทบจะทันที
ดวงตาของอิกดร้าหดเล็กลง.. แต่มันก็สายเกินไปแล้วเมื่อมันเงยหน้าขึ้นไปบนเพดาน ห่าฝนระเบิดอำนาจสูงไดนาไมท์จำนวนมากก็ร่วงหล่นลงมาอีกครั้ง
“ต่อให้จัดการเจ้าตัวบงการนั่นไม่ได้.. แต่ก็ขอทำลายไอ้พวกต้นไม้น่ารำคาญนี่ก่อนแล้วกัน”
สิ้นเสียงระเบิดก็ดังสนั่นกวาดล้างทุกอย่างในระยะ.. แน่นอนว่าเรนะไม่เสียท่าให้ระเบิดของตัวเองเหมือนรอบก่อนเพราะเมื่อมันระเบิด
ร่างกายของเธอก็ทะลุเข้าไปในกำแพง
“แล้วก็ขอยืมท่าที่แกใช้ลอบโจมตีพวกฉันหน่อยนะ”
ไม่ใช่แค่มันที่เรียนรู้ได้ เรนะก็เรียนรู้ที่จะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ในการแทรกแซงร่างกายตัวเองเข้าไปในวัตถุอื่นได้
ซึ่งในตอนแรกแม้ห้องนี้จะยังไม่ถล่มเพราะมีต้นไม้มาช่วยรับแรงกระแทก แต่เมื่อมันระเบิดขึ้นทุกอย่างก็พังถล่มทันที
จะเพดาน หรือผนัง ทุกอย่างพังลงจนไปถึงช่วงดินสีดำที่กลายพันธุ์เพราะอะไรไม่รู้ทำให้มันไม่ระเบิดต่อ แต่ต่อให้เป็นแบบนั้น
เสียงโครมครามก็ดังขึ้น ทั้งแรงกระแทกจากระเบิด ทั้งการพังถล่มของดินและหิน.. แสงสว่างจากดวงอาทิตย์เทียมก็มืดดับไป
ส่งผลให้ทุกอย่างกลายเป็นความมืด เรนะโผล่หัวออกมาจากผนังด้านข้าง เมื่อกี้เธอเองก็เกือบร่วงไปพร้อมเพดาน
ยังดีที่เธอหลบออกไปอยู่ด้านข้างได้ทัน เพราะพื้นดินที่กลายพันธุ์เธอไม่สามารถแทรกแซงร่างกายเข้าไปได้
“ถึงจะพอเดาได้ว่าเจ้านั่นคงไม่เป็นไร.. แต่ถ้าฉันไปอยู่ในชาติก่อนนี่กลายเป็นบุคคลควรเฝ้าระวังได้เลยนะเนี่ย”
“แรงระเบิดเมื่อกี้ถ้าไม่มีไอ้ดินดำนั่น คงเปิดพื้นดินไปถึงพื้นได้เลย..”
“น่ากลัวชะมัด”
เธอพึมพำกับตัวเองพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างปิดตายเอาไว้ พลังศักดิ์สิทธิ์ทำให้เธอสามารถมองเห็นในที่มืดได้ก็ใช้ใส่ตาตัวเอง
“พลังโคตรเมต้าเลย”
เรนะตบมุกกับตัวเองก่อนจะมองซ้ายมองขวา ตอนนี้ทุกอย่างในระยะสายตากลายเป็นซากดินถล่มหมดแล้ว
พืชหญ้าทุกชนิดต่างไม่เหลือร่องรอยที่พอจะโจมตีเธอแล้ว แต่ไม่ว่าจะรอขนาดไหนเจ้านั่นก็ยังไม่โผล่หัวออกมาสักที
“เอ้ะ ล้อเล่นปะเนี่ย หรือว่าตายจริง..”
“ไม่สิ เมื่อกี้มันปักแฟล็กชั—”
ก่อนที่ทันจะได้พูดต่อความรู้สึกเสียวสันหลังก็ว้าบผ่านหลังของเรนะ เธอเงยหน้าขึ้นก็พบว่ามันกำลังโจมตีใส่เธอจากด้านบน
“นั่นไงว่าแล้ว”
เรนะถอยหลบเข้าไปในผนัง แต่ทว่ามันก็โจมตีผนังอย่างรุนแรง เศษผนังกระจุยกระจายออก.. ร่างกายของเรนะเหมือนโดนแยกออกเป็นส่วนๆ ตามเศษหินที่กระจุยกระจาย
โชคยังดีที่เธอไหวตัวทันรีบดึงร่างออกมาจากวัตถุดังกล่าว ทำให้ร่างไม่ถูกแยกออกเป็นส่วนๆ แต่น่าเสียดายที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่อิกดร้าเดาเอาไว้
เพราะแขนของมันก็ตวัดผ่าใส่หน้าของเรนะ .. แขนที่กลายเป็นของมีคม—
“อ้ะ.. หลบไม่พ้นแน่..”
เรนะหน้าเผือดสี เพราะลอยอยู่กลางอากาศแถมเสียหลักในการตั้งท่าไป.. ร่างกายเธอในตอนนี้ไม่สามารถขยับได้
ต่อให้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์สร้างบาเรียป้องกัน.. ก็ไม่ทันแล้ว.. ภาพทุกอย่างมันเหมือนกับช้าลงอย่างน่าประหลาด
ความตายที่มาเยือนโดยไม่ได้เตือน ตายเหรอ?
“ตาย…?”
“ไม่…”
ทว่าวินาทีนั้นเอง..
“เรนะ!!”
เสียงมิวก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างของเธอที่ถูกใครบางคนพุ่งกระแทกใส่ จนหลบคมดาบได้อย่างหวุดหวิด.. แต่เมื่อมองย้อนกลับไปยังสถานที่ที่คมดาบตัดผ่านนั้น
กลับมีเลือดที่สาดกระจาย เรนะมั่นใจว่าตนเองไม่มีบาดแผล… หน้าเธอซีดเผือดลงก้มหน้าลงมองคนที่ผลักเธอ
คือมิว..ที่ตอนนี้ขาสองข้างถูกอิกดร้าตัดขาดไปแล้ว..
ดวงตาของอิกดร้าหดเล็กลง คมดาบของมันก็หยุดชะงักโดยไม่สนใจกฎฟิสิกส์ก่อนจะพุ่งตามมาหวังจะฟันร่างของทั้งสองให้ขาดเป็นสองท่อน
เรนะตอบสนองโดยการดันร่างของมิวขึ้นบน และร่างเธอก็ลงร่าง ส่งผลให้คมดาบนั้นตัดผ่าเพียงความว่างเปล่า
เป็นจังหวะเดียวกับที่พลังศักดิ์สิทธิ์รวบรวมที่ปลายเท้าของเรนะเตะสวนใส่คอของอิกดร้าจนขาดครึ่ง
และอาศัยจังหวะที่เตะโดนคอมันหมุนตัวกลางอากาศคว้าเอาร่างมิวแล้วก็กระโดดถอยออกมาอย่างว่องไว
“มิว เธอมาที่นี่ทำไม! ไม่สิ เธอออกมาได้ยังไง!”
เมื่อหยุดลงบนพื้นเรนะก็ตะโกนด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย มองลงไปที่ขาของมิวทั้งสองข้างที่ถูกตัดขาด
ตอนนี้มิวเหลือแค่แขนข้างเดียวเท่านั้นนะ..
ไม่ใช่แค่นั้น หากไม่รีบหยุดเลือด.. มิวต้องตายแน่
แต่เจ้าสัตว์ประหลาดบัดซบนี่มันไม่มีทีท่าว่าจะหยุดโจมตีเลย
สถานการณ์ในตอนนี้ย่ำแย่อย่างถึงที่สุด
“เรนะ.. เจ็บจัง.. ทำไมฉันถึงเจ็บแบบนี้”
มิวพึมพำด้วยความสับสนเหมือนเธอจะยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าขาสองข้างเธอขาดไป