เพราะเป็นเทพมังกรเลยไม่มีระบบพิเศษเหมือนเขาอ่ะ! – ตอนที่ 118 วิธีช่วยโลก

เพราะเป็นเทพมังกรเลยไม่มีระบบพิเศษเหมือนเขาอ่ะ!

บทที่ 118 – วิธีช่วยโลก

 

ในชั่วพริบตาที่ทุกอย่างสัมผัสกันนั้นเอง ร่างกายของอิกดร้าก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทเฉกเช่นเดียวกับสีของ Abyss

ซึ่งในวินาทีนั้นเอง ร่างของมันก็แตกกระจุยกระจายกลายเป็นแรงระเบิดที่มหาศาล ซึ่งนั่นแรงมากพอที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในที่แห่งนี้พังถล่มลง

แม้แต่ดินที่กลายพันธุ์เองก็ไม่ต่างกัน มิวไม่ได้ตกใจกับสถานการณ์นี้แต่อย่างไร เพราะความทรงจำในอนาคตกว่าสิบกว่าวันได้บอกเธอเอาไว้

เธอตอบโต้ด้วยการปล่อยลำแสงสีขาวซึ่งเป็นลมหายใจมังกรออกมาจากแขนเพื่อต้านพลังดังกล่าวเอาไว้

เพราะในอนาคตเธอใช้ท่านี้ และบางทีคงมีแค่ท่านี้เท่านั้นที่สามารถหักล้างแรงระเบิดที่ผสมผสานระหว่างพลังของเจ้าอิกดร้านี่กับ Abyss ได้

แน่นอนว่าการถูกปิดผนึกพลังโดยเทพธิดาก็เหมือนจะหายไปพร้อมกับการถูกดาบผู้กล้าเอริเนียแทงด้วย

ดังนั้น.. แรงระเบิดจากพลังของอิกดร้าและ Abyss แทนที่จะบอกว่าถูกหักล้าง แต่ถูกทำลายไปเลยซะมากกว่า

แต่นั่นก็แค่ในขอบเขตของพลังลมหายใจมังกร เพราะมิวควบคุมพลังเอาไว้ทำให้มันไม่ได้ทำลายพลังดังกล่าวไปจนหมด

เอาเข้าจริงลมหายใจมังกรของมิวน่าจะน่ากลัวกว่าไอ้พลังอิกดร้าและ Abyss เทียมนี่รวมกันซะอีก

ดังนั้นแรงระเบิดจึงทำลายโบราณสถานใต้ดินแห่งนี้ได้ก็จริง แต่กลับไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับมิวและเรย์น่าขนาดนั้น

มิวอุ้มร่างของเรย์น่าไว้ในแขนทั้งสองข้างพร้อมกับถอยออกไป.. โบราณสถานแห่งนี้กำลังถล่มลงมาแต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับมิวสักเท่าไหร่

มิวมองไปยังจุดที่อิกดร้าเคยอยู่.. ไม่มั่นใจว่าเจ้านั่นมันตายสนิทหรือยัง แต่ทว่ามิวกลับสัมผัสถึงการดำรงอยู่ของมันไม่ได้อีกต่อไป

ซึ่งมันเหมือนกับว่าตัวตนมันหายไปจากช่วงเวลานี้… มิวส่ายหน้าพร้อมกับลอยตัวออกไปจากการพังถล่มของพื้นดิน

มิวมาลอยหยุดอยู่กลางซากปรักหักพังลอยขึ้นอีกนิดก็หลุดออกจากหลุมกลับคืนสู่พื้นดินได้แล้ว

พอมองลงไปเบื้องล่างเพราะแรงระเบิดเมื่อกี้ทำลายทุกอย่างเกี่ยวกับโบราณสถานไปจนหมด เป็นเหมือนเหตุการณ์ดินถล่มธรรมดาๆ

ไม่เหลือร่องรอยของโบราณสถาน.. มิวไม่ได้จากไปแต่เหมือนรออะไรบางอย่างอยู่ ก่อนที่วินาทีถัดมาแสงสว่างก็จ้าขึ้นตรงหน้ามิว

ในวินาทีนี้เอง มิวก็ยื่นมือไปจับก้อนแสงนั่นเอาไว้แล้วก็พูดขึ้นว่า

“หลับไปซะ”

ทันทีที่มิวพูดแบบนั้น แสงสว่างนั้นก็จางหายไปเผยร่างของมนุษย์ที่ออกมาจากแสงซึ่งมิวเป็นคนจับเอาไว้ให้ไม่ร่วงลงไป

คนดังกล่าวอยู่ในฐานะของคนหมดสติ.. แน่นอนว่าคนที่มิวจับเอาไว้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตัวของมิวเอง..

หมายถึงมิวที่พึ่งเข้ามายังชั้นนี้เมื่อประมาณสิบกว่าวันก่อนที่มิวจะถูกส่งย้อนกลับมาในตอนนี้นั่นแหละ

มิวในตอนที่เข้ามาในชั้นนี้นั้น มีพลังแค่ครึ่งเดียว.. แต่มิวที่พึ่งออกมาจากโบราณสถานคือมิวที่มีพลังเต็มร้อย

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพลังใครเหนือกว่า การใช้พลังมังกรเข้าไปแทรกแซงสติแล้วบังคับให้หลับมันไม่ใช่เรื่องยากขนาดนั้น

อันที่จริงแทนที่จะบอกว่าหลับ ต้องบอกทำให้สติพังทลายลง ถ้าเป็นคนอื่นคงตายคาที่ แต่เพราะมิวคือเทพมังกรไม่มีผลต่อพลังมังกร

จึงแค่หมดสติเท่านั้น.. กล่าวคือ.. ในตอนนี้ ในปัจจุบันนี้มีมิวถึงสองคนก็คือ.. มิวในอดีตกับมิวในอนาคตที่ย้อนกลับมา

เมื่อทำแบบนั้นเสร็จมิวก็ปล่อยร่างของมิวลงไปด้านล่าง..

“ถ้าจำไม่ผิด.. เรย์น่าบอกว่าจะมาเจอฉันที่นี่ อีกประมาณสองสามวันข้างหน้างั้นสินะ”

มิวพึมพำกับตัวเองก่อนจะจากไป.. อันที่จริงที่มิวเลือกที่จะทำให้ตัวเองในอดีตสลบลงเพราะ หากไม่ทำมิวในอดีตจะต้องเจอกับมิวในปัจจุบัน

แน่นอนว่าหากได้เจอกันแล้วจะหนีหายไปก็คงยากแน่ๆ ดังนั้นเลยเลือกที่จะทำให้ตัวเองในอดีตสลบก่อนเลย

อีกทั้ง.. ในความทรงจำของมิวช่วงที่มาถึงชั้นนี้ก็ไม่มีความทรงจำว่าตัวเองได้เจอกับตัวเองในอนาคตที่ย้อนอดีตกลับมาด้วย

กล่าวคือมิวต้องไม่เจอกับตัวเองในอดีตเด็ดขาด.. อย่างน้อยก็ในตอนนี้..

มิวหลับตาลงแล้วก็หันหลังจากไป.. ในช่วงเวลานี้นั้น มีตัวตนของ ‘มิว’ และ ‘เรย์น่า’ สองคนด้วยกัน

และตลอดเวลานับตั้งแต่วันนี้อีกสิบวันจนถึงเจ้าหัวไม้นั่นมาบุก มิวจะเจอกับตัวเองไม่ได้โดยเด็ดขาด หากเจอละก็…

“Time paradox… ไม่คิดว่าสักวันจะได้มาเจอกับตัวเอง แนวคิดในหนังไซไฟที่เคยอ่าน”

มิวไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี หลังจากนี้อีกสิบวันมิวจะต้องซ่อนตัวกับเรย์น่าไว้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์พาราดอกซ์ขึ้น

มิวต้องไม่ทำอะไรที่มันจะไปส่งผลกระทบให้เปลี่ยนไปจากความทรงจำของตัวเองในอดีต.. ซึ่งการที่เธอจะทำงั้นก็คือการทำตามความทรงจำตัวเองในอนาคตอีกที

หลังจากมิวหาที่พักดีๆ ในเมืองห่างไกลจากความเจริญและช่วงเวลาอาทิตย์กว่าที่ตัวเธอในอดีตและตัวเรย์น่าในอดีตได้

ยังดีที่เรย์น่ามีเงินติดตัวอยู่ไม่ได้หายไปไหนเลยพอเช่าห้องพักได้ แต่มิวก็รู้สึกผิดนิดหน่อยที่ควักกระเป๋าตังจากผู้หญิงที่นอนอยู่

“ไอ้ฉันในอนาคต.. ที่ฉันทำแบบนี้ก็เพราะฉันต้องทำตามแก แต่แกที่ไม่ได้ทำตามความทรงจำในอนาคตแบบฉันแกถึงขั้นค้นตัวผู้หญิงที่นอนอยู่นี่มัน…”

มิวบ่นกับตัวเอง แต่พอคิดไปคิดมา..หรือภาพฉายตัวเองในอนาคตที่มิวเห็นก็คือมิวที่เห็นความทรงจำในอนาคตแต่แรกแล้วเหมือนกัน

ก็แบบว่า.. โดยปกติแล้วเราจะเห็นอนาคตของตัวเราเองว่าต้องเลือกที่จะค้นกระเป๋าผู้หญิง แต่เราไม่รู้เหตุผลว่าทำไมเราในอนาคตถึงเลือกทำแบบนั้น

แต่ตัวเราในตอนนี้เลือกทำแบบนั้นเพราะตัวเราในอนาคตทำแบบนั้น.. แต่ถ้ามองในมุมมองกลับกัน ถ้าตัวเราในอนาคตก็คือตัวเราที่เห็นอนาคตแบบตัวเรา

ก็หมายความว่าตัวเราในอนาคตไม่ได้มีเหตุผลที่เลือกที่จะค้น แต่เลือกที่จะค้นเพราะตัวเราในอนาคตก็แค่ทำตามตัวเองในอนาคตอีกที

ไม่สิ.. จะพูดให้สับสนทำไม พูดให้ถูกคือตัวเราในอนาคตก็คือภาพฉายอนาคตของตัวเราในอดีตเท่านั้น

“ยิ่งคิดยิ่งสับสน.. รู้สึกนับถือนักท่องเวลาขึ้นมาแล้วสิ”

มิวเลิกคิดเรื่องปวดหัวเกินกว่าที่ตัวเองจะรับไหว เธอนั่งมองหน้าเรย์น่าที่นอนอยู่บนเตียงไม่ได้สติ

“ถ้าหากฉันเข้าใจไม่ผิด… ในอนาคตที่ฉันมองเห็น.. เธอจะเสียความทรงจำช่วงที่พวกเราอยู่ด้วยกันไปงั้นสินะ”

มิวยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เสียใจ ใช่แล้ว ถึงมิวจะไม่รู้เหตุผลว่าทำไม แต่เหมือนว่าความทรงจำช่วงที่อยู่ในหลุมนั้นเรย์น่าจะสูญเสียมันไปจนหมด

แต่มิวนั้นจำได้ดี… แม้เรย์น่าในหลุมนั้นมีลักษณะนิสัยที่ไม่เหมือนเรย์น่าที่เคยอยู่ด้วย กลับกันเลยเธอเหมือนกับเรนะแฟนเก่าของมิวมากกว่า

แต่มิวรู้ดีว่านั่นก็แค่ภาพลวงตา.. มันก็แค่ความคิดถึงที่แสนจะเพ้อฝันของมิวเท่านั้นแหละ เพราะว่าเคยถูกช่วยไว้เหมือนที่แฟนเคยช่วย

เพราะได้อยู่ด้วยกันเหมือนที่อยู่กับแฟน.. และบังเอิญเธอมีหน้าตาเหมือนกับแฟนของมิว.. มันเลยทำให้มิวจินตนาการไปเอง

แต่ถึงแบบนั้น.. ถึงแบบนั้น

มิวกุมมือของเรย์น่าเอาไว้..

“ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอตายเด็ดขาด.. ฉันจะไม่ให้เธอเสียสละตัวเองโดยเด็ดขาด ฉันเห็นแล้ว.. เห็นวิธีที่พวกเธอจะใช้จัดการกับเจ้านั่น”

“ฉันไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นหรอก คราวนี้แหละ..”

“ครั้งนี้แหละ ฉันต้องรักษาไว้ให้ได้”

มิวไม่รู้ว่าโลกแห่งนี้เป็นแค่โลกที่หอคอยสร้างขึ้นหรือเป็นโลกที่มีอยู่จริง แต่ทว่าช่วงเวลานั้น ช่วงเวลาที่เรย์น่าคอยปกป้องเธอ

คอยห่วงใยเธอ คอยยิ้มให้เธอ คอยบอกเธอ มันคือของจริง มันยังอยู่ตรงนั้น มิวกัดฟันกรอด

ใช่แล้ว มิวรู้มันไปซะแล้ว

วิธีที่จะจัดการกับเจ้าปีศาจจิตมรณะนั่นได้ ปีศาจที่เข้าไปกลืนกินจิตใจของคนอื่นได้ ตามหลักแล้วไม่มีเลยเพราะมันแข็งแกร่งเกินไป

ทั้งยังเป็นปีศาจที่กลืนกินจิตใจ ความคิด เจตนารมณ์ผู้คนและหลอมรวมเข้าตัวเอง เพียงแค่มองก็กลายเป็นพวกของพวกมันได้แล้ว

ทางเดียวคือ.. กลืนกินศูนย์รวมจิตใจ ความคิด เจตนารมณ์อย่างเจ้าหัวไม้นั่นเข้าไปในตัวเอง ในตัวของผู้ที่ไม่มีจิตวิญญาณ..

และ..ฆ่าทิ้งซะ

นั่นคือแผนของโบสถ์

แผนของศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์

วิธีเดียวที่จะช่วยโลก คือการสังเวยเรย์น่า!

เพราะเป็นเทพมังกรเลยไม่มีระบบพิเศษเหมือนเขาอ่ะ!

เพราะเป็นเทพมังกรเลยไม่มีระบบพิเศษเหมือนเขาอ่ะ!

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท