บทที่ 134 – ความไร้เทียมทาน
มิวมองเทริโน่… สิ่งที่คนจากองค์กรบอร์เดอร์ไลน์มาหาเธอไม่ใช่เรื่องที่คาดเดาไม่ได้สักเท่าไหร่.. ในมุมมองของคาเอะน่ะนะ
โชคยังดีที่เพราะชื่อเสียงของมิวดังเกินไปจนทำให้เรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นกับกระดานจัดอันดับของหอคอยก่อนหน้านี้หายไปด้วย
หรือพูดอีกอย่างก็คือทุกคนลืมเรื่องของรินนะและเอริเนียตัวน้อยที่มาพร้อมกับมิวไปด้วยจนเป็นเหมือนของแถมเสียมากกว่า
แน่นอนว่าแม้จะมีการพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นนี้ แต่องค์กรบอร์เดอร์ไลน์ก็เดาว่าสาเหตุทุกอย่างเป็นเพราะมิวมากกว่า
ดังนั้นพวกเขาจึงมุ่งเป้ามาที่มิวนั่นแหละ แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหอคอย.. แต่ความจริงที่ว่ามิวนั้นเหนือกว่าองค์หญิงไร้เสียงไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่จริง
ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับโลกใบนี้ในตอนนี้ทรัพยากรที่สำคัญยิ่งกว่าเงินตรา หรือประตูบอร์เดอร์แม้แต่หอคอย.. มีเพียงอย่างเดียวคือ
องค์หญิงและองค์ชาย.. องค์หญิงและองค์ชายนั้นคือบุคลากรที่สำคัญมาก หากถามว่ามากขนาดไหนนั่นก็ต้องตอบว่ามากในระดับที่ยิ่งกว่าอาวุธนิวเคลียร์ไปแล้ว
นั่นไม่ได้หมายความว่าองค์หญิงและองค์ชายมีพลานุภาพมากกว่าอาวุธนิวเคลียร์ แต่ทว่าความแข็งแกร่งที่มากสุดขีด
ไหนจะเรื่องที่สามารถพูดคุยกันได้.. เอาเข้าจริงสถานะขององค์หญิงองค์ชายในตอนนี้นั้นสูงเกินกว่าที่มิวจะเข้าใจได้ด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าแค่อ่านข้อมูลจากเน็ตมันไม่ได้บอกข้อมูลทุกอย่างให้กับมิวแน่นอน.. และนั่นจึงทำให้มิวไม่ได้ระวังตัวมากกว่านี้
องค์หญิงไร้เสียงเป็นหนึ่งในองค์หญิงที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดในโลก เคลียร์ชั้นสิบได้ก่อนใครเพื่อน การที่มิวแซงขึ้นมาได้ก็หมายความว่าอย่างน้อยๆ
ในหอคอยมิวก็ทำผลงานไว้ได้ดีกว่าคนที่เกือบจะแข็งแกร่งที่สุดในโลกตอนนี้ นั่นหมายความว่า.. คุณค่าของมิวในตอนนี้พุ่งสูงเกินกว่าที่มิวจะจินตนาการได้เช่นกัน
แน่นอนว่าองค์หญิงและองค์ชายนั้นไม่ขึ้นตรงกับประเทศใดบนโลกใบนี้.. แทนที่จะบอกไม่ขึ้นตรงต้องบอกว่าไม่ใช่บุคลากรของประเทศไหนมากกว่า
ไม่ได้แปลว่าไม่มีสัญชาติหรือเชื้อชาติแต่อย่างใด เอาเข้าจริงประเทศไหนสร้างบุคลากรที่เรียกว่าองค์หญิงและองค์ชายขึ้นมาได้ก็ล้วนได้รับอานิสงส์ไปตามๆ กันด้วย
ก็นะเป็นประเทศที่สร้างคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกได้ ไม่ว่าใครก็อยากลงทุน แม้แต่องค์กรบอร์เดอร์ไลน์
แต่องค์หญิงองค์ชายทุกคนแม้ไม่ได้สังกัดองค์กรใดๆ แต่ก็ต้องแบ่งปันข้อมูลผ่านองค์กรบอร์เดอร์ไลน์อยู่ดี
และหากองค์หญิงหรือชายทำผิดกฎหมาย คนที่ดำเนินคดีก็คือองค์กรบอร์เดอร์ไลน์ เพราะการจะควบคุมพวกที่แข็งแกร่งกว่าแบบนี้แค่กฎหมายธรรมดำทำไม่ได้หรอก ใช่แล้วทุกอย่างมันซับซ้อนกว่าที่มีอธิบายไว้ตามเน็ตมากๆ
และทางองค์กรบอร์เดอร์ไลน์ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามิวมาจากประเทศไหน ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือชื่อก็ล้วนแล้วแต่เหมือนไม่ใช่คนของโลกใบนี้
ยังไม่เพียงแค่นั้น.. ตามกระดานจัดอันดับ.. มิวเป็นคนที่ไม่มีเนมอยู่ด้วย ซึ่งเรื่องนี้มันผิดปกติมาก
องค์กรบอร์เดอร์ไลน์เดินทางมาหามิวมีสิ่งที่ต้องคุยกับมิวอยู่เพียงแค่ มิวมาจากประเทศไหนและ…มิวใช้พลังอะไรกันแน่
เรื่องหลังจากนั้นเทริโน่จะเป็นคนตัดสินใจเอง
แน่นอนว่ามิวที่เข้าใจว่าตัวเองมาจากอีกโลกที่เป็นโลกแฟนตาซีกลับมายังโลกที่คล้ายโลกเดิมของตัวเองซึ่งอาจจะเป็นโลกคู่ขนานเธอก็ไม่รู้จะบอกยังไงดี
มิวไม่รู้ตื้นลึกหนาบางขององค์กรบอร์เดอร์ไลน์เท่าไหร่.. เธอคงไม่เลือกที่จะบอกความจริงออกไปแน่
อย่างไรก็ตามเธอจะอธิบายยังไงดีว่าเธอเป็นคนประเทศไหน แล้วถ้าหากพวกนั้นไปตรวจสอบล่ะ.. แถมการที่ถามแบบนี้ทั้งที่มีคาเอะอยู่ด้านหลัง
เรื่องที่โกหกไว้ตอนแรกว่าเสียความจำนี่น่าจะแตกไปแล้ว อันที่จริงมิวก็พอรู้ว่าคาเอะไม่น่าที่จะดูไม่ออกว่ามิวเสียความจำจริงไหม
มีแค่ลูกสาวของคาเอะเท่านั้นแหละที่เชื่อจริงๆ ว่ามิวเสียความทรงจำ จะโกหกต่อว่าเสียความจำมันก็ได้อยู่หรอก แต่มันจะเป็นการโกหกน้ำขุ่นน่ะสิ
ดังนั้นเมื่อเทริโน่ถามว่ามิวมาจากไหน
มิวจึงนิ่งเงียบไปพักใหญ่ๆ …
“นายท่าน”
“หือ…?”
“บางทีพวกนี้อาจจะมีความคิดอยู่แล้วว่านายท่านอาจจะไม่ใช่คนของโลกใบนี้.. ดูจากการตั้งคำถามที่ไม่ใช่คนประเทศไหนแต่เป็นมาจากไหน”
“อืม…?”
“บางทีพวกนี้อาจจะรู้การมีอยู่ของมนุษย์บนดวงจันทร์อย่างเทรต้าก็ได้.. ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่านายท่านอาจจะเป็นแบบเดียวกัน”
“หมายความว่าโกหกไปก็เปล่าประโยชน์งั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่หรอกนายท่าน สาเหตุที่พวกนั้นคิดว่านายท่านเป็นคนจากที่อื่นไม่ใช่โลกนี้เพราะหน้าตาและพลังที่ไม่ได้มาจากประตูบอร์เดอร์ใช่ไหม แต่ถ้าเอาตามที่นายท่านเล่าตอนอยู่บนชั้นสิบ มันมีพลังอีกแบบหนึ่งที่ชื่อว่า ‘ระบบ’ ใช่ไหมล่ะ”
ผู้กล้าเอริเนียอธิบายให้มิวฟังในหัว
“นายท่านแค่บอกว่ามันเป็นพลังระบบของหอคอยก็พอ.. ส่วนเรื่องที่มาน่ะนายท่านก็บอกไปตามความจริงเลยว่านายท่านเป็นใคร”
“หมายถึงชาติก่อนของนายท่านน่ะ ไม่ต้องห่วงฉันเองก็มีเรื่องสงสัยเกี่ยวกับโลกนี้เหมือนกันในระหว่างรอนายท่านออกจากหอคอยก็ได้ตรวจสอบเรื่องของนายท่านในโลกนี้แล้ว”
“เหมือนว่าข้อมูลหลายๆ อย่างในโลกนี้จะถูกทำลายไปในช่วงการปรากฏตัวของประตูบอร์เดอร์และหอคอยด้วยน่ะ”
“ดังนั้นการที่นายท่านจะให้ข้อมูลว่าเป็นใครสักคน ยังไงก็ตรวจสอบยากอยู่แล้ว ให้ความสำคัญคือนายท่านต้องระบุว่าตัวเองเป็นใครอยู่ที่ไหน หมู่บ้านอะไร..”
“ถ้าสามารถอธิบายได้เป็นฉากๆ ต่อให้พวกมันจะค้นหาก็คงหาข้อมูลไม่ได้ แต่จากคำพูดที่เป็นการให้ความจริงพวกมันก็คงต้องเชื่อแบบนั้นแน่ๆ”
“อีกอย่างโลกนี้มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ถ้าหน้าตาจะเปลี่ยนไปก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตหรือแปลกอะไรขนาดนั้น สิ่งสำคัญคือความน่าเชื่อถือในคำตอบของนายท่านเท่านั้นน่ะแหละ”
ผู้กล้าเอริเนียอธิบายอย่างชาญฉลาด เอาเข้าจริงเธอในตอนนี้ดูไม่เหมือนผู้กล้า แต่เหมือนนักวิชาการมากกว่า
มิวนึกภาพไม่ออกว่าถ้าไม่มีผู้หญิงคนนี้อยู่ด้วย หลายๆ สถานการณ์อาจจะแก้ไขไม่ได้จริงๆ หลังเห็นมิวเงียบไปพักใหญ่ก็พูดขึ้น
“ฉันชื่อว่ามิว ถึงหน้าตากับชื่อจะไม่เหมือนแต่ก็เป็นคนญี่ปุ่น….”
มิวอธิบายว่าตัวเองเป็นใครตามชาติก่อนของตัวเธอเอง แน่นอนมิวอธิบายละเอียดในระดับที่เรียกได้ว่าไม่คิดว่าเป็นเรื่องแต่งได้เลย
มีการแต่งเติมไปบ้างนิดหน่อยอย่างเช่นเรื่องครอบครัวหายตัวไป และได้นั่นได้นี่ที่มาจากประตูบอร์เดอร์เข้าไปในตัวแน่นอนว่าไม่ใช่อารยธรรม
เพราะงั้นเธอถึงไม่มีเนม แต่มันก็ช่วยทำให้มิวแข็งแกร่งขึ้นอย่างไรก็ตามแลกมากับการจำศีลอยู่หลายปีจนถึงช่วงที่ถูกช่วยโดยลูกสาวคาเอะนั่นแหละ
แน่นอนว่าเรื่องแต่งทั้งหมดนั้นมาจากผู้กล้าเอริเนียที่มีข้อมูลหลายๆ อย่างตลอดหลายวันที่ผ่านมาจากการอยู่โลกด้านนอกรอมิว..
มิวยังไม่ลืมเรื่องที่ว่าคาเอะมีพลังในการวัดอายุขัยได้ เธอจึงไม่บอกว่าเธอมีอายุช่วงไหนช่วงอะไร ทำให้มันคลุมเครือเพื่อไม่ขัดแย้งกับพลังคาเอะ
มิวรู้ว่าคาเอะไม่ใช่มิตรแท้ของเธอ แต่ก็ไม่ใช่ศัตรู.. ยังไงซะคาเอะก็เป็นคนของบอร์เดอร์ไลน์ เธอไม่คิดว่าเจ้าตัวจะช่วยตัวเองโกหก
ดังนั้นมิวจึงอธิบายให้ไม่ขัดแย้งกับเรื่องของคาเอะ.. แน่นอนว่าการที่มีเรื่องแต่งแต่มีความจริงมันยิ่งทำให้ความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปยิ่งกว่าโกหกน้ำขุ่นว่าเสียความทรงจำน่ะนะ
“สำหรับเรื่องพลัง.. อันที่จริงฉันได้ระบบมาน่ะ ถ้าถามว่าผ่านไปถึงชั้นที่สิบได้ไง… เหมือนฉันจะได้เควสลับมาน่ะ”
ตรงนี้แหละคือ Point.. ตามข่าวในเน็ตเควสลับตามหาคนถูกระบุไว้ในชั้นสอง นั่นหมายความว่าทุกคนมีความรู้เรื่องเควสลับแล้ว
แต่ไม่มีใครรู้ว่าต้องทำอะไรบ้างในเควส… มิวในตอนแรกไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่งที่สุดก็ได้ แค่ระบุไว้ว่าแข็งแกร่งมันถึงจะไม่ขัดกับการรับการโจมตีขององค์หญิงไร้เสียงได้ในตอนแรก
ทุกอย่างที่มิวพูดออกมานั้นไร้ช่องโหว่ ไอ้ความดูไม่เป็นธรรมชาติบางอย่างซึ่งมันจะสร้างความขัดแย้งในเรื่องเล่า แต่พอมองแล้วก็ไม่ขัดแย้ง
ทำให้คำโกหกนั้นเป็นเหมือนการเล่าความจริงมากกว่า และเรื่องครอบครัวของมิวที่มิวเล่าเพราะมันเป็นความจริงจึงไม่มีจุดอะไรน่าสนใจเลย
มิวเล่าเหมือนตัวเองได้มีชีวิตในญี่ปุ่นจริงๆ .. ถึงจะไม่ใช่ญี่ปุ่นในโลกนี้ก็เหอะนะ
เมื่อเทริโน่ได้ยินแบบนั้นก็เงียบลง…
อันที่จริงตอนแรกเขากังวลเรื่องมิวอาจจะมาจากอีกโลก หรือเป็นมนุษย์ต่างดาวจริงหรือเปล่าอยู่บ้าง
ถ้าเป็นก็หวังให้เป็นคนของดวงจันทร์อีกดวงก็ยังดี.. เพราะถ้าเป็นตามข่าวที่เขาได้รับมาคงจะรู้สึกแย่ไม่น้อย.. แต่ต่อให้เป็นคนของดวงจันทร์อีกดวง
เทริโน่รู้สึกว่ามีจุดแปลกๆ อยู่บ้างในคำเล่านี้ แต่มันก็ไม่ได้แปลกจนรู้สึกเป็นเหมือนเรื่องแต่ง เอาจริงชีวิตเราก็เต็มไปด้วยจุดพลิกผันแปลกๆ ที่คาดไม่ถึงออกบ่อย
ดังนั้น..ต่อให้เป็นเทริโน่ก็ตาม เทริโน่ผู้ดูแลเมืองเหนือน่านน้ำที่มีประสบการณ์ในการพูดคุยกับคนมามากมายหลากหลายแบบ
เจอความหน้านิ่งของเทพมังกรที่ไม่โป๊ะแตก กับเรื่องแต่งที่มีความจริงซึ่งคำนึงถึงความคิดของคนระดับเทริโน่ไว้จากผู้กล้าเอริเนีย
ก็ยังคงไร้เทียมทานอยู่ดี
เขาไม่สามารถจับผิดคำพูดของมิวได้เลย
…………..
[หายไปประมาณ 3 สัปดาห์ได้ครับ… ที่หายไปนานไม่ใช่อะไรคือหายไปแก้ไขโครงใหม่ (แล้วก็มีปัญหาชีวิตรุมเร้าอีกต่อหนึ่ง) เอาจริงผมแก้ไปเยอะพอสมควรครับไม่ใช่แค่ภาคนี้แต่เป็นทั้งเรื่องเลย แล้วก็ตอนเขียนนิยายตอน 135 (ตอนต่อไป) คือ Keyboard ลาลับโลกไปแล้วครับ ไว้อาลัยแด่ชีวิตที่อยู่กับผมมาร่วมสามปี *ไหว้* ซึ่งในระหว่างนี้ผมเขียนในมือถือเอานะครับ ใครอยากช่วยออกค่าคีย์บอร์ดใหม่ให้ผมก็โดเนทมาช่วยกันได้
Wallet – 0864637702 ขอบคุณล่วงหน้าครับผมมม
แต่ถึงคีย์บอร์ดจะแตกไปแล้ว ก็จะพยายามกลับมาอัพให้อย่างน้อยวันละตอนครับ – ผู้เขียน]