Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 893 เวลาไม่พอ

ตอนที่ 893 เวลาไม่พอ

  ก่อนจะเกิดสงครามที่ซึ่งรู้ดีว่าเป็นเจตนาที่แท้จริงของลูกผสมก่อนที่เหอเฟิงจะเป็นผู้ดูแลค่ายเขี้ยวหมาป่า ก่อนหน้านี้กองทัพเขี้ยวหมาป่าได้จัดการซอมบี้ในเมืองอันลูไป 200,000 ตัวแล้ว ทำให้ตอนนี้จำนวนซอมบี้ที่หลงเหลืออยู่ในเมืองอันลูเหลืออยู่ที่ประมาณ 300,000 ตัว

  หลังจากการประชุมอย่างเป็นเอกฉันท์ของทุกแผนกจึงมีการตัดสินใจให้ชินหยวนนำทหาร 500 นายไปคอยประจำตามจุดลับๆระหว่างค่ายเขี้ยวหมาป่ากับตัวเมืองอันลูเอาไว้เพื่อคอยรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นได้

  เมื่อถูกล้อมการโจมตีพวกเขาจึงต้องวางกำลังไว้รอบนอกเพื่อให้มีกำลังสนับสนุนจากวงนอกในคราวที่ถึงจุดวิกฤต

  พวกเขาไม่มีชูฮันร่วมด้วยในสงครามครั้งนี้ไม่มีความช่วยเหลือใดๆ ไม่มีทรัพยากร  มันอันตรายขนาดไหนน่ะเหรอ?

  ไม่กล้าหวังถึงชัยชนะแค่หวังว่าจะไม่ถูกบดขยี้ก็เพียงพอแล้ว!

  ————

  ค่ายเจี๋ยนอี๋และค่ายเขี้ยวหมาป่าอยู่ห่างกันเพียงแค่หนึ่งภูเขากั้นกลางเอาไว้ค่ายเจี๋ยนอี๋ซึ่งพัฒนามาจนเป็นค่ายระดับกลางโดยมีกองกำลังทหาร 5,000 นาย ตอนนี้ผู้นำค่ายอย่างหลูอี๋ซึ่งในขณะเดียวกันก็เป็นคนของค่ายเขี้ยวหมาป่าอย่างลับๆกำลังนั่งอยู่ในห้องประชุมภายในค่ายของตัวเอง

  ด้านซ้ายของหลูอี๋คือกูเหลียงเฉินที่ปิดบังตัวตนเอาไว้ด้านขวาคือคนจากซางจิง…พลโทซุนอี๋เจีย การปรากฏตัวของกูเหลียงเฉินได้สร้างความตกใจกับซุนอี๋เจียที่ไม่ได้เตรียมตัวมาไม่น้อย ท่าทางหยิ่งผยองและความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกับเหย่จือโปทำให้กูเหลียงเฉินได้นั่งถัดจากหลูอี๋

  นอกเหนือจากทั้งสามคนแล้วทั้งห้องประชุมก็ยังเต็มไปด้วยเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของค่ายเจี๋ยนอี๋ ทุกคนกำลังพูดคุยถึงเรื่องสงครามที่ค่ายเขี้ยวหมาป่ากำลังเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้ ทว่ากลับไม่มีใครที่เสนอความช่วยเหลือเลยแม้แต่น้อย

  หลูอี๋แอบส่งสายตากับกูเหลียงเฉินโดยไม่ให้ใครเห็นมันมีความกังวลในแววตาของทั้งคู่หากก็รีบลบมันไปอย่างรวดเร็ว ค่ายเขี้ยวหมาป่ากำลังตกอยู่ในวิกฤต ซึ่งทั้งคู่เองก็ได้เข้าร่วมในการปรึกษาเพื่อรับมือกับสงครามของค่ายเขี้ยวหมาป่าเหมือนกันน ทว่าในตอนนี้ต่อหน้าทุกคนมันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะออกคำสั่งส่งกองกำลังทหารจากค่ายเจี๋ยนอี๋ไปช่วยค่ายเขี้ยวหมาป่า

  เพราะเมื่อสองวันที่แล้วพวกเขาได้รับคำสั่งจากซางจิงโดยมีเพียงแค่ประโยคสั้นๆ…

  ทิ้งค่ายเขี้ยวหมาป่า

  ความรู้สึกไร้พลังเกิดขึ้นในใจของหลูอี๋จนรู้สึกท้อแท้ซางจิงกำลังกดดันเขา แม้หลูอี๋จะสร้างค่ายเจี๋ยนอี๋ขึ้นมาด้วยน้ำมือตัวเองและการตัดสินใจทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเขา เขาสามารถเมินเฉยต่ออำนาจเหนือฟ้าของซางจิงและส่งทหารทั้ง 5,000 นายของตัวเองไปยังค่ายเขี้ยวหมาป่าเดี๋ยวนี้เลยก็ได้!

  ทว่าเวลามันกระชั้นชิดเกินไปการจะเมินเฉยต่อซางจิง มันยังมีปัจจัยพื้นฐานหลายอย่างที่ต้องจัดการ ไหนจะการเห็นด้วยจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงในค่าย แล้วหลักๆก็คือซุนอี๋เจีย ค่ายเจี๋ยนอี๋ดูเหมือนจะเป็นของหลูอี๋ก็จริง แต่แม้แต่กองทัพทหารของตัวเองก็ยังไม่สามารถสั่งการให้ออกไปได้ แล้วหลูอี๋จะต่อกรกับซางจิงได้ยังไง?

  ค่ายเขี้ยวหมาป่ามีทหารรวมกันทั้งหมด2,000 คน ในขณะที่ฝั่งตรงข้ามมีซอมบี้หลายแสนตัว แค่กลุ่มซอมบี้หลายร้อยตัวก็มากพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนตื่นกลัวกันหมด!

  ในที่สุดท่ามกลางเสียงวุ่นวายในห้องประชุม ซุนอี๋เจียที่ทนไม่ไหวก็พูดขึ้น  ความหมายของซางจิงก็ชัดเจนอยู่แล้ว เราไม่มีความจำเป็นจะต้องมาปรึกษาอะไรกันที่นี้เลย   พูดจบซุนอี๋เจียก็ยกถ้วยชาขึ้นจิบเบาๆไม่คิดปิดบังความดีใจของตัวเอง  จุดจบมันก็ชัดเจน อนาคตของเมืองอันลูจะไม่มีค่ายเขี้ยวหมาป่าอยู่ 

  หลังจากสงครามครั้งนี้ค่ายเขี้ยวหมาป่าจะถูกทำลายย่อยยับ และกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็จะหายสาปสูญไปอย่างสมบูรณ์แบบ!

  หลูอี๋และกูเหลียงเฉินสูดลมหายใจลึกพร้อมกันทั้งคู่อดไม่ได้ที่จะนึกถึงบทสนทนาลับที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าล่าสุดกับวิวัฒนาการระยะ 6 ทั้งสี่คนอย่าง ซูเฟิง หลี่บี๋เฟิง หยางเทียน และราชานักล่า

  ผู้กล้าที่แท้จริงจะไม่หลบหนีราชานักล่าเป็นปราการด่านสุดท้าย ทีมนักฆ่าขนนกของซูเฟิงและหลี่บี๋เฟิงเป็นแถวหน้าในการต่อสู้ ส่วนหยางเทียนมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการเคลื่อนไหวที่ไม่มีรู้จักภายในค่ายเขี้ยวหมาป่าและเมืองอันลู

  สำหรับราชานักล่าก็ถูกเหอเฟิงจัดการวางตำแหน่งให้เรียบร้อย  นั่นก็คือรับผิดชอบค่ายเขี้ยวหมาป่าเป็นหลัก!

  หลูอี๋ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าถูกทำลาย ราชานักล่าจะสร้างจลาจลขึ้นในค่ายเจี๋ยนอี๋และลอบสังหารซุจอี๋เจียและเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของค่ายทั้งหมด!

  จากนั้น—– 

  ค่ายเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดจะย้ายมาที่ค่ายเจี๋ยนอี๋!

  ทุกคนรู้ดีว่าค่ายเขี้ยวหมาป่าจะไม่หายไปไหนแต่เมื่อลูกผสมทำสำเร็จแล้วผลลัพธ์ที่ตามมาไม่อาจจะจินตนาการได้

  มันเป็นขั้นตอนในการเล่นหมากรุกและนี้คือแผนการสุดท้ายของค่ายเขี้ยวหมาป่า และมันจะเปิดเผยทุกอย่าง

  ในเวลาเดียวกันจุดจบอันยิ่งใหญ่ของกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็จะถูกประกาศออกไปทั่ว   อย่างนั้นค่ายเขี้ยวหมาป่าก็จะหายไปเลยเหรอ? เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของค่ายเจี๋ยนอี๋พูดขึ้นพร้อมส่ายหัว มันมีความสงสารในแววตาของเขา  ฉันยังจำได้ว่าชูฮันพร้อมกับทหาร 300 คน ที่ปรากฏตัวที่ประตูเมืองของเราพร้อมกับรัศมีอำนาจ ภาพนั้นยังอยู่ในหัวอยู่เลย 

   ใช่แล้ว! นายทหารคนหนึ่งตะโกนขัดขึ้นมา  ตอนนี้ที่มีการประลอง พวกเขาแข็งแกร่งมากจริงๆ! 

   น่าเสียดายที่ชูฮันตายแล้ว! ทันทีที่ประโยคพูดขึ้นมา ทั้งห้องประชุมก็ตกอยู่ในความเงียบกริบ

  ซุนอี๋เจียยกยิ้มมุมปากอย่างสะใจหลูอี๋และกูเหลียงเฉินได้แต่เก็บซ่อนความไม่พอใจเอาไว้พร้อมกับความกังวล

  ค่ายเขี้ยวหมาป่ากำลังเผชิญกับการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่แต่ไม่มีใครได้ข่าวจากชูฮันเลย?

  เขาอยู่ที่ไหนกัน?!   —————

  ที่ทางทิศใต้ของค่ายหนานตู้ห่างออกมาไม่ถึงสิบกิโลเมตรณ แม่น้ำสายหนึ่งที่เดิมเคยมีวิวภูเขาสวยงาม ตอนนี้เต็มไปด้วยสีดำ คลุ้งด้วยกลิ่นเหม็นเน่าในอากาศ เศษเนื้อเหม็นเน่ากระจัดกระตายเต็มพื้นไปหมด ร่างซอมบี้จำนวนมากที่ชุ่มเลือดจะชิ้นส่วนหลุดขาด ภาพที่เกิดขึ้นมันน่าสยดสยองและนองเลือดจนน่าหวาดหวั่นแก่ผู้พบเห็น

  ถัดไปที่ก้อนหินใหญ่ข้างแม่น้ำชูฮันนั่งผิงก้อนหิน โดยแขนข้างหนึ่งจับขวานซิ่วโหลซึ่งกำลังเปล่งลำแสงสีดำจ้าสะท้อนแสงอาทิตย์อยู่

  ตรงข้ามชูฮันคือเกาช้าวฮุ่ยที่ท่าทางกระฉับกระเฉงกำลังถลกหนังกระต่ายป่าอย่างชำนาญแล่เนื้อ โรยเหลือ พริกไทยเพื่อปรุงรสก่อนจะนำไปย่างไฟ

  ภาพที่เกิดขึ้นทำให้หวังไคหวาดกลัวอย่างมากจนมันจินตนาถึงตัวเอง!

  และที่ทำให้หวังไคยิ่งกลัวเข้าอีกก็คือความเข้ากันได้แบบประหลาดๆของชูฮันและเกาช้าวฮุ่ย

  เกาช้าวฮุ่ยที่มาจากตระกูลลึกลับ!

  ตระกูลเกา!

  อยากจะบ้าตาย!

  การเผชิญหน้ากับคนที่น่ากลัวแบบนี้แต่ชูฮันยังมีสีหน้าไม่สนใจอะไร แถมยังดูเหมือนจะนอนรอให้เกาช้าวฮุ่ยย่างเนื้อให้กินอีก?

  นี้มันเรื่องบ้าบออะไรกัน?

 

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Status: Ongoing

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง

สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น

วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว

ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ

และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้

และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย

นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท