ตอนที่ 03 ขอร้องล่ะครับคุณเซลิสเทีย อย่าเข้ามานะ 2024
ผมรอดมาได้ครับ
“…”
ผมรอดมาได้หวุดหวิด
ลองผมชักช้าอีกเพียงไม่กี่วินาที ชีวิตของเหยื่อตัวน้อยคนนี้คงไม่พ้นโดนกลืนกินทั้งเป็น ใช่ มันเป็นต้องแบบนั้นแน่นอน ผมมั่นใจ ว่าแต่ไอ้ของที่อยู่ในมือของคุณเซลิสเทียที่ผมเห็น
มันคือเลือดใช่ไหมครับ มันคือเลือดใช่ไหม?
“…”
บอกกล่าวตามตรงผมจะยืนยันได้ยังไง
ว่ามันคือเลือดจริงหรือไม่จริง จะให้ลองเดินเข้าไปสอบถามตามตรงกับคุณเซลิสเทียก็คงไม่ไหว เกิดทำอย่างนั้นจริงขึ้นมา หัวใจดวงน้อยของผมคงแตกสลายไม่มีชิ้นดี
เอายังไงดี จะจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้ายังไงดี
“…”
ผมพยายามเหลือบมอง
เหลือบเพื่อนร่วมโต๊ะด้านข้างซึ่งก็คือคุณเซลิสเทีย หวังหาร่องรอยผิดปรกติที่เธอปลดปล่อยออกมา แต่พอผมเหลือบมองจนพอให้เห็นอะไรเป็นอะไร ผมกับต้องดึงสายตากลับ
ดึงสายตาย้อนกลับมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“…”
“!!!”
“…”
ถามว่าทำไมผมถึงต้องดึงสายตากลับมาน่ะเหรอ
กะ ก็ มันก็มีอยู่เหตุผลเดียวไม่ใช่เหรอครับ ให้ตายสิ กระทั่งตอนนี้คุณเซลิสเทียก็ยังประสาทสัมผัสว่องไหวดีเยี่ยม เพียงแค่ผมเหลือบสายตามองหวังเก็บหลักฐาน
เธอก็หันมามองสอดผสานทันที
…‘หะ หัวใจจะวาย’
“…”
แบบนี้ไม่ไหวนะ
ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป รับรองได้เลยว่าผมคงไม่พ้นต้องโดนกลืนกินหมดตัวแน่นอน อือออ อะ อาจารย์เปิดประตูเข้ามาแล้ว การสืบสวนสอบสวนคงต้องเอาไว้ก่อน
ว่าแต่วิชาที่กำลังจะเรียนคือวิชาอะไรนะ ผมลืม
“…”
—
ระหว่างเรียน
“…”
ผมเหมือนจะมีปัญหาครับ
เม็ดเหงื่อใสเริ่มปรากฏบนใบหน้า สถานการณ์ผิดแปลกในตอนนี้กำลังทำให้ผมเคร่งเครียดจนไม่เป็นอันทำอะไร ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นน่ะเหรอ ความผิดทั้งหมดต้องโทษคุณเซลิสเทียคนเดียวเลยครับ ผมมั่นใจว่าครั้งนี้ก็เป็นฝีมือของคุณเซลิสเทีย
ยิ่งมายิ่งจ้องมอง มองจนผมจะพรุนหมดแล้วเนี่ย
“…”
สุดท้ายปลายทางขีดจำกัดของผมก็มาถึงทางตัน
หลังคาบเรียน ผมไม่มีรอช้ารีบพุ่งออกไปนอกห้องเรียน บอกกล่าวตามตรงผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องไปไหน แต่หนึ่งสิ่งอย่างที่ผมรับรู้แน่นอนเลยก็คือ หากผมยังนั่งอยู่ในห้องเรียนต่อไป ผมได้เป็นบ้าแน่ เพราะฉะนั้นได้โปรด อย่าตามผมมานะ
ผมยังไม่พร้อมจริง ๆ
“…”
ว่าแต่
เป็นคุณเซลิสเทียใช่ไหมที่มองผม
หรือจะเป็นใครคนอื่น
ถ้าเป็นใครคนอื่นจริง
.
.
.
ใครล่ะครับที่มอง
อือออออ
คุณเซลิสเทียนั่นแหละ
ผมมั่นใจ
.
.
.
ที่บอกคุณเซลิสเทีย
ไม่ใช่เพราะคุณเซลิสเทีย
โทษง่ายที่สุดนะ
อย่าได้เข้าใจผิดล่ะ
—
ในห้องเรียน
“…”
“คุณเซลิสเทีย?”
“มีอะไรเหรอ?”
“เปล่าคะ” เพื่อนนักเรียนในห้องเพียงยิ้มแห้งลังเลไปชั่วครู่ขณะก่อนจะกล่าวต่อ “คือเมื่อกี้ เหมือนเห็นคุณเซลิสเทียมองไปทางประตู เลยคิดว่ามีอะไรอยากจะให้ช่วยรึเปล่า?”
“ถ้ามีบอกมาได้เลยนะคะ ฉันพร้อมช่วยเหลือ”
“…”
“ไม่เป็นไร”
เซลิสเทียส่ายหน้าปฏิเสธ
ก่อนจะรั้งดึงสายตาตัวเองกลับ แน่นอนเพื่อนสาวที่เห็นอีกฝ่ายไม่มีบอกกล่าว ไม่คิดยืมมือใครคนอื่น ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ ก่อนจะเดินกลับโต๊ะไปตามระเบียบ
ส่วนทางด้านนักล่าหล่อนเคลื่อนฝ่ามือเรียวงามลูบหลอดปริศนาที่อยู่ใต้โต๊ะ ลูบไปมาด้วยห้วงอารมณ์ความรู้สึกที่ยากจะมีใครเข้าใจ ก่อนดวงตาของหล่อนจะเปล่งประกาย
คล้ายบังเกิดแนวคิดหนึ่งแทรกแซงเข้ามา
“…”
—
ในห้องสมุด
“…”
เหมือนวันนี้จะเป็นอะไรที่แตกต่างแตกแยกออกไป
แตกแยกแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เหมือนคุณเซลิสเทียจะไม่ได้มาห้องสมุด หากเทียบเคียงเวลาที่ผมบันทึกพฤติกรรมเอาไว้ ก็น่าจะมาได้แล้ว นี่มันเลยไป 5 นาทีแล้ว
จะให้ผมรอไปถึงเมื่อไหร่กันเนี่ย
“…”
“อะ?!”
“…”
…‘ไม่! ไม่! ไม่!’
ผมไม่ได้รอสักหน่อย
ไม่ได้รอหญิงสาวแปลกประหลาดแบบนั้นแน่นอน ก็แค่ ก็แค่รู้สึกไม่ยินดีเวลาที่แผนการมันไม่ออกมาเป็นอย่างที่คิด ใช่ มันเป็นแบบนั่นแหละ 6 นาทีแล้ว แต่ทำไมยังไม่โผล่ออกมา
หรือว่าวันนี้จะไม่มากันนะ
“…”
“ไปอยู่ไหนนะ?”
“…”
ระหว่างที่ผมกำลังนั่งกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ
กวาดสายตามองหวังหานักล่าที่ไม่ตรงเวลาเอาเสียเลย แต่ว่านะ เหมือนผมจะจดจ่อกับข้างหน้ามากเกินไปจนเผลอเปิดช่องว่างถึงตายด้านหลัง เพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น
ที่ผมจมจ่อมอยู่กับการหาคุณเซลิสเทีย
“…”
“กำลังหาใครอยู่เหรอ?”
“…”
ก่อนจะมีเสียงดังมาจากด้านหลัง
ดวงตาทั้งสองพลันเบิกกว้าง เส้นประสาททั่วทั้งร่างกายต่างทำงานเต็มที่เตรียมพร้อมสำหรับสู้ศึกรบเล่นงานถึงตาย ต่อให้ไม่มองหน้า ไม่เห็นใครคนอื่นที่อยู่ด้านหลัง
ผมก็รับรู้ได้เลยทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใครคนไหน ใช่ เสียงแบบนี้ กลิ่นแบบนี้ แน่นอน มีอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น พอผมหันหลังกลับไปมองก็เห็น เห็นคุณเซลิสเทียกำลังยืนอยู่
พร้อมก้มหน้าเล็กน้อยก้มลงมามองผมที่กำลังนั่งอยู่
“…”
“ไง”
“…”
รอยยิ้มงามสง่าปรากฎบนใบหน้า
ก่อนเธอจะลงมือรวดเร็ว
ลงมือกระชากลากผมหายไปจากห้องสมุด
.
.
.
มะ ม่ายยย นะ
จะทำอะไรเนี่ย
หยุดลากผมไปได้แล้ว
ใครก็ได้ช่วยด้วย!
.
.
.
ว่าแต่ตลอดเส้นทาง
ทำไมถึงไม่มีคนเลยล่ะ
คนมันหายไปไหนหมดดดดดดด!
.
.
.
กรี๊ดดดดดด!
—
ห้องเรียนแห่งหนึ่ง
“…”
“ดะ เดี๋ยวก่อน!”
“…”
กว่าจะรู้สึกตัว
ผมก็ถูกโยนเข้าไปในห้องเรียนว่างเปล่า เป็นห้องเรียนที่ไม่มีใครคนอื่นอยู่เลยแม้แต่คนเดียว ก่อนจะตามมาด้วยเรือนร่างงดงามปานเทพธิดาเดินเข้ามาพร้อมกับล็อคประตู
ใช่ครับ ธะ เธอล็อคประตูไม่ปล่อยให้ใครคนอื่นเข้ามา
“ละ ล็อค ทะ ทำไม”
“…” คุณเซลิสเทียเอียงคอมอง
ก่อนจะกล่าวตอบแผ่วเบา
“ก็ต้องกันไม่ให้ใครเข้ามาอยู่แล้วไม่ใช่ไหม?”
“…”
“อีกอย่าง” คุณเซลิสเทียเริ่มเดินขยับเข้ามาใกล้ผม “ฉันไม่ชอบเวลามีใครเข้ามาสอดทำเสียเรื่อง ก็เลยต้องป้องกันเอาไว้ก่อน เธอเองก็คงรู้สึกไม่ดีใช่ไหม หากมีใครสักคนเข้ายุ่งวุ่นวายขณะกำลังทำเรื่องสำคัญอะไรสักอย่าง”
กะ ใกล้เกินไปแล้วครับ
“…”
ผมถอยจนจะติดกำแพงแล้วนะ
ตะ แต่คุณเซลิสเทียก็ยังเดินไล่บี้ผมต่อ ไม่ได้การแล้วแบบนี้ เกิดปล่อยผ่าน ปล่อยให้เหตุการณ์สถานการณ์เฉกเช่นนี้ดำเนินต่อไป ผมคงโดนไล่ต้อนกลืนกินทั้งเป็นแน่
ผมลอบขบริมฝีปากแน่นขณะกล่าวถามกลับ
“ตะ ต้องการอะไรครับ?”
“…” คุณเซลิสเทียหยุดก้าวเดิน
ก่อนจะกล่าวตอบ “ก็แค่อยากพูดคุย”
“…”
“เกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อเย็นวันนั้น”
ดวงตาของผมเบิกกว้าง
ตลอดเนื้อตัวพลันขนลุก
“…”
“!!!”
“…”
ไม่รอช้าผมรีบวิ่งสวนคุณเซลิสเทีย
มุ่งหน้าตรงไปที่ประตูทางออก ตรงไปที่ลูกบิด แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไง จะพยายามกี่ครั้งประตูมันก็เปิดไม่ออก ทั้งที่ล็อคจากด้านใน แต่ทำไมถึงเปิดจากด้านในไม่ได้
สีหน้าของผมเริ่มย่ำแย่
“ปะ เปิดไม่ออก”
“ทะ ทำไมถึงเปิดไม่ออก”
“ปะ เปิดสิ!”
“…”
คุณเซลิสเทียไม่ได้รีบร้อน
เธอเพียงยิ้มหัวเราะแผ่วเบา
และกล่าวกับผม
“…”
“มาคุยกันดีกว่าค่ะ”
“…”
.
.
.
เปิดน่าาาาาาา
เปิดให้ผมออกไป
ผมไม่อยากคุย