กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ – ตอนที่ 18 การเก็บเกี่ยวของอวิ๋นโม่

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

        เมื่อเห็นของที่อยู่ในมือหอกเหล็ก ดวงตาของอวิ๋นโม่ก็เป็นประกายขึ้นมา หินวิญญาณหนึ่งก้อน!

        หินวิญญาณคือรากของต้นไม้วิญญาณชนิดหนึ่งซึ่งเจริญเติบโตบนหินผลึก ภายในสะสมพลังวิญญาณเข้มข้น ผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อจิตขึ้นไปสามารถดูดซับพลังเพื่อฝึกฝน หินวิญญาณแบ่งคุณภาพได้สี่ระดับ คือ ขั้นยอดเยี่ยม ขั้นสูง กลาง และขั้นต้น หินวิญญาณในมือของหอกเหล็กเป็นหินวิญญาณขั้นต้นขนาดประมาณสองชั่งหนึ่งก้อน คุณภาพใกล้เคียงหินวิญญาณขั้นกลาง แม้จะเป็นหินวิญญาณเพียงก้อนเดียว แต่ในสถานที่อย่างเมืองกวนซานเจิ้น นี่คือสิ่งล้ำค่าที่ไม่อาจประเมินราคาเช่นเดียวกับถุงเฉียนคุน ผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อจิตต่างกระหายในหินวิญญาณอย่างที่สุด ทั้งยังต้องการมากกว่าถุงเฉียนคุน เพราะความใฝ่ฝันของผู้ฝึกยุทธ์คือการเลื่อนสู่ระดับพลังที่สูงขึ้น

        อวิ๋นโม่รับหินวิญญาณมาจากหอกเหล็ก ผงกศีรษะด้วยความพอใจ คุณค่าของหินวิญญาณก้อนนี้เหนือกว่าการเก็บเกี่ยวตลอดหลายวันที่ผ่านมาเสียอีก

        “หินวิญญาณก็มอบให้เจ้าแล้ว เจ้าปล่อยข้าไปเถอะ!” หอกเหล็กมองอวิ๋นโม่อย่างขอร้อง

        “ตกลง ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” อวิ๋นโม่ผงกศีรษะ

        หอกเหล็กได้ยินแล้วสีหน้าก็ปรากฏความยินดี แต่ในส่วนลึกของดวงตากลับมีความชั่วร้ายเข้มข้น มันสาบานว่าจะต้องหาทางฆ่าคนผู้นี้ สมบัติของหอกเหล็ก ไม่ใช่ใครที่ไหนจะเอาไปได้ง่ายๆ

        แต่ว่าทันใดนั้นแสงหนาวเย็นก็สว่างขึ้นมา มันรู้สึกลำคอเย็นวาบ เลือดสีแดงสดไหลรินราวน้ำพุร้อน

        “เจ้า… เจ้าไม่รักษาคำพูด!” หอกเหล็กกุมลำคอด้วยความหวาดกลัว คำพูดไม่ชัดเจน ร่างกายเอนล้ม แววตายังคงไม่ยินยอม จบชีวิตอย่างตายตาไม่หลับ

        “หึ!”

        อวิ๋นโม่แค่นเสียงเย็นชาคำหนึ่ง กับคนที่คิดจะฆ่าตนเอง เขาไม่จำเป็น​ต้องออมมือให้ คำพูดเมื่อครู่ก็เพียงเพื่อให้หอกเหล็กผ่อนความระมัดระวังเท่านั้น อย่างไรก็เป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์ระดับเปลี่ยนชีพจรขั้นเจ็ดชั้นฟ้า หากมันยอมสู้ตายล่ะก็ อวิ๋นโม่คงต้องสิ้นเปลืองพละกำลังมากจึงจะฆ่าอีกฝ่ายได้

        “ดูสิว่าเจ้าพวกนี้ยังมีของดีอะไรอีกบ้าง!” อวิ๋นโม่เดินไปข้างศพของพวกโจรที่ตายไปแล้ว จากนั้นเริ่มค้นห่อสัมภาระที่คนพวกนั้นสะพายติดตัว โจรระดับเสริมกำลังสองคนนับว่ายากจนที่สุด ชิ้นส่วนของสัตว์อสูรที่มีอยู่ในห่อผ้าแทบจะไม่มีราคา อวิ๋นโม่ไม่สนใจจะมองเสียด้วยซ้ำ มีเพียงสมุนไพรไม่กี่อย่างที่พอจะมีราคาอยู่บ้าง บนร่างของคนอื่นๆ มีของดีอยู่ไม่น้อย อวิ๋นโม่คัดแยกสมุนไพรและชิ้นส่วนสัตว์อสูร สุดท้ายค่อยพบว่าสมบัติติดตัวคนเหล่านี้พอรวมกันเข้าก็มีมูลค่าสูงกว่าของที่อวิ๋นโม่รวบรวมได้เสียอีก

        “ไม่รู้ว่าเจ้าพวกนี้ฆ่าคนมาแล้วกี่มากน้อยถึงได้สะสมสิ่งของได้มากมายเช่นนี้” อวิ๋นโม่พบรอยเลือดมนุษย์บนสมุนไพรและวัตถุดิบจากสัตว์อสูร ชัดเจนว่าสิ่งของเหล่านี้ถูกพวกโจรแย่งชิงมา

        สุดท้ายเขาเดินไปยังห่อสัมภาระของหอกเหล็ก หวังว่าจะพบหินวิญญาณอีกสักก้อน แต่เมื่อเปิดดูก็เห็นเพียงสมุนไพรเท่านั้น

        “เหอะ ข้ามัวแต่คิดอะไรอยู่ ได้หินวิญญาณมาหนึ่งก้อนก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ยังจะมี… เอ๋ นี่คือ”

        อวิ๋นโม่คว้าสมุนไพรต้นหนึ่งขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น มันมีใบเรียวบางสามใบ หลังจากตรวจดูอย่างละเอียดก็ทำให้คนตื่นเต้นจนหัวใจแทบระเบิด

        “หญ้าผลาญวิญญาณ! เป็นหญ้าผลาญวิญญาณจริงๆ ด้วย!”

        อวิ๋นโม่ตื่นเต้นสุดระงับ สมุนไพรที่ถูกหอกเหล็กยัดเก็บไว้อย่างไม่สนใจต้นนี้ ที่จริงแล้วคือหญ้าผลาญวิญญาณ! มันเป็นสมุนไพรวิญญาณที่เมื่อกินเข้าไปจะออกฤทธิ์เผาผลาญจิตวิญญาณ แต่สามารถนำไปหลอมเป็นโอสถเสริมวิญญาณซึ่งช่วยเสริมสร้างจิตวิญญาณของผู้ฝึกยุทธ์ หากผู้ฝึกยุทธ์ระดับเสริมกำลังได้กินโอสถเสริมวิญญาณจะเกิดญาณหยั่งรู้!

        ญาณหยั่งรู้ คือ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อจิตวิญญาณแข็งแกร่งถึงระดับหนึ่ง ญาณหยั่งรู้เกี่ยวพันกับจิตวิญญาณ เสมือนลมปราณเกี่ยวพันกับร่างกาย เมื่อมีญาณหยั่งรู้ ผู้ฝึกยุทธ์ก็เหมือนกับมีดวงตาที่มองเห็นทุกสิ่งได้อย่างทะลุปรุโปร่งข้างหนึ่ง สามารถตรวจสอบสถานการณ์ภายนอกแม้มีวัตถุขวางกั้น โดยทั่วไปจะต้องเข้าสู่ระดับก่อจิตไปแล้วจึงจะสามารถก่อเกิดญาณหยั่งรู้ อีกอย่างถุงเฉียนคุนจำเป็นต้องมีญาณหยั่งรู้ก่อนจึงจะใช้งานได้ ก่อนหน้านี้อวิ๋นโม่ยังคิดว่าหาทางครอบครองถุงเฉียนคุนก่อนค่อยเค้นสมองคิดวิธีใช้งานภายหลัง คาดไม่ถึงว่าจะมีโชคใหญ่ได้รับหญ้าผลาญวิญญาณหนึ่งต้นจากกลุ่มโจรที่นี่

        “หอกเหล็กผู้นี้สมควรไม่รู้จักหญ้าผลาญวิญญาณ จึงเก็บมันไว้อย่างลวกๆ” อวิ๋นโม่หยิบกล่องไม้สำหรับเก็บรักษาสมุนไพรวิญญาณโดยเฉพาะออกมา ค่อยๆ วางหญ้าผลาญวิญญาณลงไปอย่างระมัดระวัง

        “สมุนไพรวิญญาณและวัตถุดิบจากสัตว์อสูรที่เก็บมาได้ก่อนหน้านี้ รวมกับสิ่งของจากพวกโจร ก็น่าจะพอถูไถแล้ว” อวิ๋นโม่พูดกับตัวเอง ต่อให้ไม่พอเขาก็ไม่คิดจะค้นหาอีก เมื่อมีหญ้าผลาญวิญญาณ เขาก็อยากหลอมโอสถเสริมวิญญาณอย่างทนรอไม่ไหว เพื่อก่อญาณหยั่งรู้ ยกระดับความสามารถขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

        อวิ๋นโม่ที่กำลังจะจากไปพลันหยุดเท้า หลังขบคิดครู่หนึ่งก็รวบรวมอาวุธของโจรระดับเปลี่ยนชีพจรทั้งห้าคน อาวุธของคนเหล่านี้พอจะฝืนเรียกว่าอาวุธวิญญาณได้อยู่ มีราคาไม่น้อย ส่วนอาวุธธรรมดาของระดับเสริมกำลังอีกสองคน อวิ๋นโม่ย่อมไม่สนใจ

        อวิ๋นโม่เคลื่อนกายไปตามเส้นทางที่เหล่าผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นใช้เสาะหาสัตว์อสูรบนภูเขา เพียงไม่นานก็สามารถออกจากเทือกเขาเหนือเมฆาได้สำเร็จ

        ยามที่อวิ๋นโม่ปรากฏตัว บนหลังแบกสัมภาระสองห่อใหญ่ ในมือถืออาวุธวิญญาณหลายชิ้น คนมากมายเบิกตาโตมองเขาอย่างพูดอะไรไม่ออก

        “เป็นไปไม่ได้ ข้าตาฝาดไปหรือไม่ เด็กหนุ่มนั่น ยังมีชีวิตรอดออกมา!”

        เจ้าของแผงที่ก่อนหน้านี้เคยขอซื้อคืนเหมันต์ขยี้ตาของตน มองอวิ๋นโม่อย่างไม่อยากจะเชื่อ “ไอ้หนุ่มนั่นไม่ใช่แค่มีชีวิตรอดออกมา แต่ยังเหมือนได้อะไรติดมือมาไม่น้อยด้วย”

        เจ้าของแผงที่เคยแนะนำอวิ๋นโม่ด้วยความปรารถนาดีก็ตกตะลึงเช่นกัน พอเห็นอาวุธวิญญาณในมือของอวิ๋นโม่ก็อ้าปากค้าง ร่างกายสั่นสะท้านขึ้นมา 

        “นี่มัน… นี่มัน…”

        “กรงเล็บคร่าวิญญาณ แล้วยังหอกเหล็ก! เจ้า… เจ้าฆ่าพวกแมวป่าและหอกเหล็กได้” เจ้าของแผงผู้นั้นถามตะกุกตะกัก

        เห็นได้ชัดว่าทั้งแมวป่าและหอกเหล็กเป็นโจรป่าที่มีชื่อเสียง เมื่อเจ้าของแผงเห็นอาวุธของทั้งสองจึงแสดงสีหน้าเช่นนี้

        ตอนนี้สายตาที่ทุกคนมองไปยังอวิ๋นโม่เปลี่ยนไปแล้ว เขาไหนเลยจะเป็นเด็กน้อยระดับเสริมกำลังที่ไร้ประสบการณ์ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าต้องเป็นยอดฝีมือระดับเปลี่ยนชีพจรชั้นสูงที่มีประสบการณ์โชกโชน! ไม่เพียงกล้าขึ้นเขาไปตามลำพัง แต่ยังฆ่าโจรป่าชื่อฉาวโฉ่ไปหลายคน 

        ตึง!

        อวิ๋นโม่วางห่อผ้าสะพายหลังที่เก็บวัตถุดิบจากสัตว์อสูรลงบนโต๊ะของเจ้าของแผงผู้ใจดี “ท่านรับซื้อวัตถุดิบจากสัตว์อสูรไม่ใช่หรือ ของพวกนี้จะรับหรือไม่”

        เมื่ออวิ๋นโม่แกะห่อผ้าออก เจ้าของร้านผู้นั้นก็เบิกตาโต

        “ดวงตาของวิฬารเนตรวิญญาณ ขนอ่อนของอินทรีฟ้าคราม ดีงูของอสรพิษลิ้นไฟ… นี่… นี่…” วัตถุดิบจากสัตว์อสูรแต่ละชนิดล้วนมีราคาสูง ทำให้เจ้าของแผงถึงกับตาพร่า

        วัตถุดิบเหล่านี้ล้วนไม่ธรรมดา ต่อให้เป็นยอดยุทธ์จากสามตระกูลใหญ่ในเมืองกวนซานเจิ้นเกรงว่าไม่ได้ของดีมามากขนาดนี้

        “ต้องการหรือไม่”

        “ต้องการ! ต้องการแน่นอน!” เจ้าของแผงรีบพยักหน้ารับ เขารวยแล้ว ซื้อขายเพียงรอบเดียวเกรงว่ายังเหนือกว่าที่ทำมาตลอดหลายเดือน ปกติแล้วตนได้แต่ซื้อสินค้ามีตำหนิ เพราะขุมกำลังใหญ่เมื่อออกมาจากเทือกเขาจะไม่ขายอะไรให้พวกเขา

        เจ้าของแผงลอยอื่นๆ พากันมองเจ้าของแผงผอมสูงด้วยสีหน้าอิจฉา ในใจอดคิดไม่ได้ว่า หากตอนนั้นมีน้ำใจเตือนอวิ๋นโม่สักคำ ไม่แน่ว่ายามนี้ตนเองอาจพอมีส่วนแบ่งบ้าง

        “ข้าต้องการวัตถุดิบพวกนี้ทั้งหมด แต่ตอนนี้ข้ามีเงินไม่พอ จำเป็นต้องไปรวบรวมมาก่อน นายท่านสามารถรอสักหน่อยได้หรือไม่ ขอแค่ครึ่งชั่วยาม*เท่านั้น!” เจ้าของร้านผอมสูงเอ่ยอย่างนอบน้อมต่ออวิ๋นโม่โดยไม่รู้ตัว

        “ไม่มีปัญหา เจ้าไปเถอะ ข้าจะรออยู่ที่นี่” อวิ๋นโม่เอ่ย เขารู้ว่าการซื้อขายที่นี่ให้ราคาต่ำกว่าเมืองกวนซานเจิ้นอยู่บ้าง แต่เจ้าของแผงผอมสูงผู้นี้มีน้ำใจให้คำแนะนำซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเขา ดังนั้นหากเขาจะช่วยเหลือเจ้าของแผงบ้างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

        ส่วนสมุนไพรที่แบกอยู่บนหลัง เขาย่อมไม่ขายที่นี่อยู่แล้ว

        ………………………………………

        *时辰 Shíchén หน่วยนับเวลา 1 ชั่วยาม เท่ากับ 2 ชั่วโมง

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

Status: Ongoing
ถูกศิษย์รักทรยศ! แพทย์โอสถอันดับหนึ่งในใต้หล้าไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกหักหลัง! ทั้งเคี่ยวเข็ญ ผลักดัน คอยหลอมสมุนไพรเพิ่มพูนกำลังตลอดหลายร้อยปี บัดนี้.. เด็กไร้ค่านั่นได้ใช้นาม “จักรพรรดิลั่วเทียน” ผู้ยิ่งใหญ่ แต่เขากลับกลายเป็นเพียงเสี้ยนหนามที่ต้องถูกกำจัด! ฉับพลัน การจุติครั้งใหม่จึงอุบัติขึ้น.. ในร่าง “อวิ๋นโม่” จุดด่างพร้อยของตระกูลที่ถูกทารุณอย่างโหดร้ายจนตายอย่างไร้ทางสู้ แม้เป็นร่างใหม่ ภพชาติเปลี่ยนไป แต่ไฟบรรลัยกัลป์แห่งความเจ็บแค้นนั้นยังคุกรุ่น ครานี้หรือ.. จักยอมให้เหยียบย่ำ ทั้งโอสถตำรา.. คาถา.. สมุนไพร.. หม้อหลอมยา.. และพละกำลัง จากคนธรรมดาจึงทะยานขึ้นเหนือใต้หล้า.. ในฐานะปรมาจารย์เทพโอสถ! “ข้าทุ่มเทชีวิตจิตใจ ดูแลดั่งลูกในไส้ เจ้ากลับสังหารอาจารย์ จักทุ่มเทฝึกฝนสุดกำลัง ให้ไอ้ศิษย์ทรยศนั่นต้องจ่ายค่าตอบแทน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท