กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ – ตอนที่ 34 หลอม​โอสถสำเร็จ

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

        ช่างตีเหล็กฟางแบกเตาหลอมใบหนึ่งติดตามอยู่ด้านหลังอวิ๋นโม่ พอเห็นการแสดงออกของผู้เฒ่ากัวก็ให้ความเคารพอวิ๋นโม่มากกว่าเดิม

        “จัดเตรียมวัตถุดิบและสมุนไพรวิญญาณที่ต้องใช้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” อวิ๋นโม่หันไปมองวัตถุดิบหลอมอุปกรณ์วิญญาณพร้อมถาม

        “เตรียมเอาไว้หมดแล้วขอรับ ทั้งยังเตรียมเผื่อไว้ถึงสองชุด!” อู่ซานเหอตอบด้วยความเคารพ น้ำเสียงสั่นเทาด้วยความตื่นเต้น

        ในที่สุดเขาก็จะสามารถสลายพิษที่เหลือของมดพ่นอัคคีจนหมดเสียที

        “เช่นนั้นก็ดี โอสถสลายพิษค่อนข้างหลอมได้ยาก เตรียมไว้สองชุดนับว่ารอบคอบ” อันที่จริงสำหรับอวิ๋นโม่แล้ว โอสถสลายพิษนั้นทำได้ง่ายมาก แต่ต้องใช้เตาหลอมโอสถชั้นดี อวิ๋นโม่กังวลว่าเตาหลอมโอสถที่ช่างตีเหล็กฟางทำขึ้นมาจะใช้การไม่ได้

        การหลอมโอสถให้มีคุณภาพถึงระดับหนึ่ง จำเป็นต้องใช้สัมผัสเต๋าสอดประสานตามแต่ละขั้นตอนในสูตรยา พลังของเขาที่อยู่ในระดับเสริมกำลังไม่อาจทำเช่นนั้นได้ จึงต้องอาศัยเตาหลอมโอสถแบบพิเศษ หากเตาหลอมโอสถที่สร้างโดยช่างตีเหล็กฟางด้อยคุณภาพ การหลอมโอสถก็เป็นเรื่องยาก

        อวิ๋นโม่ชี้วัตถุดิบสำหรับหลอมอุปกรณ์ก่อนเอ่ย “เตรียมห้องที่เงียบสงบสักห้องพร้อมอุปกรณ์ให้ช่างตีเหล็กฟาง”

        “ขอรับ!” อู่ซานเหอตอบรับอย่างนอบน้อม ถึงจะไม่รู้ว่าอวิ๋นโม่ให้ช่างตีเหล็กฟางทำอุปกรณ์อะไร แต่ความต้องการเรียบง่ายเท่านี้ เขาย่อมไม่ปฏิเสธ

        ในร้านของอู่ซานเหอ มีห้องที่ค่อนข้างมิดชิดอยู่หลังหนึ่ง นั่นเป็นห้องที่เขาใช้ฝึกอยู่บ่อยๆ ก่อนหน้านี้เมื่อโดนพิษไฟไปแล้ว ถึงจะรู้ว่าไม่อาจรักษา แต่ก็ยังพยายามอยู่ทุกวันโดยไม่ถอดใจ

        เพียงไม่นานเสียงติงๆ ตังๆ ก็ดังออกมาจากในห้อง นั่นคือเสียงที่ช่างตีเหล็กฟางกำลังทำอุปกรณ์

        เวลาผ่านไปหนึ่งวัน ในที่สุดช่างตีเหล็กฟางก็ทำอุปกรณ์วิญญาณทั้งหมดจนครบ ผู้เฒ่ากัวรอเงียบๆ อยู่ด้านนอกไม่ยอมจากไปเพราะเขาคิดจะผูกมิตรกับอวิ๋นโม่ นี่คือเทพสมบัติองค์หนึ่งเชียวนะ หากกอดขาเทพสมบัติเอาไว้ให้มั่น เขาไม่เพียงแต่จะมีอนาคตสดใส ไม่แน่ยังอาจได้รับรางวัลใหญ่จากสาขาหลักของสถานจัดการประมูลอินทรีเพลิง

        “ผู้อาวุโส จัดทำชิ้นส่วนทั้งหมดตามคำสั่งของท่านเรียบร้อยแล้วขอรับ” ช่างเหล็กฟางเอ่ยอย่างนอบน้อม

        “อืม” อวิ๋นโม่รับคำเบาๆ โดยไม่ปฏิเสธคำเรียกเช่นนี้ หากนับรวมชาติก่อนเขาก็อยู่มาสามพันปี เป็นบรรพชนของช่างตีเหล็กฟางได้แล้ว อีกฝ่ายสมควรเรียกเขาเป็นผู้อาวุโส 

        อวิ๋นโม่ตรวจสอบอุปกรณ์เหล่านั้นอย่างละเอียด สีหน้าปรากฏความเสียดายอยู่บ้าง “เกือบดีแล้ว” เด็กหนุ่มถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ได้ ช่างทำอุปกรณ์ที่เก่งที่สุดเท่าที่เขาหาได้ในตอนนี้มีแต่ช่างตีเหล็กฟางแล้ว

        ช่างตีเหล็กฟางเอ่ยตอบ “ประเด็นสำคัญคือ ไม่มีเปลวไฟที่รุนแรงพอ เพลิงวิญญาณของข้าสามารถหลอมได้แค่อุปกรณ์วิญญาณเช่นนี้ หากมีเชื้อไฟที่ดีละก็ ข้าสามารถยกระดับอุปกรณ์ชิ้นนี้ได้อีกขั้นหนึ่ง”

        เชื้อไฟคือรากฐานของเปลวไฟ ตัวอย่างเช่น ไม้ฟืน เป็นเชื้อไฟที่ธรรมดาที่สุด นอกจากนี้ยังมีหินวิญญาณที่ใช้พลังวิญญาณไปหมดแล้ว และไม้ฟืนบางชนิดก็สามารถจุดติดเปลวไฟที่พิเศษขึ้นมาได้ ทั้งหมดล้วนเป็นเชื้อไฟที่สามารถสร้างเปลวไฟแบบพิเศษ ช่างทำอุปกรณ์หลอมอุปกรณ์ แพทย์โอสถหลอมโอสถ แต่ละงานต้องเลือกใช้เชื้อไฟอย่างเหมาะสม สร้างเปลวเพลิงแบบเฉพาะ

ช่างตีเหล็กฟางนึกประหลาดใจ อุปกรณ์ที่อวิ๋นโม่ขอให้เขาหลอมขึ้นมาล้วนมีลักษณะพิเศษ เขาดูไม่ออกเลยว่าพวกมันมีประโยชน์ใช้สอยอย่างไร และเพราะบารมีของอวิ๋นโม่เขาจึงไม่กล้าถาม

        อวิ๋นโม่ค่อนข้างขัดเคือง นอกจากไม่มีเชื้อไฟที่ดีแล้ว ความสามารถของช่างตีเหล็กฟางต่ำเกินไปก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง หากช่างตีเหล็กฟางมีพลังระดับท่องพันลี้หรือสูงกว่านี้คงสามารถสร้างเตาหลอมโอสถที่ตรงความต้องการของเขาออกมาได้

        แต่อวิ๋นโม่ไม่ได้ผิดหวังมากนัก อย่างน้อยเตาหลอมโอสถใบนี้ก็ยังดีกว่าเตาหลอมใบก่อนที่ไม่ใช่แม้แต่อุปกรณ์วิญญาณ แม้ช่างตีเหล็กฟางที่อยู่ระดับก่อจิตจะยังไม่เข้าใจถึงวิถีแห่งฟ้าดินทำให้เตาหลอมโอสถที่สร้างขึ้นมีขีดจำกัด แต่อักขระที่เขาใช้พลังปราณสลักลงไปก็เพียงพอที่จะช่วยดูดซับพลังแห่งฟ้าดินได้บ้าง ซึ่งย่อมดีกว่าไม่ได้เลย

        “เอาล่ะ เจ้าไปได้แล้ว” อวิ๋นโม่หยิบตั๋วเงินมูลค่าสองหมื่นเหรียญทองออกมายัดใส่มือช่างตีเหล็กฟาง จากนั้นโบกมือให้เขาจากไปได้

        “ผู้อาวุโส นี่…” ช่างตีเหล็กฟางถือตั๋วเงินด้วยความว้าวุ่นใจ

        “ข้าให้เจ้า เจ้าก็เก็บเอาไว้ ข้าบอกแล้วว่าคนอย่างข้าไม่ชอบเอาเปรียบใคร”

        “เช่นนั้นก็ขอบพระคุณผู้อาวุโสแล้ว” ช่างตีเหล็กฟางโค้งคำนับ จากนั้นล่าถอยออกจากห้อง

        หลังจากอู่ซานเหอส่งสมุนไพรเข้ามา อวิ๋นโม่ก็สั่งห้ามไม่ให้ใครรบกวนแล้วปิดประตูห้อง เริ่มต้นประกอบชิ้นส่วนเตาหลอมโอสถเข้าด้วยกันและเริ่มหลอมโอสถ เชื้อไฟย่อมเป็นไม้ฟืนที่เขาเตรียมไว้ในถุงเฉียนคุนแต่แรก

        เตาหลอมใบนี้มีช่องใส่ยาหลากหลายตำแหน่ง ขณะหลอมยาสมุนไพรแต่ละชนิดใช้ไฟไม่เหมือนกัน อวิ๋นโม่ในตอนนี้ยังไม่สามารถใช้พลังปราณควบคุมมัน จึงได้แต่พึ่งพาประสิทธิภาพของเตาหลอมเท่านั้น ฝีมือการหลอมโอสถของอวิ๋นโม่ลื่นไหลเหมือนสายน้ำ เวลาใดต้องใส่สมุนไพรตัวใดก็หยิบจับได้อย่างแม่นยำ การหลอมโอสถชนิดนี้เป็นเรื่องง่ายดาย แต่จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเตาหลอมที่ช่างตีเหล็กฟางสร้างออกมาเป็นเช่นไร

        “อืม นับว่าไม่เลว” อวิ๋นโม่เอ่ยเสียงทุ้ม ขณะที่เปลวไฟมีอุณหภูมิที่ถูกต้อง อักขระบนเตาหลอมก็เริ่มทำงาน ไอน้ำไร้รูปร่างรวมตัวเป็นรูปเม็ดยาที่ยังไม่สมบูรณ์

        เมื่อถึงเวลาอวิ๋นโม่ก็ปลดปล่อยญาณหยั่งรู้เข้าไปหลอมรวมตัวยาภายในเตาหลอมให้กลายเป็นลูกกลอน

        “สำเร็จแล้ว”

        หลังผ่านไปสองชั่วยาม อวิ๋นโม่ก็เปิดฝาเตา เผยให้เห็นโอสถสองเม็ด นี่เป็นโอสถที่ถูกต้อง กลิ่นหอมเข้มข้นกระจายออกมา เหนือกว่าลูกกลอนของตระกูลอวิ๋นอย่างไม่อาจเทียบ

        “แม้จะด้อยคุณภาพไปสักหน่อย และทำได้แค่สองเม็ด แต่ก็เพียงพอที่จะสลายพิษอัคคีในตัวอู่ซานเหอแล้ว” อวิ๋นโม่พูดกับตนเอง

        โอสถถอนพิษประเภทนี้มีอยู่ด้วยกันสี่ระดับ ปกติต้องให้ผู้แข็งแกร่งระดับคงเขตแดนที่อยู่เหนือระดับท่องพันลี้ขึ้นไปเป็นผู้หลอม ทั้งยังต้องเป็นผู้แข็งแกร่งระดับคงเขตแดนชั้นสูงที่มีฝีมือหลอมโอสถระดับห้าขึ้นไปเท่านั้น หากคนอื่นรู้ว่าอวิ๋นโม่ที่เป็นเพียงระดับเสริมกำลังใช้เตาหลอมโอสถที่ไม่ได้เรื่องสักเท่าไรหลอมโอสถชนิดนี้ออกมา เกรงว่าคงแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่จนผู้คนคลุ้มคลั่ง

        อวิ๋นโม่เก็บเตาหลอมโอสถและจัดการเศษขี้เถ้าจากการเผาไหม้จนเรียบร้อย เขาไม่ต้องการให้ใครสืบหาอะไรได้ทั้งนั้น

        เมื่ออู่ซานเหอที่อยู่ด้านนอกได้กลิ่นหอมของโอสถ สีหน้าพลันตกตะลึงทันที เอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “สำเร็จแล้ว! สำเร็จแล้ว! ใต้เท้าแพทย์โอสถจะต้องหลอมโอสถถอนพิษสำเร็จแล้วแน่ๆ!”

        ช่างตีเหล็กฟางและผู้เฒ่ากัวเฝ้ารออยู่ด้านนอกโดยไม่จากไป ผู้เฒ่ากัวเองก็เป็นคนมีประสบการณ์ เพียงได้กลิ่นหอมก็รู้ทันที

        “นี่ต้องเป็นโอสถระดับสองขึ้นไป! ใต้เท้าท่านนี้ช่างไม่ธรรมดา!” ผู้เฒ่ากัวเอ่ยเสียงเบา ตัดสินใจว่าจะต้องกอดขาของอวิ๋นโม่ให้ได้

        แอ๊ด!

        อวิ๋นโม่เก็บของเรียบร้อยก็เปิดประตูออกไป ส่งโอสถสองเม็ดให้อู่ซานเหอ “กินหนึ่งเม็ดก่อน มันสมควรสลายพิษอัคคีในร่างของเจ้าได้ หากยังไม่หายค่อยกินอีกหนึ่งเม็ด”

        “ขอบพระคุณใต้เท้าแพทย์โอสถ!” อู่ซานเหอซาบซึ้ง รับโอสถไปด้วยความขอบคุณอย่างที่สุด 

        “นี่คือ”

        ทันใดนั้นพวกอู่ซานเหอทั้งสามคนต่างก็ตัวแข็งค้าง ตะลึงมองโอสถทั้งสองเม็ดด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ

        “สวรรค์! โอสถระดับสี่ นี่เป็นโอสถระดับสี่!” ผู้เฒ่ากัวร้องลั่น ทั้งสามตกตะลึง โอสถระดับสี่เชียวนะ มีแต่ผู้แข็งแกร่งระดับคงเขตแดนเท่านั้นจึงจะสามารถหลอมลูกกลอนโอสถระดับนี้ออกมาได้

        บนเม็ดยา​มีลวดลายสี่สายบ่งบอกสถานะของมัน ​โอสถ​ที่เป็นลูกกลอนมีลักษณะ​เฉพาะ​ของตัวเอง ยามขึ้นรูปจะเริ่มปรากฏ​ลวดลาย จำนวนลายเส้นเป็น​ตัวบ่งบอกคุณภาพ

        อันที่จริงสำนัก​ศึกษา​ราชวงศ์​จั่วสุยก็มีแพทย์​โอสถ​ที่หลอมลูกกลอนระดับสี่ได้ แต่อัตราความสำเร็จ​ไม่สูง ทั้งยังเป็นโอสถถอนพิษอัคคีระดับสี่ที่มีสรรพคุณ​ตามมาตรฐาน โอสถ​ระดับสี่ขั้นสูง​เช่นนี้ พวกเขาทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นอู่ซานเหอจึงไม่อาจถอนพิษอัคคีในร่าง ใช่ว่าสำนัก​ศึกษา​ราชวงศ์​จั่วสุยจะไม่มีแพทย์​โอสถที่สามารถหลอมโอสถ​ระดับสี่ขั้นสูง แต่บุคคลเช่นนั้น อู่ซานเหอจะเชิญมาได้อย่างไร

        สายตาที่พวกอู่ซานเหอมองอวิ๋นโม่เปลี่ยนไปแล้ว ผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้อาจเป็นถึงยอดฝีมือระดับคงเขตแดน!

        อวิ๋นโม่รู้ว่าพวกเขาเข้าใจผิดแล้ว แต่ก็ไม่แก้ไข การที่คนเหล่านี้ให้ความเคารพเขาย่อมเป็นเรื่องดี

        “ใต้เท้าแพทย์โอสถ ไม่ทราบว่าข้าสมควรตอบแทนท่านเช่นไร” อู่ซานเหอเก็บยาพร้อมสอบถามด้วยความเคารพ ไม่ต้องทดสอบก็รู้ว่ายาเม็ดนี้สามารถสลายพิษในตัวเขาได้แน่ บุญคุณช่วยขจัดพิษเปรียบเหมือนบุญคุณช่วยชีวิต แค่มอบง้าวให้เล่มหนึ่งจะนับเป็นการตอบแทนบุญคุณได้อย่างไร

        “ผู้อาวุโส หากภายหน้าต้องการหลอมอุปกรณ์ชนิดใดโปรดสั่งมาได้เลย ผู้เยาว์จะไม่ปฏิเสธเด็ดขาด! และขอผู้อาวุโสอย่าได้จ่ายค่าตอบแทนใดๆ อีก สามารถรับใช้ผู้อาวุโสถือเป็นเกียรติของผู้เยาว์!” ช่างตีเหล็กฟางประสานหมัด

        ผู้เฒ่ากัวก็รีบเอ่ยปาก “ใต้เท้า หากมีเรื่องใดต้องการให้ช่วยเหลือ สถานประมูลอินทรีเพลิงของเราจะต้องสนับสนุนเต็มกำลัง” 

        ชายชราผู้มีไหวพริบรีบลากนามของสถานจัดการประมูลออกมา อำนาจใช้สอยสถานจัดการประมูลย่อมมีคุณค่าเหนือกว่าตัวเขามากมาย ครั้งนี้เขาไม่กล้าเลือกผิดอีกแล้ว ท่านผู้นี้มีความสามารถหลอมโอสถระดับสี่อยู่กับตัว เขาจะต้องกอดขาข้างนี้เอาไว้ให้มั่น ต่อให้เป็นเพียงฝุ่นทรายที่ร่วงหล่นจากปลายนิ้วก็สร้างกำไรให้เขามหาศาลแล้ว

        “เรื่องตอบแทนนั้นไม่จำเป็น คืนเหมันต์เล่มนั้นก็ใช้เหมาะมือดี” อวิ๋นโม่โบกมือ

        “ไม่ได้นะขอรับ ใต้เท้าแพทย์โอสถ อาวุธเพียงชิ้นเดียวไหนเลยจะตอบแทนบุญคุณท่านได้” อู่ซานเหอกล่าวอย่างร้อนใจ เขารู้ดี หากระหว่างพวกเขามีความสัมพันธ์แค่การแลกเปลี่ยน ต่อไปคงไม่มีโอกาสได้เจอแพทย์โอสถท่านนี้อีก

        ………………………………………

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

Status: Ongoing
ถูกศิษย์รักทรยศ! แพทย์โอสถอันดับหนึ่งในใต้หล้าไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกหักหลัง! ทั้งเคี่ยวเข็ญ ผลักดัน คอยหลอมสมุนไพรเพิ่มพูนกำลังตลอดหลายร้อยปี บัดนี้.. เด็กไร้ค่านั่นได้ใช้นาม “จักรพรรดิลั่วเทียน” ผู้ยิ่งใหญ่ แต่เขากลับกลายเป็นเพียงเสี้ยนหนามที่ต้องถูกกำจัด! ฉับพลัน การจุติครั้งใหม่จึงอุบัติขึ้น.. ในร่าง “อวิ๋นโม่” จุดด่างพร้อยของตระกูลที่ถูกทารุณอย่างโหดร้ายจนตายอย่างไร้ทางสู้ แม้เป็นร่างใหม่ ภพชาติเปลี่ยนไป แต่ไฟบรรลัยกัลป์แห่งความเจ็บแค้นนั้นยังคุกรุ่น ครานี้หรือ.. จักยอมให้เหยียบย่ำ ทั้งโอสถตำรา.. คาถา.. สมุนไพร.. หม้อหลอมยา.. และพละกำลัง จากคนธรรมดาจึงทะยานขึ้นเหนือใต้หล้า.. ในฐานะปรมาจารย์เทพโอสถ! “ข้าทุ่มเทชีวิตจิตใจ ดูแลดั่งลูกในไส้ เจ้ากลับสังหารอาจารย์ จักทุ่มเทฝึกฝนสุดกำลัง ให้ไอ้ศิษย์ทรยศนั่นต้องจ่ายค่าตอบแทน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท