เกิดใหม่อยากเป็นขุนนางร้ายเเต่ทำไมดันกลายเป็นนักบุญ – ตอนที่ 2 ความภักดีของอัศวินหญิงผู้มีอารมณ์สุดรุนแรง

เกิดใหม่อยากเป็นขุนนางร้ายเเต่ทำไมดันกลายเป็นนักบุญ

Stage1-2  ความภักดีของอัศวินหญิงผู้มีอารมณ์สุดรุนแรง

 

 

“ถ้าอย่างนั้นท่านโอกะ ฉันจะไปเตรียมของก่อน ท่านช่วยรอสักครู่ได้ไหมคะ”

 

“ผมเตรียมทุกอย่างที่ต้องการให้แล้ว ไม่ต้องห่วง”

 

“ไม่ค่ะ ฉันอยากให้ท่านรอก่อน เพื่อที่ฉันจะได้แสดงความสามารถเเท้จริงให้ท่านเห็น”

 

เข้าใจล่ะ ว่ากันว่าความสามารถของสกิลมาจากอาวุธที่ใช้

 

คริสอาจจะไปเอาอาวุธมาทดสอบให้ผมดูก็ได้

 

พูดตามตรง ผมไม่มีความรู้มากนักเกี่ยวกับระดับของอาวุธที่ใช้ แต่ผมรู้ว่าเธอเป็นผู้ใช้ สกิล

 

ผมแน่ใจว่าดาบของเธอต้องเป็นดาบที่ดีเเน่

 

“ก็ได้. เเต่ผมไม่ได้อยากจะอยู่ที่นี่นานนัก ช่วยไวๆหน่อยละกัน”

 

“เข้าใจเเล้วค่ะ.”

 

จากนั้นเธอก็ออกจากห้องไป

 

หลังจากยืนยันว่าไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอ ผมก็ทรุดตัวลงกับเก้าอี้อย่างแรง

 

“เฮอะ… ฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น!

 

บัดนี้เธอจะเป็นคนรับใช้ผู้ภักดีต่อฉันไปตลอดชีวิต

 

ความยุติธรรมน่ะเหรอ? ปลดปล่อยมันออกมาเลยเเสดงมันออกมาให้เต็มที่

 

แต่คริสจะมีสีหน้าแบบไหนกันนะเมื่อเธอได้รู้ว่าชายที่อยู่ข้างๆตัวเองที่เชื่อสนิทใจว่าเป็นพันธมิตรคือคนที่ชั่วช้ามากที่สุด?

 

แค่คิดก็… คุคุคุ มีความสุขเเล้ว

 

เหตุผลในการรับคริสมามีมากกว่านั้น

 

เวทีประลอง การวางเงินเดิมพันจะยังคงเติบโตต่อไป

 

ถ้าผมได้เป็นเจ้าของกำไรก็จะมหาศาล

 

หากเธอเป็นอันดับหนึ่งในปัจจุบันและยังจู้จี้เกี่ยวกับการจับคู่ประลอง การเอาเธอออกผู้จัดการก็จะได้บริหารง่ายขึ้น

 

สิ่งที่ผมต้องทำคือคุยกับผู้จัดการและเจรจาราคาของคริส รวมถึงสัญญาในอนาคต

 

อ่า ผมนี่มันอัจฉริยะจริงๆ…!

 

เทพธิดาคงจะต้องสนับสนุนให้ผมกลายเป็นราชาแห่งความชั่วร้ายแน่ๆ!

 

ผมกลั้นเสียงหัวเราะที่ไม่อาจซ่อนไว้มิดและรอให้คริสกลับมา

 

 รอ. ร๊อ. ……รอ.

 

“…ใช้เวลานานเกินไปหน่อยไหมนะ?”

 

หรือว่าเธอเกิดลังเล

 

ว่ากันตามตรง การรับเธอมานั้นเป็นข้อตกลงที่ทำเสร็จไปเเล้ว อาวุธแบบไหนถ้ามันใช้ได้… ก็ไม่สำคัญอะไร

 

ไปรับเธอกันเถอะ

 

ด้วยความรู้สึกยินดียิ่ง

 

เมื่อคิดอย่างนั้น ผมจึงวางมือบนที่จับประตู และประตูอีกด้านก็เปิดออกด้วยเสียงดัง ปัง

 

“ขออภัยที่ให้รอท่านโอกะ ฉันปล่อยให้รอนานเกินไปหรือเปล่าคะ”

 

“ไม่เป็นไร. ที่สำคัญกว่านั้นคือผมอยากเห็นความสามารถของคริสเลยน่ะ”

 

“ดีล่ะ งั้นตอนนี้ตามฉันมาได้เลยค่ะ”

 

อาเร๊ะ ทำไมเธอถึงไม่ได้ถืออะไรติดไม้ติดมือมาด้วยเลยล่ะ?

 

บางทีมันอาจเป็นอาวุธขนาดใหญ่ที่เธอไม่สามารถพกติดตัวไปได้ ขนาดของมันเลยทำให้เข้าใจได้เพราะมันสามารถทำให้เธอเเสดงความเเข็งเเกร่งได้ชัดเจนดี

 

ผมเดินตามคริสไป เธอหยุดอยู่หน้าสนามประลอง ซึ่งตอนนี้ยังคงเต็มไปด้วยผู้คน

 

“…ที่นี่น่ะเหรอ?”

 

“ค่ะ การล้างบางสิ้นสุดลงแล้ว เชิญยลโฉมได้เลยค่ะ”

 

…ล้างบางเหรอ?

 

ก่อนที่ผมจะได้เอ่ยคำถาม คริสก็เปิดประตูเข้าไป

 

สิ่งที่เห็นคือกองศพสูงชัน ไม่ใช่แค่ผู้เข้าประลองเท่านั้น ผู้ชมก็ร่วมจมกองในภูเขานั้นด้วย

 

เเละที่ด้านบนสุดคือผู้จัดการที่เคยคุยกับผมก่อนหน้านี้

 

……นั่นน่ะ! ? หรือบางทีพวกเขาจะตายไปหมดแล้ว! ?

 

“นี่มันอะไรกันคริส…?”

 

“ใช่ ฉันอยากให้ท่านเห็นความยุติธรรมและความสามารถของฉันทันที ก็เลยลงมือทำเลยน่ะค่ะ”

 

ก็เลยลงมือทำเลย

 

ใครมันจะไปสนใจ ก็เลยลงมือทำเลยกันล่ะฟะ?!

 

ผมต้องการใช้ประโยชน์จากไอ้พวกนี้และเอาเงินจากพวกมัน!

 

 มันไม่มีประโยชน์เลยถ้าพวกมันทั้งหมดถูกล้างบางไปซะเเล้ว…

 

เเต่เพียงเพราะเหตุนั้น สายตาของเธอที่มองมาจึงเต็มไปด้วยความคาดหวัง ราวกับว่ากำลังร้องขอให้ชื่นชมตัวเองอยู่

 

“……คริส”

 

“ค่ะ!”

 

…อันที่จริงผมไม่อยากจะชื่นชมเธอเลย ไม่อยากทำเลยสักนิด แต่.

 

“เธอทำได้ดีมาก”

 

“…!ขะ… ขอบคุณมากค่ะ!”

 

คริสปรากฏรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าตัวเอง การแสดงออกทางสีหน้าเปลี่ยนแปลงไปแต่มันก็เข้าใจได้ง่ายดี

 

เมื่อชั่งน้ำหนักกับเหตุการณ์นี้ ผลประโยชน์ในอนาคตที่เธอจะนำมันมาให้ผมมีน้ำหนักมากกว่า

 

  ดูเหมือนว่าเธอจะเชื่อใจผมโดยไม่มีข้อสงสัย และถ้าผมโกหกใส่ร้ายองค์กรใดๆก็ตาม เธอก็จะสามารถบดขยี้องค์กรที่จะมาต่อต้านผมได้อย่างง่ายดาย

 

ผมนี่มันเป็นอัจฉริยะจริงๆ มั่นใจได้เลยว่าผมสามารถเอาเธอได้อยู่หมัดเเน่

 

“ฟังนะคริส.. ผมไม่พอใจกับสถานการณ์ตอนนี้เท่าไหร่ เพราะผมมีความทะเยอทะยานที่ใหญ่กว่านี้อีก

 

ถูกต้อง. ผมน่ะไม่สนใจสนามประลองใต้ดินเล็กๆ ในเมืองโทรมๆแบบนี้หรอก

 

ผมต้องการบางอย่างในระดับที่ใหญ่กว่า… ตลาดค้าทาสอาจเป็นความคิดที่ดี

 

ยังไงซะ ผมก็ได้รับพลังมากเกินพอที่จะไม่ตื่นสนามกับเวทีประลองเเห่งนี้เเล้ว

 

“เพราะแบบนั้นผมเลยจะเอาเธอมา รู้ใช่ไหมว่าผมหมายความว่าอะไร”

 

“แน่นอนค่ะ.”

 

คริสไม่สนใจพื้นสกปรกคุกเข่าลงกับพื้น  และก้มศีรษะของเธอ

 

“พลังของฉันเป็นของ ท่านโอกะ ความสำเร็จของฉันก็เป็นของ ท่านโอกะด้วยเช่นกัน”

 

หลังจากพูดอย่างนั้น คริสก็ให้คำสาบาน

 

“สิ่งใดที่ท่านต้องการ“ 

 

“ฉันจะทำมันเพื่อความรุ่งโรจน์เเด่ท่าน”

 

“งั้นกลับบ้านกันเถอะ ผมอยากจะแนะนำเธอให้พ่อได้รู้จักด้วย เเละมีขั้นตอนอื่นที่ต้องปฏิบัติตามอีก”

 

เนื่องจากคริสตอนนี้กลายเป็นอาชญากรอย่างเป็นทางการ ผมจึงไม่สามารถจ้างเธอโดยใช้ชื่อจริงได้

 

มันจะทำให้ชื่อเสียงของตระกูล Verret เสียหาย

 

แต่การจัดการกับเรื่องแบบนี้มันเป็นความพิเศษของตระกูลเราอยู่เเล้ว

 

เป็นเรื่องง่ายที่จะปลอมแปลงทะเบียนครอบครัวใหม่ให้เธอ

 

”คริสเธอมีชื่อใหม่ที่อยากตั้งเองไหม”

 

ผมถามเธอขณะที่เดินไปตามถนนสกปรกซึ่งตามเธอเดินหลังผมไปหนึ่งก้าว

 

“ชื่ออะไรก็ได้ทั้งนั้น ตราบใดที่ท่านโอกะตั้งให้ค่ะ”

 

คำตอบแบบนี้มันจะทำเหล่าบรรดาเเม่ๆทั่วประเทศโกรธคริสเอานา

 

มันจะเป็นปัญหาเพราะผมไม่มีเซนต์ในการตั้งชื่อน่ะสิ…

 

“งั้นเราลองทำตามธรรมเนียมกันเถอะ พ่อของผมจะเติมคำว่า ‘กะ’『ガ』 ถ้าเป็นเด็กผู้ชาย และเติม ‘อะ’『ア』 ถ้าเป็นเด็กผู้หญิง แล้วผมจะใช้มันล้อไปกับชื่อของเดิมของเธอ อลิซ แล้วถ้าเป็นอลิซล่ะ?”

 

นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผมสีทองอีกด้วย ผมคิดว่ามันค่อนข้างเหมาะดี

 

ฉันพยายามทำตัวเท่ๆระหว่างรอปฏิกิริยาของอลิซ

 

“……ขะ…ขะข  ขอบคุณพระคุณท่านมากๆค่ะ……!”

 

เธอร้องไห้ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา…! ?

 

ผมได้พูดอะไรผิดไปหรือเปล่านะ? ?

 

“อลิซ” ไม่ใช่ชื่อที่น่าอับอายในโลกขนาดนั้นนี่…

 

แม้ว่าผมจะตื่นตระหนกในขณะที่อลิซเริ่มร้องไห้ แต่ผมก็มอบผ้าเช็ดหน้าให้เธอ

 

เมื่อเธอก้มหน้าลงครู่หนึ่งและเช็ดน้ำตา เธอก็กลับมาเป็นอลิซที่สวยสง่าอีกครั้ง

 

“ท่านโอกะคะ เอาล่ะ เรามาต่อคำสาบานกันต่อเถอะ”

 

อลิซทำท่าเดียวกับเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วและพูดคำสาบานโดยใช้ชื่อที่เพิ่งได้รับ

 

“ฉัน – ฉันขออุทิศทุกอย่างของอลิซทั้งหมดให้กับ ท่านโอกะ”

 

“อา ดาบของผม ฝากตัวด้วยนะ”

 

“…! ค่ะ..!”

 

ด้วยวิธีนี้ ผมจึงสามารถเพิ่มอลิซเข้ามาเป็นเบี้ยได้สำเร็จ เหมือนกับที่ตั้งใจไว้แต่แรก

 

◇คริสกลายเป็นอลิซ

อัศวินหญิงอัจฉริยะ (อายุ 20 ปี) ผู้มีอารมณ์สุดรุนแรงมาร่วมงานกับเรา ◇

edit 

ตอนทีัเเล้วผมแปลคำว่า สกิล เป็น ทักษะเอาดื้อๆเลยเพราะยังไม่รู้จัก world settimg ดีนัก

เเก้ชื่อ พระเอก ออก้า =   オウガ Ouga โอกะ

เเก้ชื่อ ตระกูล พระเอก = ヴェレット Vu ~e Retto  เวลเล็ต

คิดว่าหลังจากนี้บั๊กแปลเยอะเเน่ๆ555555 เเค่เปิดมาตอนเเรกก็บรรเทิงละ

 

เกิดใหม่อยากเป็นขุนนางร้ายเเต่ทำไมดันกลายเป็นนักบุญ

เกิดใหม่อยากเป็นขุนนางร้ายเเต่ทำไมดันกลายเป็นนักบุญ

Status: Ongoing
เหล้า! ผู้หญิง! เงิน! ผมควรจะได้มันทั้งหมดและใช้ชีวิตตามที่พอใจ!… หรืออย่างที่ผมคิด ออก้า เวอร์เล็ท ลูกชายคนโตของตระกูล ดยุค เวอร์เล็ท เป็นบุคคลที่กลับชาติมาเกิดใหม่ ในตระกูลขุนนางร้ายผู้โด่งดัง หลังจากทำงานในบริษัทเเบล็คคอมปานี และเสียชีวิตจากการทำงานหนัก เขาก็นึกหวนถึงความฝัน “เพื่อสร้างฮาเร็มน่ารักๆและกินอาหารอร่อยๆ มีชีวิตที่เรียบง่ายและไร้กังวลด้วยภาษีของพวกประชาชน!” เขาเริ่มทำงานเพื่อมุ่งสู่ความฝันที่จะมีชีวิตอันแสนวิเศษในอีกโลกหนึ่งที่ใฝ่ฝัน ช่วยเด็กธรรมดาสามัญที่ถูกรังแก นำเข้าฮาเร็มและได้รับการปรนนิบัติตอบกลับ เเละยังได้รับเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อมาเป็นเเรงงานเเถมยังให้การศึกษาอีก และเพื่อปราบการกบฏ เขาได้เข้าเรียนที่สถาบันเวทมนตร์เพื่อเชี่ยวชาญด้านศาสตร์เวทมนตร์ “คุคุคุ… ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น! อนาคตที่สดใสรอฉันอยู่!” อย่างไรก็ตาม ออก้ายังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การกระทำของเขาในการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและไร้ความกังวลจะได้รับการชื่นชมจากสังคม และเขาจะได้รับการยกย่องว่าเป็น “นักบุญ” จากมวลชนในอนาคต

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท