Breakers (브레이커즈) หยุดลิขิตฟ้า ต่อชะตาช่วยโลก – ตอนที่ 65

Breakers (브레이커즈) หยุดลิขิตฟ้า ต่อชะตาช่วยโลก

 

 

 

 ชื่อเซรุ่มร้อยพิษเป็นเพียงการเปรียบเปรย

 

 ทักษะนี้ไม่ได้ช่วยป้องกันอย่างสมบูรณ์จากพิษร้อยชนิดตามชื่อ นี่เป็นทักษะที่เสริมความทนทานของร่างกายต่อพิษทั้งหลายขึ้นมาในระดับหนึ่ง

 

 อินกองจึงไม่ได้ปลอดภัยจากพิษร้ายเสียทีเดียว แขนขาของเขาเริ่มจะหมดแรง แม้แต่การหายใจก็เริ่มจะทำได้อย่างยากลำบาก

 

 หลังจากศัตรูตัวสุดท้ายล้มลง

 

“เคียวร์พอยซั่น”

 

 อินกองใช้เวทมนตร์รักษาตัวเอง นี่คือหนึ่งในเวทมนตร์ที่เขาใช้ข้ออ้างแอบเรียนมาจากเฟลิซี

 

 เป็นเพียงขั้นแรกเท่านั้น เนื่องจากเขาไม่มีโอกาสได้ใช้เคียวร์พอยซั่นมากเท่าไฟร์แอร์โรว์หรือฮีล แต่มันก็แสดงประสิทธิภาพออกมาได้ดี อาจเป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากลมปราณของเขาด้วย

 

 ลมหายใจของอินกองเริ่มกลับมาปกติอีกครั้ง แม้เขาจะยังคงคาใจเรื่องตัวตนที่แท้จริงของศัตรู แต่ความปลอดภัยของสมาชิกทั้งหมดย่อมมาก่อน

 

“กรีนวินด์”

 

 โล่ไวท์อีเกิ้ลบินกลับมาติดที่แขนตามคำเรียกขาน ในช่วงเวลานั้นเอง

 

“ค้ากกกซ์!”

 

 เงาปริศนาที่ล้มอยู่ตรงหน้าอินกองเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกรีดร้องด้วยเสียงอันน่ารังเกียจ

 

‘นายท่าน?’

 

 ผืนดินสั่นสะเทือน ทั่วทั้งอุโมงค์สั่นสะเทือน เป็นสัญญาณเตือนว่าอุโมงค์กำลังจะถล่ม

 

 เวทมนตร์? ระเบิด? สัญญาณบอกศัตรูที่ยังหลบซ่อนอยู่? หรือบางทีอาจจะแค่จังหวะบังเอิญ?

 

 สาเหตุที่แท้จริงไม่สำคัญ อินกองหันไปเห็นปากทางที่พวกเขาเข้ามาเริ่มถล่ม เขารีบเงื้อมือไปคว้าตัวเฟลิซีและเดเลียที่ยังล้มอยู่กับพื้น

 

“กรีนวินด์!”

 

 เจตนาของอินกองสามารถเดาได้ไม่ยาก ไวท์อีเกิ้ลพุ่งออกจากแขนของอินกอง มันสยายปีกกางออกให้กว้างที่สุดลอยปกป้องศีรษะของคารัค กัมมะ และดาฟเน่

 

 อินกองออกวิ่งในทันทีที่ตะโกนสั่งกรีนวินด์ แขนทั้งสองของเขากอดเฟลิซีและเดเลีย เขาวิ่งไปยังปากทางอีกฝั่งที่เชื่อมไปยังปราสาทธันเดอร์ดูม ก่อนจะโยนทั้งสองออกไป

 

 เฟลิซีและเดเลียกลิ้งไปตามพื้นราวกับตุ๊กตาที่ไร้ชีวิต อาจจะเพราะพื้นไม่ชันมาก อินกองจึงไม่ใส่ใจและรีบหันกลับมาในทันที เศษหินและดินจำนวนมากตกลงกระจายไปทั่วบริเวณ

 

‘นายท่าน!’

 

 กรีนวินด์ตะโกนเรียกอินกอง หินขนาดใหญ่บนเพดานเริ่มสั่นอย่างรุนแรง มันใหญ่เกินกว่าที่ไวท์อีเกิ้ลจะป้องกันไว้ได้ หากมันตกลงมา พวกเขาทั้งหมดต้องถูกบดขยี้แน่นอน

 

‘โลหิตมังกร!’

 

 อินกองเรียกใช้พลังแล้วรีบพุ่งตัวออกไป แรงถีบของเขาทำให้พื้นอุโมงค์แตกออกเลยทีเดียว

 

 ในชั่ววินาทีนั้น เขารวบรวมสมาธิสังเกตสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

 

 หินก้อนใหญ่ก้อนนั่นร่วงลงมาในที่สุด อินกองรีบรวมลมปราณยิงใส่มันในทันที!

 

บรึ้ม!

 

 แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้พวกเขาปลอดภัย หินยักษ์ระเบิดกระจายออกเป็นเศษหินพุ่งไปทั่ว กรีนวินด์ป้องกันชิ้นส่วนที่พุ่งไปยังศีรษะของเหล่าสมาชิกที่ล้มลงอยู่ได้ก็จริง แต่ชิ้นส่วนเล็กเล็กก็สร้างบาดแผลให้ตามร่างกายที่อยู่นอกรัศมีคุ้มกัน

 

 ยิ่งไปกว่านั้น แรงระเบิดที่เกิดขึ้นทำให้อุโมงค์ถล่มลงมารวดเร็วกว่าเดิม ปากทางที่พวกเขาเข้ามาถูกปิดสนิทเป็นที่เรียบร้อย

 

 อินกองรีบคว้ากัมมะและดาฟเน่ แล้วพุ่งตัวไปยังทางออกอีกฝั่ง โดยมีร่างของเจ้าออร์คถูกทิ้งไว้ด้านหลัง

 #ทำ… ถูก… แล้ว… ที่เธอเลือกเขา… และทิ้งฉันไว้… ตรงกลางทาง…

 

‘นายท่าน!’

 

 กรีนวินด์ตะโกนร้องออกมาอย่างตระหนก นั่นเพราะพวกเขาไม่เหลือเวลาให้กลับมาอีกรอบ

 

 อินกองไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจะกลับไปช่วยคารัคแต่อย่างใด เขาวิ่งไปจนถึงปลายทางแล้วโยนกัมมะกับดาฟเน่เข้าไป ก่อนจะตะโกนสั่งพลางชูแขนซ้ายขึ้น

 

“กรีนวินด์!”

 

 ไวท์อีเกิ้ลถูกสั่งให้กลับมา ปีกโล่ที่กางออกหุบลงก่อนมันจะบินกลับไปหาอินกอง กรีนวินด์มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเหลือเชื่อ แต่นางก็ไม่สามารถขัดขืนอะไรได้

 

‘นายท่าน!’

 

 เสียงของนางดังออกมาอย่างขุ่นเคืองและผิดหวัง อินกองไม่สนใจนาง เขาพุ่งกระโดดออกจากอุโมงค์พลางตะโกนขึ้น

 

“คารัค!”

 

 ทักษะเสริมจากมหาดเล็กราชวัลลภ ทักษะรับสั่ง!

 

 ร่างของเจ้าออร์คข้ามผ่านมิติมาปรากฏลอยอยู่ตรงหน้าอินกอง ก่อนจะตกลงตามแรงโน้มถ่วง อีกฟากของทางออกลาดชันกว่าที่คิด จนเรียกได้ว่าเป็นหลุมทีเดียว แต่เพราะร่างของเจ้าออร์คที่ตกลงมาเป็นเบาะกันกระแทกรองให้เขาอยู่ด้านหน้า อินกองจึงไม่ได้รับแรงกระแทกแต่อย่างใด

 

 เขากลิ้งไปตามพื้น ก่อนจะรักษาสมดุลแล้วลุกขึ้น ด้านหลังของเขามีเสียงดังขึ้นมากมาย

 

ตูม ตูม ตูม!

 

 ถ้ำอุโมงค์ที่พวกเขาเพิ่งผ่านออกมาถล่มปิดตายเรียบร้อย เสียงที่ดังสนั่นบ่งบอกว่าเส้นทางอื่นก็ถล่มด้วยเช่นกัน

 

 อินกองถอนหายใจออกมา พวกเขารอดพ้นความตายมาได้อย่างหวุดหวิด หากลังเลอีกแม้แต่สักวินาที พวกเขาคงไม่แคล้วถูกฝังเรียบร้อย

 

‘นายท่านบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?’

 

‘ข้าขอโทษที่เข้าใจเจตนาของนายท่านผิดไป’

 

 อินกองพยักหน้าให้กับกรีนวินด์ แต่ถึงพวกเขาจะรอดจากอุโมงค์ถล่มมาได้ ก็ยังเหลือปัญหาเรื่องพิษอยู่

 

 อินกองจุดคบเพลิงขึ้น แล้วนำร่างหมดสติของคณะสำรวจมารวมไว้ด้วยกันรอบคารัค นั่นเพราะคารัคหนักที่สุด การเคลื่อนย้ายมันย่อมยุ่งยากที่สุด

 

‘ต้องเริ่มจากรักษาเฟลิซี’

 

 แม้เขาจะเรียนรู้เวทมนตร์แก้พิษมาจากเฟลิซี แต่ว่าเวทมนตร์ของนางย่อมมีประสิทธิภาพมากกว่าของเขา อินกองพยายามใช้เคียรว์พอยซั่นรักษาเฟลิซี พร้อมถอดหน้ากากกันแก๊สของนางออก แม้อากาศรอบตัวจะไม่ได้ปลอดโปร่งมาก แต่ก็ไม่มีก๊าซพิษปนอยู่

 

“เคียวร์พอยซั่นอีกครั้ง”

 

 ระดับทักษะของเขายังต่ำอยู่ นั่นทำให้เขาต้องใช้เคียวร์พอยซั่นถึงสามครั้งในการรักษาพิษให้กับเฟลิซี จากนั้นเขาก็หยิบเอาน้ำยามากมายที่รับมาจากกระทรวงเกียรติยศออกมา

 

 อินกองเปิดปากของเฟลิซีแล้วรินน้ำยาแก้เหนื่อยเข้าปากนาง ก่อนจะตามด้วยน้ำยาปลุกภวังค์

 

 ตรงตามชื่อของมัน ยาทั้งสองมีฤทธิ์กระตุ้นร่างกายให้ลืมความอ่อนล้า และดึงสติกลับมา แน่นอนว่าแทนที่จะใช้น้ำยาทั้งสอง การพักผ่อนเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่พวกเขาไม่มีเวลามากพอที่จะรอนางพักผ่อน อินกองขอโทษเฟลิซีในใจพลางรินน้ำยาทั้งสองเข้าปากนาง

 #กระทิงแดง/เอ็มร้อยเอาอยู่ (≖ ͜ʖ≖)

 

“เฮือก!”

 

 เฟลิซีสะดุ้งตื่นขึ้นมานั่งตัวตรง การที่ลุกอย่างกระทันหันทำให้นางมีอาการวิงเวียน

 

 อินกองลูบหลังของนางก่อนจะถามออกมา

 

“นูนะไม่เป็นอะไรนะครับ? รู้สึกผิดปกติอะไรหรือเปล่าครับ?”

 

“ฉ -ั ต ร ?”

 

 เฟลิซีมองมาที่อินกองอย่างสลึมสลือ สติของนางถูกปลุกกลับมาจากฤทธิ์ยาปลุกภวังค์ก็จริง แต่ก็ต้องใช้เวลาให้นางตั้งตัวเล็กน้อย

 

 ทว่าอินกองที่กำลังเร่งรีบไม่มีเวลาให้กับนาง เขารีบอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นทันที

 

“พวกเราถูกรมควันพิษกันหมด นูนะต้องรีบรักษาครับ”

 

 นางชำเลืองมองร่างหมดสติรอบตัวก่อนจะเข้าใจสถานการณ์ นางลุกขึ้นเหยียดตัวแล้วพลางหัวเราะเล็กหน่อย

 

“เธอนี่ใจร้ายจริงๆ”

 

“ขอโทษด้วยครับ”

 

 เฟลิซีเริ่มร่ายเวทมนตร์รักษากับคารัคที่อยู่ใกล้ที่สุด ส่วนอินกองก็แยกไปรักษากัมมะที่นอนอยู่ไม่ไกล

 

 เป็นงานที่ยุ่งยากพอตัว หลังจากใช้เวทมนตร์และน้ำยารักษาสมาชิกทั้งหมด อินกองก็ตรวจเช็คอีกรอบก่อนจะทิ้งตัวลงกับพื้นข้างเฟลิซี

 

 เฟลิซีล้มตัวลงพักพลางจ้องไปที่คารัค

 

“คารัคมีบาดแผลอยู่หลายแห่ง แต่ก็ไม่มีอะไรร้ายแรง… ยกเว้นบริเวณช่วงท้องของมัน”

 

 อินกองหันไปมองดูเจ้าออร์ค ร่างของมันเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนจากเศษหิน และก็มีรอยบางอย่างบนท้องของมัน รอยที่เหมือนกับรอยเท้า…

 

 นั่นทำให้อินกองนึกถึงจังหวะที่เขาตกลงมาโดยมีคารัคเป็นเบาะกันกระแทก

 

“ก็นะ”

 

‘นายท่าน?’

 

 กรีนวินด์ทักลอยลอยขึ้นมาอย่างตำหนิแต่อินกองก็เลือกไม่สนใจอีกเช่นเคย

 

 เฟลิซีฝืนตัวพยุงร่างของนางขึ้นแล้วหันมาถามอินกอง

 

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

 

 ความจำของนางมีถึงที่นางหมดสติจากก๊าซพิษ อินกองพยายามสรุปอธิบายนางให้รวบรัดที่สุด

 

 เงานิรนามปรากฏขึ้นหกตน

 

 หนึ่งในนั้นกรีดร้องแล้วอุโมงค์ก็ถล่ม

 

 เฟลิซีนวดขมับใช้ความคิด

 

 อินกองใช้ไวท์อีเกิ้ลเป็นข้ออ้างถึงเรื่องที่เขาทนทานต่อพิษ แต่เฟลิซีไม่สนใจ นี่ไม่ใช่เวลามานั่งจับผิดรายละเอียดปลีกย่อย

 

 บางสิ่งที่สำคัญกว่าทำให้นางเอะใจขึ้นมา

 

“พวกมันตายหมดแล้ว?”

 

“มันช่วยไม่ได้ครับ”

 

 อินกองไม่ได้ฆ่าพวกมันทั้งหมด เขาต้องการเค้นขอมูลจากพวกมันเช่นกัน

 

 ทว่าพวกมันก็ตายหมดสิ้นจากอุโมงค์ถล่ม ไม่ว่าเสียงกรีดร้องนั่นจะทำให้อุโมงค์ถล่ม หรือเป็นสัญญาณให้บางสิ่งถล่มอุโมงค์ พวกเขาก็สูญเสียสิ่งที่จะใช้เชื่อมโยงข้อมูลไป

 

 เงาตนสุดท้ายตัดสินใจใช้ชีวิตของมันพยายามจบชีวิตของอินกองและคณะ

 

“หรือว่าแม่ทัพกาซบาลตายด้วยฝีมือพวกนั้น?”

 

“มีความเป็นไปได้อยู่ครับ”

 

 พลโทของจอมมารไม่ได้มีร่างกายที่คงกระพัน จริงอยู่ที่ร่างกายของเผ่ามังกรสามารถต้านทานพิษได้ แต่ก็เพียงแค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น

 

‘แต่บางที… ก็อาจจะไม่ใช่กลุ่มเดียวกับที่ถูกส่งมาเก็บพวกเรา’

 

 หากพูดตามความจริง ศัตรูของคณะอินกองเรียกได้ว่าอ่อนแอมาก พวกที่ถูกส่งเพื่อฆ่าพลโทน่าจะเป็นกลุ่มที่เก่งกว่านี้

 

 แล้วก็ถึงตาอินกองเป็นฝ่ายถาม

 

“นูนะพอจะเดาได้ไหมครับว่าพวกมันเป็นใคร?”

 

“ไม่มีข้อมูลอะไรให้เชื่อมโยงแบบนี้ ฉันก็เดาไม่ออกหรอก”

 

 ตัวตนของพวกนี้ ทำไมพวกมันถึงเข้าโจมตีหน่วยสำรวจจากวังจอมมารถึงสองครั้ง?

 

 นั่นทำให้อินกองหวนนึกถึงมุสตาฟาและบาโคโรฟที่เขาพบที่ที่ราบอินคา ทั้งมุสตาฟาและบาโคโรฟต่างก็เป็นสัตว์อสูรที่ไม่ปรากฏในเกมบทกวีแห่งผู้กล้า เช่นเดียวกับเงานิรนามทั้งหก

 

 นี่มันกำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่? หรือจะเป็นการแทรกแซงของมือที่สามที่ไม่มีในเกม?

 

 ถ้ามีจริง พวกมันจะได้ประโยชน์อะไรจากการแทรกแซงนี้? ขัดขวางการสำรวจปราสาทธันเดอร์ดูมเพื่อจะเก็บสมบัติไว้เอง? หรือจะมีจุดประสงค์อื่น?

 

 หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก เฟลิซีก็ส่ายหน้าพร้อมถอนหายใจออกมา

 

“ฉัตร เธอเป็นแกนนำในภารกิจครั้งนี้เพราะงั้นฉันจะตามการตัดสินใจของเธอ ตอนนี้พวกเรามีสามทางเลือก”

 

 ทางกลับถูกปิดตายแล้วตอนนี้พวกเขาก็อยู่ในส่วนหนึ่งของปราสาทธันเดอร์ดูม อินกองก็นึกทางเลือกออกได้สามทางเช่นกัน

 

“ทางแรก พวกเรารอกำลังเสริมอยู่ที่นี่”

 

 ซึ่งไม่ใช่อะไรที่ดีแน่ พวกที่อยู่ด้านนอกไม่รับรู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับคณะของอินกอง พวกนั้นอาจจะล้มเลิกการสำรวจเพราะอุโมงค์ถล่มปิดตายเสียด้วยซ้ำ และถึงพวกนั้นจะพยายามขุดเจาะเศษหินเข้ามา ก็ยังต้องใช้เวลานานพอดู

 

“ทางที่สอง พวกเราไปรอกำลังเสริมที่ประตูทางเข้าปราสาทธันเดอร์ดูม”

 

 เป็นอีกทางเลือกที่ถูกตัดทิ้งอย่างง่ายดาย

 

 ประตูทางเข้าปราสาทธันเดอร์ดูมถล่มปิดตายอย่างสมบูรณ์ การจะขุดเจาะเข้ามาได้ต้องใช้เครื่องจักรจำนวนมาก

 

 ในบทกวีแห่งผู้กล้า ภารกิจปราสาทธันเดอร์ดูมนี้ จะเริ่มปฏิบัติการด้วยการใช้เครื่องจักรจำนวนมากเจาะฝ่าประตูหน้าเข้ามา แต่ทว่าคณะของอินกองเข้ามาจากทางเชื่อมจากฝั่งเหมือง ซึ่งต่างไปจากในเกม นั่นทำให้เส้นทางประตูหน้าในตอนนี้ยังคงปิดตาย

 

“ทางที่สาม บุกฝ่าเข้าไปยังใจกลางปราสาทแล้วยึดมันซะ”

 

 นี่เป็นปราสาทของพวกดวอฟ แน่นอนว่าต้องมีค่ายกลข้ามมิติหรือประตูมิติอยู่บ้างแน่นอน เช่นเดียวกับที่มีประตูมิติในถ้ำดวอฟเทือกเขาจิชก้า หรือมีประตูมิติในวิหารทั่งวัชรกร ซึ่งอย่างหลังถูกพบโดยคณะสำรวจของเฟลิซีในเวลาต่อมา

 

‘ใช่แล้ว ต้องมีแน่นอน’

 

 ยิ่งไปกว่านั้น หากพวกเขาบุกฝ่าไปยังใจกลางปราสาทได้ บางทีพวกเขาอาจจะพบทางออกทางอื่นเพิ่ม

 

 ถึงวิธีการที่เข้ามาจะเปลี่ยนไป แต่อย่างไรเสียปราสาทธันเดอร์ดูมก็ยังคือปราสาทธันเดอร์ดูม นั่นทำให้อินกองตอบออกมาด้วยรอยยิ้ม

 

“ดูเหมือนทางเลือกที่สามจะดูดีที่สุดตามระเบียบสินะครับ?”

 

“ก็น่าจะนะ”

 

 นั่นทำให้ตอนนี้มีอีกฝ่ายที่ก้าวเข้ามาอยู่ในกระดาน นั่นคือผู้พิทักษ์ปราสาทและกับดักอีกมากมาย แต่ถึงจะรู้เช่นนั้น การรอคอยความช่วยเหลือโดยไม่ทำอะไรก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีแน่นอน

 

“ถ้างั้นพวกเราก็เตรียมตัวเดินทางกันต่อเถอะครับ”

 

 เสียงที่ดังจากอุโมงค์ถล่มย่อมดูดความสนใจมาแน่นอน

 

 อินกองลุกขึ้นแล้วยื่นมือไปหาเฟลิซี นางหัวเราะอย่างชอบใจก่อนจะจับมือเขา

 

 แม้รายละเอียดอาจจะต่างไปจากแผนการที่วางไว้ แต่ก็ได้เวลาบุกยึดปราสาทแล้ว

 

 

Breakers (브레이커즈) หยุดลิขิตฟ้า ต่อชะตาช่วยโลก

Breakers (브레이커즈) หยุดลิขิตฟ้า ต่อชะตาช่วยโลก

Status: Ongoing
จู-อินกอง เกมเมอร์หนุ่มผู้กำลังกระดี้กระด้าเนื่องจากเกมโปรดของเขาได้รับการนำกลับมาทำใหม่ให้ไฉไลยิ่งกว่าเดิมด้วยเทคโนโลยี VR  แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันทำให้เขาหลุดเข้ามาเผชิญกับเรื่องต่างๆ ราวกับเข้ามาอยู่ในเกมโปรดที่ว่า เคราะห์ซ้ำกรรมซัดบทบาทของเขาดันเป็นตัวประกอบกระจ้อยร่อยที่จะถูกฆ่าตายกลางเกม  จู-อินกองจึงต้องใช้ประสบการณ์เกมที่เขาสั่งสมเอาไว้หาหนทางเอาตัวรอดจากความตายที่กำลังมาเยือน โดยหารู้ไม่ว่าเขามิเพียงกำลังเปลื่ยนโชคชะตาตัวเอง แต่ยังรวมไปถึงชะตาตัวละครรอบข้างและโลกทั้งใบ  นี่คือเรื่องราวของจู-อินกอง ผู้เป็นพระเอกของโลกใบนี้(?)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท