Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 941 รอยเท้าคู่หนึ่ง

ตอนที่ 941 รอยเท้าคู่หนึ่ง
  จิงโจ้ยักษ์ที่ตัวขนาดเท่าไดโนเสาร์!
หลังจากการปะทุของโลกาวินาศมันก็ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของทุกสิ่งมีชีวิตบนโลก อย่างเช่นที่เกิดการขยายตัวอย่างบ้าคลั่งของเจ้าจิงโจ้ตรงหน้านี้ และผลลัพธ์ของการขยายตัวจนมีขนาดยักษ์ใหญ่ของเหล่าสัตว์ทั้งหลายก็มักตามมาด้วยการทำลายล้างทุกอย่างจนเละไม่เหลือซาก
”วร๊ากกกกก!”
จิงโจ้ยักษ์คำรามสนั่นหัวใหญ่ของมันไม่ได้ดูน่ารักและเป็นมิตรเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว มันอ้าปากกว้างขู่คำราม ปากของมันกว้างขนาดที่สามารถกลืนกินมนุษย์พร้อมกันหลายคนได้ในทีเดียว ดวงตาของมันอัดแน่นด้วยความคลั่ง รุนแรงดุดันราวกับเสือคลั่งที่พร้อมจะล่าเหยื่อ
หลายคนเกิดความคิดเดียวกันขึ้นมาทันทีที่เห็นเจ้าจิงโจ้นี่มีพันธุกรรมเดียวกับไดโนเสาร์รึเปล่า?
”ปัง!ปัง!”
จิงโจ้ยักษ์แทกใส่อาคารตรงหน้าจนถล่มและเดินมุ่งหน้าตรงมายังฝูงชนด้วยท่าทางคุกคามแต่ละย่างก้าวของมันเกิดเสียงดังสนั่น พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับแผ่นดินไหว ท่าทางเกรี้ยวกราดของมันให้ความรู้สึกเหมือนกับตั้งใจจะกินทุกคนตรงหน้าให้หมด…
”(*&^%[email protected]#[email protected][email protected]#$%^$#!!!!”
ทุกคนแตกตื่นและเริ่มแหกปากร้องลั่นจนเกิดโกลาหลทุกคนต่างพยายามหาทางหนีเอาชีวิตรอด คนที่ได้สติก่อนได้หนีออกไปไกลแล้ว คนที่ยังช็อคไม่หายก็ยังคงยืนนิ่งตัวแข็งอยู่ที่เดิมด้วยความกลัว
เหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหลายเองก็ตื่นตระหนกไปชั่วขณะส่วนชูฮันและหยางเทียนที่มีสิทธิออกคำสั่งโดยตรงยังคงยืนเงียบอยู่ ยังไม่มีคำสั่งใดๆปล่อยออกมา เหตุผลก็เพราะสัตว์ประหลาดที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าอยู่นั้นมีขนาดยักษ์อย่างมากและเหล่าทหารพวกนี้ก็ไม่รู้เลยสักนิดว่าต้องรับมือยังไง ถ้าสู้ก็คงต้องตายแน่ๆ!
”วร๊ากกกกก!”
จิงโจ้ยักษ์ขู่คำรามอีกครั้งจากนั้นมันก็งอขาหลังเล็กน้อย มันโน้มหัวลง ราวกับว่ามันกำลังเตรียมตัวจะกระโดด!
แววตาของชูฮันเปลี่ยนเป็นคมกริบใครที่เห็นจะรู้สึกได้ถึงอันตรายที่ไม่ควรเข้าใกล้ ทันใดนั้นเขาก็หันหน้าไปข้างหลัง ชูฮันสบตากับเกาช้าวฮุ่ยอย่างตึงเครียด “เกาช้าวฮุ่ย จัดการเจ้าจิงโจ้ยักษ์นี่ที!”
มันไม่ได้ยากก็แค่ตัดหัวมันให้ได้?
แม้ว่าปัญหาภายในของตระกูลเกาจะยังคงเป็นปริศนาอยู่และชูฮันก็ยังไม่ได้สนิทกับเกาช้าวฮุ่ยมากมายอะไร แต่พวกเขาก็ต่างชอบในนิสัยของแต่ละฝ่ายและก็ต่างใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน ชูฮันเองก็ยังไม่รู้เรื่องขอบเขตพลังอำนาจที่แท้จริงของตระกูลลึกลับ เช่นเดียวกับเกาช้าวฮุ่ยที่ก็สงสัยในพลังของชูฮันที่คล้ายคลึงกับพวกเขา ทั้งเกาช้าวฮุ่ยและชูฮันต่างยังหาคำตอบของแต่ละฝ่ายไม่ได้
คำพูดของชูฮันถูกกลบด้วยเสียงคำรามสนั่นของจิงโจ้ยักษ์ทว่าก็ยังมีวิวัฒนาการระยะสูงไม่กี่คนที่มีการรับรู้ระดับสูง เดิมทีพวกเขาเตรียมตัวพร้อมรอรับคำสั่งจากชูฮันอยู่แล้ว และทันทีเห็นชูฮันอ้าปากสั่งการ พวกเขาก็ตั้งตัวรับทันทีเนื่องจากนี้เป็นสถานการณ์วิกฤตเร่งด่วนและชูฮันคือผู้บัญชาการรบของพวกเขา ดังนั้นชูฮันจะต้องตัดสินใจมาอย่างดีแล้วแน่ๆ
แต่ไม่มีใครคิดว่าชูฮันจะหันกลับหลังไปออกคำสั่งเจาะจงใส่เจ้าหนุ่มหัวเหลืองที่ยืนเงียบๆอยู่ด้านหลังนั้น…พวกเขาเกือบลืมกันไปแล้วว่าชูฮันมีเพื่อนร่วมเดินทางมาด้วย
เกาช้าวฮุ่ย?
คือใครกัน?แล้วที่ชูฮันสั่งคืออะไร? คนคนนี้มีพละกำลังมากมายขนาดจัดการจิงโจ้ยักษ์ที่ได้เลยเหรอ?
แววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยทีหลายคู่พุ่งไปที่เกาช้าวฮุ่ยทุกคนกำลังเปรียบเทียบรูปร่างและพลังการต่อสู้ของเกาช้าวฮุ่ยกับจิงโจ้ยักษ์ทันทีโดยสัญชาตญาณ และทุกคนก็สัมผัสได้ว่าเกาช้าวฮุ่ยมีพลังสูงและดูเหมือนกับวิวัฒนาการระดับสูง!
และ
”ตึง!”
เจ้าจิงโจ้ยักษ์ดีดตัวขึ้นแสดงให้เห็นถึงพลังในการกระโดดอย่างมหาศาลของมัน มันลอยขึ้นสูงเทียมฟ้า ทุกคนไม่อยากจะนึกถึงภาพผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นทันทีที่ตัวมันแตะพื้นเลย
ซางจิ่วตี้กัดริมฝีปากอย่างสิ้นหวังเธอไม่มีหนทางแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าเลย ฝูงชนทั้งหลายนั้นยิ่งกว่า ทุกคนตัวแข็งเป็นหินด้วยความกลัวและช็อคไปแล้ว เจ้าจิงโจ้ยักษ์ดีดตัวพุ่งขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้วและเริ่มตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงพร้อมกับความเร่งมหาศาล ภายในพริบตาเดียวมันก็จะตกถึงพื้นตรงใจกลางลานจตุรัสแล้ว ทุกคนคาดไว้แล้วว่ามันจะต้องมีภาพนองเลือดเผยให้เห็นในวินาทีต่อมาเป็นแน่
ขณะนั้นเกาช้าวฮุ่ยยังคงยืนเอาหลังพิงกำแพงนิ่งเหมือนเดิมอยู่ ขาข้างหนึ่งงอเบาๆ แขนทั้งสองข้างยืดออกมาราวกับกำลังคลายเมื่อยอยู่ ปากเผยอขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเริ่มผิวปากด้วยท่าทางสบายอารมณ์
เขาดูไม่สนใจเลยสักนิด!
เมื่อได้เห็นท่าทางเช่นนั้นของเกาช้าวฮุ่ยทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความข้องใจ แม้ว่าชูฮันจะบอกอีกฝ่ายมีความสามารถที่จะจัดการจิงโจ้ยักษ์ได้แต่เกาช้าวฮุ่ยกลับยังคงยืนนิ่งไม่ขยับอยู่เลย ทั้งๆที่เจ้าจิงโจ้ยักษ์กำลังจะลงพื้นอยู่ที่แล้ว ทุกคนคิดว่าเกาช้าวฮุ่ยคงยอมแพ้อย่างแน่นอน ถึงได้ตัดสินใจจะทำตัวสบายๆก่อนตาย…
เจ้าจิงโจ้ยักษ์ที่พุ่งลงมาด้วยความเร่งสูงพร้อมพลังทำลายล้างมหาศาลฝูงชนที่ลานจตุรัสเริ่มร้องไห้คร่ำครวญเมื่อรู้ว่าพวกเขาไม่มีหนีรอดได้ บางคนที่กลัวจนขาดสติก็หันไปแหกปากร้องและสบถด่าใส่ชูฮัน——
”ฟรึบ!”
จู่ๆก็มีเงาดำฉวัดผ่านหน้าซางจิ่วตี้และหยางเทียนไปอย่างรวดเร็วทั้งคู่ไม่สามารถมองตามได้ทันว่าเป็นเงาของใคร จากนั้นมันก็เสียงปะทะดังสนั่น ทันใดนั้นภาพเบื้องก็ปรากฏสู่สายตาของทุกคน รอยฝ่าเท้ายักษ์ของเจ้าจิงโจ้ปรากฏเด่นหราฝังลึกลงที่หินก้อนยักษ์
”เฮือก!!!”
หยางเทียนและคนอื่นๆตะลึงตกใจกันหมดพวกเขาจ้องหินก้อนยักษ์ตรงหน้าไม่วางตา ราวกับว่ามีบางอย่างเหยียบลงมาแล้วก็หายไป ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าอย่างไรอย่างนั้น?
ไม่ทันรอให้ทุกคนได้รู้ตัวภาพของเจ้าจิงโจ้ยักษ์ดีดตัวขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง
จากนั้น—-
”วร๊ากกก!”
เสียงร้องคำรามที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดก็ดังออกมาตามมาด้วยร่างของจิงโจ้ยักษ์ที่ค่อยๆร่วงตกลงมาจากฟ้า ทว่าครั้งนี้มันกลับตกลงไปยังทิศทางที่ทุกคนไม่เข้าใจ
”ตึงงงงง!”
มีบางอย่างไปเร่งการตกของจิงโจ้ภายในเสี้ยววินาทีทำให้ร่างของจิงโจ้ยักษ์ลอยออกไปตกไกลออกจากทุกคน ราวกับว่ามันมีบางอย่างโจมตีเข้าใส่อย่างแรง จากนั้น——
”ปังงงงงงงง!”
วินาทีที่ร่างยักษ์ของเจ้าจิงโจ้ตกลงกระแทกพื้นมันก็มีเสียงดังสนั่นตามมา ราวกับว่าภูเขาไฟปะทุ
เงียบกริบ—–
ทุกคนตะลึงค้างกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนผันไปอย่างกระทันหันลานจตุรัสกว้างที่เคยเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องพลันตกอยู่ในความเงียบสงัด ความวุ่นวายโกลากลทั้งหลายหยุดชะงัก ทุกคนที่เคยวิ่งวุ่นหาทางหนีก็หยุดนิ่งหยางเทียนและซางจิ่วตี้เองก็ยืนนิ่งงันอย่างทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
เลือดจำนวนมากไหลเจิ่งนองออกมาท่วมพื้นไม่หยุดเสียงหวีดร้องเจ็บปวดของเจ้าจิงโจ้ยักษ์ดังระงมก้องไปทั่ว มันนอนนิ่งอยู่ที่พื้นไม่ขยับเนื่องจากได้รับบาดเจ็บรุนแรง!
ทุกคนตกใจค้างกับภาพที่ได้เห็นเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น?
”เขาคนนั้น!” หยางเทียนพึมพำ ในใจเกิดความกลัวขึ้นมา ชี้นิ้วไปที่ด้านหลังซึ่งเคยมีเก้าช้าวฮุ่ยยืนพิงกำแพงด้วยท่าทางสบายอารมณ์ก่อนหน้านี้
ความช็อคปรากฏบนสีหน้าทุกคนทุกคนรีบหันหน้ามองที่หินก้อนยักษ์ซึ่งมีรอยเท้าข้างๆพวกเขา และเบนสายตาไปที่ที่เกาช้าวฮุ่ยเคยยืนอยู่ทว่าตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว!
”อะไรกัน?!!”
มีเพียงแค่ชูฮันที่ยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่หน้าผากตัวเองออกขณะที่ภายในใจนั้นรู้สึกขอบคุณโชคชะตาที่เขาพาเกาช้าวฮุ่ยมาด้วย และอีกใจหนึ่งก็ตื่นเต้นกับการได้รับรู้พลังอีกขั้นของเกาช้าวฮุ่ย
พลังมากมายขนาดนี้ยังเรียกว่าเป็นคนอยู่อีกเหรอ?
และในตอนนั้นเองมันก็มีจุดสีดำเล็กๆปรากฏขึ้นบนฟ้าอีกครั้ง ผมสีเหลืองก็ปรากฏสู่สายตาของทุกคนอีกครั้ง
เป็นเกาช้าวฮุ่ยอย่างไม่ต้องสงสัย!
ร่างของเกาช้าวฮุ่ยที่ยืนอยู่บนอาคารสูงทุกคนมองมองตามเกาช้าวฮุ่ยที่ขยับปรับเปลี่ยนไปมาในอากาศ ราวกับกระสุนที่ถูกดีดออกและพุ่งตรงเข้าใส่เจ้าจิงโจ้ยักษ์ มือข้างขวาเงื้อมขึ้นสูงพร้อมกับพลังอำนาจมหาศาลที่แม้แต่ชูฮันยังต้องถอยหนี
”ตึง!!!”
เสียงดังกัมปนาทเจ้าจิงโจ้ยักษ์โดนเกาช้าวฮุ่ยอัด และกระโหลกของมันแตกร้าว!
Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Status: Ongoing

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง

สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น

วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว

ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ

และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้

และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย

นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท