กิลด์ซินเนสทีเซีย – ตอนที่ 8 ท่านผู้นั้น 1

กิลด์ซินเนสทีเซีย

ส่วนหนึ่งลึกเข้าไปในดันเจี้ยน เส้นทางที่มืดมิดมีเพียงแสงจากดวงไฟเล็ก ๆ ส่องสว่างลอยนำหน้าของพวกซีฟาน

โครงสร้างของถ้ำเริ่มกว้างขึ้นเมื่อเดินลึกเข้าไป ตรงส่วนเพดานถ้ำมีหินงอกหินย้อยห้อยยาวลงมา พร้อมกับหยาดน้ำหยดลงเป็นระยะ 

กลิ่นสาบที่เริ่มแรงขึ้นจนเตะจมูก นั่นแสดงให้รู้ว่าพวกเขาเข้าใกล้ที่อยู่ของโทรลแล้ว

ทุกคนอยู่ในอาการเตรียมพร้อม โดย เรน่า ร่ายเวทเก็บเสียงให้พวกเขา จากนั้นจึงดับแสงของลูกไฟ

ห่างจากพวกเขาไปเริ่มมีแสงสีฟ้าอ่อน ๆ  เพิ่มมากขึ้น เรียงไปตามขอบถ้ำ พวกเขาค่อย ๆ เดินอย่างช้า ๆ

ก่อนที่จะถึงจุดหมายในแผนที่

เมื่อเห็นกลุ่มของโทรลแล้ว จึงพยักหน้าให้กันก่อนจะถอยออกมา

“มีโทรลอยู่ 5 ตัว คาดว่าน่าจะเป็นทีมเฝ้าทางเข้าเขตของพวกมัน”

เลโอ วาดรูปวงกลม 5 วง และอีกวง ห่างออกมา

“ตรงนี้คือกลุ่มของเรา ซึ่งเราจะทำการล่อมันออกมาทีละตัว จากนั้นให้ เรน่า และ ฟีโอร่า ร่ายเวทอัมพาตและเวทเก็บเสียงใส่เจ้านั้น จากนั้นเราจะปิดฉากมัน”

ทุกคนความเห็นตรงกันจึงพยักหน้า

“หืมมม แบบนั้นมันไม่ช้าไปหน่อยเหรอ”

เสียของคนอีกคนหนึ่งดังมาจากด้านหลังของ ซีฟาน ด้วยความตกใจพวกเขากระโจนกระจายกันออก

และมองไปยังหญิงสาวที่ นั่งยองย่อ มือค้ำปลายคางอยู่ตรงนั้น

ก่อนที่แสงของลูกไฟจะฉายให้พวกเขาเห็น เส้นผมน้ำเงินครามยาวประบ่า กับชุดเกราะเบาที่สะท้อนแสงไฟ

“คุณ แอสเทอรี่!”

ตรงหน้าพวกเขาคือหนึ่งใน S แรงค์ที่ไปทำภารกิจข้างนอกเมื่อไม่นานมานี้

“ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะครับ”

เธอลุกยืนขึ้น ใช้มือปัดเข่าเล็กน้อย

“อึ๊บชึ่ย! พอดี ท่านหัวหน้ากิลด์วานมาให้เคลียร์ที่นี่น่ะ ก็เลยกะว่าจะรีบทำรีบกลับ”

“เอ๊ะ แต่ว่านี่มันแค่ดันเจี้ยน C แรงค์เองนะคะ ต้องถึงมือคุณแอสเทอรี่เหรอคะ”

ตามปกติแล้วแรงค์ S จะทำแค่งานที่ แรงค์ที่ต่ำกว่าทำไม่สำเร็จ หรือเป็นงานที่ไม่มีคนทำได้ นั่นจึงจะตกมาถึงแรงค์ระดับสูง

ซึ่งในกรณีที่ ดันเจี้ยนนี้เคลียร์ไม่ได้นั่นถึงจะเป็นทีของเธอ

“หึ หื้อ!” แอสเทอรี่ ยืนยิ้มค้ำสะเอว

“กิลด์มาสเตอร์บอกว่า วานเธอช่วยจัดการบอสให้ที เขาพูดมาแบบนี้”

“ทำไมกิลด์มาสเตอร์ ต้องวานให้แรงค์ S มาจัดกาบอสแรงค์ C ด้วยล่ะครับ”

“พวกเธอพึ่งเข้ากิลด์ได้ไม่นานสินะ” เธอยิ้มให้พวกเขา ก่อนที่ทั้งหมดจะพยักหน้าพร้อมตอบ

“อ่า ค่ะ/ครับ”

“จะบอกให้ ความคิดของกิลด์มาสเตอร์น่ะ ลึกซึ้งและละเอียดรอบคอบกว่าเราเป็นร้อยเท่า การวางแผน และ การรับมือสิ่งต่าง ๆ ของเขาน่ะเรียกได้ว่า อัจฉริยะเลยก็ว่า ”

ทุกคนทำท่าทางงุนงงอยู่พักนึง ดูเหมือนภาพจำของพวกเขาต่อ กิลด์มาสเตอร์ไม่มีอะไรแบบนั้น

“จะบอกให้ว่าคนที่ทำให้ฉันมาถึงระดับ S ได้ก็คือ ท่านกิลด์มาสเตอร์นะจะบอกให้”

เธออวดอย่างภาคภูมิใจ

“นี่ ก็เคยได้ยินว่า คุณแอสเทอรี่ ชอบอวยกิลด์มาสเตอร์ แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้”

“ก็เคยได้ยินว่า ชื่นชมกิลด์มาสเตอร์ แต่แบบนี้ไม่เกินไปเหรอนั่น”

เหล่าเด็กกระซิบกระซาบกันอยู่พักนึงก่อนที่แอสเทอรี่ จะตะโกนว่า

“เอาล่ะอย่ามัวรอช้า เราไปเคลียร์ดันเจี้ยนกันเถอะ”

เธอโผกอดไหล่พวกเขาและพาไปยังฝั่งโทรล

 

การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นโดยการกระโจนเปิดการโจมตีของแอสเทอรี่

“ลุยเล้ย!”

เธอพุ่งเข้าใส่พวกโทรลอย่างรวดเร็ว เพียงการตวัดดาบครั้งเดียว ก็กวาดโทรลสามตัวหายในพริบตา

“ฉันเหลือสองตัวนั้นให้พวกเธอ ฝากจัดการด้วยนะ”

พูดเสร็จเธอก็พุ่งไปยังเส้นทางต่อไป พวกของเลโอ ได้แต่ยืนงงพร้อมคำถามว่า

ฉันมาทำอะไรที่นี่?

“ทุกคนมันมาแล้ว”

ซีฟานตะโกนขึ้นก่อนจะพุ่งสกัดฆ้อนของโทรล

“ไม่ใช่เวลามาโอ้เอ้แล้วเราต้องรีบตามคุณแอสเทอรี่ไป”

“เดี๋ยวฉันจะรั้งเจ้าตัวนี้ไว้ก่อน เลโอฝากจจัดการอีกตัวที”

“ได้” เลโอพุ่งไปยังโทรลอีกตัว โดย ฟีโอร่า และ เร่น่าร่ายบัพให้ทั้งสองคน

“เรน่า ฝากด้วย”

เรน่าร่าย อัมพาต ใส่โทรลที่กำลังสู้อยู่กับเลโอ ทำให้มันชงักไปชั่วขณะ

“วินแอร์โร่” ตามด้วยลูกศรเวทที่พุ่งไปยังขาทั้งสองข้าง ทำให้มันทรุดตัวลง

เลโอได้จังหว่ะ กระโจนไปด้านหลังก่อนจะฟาดดาบสุดแรงลงตรงคอของโทรล

แต่ด้วยความถึกและพลังการฟื้นฟูของมัน จึงทำให้ตัดได้ครึ่งเดียว

“ตื้นไป” เขากระโจนถอยออกมาทันที เพราะเหมือนว่า อัมพาตจะหมดเวลาแล้ว

“ชั้นเองค่ะ” ทันใดนั้น ซีฟาน ก็กระโดดขึ้นไปตรงคอของมันอีกครั้ง

ไฟเยอร์เบลด ดาบที่หุ้มด้วยเพลิงความร้องสูงปะทะกับบาดแผลของโทรลทำให้การฟื้นตัวหยุดชะงัก

ก่อนที่หัวของมันจะกระเด็นออกมา

“ค…คุณซีฟานแล้วโทรลอีกตัว”

“ฉันจัดการไปแล้วค่ะ” ทุกคนหันไปมองโทรบอีกตัวที่นอนแน่นิ่งอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย

“เอาล่ะเรารีบตามคุณแอสเทอรี่ไปกันเถอะค่ะ”

“อ….อื้ม”

 

ห่างจากกลุ่มโทรลที่พวกของ ซีฟาน จัดการไป

พวกเขามาถึงยังกลุ่มใหญ่ของโทรล มีพวกมันอยู่ประมาน 30-40 ตัว

และทุกตัว ถูกจัดการไปหมดแล้ว

“ฉันเคยสงสัยนะว่า แรงค์ S จะเก่งแค่ไหน แต่ตอนนี้ ชั้นหายสงสัยแล้วล่ะ”

เรน่าถอยหายใจ

พวกเขาเดินผ่านกลุ่มเศษซากของโทรลมาเรื่อย ๆ จากที่ผนังถ้ำเต็มไปด้วยหินเรืองแสงตอนนี้กลับมามืดอีกครั้ง

“นี่คุณแอสเทอรี่ เธอไปถึงไหนแล้วเนี่ย”

“อย่างกับเครื่องจักสังหารเลยนะเนี่ย”

เส้นทางที่พวกเขาเดิน มอนสเตอร์ทุกตัวถูกจัดการจนหมด เหมือนกับว่าพวกมัน เป็นแค่เศษซากแบบนี้ตั้งแต่แรกก็ว่าได้

“อ๊ะ เริ่มเห็นแล้ว”

ตรงหน้าพวกเขาคือแอสเธอรี่ ที่กำลังยืนรอพวกเขาอยู่

“พวกเธอนี่ช้าจังเลยนะเนี่ย”

“…ค่า” พวกเขาคิดในใจว่าใครเขาจะไปเร็วแบบคุณเธอได้ล่ะคะ

“พอฉันรีบมาเลยไม่มีแผนที่น่ะ ก็เลยไม่รู้ต้องไปทางไหนต่อ ฮะ ฮะ”

“ง…งั้นเหรอคะ”

เลโอกางแผนที่ออกมา

“ฝั่งด้านขวา คือเส้นทางของออคร์ ซึ่งอีกกลุ่มหนึ่งกำลังสำรวจอยู่ครับ ส่วนเส้นทางที่เรามาคือทางนี้ และอีกทางหนึ่งตรงนี้ คือทางเชื่อมไปยัง กลุ่มหมาป่าปีศาจ เมื่อผ่านตรงนั้นไปก็จะเจอกับประตูห้อง บอสครับ”

“งั้นจะรอช้าอยู่ไย ไปโล้ด”

ไม่ทันขาดคำ แอสเทอรี่ก็เดินนำไปโดยเร็ว

“บางทีฉันก็สงสัยนะว่าเธอไปเขาพลังงานมาจากไหนเยอะแยะ ทั้ง ๆ ที่เราเดินขาแทบลากพื้นแล้วขนาดนี้”

เรน่า ทำสีหน้าอืมระอา พร้อมโค้งตัวใช้ไม้เท้าค้ำพื้นเดินอย่างช้า ๆ อย่างหมดแรง

“แต่กลุ่มเราก็ยังมีคนแบบนั้นนะ” ฟีโอร่ามองไปยังซีฟานที่เดินตาม แอสเทอรี่ไปติด ๆ

“นั่นสิน้า ฮะ ฮะ”

 

ทางฝั่งของ กิลด์มาสเตอร์นั้น

“นี่ ทำไมต้องให้คุณ แอสเทอรี่ ไปเคลียร์ดันเจี้ยนแรงค์ C ด้วยล่ะ”

มิยะเดินมาดึงเก้าอี้และนั่งลงวาง เค้กไว้บนโต๊ะ

“ว้าว เค้กล่ะ เค้ก”

“ค่อย ๆ กินนะจ๊ะ”

เด็กน้อยวัย 5 ขวบ ที่นั่งอยู่บนตักของ โซ โผเข้าหาเค้กอย่างไว

“ก็ดันเจี้ยนตอนนี้ พึ่งเกิดขึ้นมาใช่มั้ยล่ะ แถมยังไม่มีใครเคลียด้วย นั่นแปลว่าของที่ดรอปจากบอสก็ยังอยู่”

“ย..อย่าบอกนะว่า”

“ฮึ ฮึ ใช่แล้ว ถ้าเกิดเราได้ไอเทมจากบอสมาแล้วนำออกไปประมูลขาย นั่นมันไม่ดีกว่าให้พวก นักผจญภัยได้แล้วเอาไปใช้ทิ้งขว้างไม่เป็นประโยช์น จะไม่ดีกว่าเหรอ”

“ทั้งหมดทั้งมวล เหตุผลก็เพื่อเงินสินะ ถึงกับให้แรงค์ S ไปทำเรื่องไร้สาระแบบนี้”

“เธออย่ามาพูดแบบนี้นะมิยะคุง เงินเดือนที่เธอได้มันมาจากที่ไหนกัน”

“อะไร  จะพูดเรื่องเงินเดือนฉันทำไม”

“ลองคิดดูสิ หากว่าเราขายไอเทมบอสได้สักสิบชิ้น ชิ้นละ 1 ล้านโกลด์ นั่นแปลว่ากิลด์เราก็จะมีเงินเพิ่มมาอีก 10 ล้าน เมื่อมีเงินเพิ่ม กิลด์ก็มีทุนทรัพย์ เมื่อกิลด์มีทุนเยอะ ก็ต้องเพิ่มเงินเดือนพนักงาน”

เมื่อพูดถึงตรงนี้มิยะก็ตาลุกวาว

“แล้วถ้าเงินเดินขึ้น ใครกันได้ประโยชน์ ลองตอบเราซิ คุณมิยะ”

“กิลด์มาสเตอร์คะ”

“ว่าไง มิยะคุง”

“มีดันเจี้ยนอีกสองที่ห่างออกไปไม่ไกลจาากเมืองนี้ที่ยังไม่ถูกเคลียค่ะ ขอแนะนำให้ส่งคุณแอสเทอรี่ไปที่นั่นด้วยค่ะ”

“โหเเป็นความคิดที่ดี”

หึ หึ หึ หึ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~

“ไอ้บรรยากาศ มาคุ มาคุ ตรงสองคนนั้นมันอะไรกันคะนั่น”

วีร่าที่มองจากเคาน์เตอร์ไปยังพวก มิยะ เหมือนกับเห็นพลังงานชั่วร้ายแผล่ออกมาก็มิปาน

“แล้ว..เด็กคนนั้นเป็นใครเหรอ”

พนักงานสาวอีกคนเอ่ยถาม

“เห็นว่าเป็นลูกเพื่อนของกิลด์มาสเตอร์น่ะ บอกว่าฝากให้ดูแลสักพัก”

“หืม…แบบนี้กิลด์ก็น่าจะครึกครื้นขึ้นนะเนี่ย”

ทั้งสองมองไปยังเด็กสาวผมสีเงิน วัย 5 ขวบ ที่กินเค้กแก้มตุ่ยอย่างเอร็ดอร่อย จากนั้นก็เผลอยิ้มออกมา

“น…น่ารัก”

 

กลับมาทางฝั่งของกลุ่มสำรวจ

พวกของ ซีฟาน ที่กำลังเดินตามแอสเทอรี่ให้ทัน เริ่มแสดงความเหนื่อยหอบหลังจากไม่ได้หยุดพักมาหลายชั่วโมง

“ค…คุณแอสเทอรี่คะ…ย…หยุดสักแป๊บนึงก่อนได้มั้ยคะ”

เสียงที่เหนื่อยหอบของ ฟีโอร่า ดูอาการเธอจะเดินต่อไปไม่ไหว

คนที่เดินได้สูสีกับแอสเทอรี่มากที่สุด เห็นคงจะมีแต่ ซีฟานเพียงเท่านั้น

“ถ้าเกิดเรายังไปต่อ พวกผมคงไม่มีแรงจะสู้แล้วล่ะครับ”

เมื่อเธอเห็นดังนั้น จึงเดินเข้าไปหา ฟีโอร่า และลูบหัวเบา ๆ

“ไม่ไหวเลยน้า ร่างกายที่แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญนะ จะพึ่งแต่เวทย์มนต์ไม่ได้นะรู้มั้ย”

เธอยิ้มให้เเล้วเดินไปนั่งหลังอิงกำแพง

“ให้เวลา 30 นาที”

เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนก็ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างโล่งใจ

ในขณะที่นั่งอยู่ แอสเทอรี่สัมผัสได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่จ้องเธอไม่วางตา

“มีอะไรรึเปล่าแม่สาวผมบรอนซ์”

“ซีฟานค่ะ”

“โอ้ว คุณหนูซีฟาน”

“อาจาร์ยของหนูเล่าเรื่องของคุณให้ฟังอยู่บ่อย ๆ เลยล่ะค่ะ”

“หืมอาจารย์เหรอ” เธอทำท่ามือลูบคางหลับตาเหมือนนึกถึงใคร

“อาจาร์ย อาโนล ค่ะ”

“อ้อ ไอ้บ้านั่นน่ะนะรับลูกศิษย์ ฮ่า ฮ่า คนอย่างนั้นสอนคนเป็นด้วยเรอะ”

เธอหัวเราะลั่นจนท้องเกร็ง

“อะ โทษที โทษที แล้วเข้าใจสิ่งที่เจ้านั่นสอนรึเปล่า”

“ก็พอเข้าใจอยู่บ้างค่ะ แต่ก็ไม่สามารถทำตามได้ทั้งหมด”

“หืมเหรอ”

“ฉันสังเกตุว่าวิชาดาบของคุณและของอาจาร์ย คล้ายกันมากค่ะ พอจะแนะนำได้มั้ยคะ”

“กับชั้นยิ่งแล้วใหญ่ ฉันไม่เคยสอนใครหรอกนะ และอีกอย่างต่อให้สอนไปก็ ทำไม่ได้หรอก”

เธอหยุดพูดแล้วมองไปยังดาบของเธอ

“ทำไมเหรอคะ”

“เพราะวิชาดาบของเรามันยังไม่สมบูรณ์”

“ไม่สมบูณเหรอคะ?”

“จะพูดให้ถูกคือมันเคยสมบูรณ์น่ะ ก่อนที่จะโดนพรากบางสิ่งบางอย่างไปน่ะนะ”

เธอก้มหน้ามองต่ำพูดเสียงแผ่วเบา ทิ้งไว้เพียงความคราแครงใจให้ ซีฟาน

“เอาล่ะ เดี๋ยวชั้นลองเดินนำหน้าไปก่อนหากพวกเธอหายเหนื่อยแล้วก็ตามมานะ”

เธอยืนขึ้นยืดเส้นยกแขนเหนือหัว ก่อนจะเดินนำหน้าไปยังถ้ำต่อไป

ซีฟานที่ได้ฟังคำพูดของ แอสเทอรี่ หวนคืนกับไปนึกถึงวันที่อาจาร์ยของเธอสอนวิชาดาบ

“อาจาร์ยคะ หนูจะทำแบบที่อาจาร์ยทำได้มั้ยคะ”

“อื้ม อาจจะทำได้ก็ได้น้า หรืออาจจะไม่ได้กันนะ อืมมมม นั่นสิน้า!!”

“อะไรกันคำตอบแบบนี้”

“ฮ่า ฮ่า มันก็อาจจะได้หรือไม่ได้ อันนี้ชั้นก็ไม่รู้หรอก ก็เพราะตอนนี้ วิชาดาบของชั้นมันไม่สมบูรณ์เหมือนแต่ก่อนแล้วยังไงล่ะ”

“ไม่สมบูรณ์”

“เมื่อถึงเวลาเธอจะได้เข้าใจเอง ถ้าเจอยัยบ้าเลือดนั่นยัยนั่นก็คงจะพูดแบบเดียวกันนั่นล่ะนะ”

เขาลูบหัวซีฟานเบา ๆ พร้อมฉีกยิ้มกว้าง

นั่นคือภาพที่เธอจำได้ไม่เคยลืม

“คุณซีฟาน คูณตามคุณแอสเทอรี่ไปก่อนก็ได้นะครับ เดี๋ยวถ้าฟีโอร่าดีขึ้นแล้วพวกเราจะตามไป”

“แต่แบบนั้นมัน”

“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว”

เรน่าเดินมากุมมือเธอไว้

“คุณอยากเห็นใช่มั้ยล่ะ การต่อสู้ของเธอคนนั้น เพราะฉนั้นไม่เป็นไรหรอก”

เธอยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน

“ถ้างั้นถ้าเกิดดีขึ้นแล้วรีบตามานะ”

ซีฟานโบกมือให้แล้วรีบวิ่งตามแอสเทอรี่ไป

“ให้ตายเถอะ ใครเขาจะไปกล้ารั้งคนที่ มองคุณแอสเทอรี่ตาเป็นประกายขนาดนั้นได้กันล่ะ”

“ฉันว่าสองคนนั้นมีอะไรเหมือนกันอยู่นะ เป็นภาพซ้อนทับระหว่าง คนที่กำลังจะแข็งแกร่ง และคนที่รอให้คนแข็งแก่งนั้นขึ้นไปหา”

ฟีโอร่างจ้องมองแผ่นหลังของซีฟานที่กำลังวิ่งตรงไป

 

“วิชาดาบ ยังไม่สมบูรณ์งั้นเหรอ ทำไมล่ะ ทั้ง ๆ ที่บอกว่าเคยสมบูรณ์”

ในตอนที่ ซีฟานวิ่งไปเรื่อย ๆ เธอก็ครุ่นคิดถึงคำพูดของแอสเทอรี่

โฮกกก!!

ตู้ม!!

“เสียงอะไรน่ะ”

ตรงหน้าห่างออกไปไม่ไกลมาก มีเเสงไฟสาดส่องพร้อมกับเสียงระเบิดตูมตามยกใหญ่ จนทำให้ผนังถ้ำถึงกับสั่นสะเทือน

เธอรีบพุ่งไปด้วยความเร็วเพื่อจะได้รู้ว่ามีอะไรกับขึ้น

โฮกกกก!!!

ตู้ม!!!

เพล้ง!!!

ปัง!!

“ใกล้แล้ว ตรงหน้านี้เอง”

ตามเส้นทางที่เธอพุ่งมามีศพของหมาป่าปีศาจ นอนระเนระนาดเป็นจำนวนมาก

และสุดปลายทางของเสียงเธอก็ได้พบกับ แอสเทอรี่ ที่ดูสะภาพ สะบักสะบอม ตรงแขนขวามีเลือดไหลออก

เกราะตรงหน้าอกมีรอยร้าว ยืนตั้งท่าจับดาบสู้กับบางสิ่งอยู่

“ให้ตายเถอะ เจ้าตัวพันธุ์นี้ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้”

ซีฟานที่มองดูเธออยู่นั้น หันไปมองตัวพันธุ์นี้ ที่แอสเทอรี่พูดถึง

หมาป่าตัวใหญ่สูงราว 2 เมตร ขนสีดำคลับปกคลุมทั่วร่างกาย ตรงปลายจมูกมีเขาคล้ายคริสตัล ส่องแสงระยิบระยับ และตรงหลังมีปีกสีดำหนึ่งคู่กำลังสยายอยู่

 

“นี่มัน เหมือนกับคุณสการ์เลย”

 

 

กิลด์ซินเนสทีเซีย

กิลด์ซินเนสทีเซีย

Status: Ongoing
“โซดิแอ็ด” ได้ก่อตั้งกิลด์ ซินเนสทีเซียขึ้นมา พร้อมกับผู้ติดตามของเขาอีก 3 คน หลังจากที่มีผู้คนในกิลด์เยอะขึ้น ทั้งสามคนก็สาธยายความโหดความเก่งของหัวหน้ากิลด์ให้แก่เหล่าลูกกิลด์ได้ฟัง แต่จนเวลาผ่านไป 5 ปี เหล่าลูกกิลด์ก็ยังไม่เคยเห็นความโหดของกิลด์มาสเตอร์เลยสักครั้ง นั่นจึงทำให้ผู้คนในกิลด์เรียกเขาว่า “fakemaster”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท