เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย – ตอนที่ 9 กรอบรูปบนหัวเตียง

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

ตอนที่ 09 กรอบรูปบนหัวเตียง

 

ทราเวียร์หยิบผ้าพันแผลชุดใหม่ขึ้นมา

 

ก่อนจะเริ่มพันไปตามลำตัว พันไปตามบาดแผลที่ปรากฏบนร่างกาย พันหลายต่อหลายรอบจนแน่ใจแล้วว่าทุกสิ่งอย่างจะออกมาเรียบร้อย แน่นอนว่ากระบวนการดังกล่าวคุณหนูสาวล้วนร่วมด้วย

 

ในส่วนแผ่นหลังที่เขาไม่อาจพันได้ตามสะดวก เธอก็ช่วยหยิบจับผ้าพันแผลพันตามร่างกายให้กับเขาโดยไม่มีคำบ่นกล่าวให้ได้ยิน ก่อนเธอจะหยิบยื่นเทปกาวให้เป็นอันเสร็จสิ้น

 

หนึ่งส่วนเสร็จสิ้นก็ตามมาด้วยส่วนต่อไปทันที

 

“…”

 

ใช้เวลาไม่นานเกินรอ

 

กระบวนการรักษาบาดแผลก็เสร็จสิ้น คุณหนูสาวหรี่ตามองพยายามหาข้อบกพร่อง พยายามหาร่องรอยความผิดพลาด หลังจากตรวจสอบตรวจทานเป็นที่เรียบร้อยก็มาถึงขั้นตอนท้ายสุด

 

ขั้นตอนสอบถามที่เธอไม่อาจสัมผัสได้ด้วยตัวเอง

 

“แน่นเกินไปรึเปล่าคะ?”

 

“…”

 

“ถ้าแน่นเกินไป”

 

“หรือขยับร่างกายไม่สะดวก”

 

“บอกได้นะคะ”

 

“…”

 

“ไม่ต้องเกรงใจ”

 

“…”

 

“ไม่มีปัญหาครับ”

 

เขาลองขยับร่างกายในหลาย ๆ รูปแบบ

 

เพื่อดูว่าการทำแผลในครั้งนี้มันไปจำกัดการเคลื่อนไหวของร่างกายหรือเปล่า แต่ผลที่ออกมากับดีกว่าที่คิดเอาไว้มากเลยทีเดียว แถมยังใช้ระยะเวลาที่น้อยกว่าเดิมอีกต่างหาก

 

ทราเวียร์กำแบหลายต่อหลายครั้ง

 

“…”

 

“กำลังพอดี”

 

“…”

 

บอกกล่าวตามตรง

 

ถ้าคุณหนูสาวไม่เปิดประตูเข้ามา การทำแผลครั้งนี้คงไม่พ้นต้องยากลำบาก และต้องใช้ระยะเวลานานกว่าเดิมหลายต่อหลายเท่าตัวแน่นอน ถึงไม่อยากจะยอมรับก็เถอะแต่การที่เธอมาหาถึงที่

 

มันช่วยทำให้อะไรต่อมิอะไรง่ายดายมากขึ้นจริง ๆ

 

ทราเวียร์เลือกก้มหัวขอบคุณไปตามตรง

 

“…”

 

“ขอบคุณครับสำหรับความช่วยเหลือ”

 

“…”

 

“หากไม่ได้คุณช่วยเหลือ”

 

“กว่าจะทำแผลเสร็จคงอีกนาน”

 

“ขอบคุณจริง ๆ ครับ”

 

“…”

 

“อย่าขอบคุณดิฉันเลยค่ะ”

 

เธอยิ้มแห้งส่ายหน้าปฏิเสธไม่รับคำขอบคุณ

 

อย่าได้หลงลืมเป็นอันขาดว่าบาดแผลทั้งหมดบนร่างกายของเขา ล้วนมาจากเธอ เธอเป็นต้นสายปลายกำเนิดเรื่องราวทั้งหมด คำขอบคุณที่เขากล่าวออกมาจึงเปรียบเสมือนกับคมมีดเสียบแทง

 

เป็นคมมีดที่กรีดผ่านทำให้เธอรู้สึกผิดไม่มีหยุดหย่อน

 

“เดิมทีคุณไม่ควรเจ็บตัวด้วยซ้ำ”

 

“…”

 

“เพราะความประมาทของดิฉัน”

 

“…”

 

“คิดมากครับ”

 

“…”

 

“มันก็แค่อุบัติเหตุ”

 

“เป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด”

 

“คุณกับผมก็แค่”

 

“…”

 

“โชคร้าย”

 

คุณหนูสาวไม่ได้กล่าวอะไรออกมา

 

เธอเพียงแค่นิ่งเงียบ นิ่งเงียบตามเดิมไม่มีอะไรแปรเปลี่ยนเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนเธอจะออกปากบอกให้เขาหันไปทำอะไรอย่างอื่นแทน หันไปทำอะไรที่มันไม่กระตุ้นให้รู้สึกผิดไปมากกว่านี้ 

 

และเธอจะรับหน้าที่ทำความสะอาดสถานที่ให้เอง

 

“เดี๋ยวดิฉันจัดการส่วนที่เหลือเอง”

 

“…”

 

“คุณไปพักเถอะค่ะ”

 

“…”

 

“งั้นผมไปอาบน้ำ”

 

พอทิ้งท้ายเสร็จสิ้นเจ้าตัวก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า

 

เดินไปหยิบจับเสื้อผ้าชุดใหม่สำหรับเข้านอน แน่นอนว่าระหว่างที่ชายหนุ่มร่างสูงกำลังยุ่งวุ่นวายกับการเตรียมชุดเตรียมตัวอาบน้ำทั้งที่เนื้อตัวมีแต่แผล หญิงสาวแสนสวยหล่อนไม่ได้นิ่งเงียบ

 

มือทั้งสองหยิบจับทำความสะอาด เก็บพวกผ้าพันแผลเปื้อนเลือดเปื้อนดิน รวมถึงเก็บกวาดอุปกรณ์มากมายที่ใช้ทำแผล ในระหว่างที่เธอกำลังเก็บกวาดอุปกรณ์กลับคืนที่เดิม

 

เธอรู้สึกได้ถึงสายตาของใครคนอื่นจับจ้องมองมา และเมื่อเธอเงยหน้ามอง สิ่งที่พานพบเห็นเป็นอย่างแรกก็คือ แววตาราบเรียบที่กำลังหรี่ตามองคล้ายกำลังกล่าวเตือนบางสิ่งอย่าง

 

เธอเอียงคอมองด้วยความสงสัย

 

“…”

 

“อย่าได้คิดแอบดูผมเด็ดขาด”

 

“…”

 

“ไม่งั้นผมจะจับคุณโยนออกไปด้านนอกทันที”

 

“…”

 

“คะ?!”

 

เมญ่าถึงกับหลุดอุทานทันที

 

สีหน้าเธอดูตื่นตระหนกตกใจไม่น้อย

 

กับคำกล่าวเมื่อครู่ของชายหนุ่ม แต่ก่อนจะได้ทำอะไร หรือกล่าวแย้งอะไรออกมา อีกฝ่ายก็เปิดประตูเข้าไปในห้องน้ำเรียบร้อย ปล่อยให้หล่อนนั่งนิ่งเงียบเหมือนคนบ้าไปทั้งแบบนั้น

 

คุณหนูสาวเลิกคิ้วก่อนจะทอดถอนหายใจไปในที่สุด

 

…‘แปลกคนจริง’

 

“…”

 

 

พอเห็นทราเวียร์เข้าไปในห้องน้ำเรียบร้อย

 

ด้วยความเบื่อหน่ายบวกกับไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ทำเพิ่มเติม จะให้รอคอยอย่างเดียวก็คงน่าเบื่อแย่ คุณหนูสาวเลยบังเกิดแนวความคิดฆ่าเวลาขึ้น หล่อนลุกออกจากเก้าอี้ยืนด้วยเรียวขาคู่งาม

 

ก่อนจะเหลือบมองเตียงนอนของเขาเป็นลำดับแรก แต่พอเห็นเตียงนอนแปดเปื้อนไปด้วยเลือดและฝุ่น เธอเลยรู้สึกไม่ดีขึ้นมา แต่จะให้ลงมือทำตามใจต้องการอย่างหยิบมาชักทำความสะอาดให้

 

เห็นทีมันออกจะเกินเลยไปสักหน่อยหลังจากจดจ้องมองจนพอใจ

 

“…”

 

คุณหนูสาวเมญ่าก็ละสายตาจากเตียงเปื้อนเลือด

 

เธอกวาดสายตามองไปรอบบริเวณ มองด้วยความอยากรู้อยากเห็นเป็นส่วนตัว เพราะยังไงนี่ก็เป็นครั้งแรกเลยที่เธอก้าวเท้าเข้ามาในห้องของใครคนอื่น แถมอีกฝ่ายยังเป็นผู้ชายอีกต่างหาก

 

ความอยากรู้อยากเห็นกำลังบอกให้เธอออกสำรวจ

 

“…”

 

หลังจากจดจ้องมองจนแน่ใจ

 

ว่าชายหนุ่มร่างสูงคงไม่ออกจากห้องน้ำไปสักระยะ เรือนร่างงดงามปานเทพธิดาก็ขยับย้ายตัวเองออกเดินไปรอบห้อง เดินดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น

 

ซึ่งตอนแรกเริ่มมันก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจมากนัก มันก็เหมือนกับห้องปรกติธรรมดาทั่วไป มีชั้นหนังสือ มีหนังสือเรียนอัดแน่นเต็มตู้ มีของใช้ส่วนตัว มีอะไรต่อมิอะไรหลายต่อหลายอย่าง

 

จนกระทั่งเธอเหลือบสายตาไปเห็นมันเข้า

 

“…”

 

“กรอบรูปตั้งโต๊ะ?”

 

“…”

 

เธอเห็นภาพถ่ายในกรอบรูปที่คว่ำเอาไว้

 

คว่ำเอาไว้ปิดกั้นกันไม่ให้ใครคนอื่นจดจ้องมอง ตำแหน่งของกรอบรูปอยู่ในตำแหน่งพิเศษสุด นั้นก็คือหัวเตียง เมื่อมันมาอยู่ตรงหัวเตียงแสดงว่ารูปภาพดังกล่าวย่อมต้องเป็นของสำคัญ

 

เธอยืนมองอยู่นานมากคล้ายกำลังต่อสู้กับจิตใจของตัวเอง หากยึดตามหลักปรกติธรรมดาสิ่งที่เธอควรจะทำมากที่สุดในตอนนี้คือนั่งนิ่งเงียบรอคอยให้เจ้าของห้องกลับมา แต่จิตใจกับคิดแตกต่าง

 

คิดแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง สองแนวทางความคิดเห็นระหว่างเดินเข้าไปหยิบพลิกกรอบรูป กับเลือกนั่งนิ่งเงียบรอคอยให้อีกฝ่ายออกมาจากห้องน้ำ กำลังตีกันไปมาไม่มีหยุดหย่อน

 

สุดท้ายปลายทางคุณหนูเมญ่าก็สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะเลือกพลิกกรอบรูปขึ้น ทันทีที่เธอพลิกกรอบรูปขึ้นมา พลิกขึ้นมาดูภาพถ่ายที่ถูกปกปิดเอาไว้ ดวงตาคู่งามก็พลันเบิกกว้าง

 

ตื่นตระหนกตกใจที่พานพบเห็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย

 

“…”

 

“!!!”

 

“…”

 

มันคือภาพถ่ายระหว่างทราเวียร์กับหญิงสาวที่เธอไม่รู้จัก

 

เป็นภาพถ่ายที่ทั้งสองกำลังนั่งอยู่บนม้านั่งในสวนสาธารณะสักแห่ง บรรยากาศเรียกได้ว่าช่างชื่นมื่นมีความสุขยิ่งนัก ต่างฝ่ายต่างเผยรอยยิ้มอบอุ่นบ่งบอกถึงความรู้สึกดี ๆ ที่มอบให้แก่กัน

 

เมญ่าเลิกคิ้วนึกสงสัยใคร่รู้

 

“…”

 

ใบหน้าหญิงสาวที่ปรากฏ

 

มันติดค้างอยู่ในหัวสมอง ไม่รู้ว่าเธอครุ่นคิดไปเองหรือเปล่า แต่รู้สึกเหมือนกับว่าเธอจะเคยพานพบเจออีกฝ่ายมาก่อน ติดที่จดจำไม่ได้ว่าไปเห็นที่ไหนและมีความสัมพันธ์ดีร้ายยังไงต่อกัน

 

ในขณะที่คุณหนูสาวกำลังจมจ่อมอยู่ในห้วงความคิดของตน เป็นตอนนั้นเองที่สุ้มเสียงสายหนึ่งดังออกมาจากห้องน้ำ ด้วยความตกใจบวกกับไม่มีความกล้าหาญมากพอ เธอเลยตัดสินใจถอยห่าง

 

ยอมกลับมานั่งที่เดิมไม่มีขยับไปไหนอีก

 

“…”

 

ถึงจะนั่งนิ่งเงียบ

 

ฉากภาพเมื่อครู่ก็ยังวนเวียนอยู่ในหัวสมอง

 

แม้จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครมาจากไหน แต่การมีรูปหญิงสาวนั่งเคียงข้างกายชายหนุ่มเจ้าของห้อง อีกทั้งรูปดังกล่าวยังวางประดับหัวเตียง หากไม่เป็นพี่น้องก็คงไม่พ้นต้องเป็นแฟนเป็นคนรัก

 

ที่สำคัญอีกฝ่ายยังดูดีอีกต่างหาก

 

“…”

 

“หรือจะเป็นแฟน?”

 

“…”

 

ริมฝีปากขบแน่น

 

บอกกล่าวตามตรง พอรับรู้ว่าอีกฝ่ายมีคนรักมีแฟนเป็นของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย เธอกับรู้สึกแปลกแยกแปลกหระหลาดเหลือเกิน ซึ่งเธอเองก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่ามันเป็นความรู้สึกแบบไหน

 

หรือบางทีต้นสายปลายกำเนิดต้นตอความรู้สึกแปลกแยกแปลกประหลาด อาจจะเป็นเพราะเธอกลัวเกรง กลัวว่าแฟนสาวคนรักของเขาจะกลับมาก็ได้ เกิดอีกฝ่ายเปิดประตูเข้ามา

 

เข้ามาพานพบเจอเธอกับเขาอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องนอน สถานที่เป็นส่วนตัวขั้นสุด สถานการณ์สุ่มเสี่ยงเกินจำเป็นยากจะอธิบายคงไม่พ้นยากจะหลีกเลี่ยง เพราะฉะนั้นเธอเลยตัดสินใจ

 

ตัดสินใจเด็ดขาดว่าพอเขาออกมาจากห้องน้ำ เธอจะขอตัวกลับทันที เพื่อไม่ให้เกิดข้อเข้าใจผิดจนนำไปสู่ปัญหาใหม่ที่มันใหญ่กว่าเดิม แต่แล้วเธอก็ยกมือจับหน้าอกตัวเองที่เจ็บแปลบขึ้นมา

 

เป็นความเจ็บปวดที่ชวนให้รู้สึกอึดอัดหัวจิตหัวใจหาสาเหตุไม่ได้

 

…‘นี่เราเป็นอะไร?’

 

“…”

 

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท