เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย – ตอนที่ 10 มาส่งถึงหน้าประตู

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

ตอนที่ 10 มาส่งถึงหน้าประตู

 

เขามาส่งเธอหน้าประตู

 

เดินมาส่งหลังจากทุกสิ่งอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อย ระหว่างที่คุณหนูสาวกำลังจะออกจากห้อง ชายหนุ่มร่างสูงพลันก้มหัวขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือที่อีกฝ่ายมอบให้

 

แต่เหมือนเธอจะไม่ค่อยยินดีสักเท่าไหร่กับคำขอบคุณของเขา

 

“…”

 

“ขอบคุณอีกครั้งสำหรับความช่วยเหลือ”

 

“…”

 

“อย่าเลยค่ะ”

 

“…”

 

“ก็อย่างที่บอกไปตั้งแต่ตอนต้น”

 

“เดิมทีบาดแผลพวกนี้ควรจะเป็นของดิฉัน”

 

“มันไม่ควรจะเป็นของคุณด้วยซ้ำ”

 

“…”

 

“หากจะมีใครสักคนที่ต้องกล่าวขอบคุณ”

 

“…”

 

“คงต้องเป็นดิฉันไม่ใช่คุณ”

 

น้ำเสียงปราศจากเรี่ยวแรงแข็งขืน

 

คำขอบคุณที่ทราเวียร์เปิดปากบอกกล่าวออกมา เธอไม่สมควรได้รับมันเลยแม้แต่น้อย กลับกันเลยเป็นฝ่ายของเธอเสียมากกว่าที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณ ไม่ใช่ฝ่ายที่ต้องรับคำขอบคุณ

 

ทราเวียร์ถอนหายใจเหนื่อยหน่าย

 

“…”

 

“ก็แค่อุบัติเหตุ”

 

“…”

 

ไม่จำเป็นต้องครุ่นคิดตีความไปมากกว่านี้

 

นั่นคือสิ่งที่แอบแฝงอยู่ในถ้อยคำเพียงไม่กี่คำของชายหนุ่มร่างสูง แต่ถึงแม้ว่าทราเวียร์จะบอกกล่าวตีความเอาไว้อย่างชัดเจน แต่มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ย้อนแย้งแม้จะได้รับการให้อภัย

 

แต่จิตใจของตนก็ยากจะให้อภัยตัวเอง คุณหนูสาวเพียงยิ้มแห้งเจือปนไปด้วยห้วงอารมณ์สับสนยุ่งวุ่นวาย ก่อนหล่อนจะตัดฉากมุ่งเข้าสู่ประเด็นใหม่

 

ประเด็นที่เกี่ยวกับเขาโดยตรง

 

“ในส่วนของวันนี้ก็เสร็จแล้ว”

 

“…”

 

“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะมาใหม่”

 

“พรุ่งนี้สะดวกรึเปล่าคะ?”

 

“มาใหม่?”

 

“…”

 

“มาทำไมครับ?”

 

หัวคิ้วทั้งสองเลิกขึ้นสูง

 

ลางสังหรณ์ยอดเยี่ยมกำลังทำงานเต็มเปี่ยมประสิทธิภาพ

 

บอกกล่าวตามตรงตอนนี้ต่อให้เขาหัวสมองโง่งมครุ่นคิดอะไรไม่ออก ก็ย่อมต้องรับรู้ได้ทันทีว่าท่วงท่าที่หญิงสาวแสนสวยเบื้องหน้ากำลังแสดงออกมา มันแอบแฝงไปด้วยแนวคิดแบบไหน

 

คุณหนูสาวเมญ่าตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

“มาช่วยทำแผลค่ะ”

 

“…”

 

“ด้วยบาดแผลของคุณในตอนนี้”

 

“คงยากจะดูแลด้วยตัวเอง”

 

“ดิฉันเลยมาช่วยทำแผลให้ค่ะ”

 

“…”

 

“จนกว่าแผลจะหาย?”

 

“…”

 

“ใช่ค่ะ!”

 

กลายเป็นเรื่องยุ่งยากจนได้

 

ชายหนุ่มร่างสูงไม่ได้เปิดปากให้คำตอบทันที แน่นอนว่าทางฝั่งของคุณหนูสาวเองก็ไม่ได้เร่งรัดเอาคำตอบ ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบไม่มีใครเร่งรีบเกินควร หัวคิ้วทราเวียร์เริ่มขมวดเข้าหากันอีกครั้ง

 

เพราะรู้แล้วว่าอีกฝ่ายติดนิสัยดื้อด้านมากมายขนาดไหน ท่วงท่าแบบนี้ต่อให้ปฏิเสธต่อไปก็คงไม่พ้นต้องเปล่าประโยชน์ อีกอย่างได้คุณสาวแสนสวยมาช่วยเหลือดูแลใกล้ชิดแบบนี้

 

ลำบากทนรำคาญนิดหน่อยก็ไม่ถือว่าเกินเลย

 

“…”

 

“อยากจะทำอะไรก็ทำ”

 

“…”

 

สิ้นเสียงบอกกล่าวอนุญาตให้ทำตามใจชอบ

 

สีหน้า แววตา ของคุณหนูสาวพลันแปรเปลี่ยนเปล่งประกายขั้นสุด รอยยิ้มเริ่มคลี่ออกเปิดเผยให้เห็นความงดงามปานเทพธิดา ทราเวียร์ที่พานพบเห็นฉากภาพดังกล่าวรีบหลบหน้า

 

หลบเลี่ยงไม่ต้องการจดจ้องมองสบสายตาอีกฝ่าย แต่ถึงแม้ว่าจะพยายามหลบเลี่ยงหลบหนี แต่ใบหน้าของเขาก็ยังมีริ้วแดงเรื่อปรากฎให้เห็นเล็กน้อย ก่อนจะจางหายไม่มีหลงเหลือ

 

พร้อมหวนคืนกลับมาราบเรียบเย็นชาอีกครั้ง

 

“…”

 

 

ทราเวียร์หยุดยืนมองจากในห้อง

 

ในฐานะเจ้าบ้านเกิดไม่มาส่งแขกถึงหน้าประตู เห็นทีจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างเสียมารยาท แม้ใจไม่ต้องการแต่เรื่องมารยาทขั้นพื้นฐานใช่ว่าจะปล่อยผ่านได้ โดยเฉพาะยิ่งอีกฝ่ายเป็นตัวตนสูงส่งด้วย

 

เขายิ่งต้องระมัดระวังให้มากขึ้นไปอีก

 

“…”

 

“เดินทางปลอดภัยครับ”

 

“…”

 

“ค่ะ”

 

“…”

 

“ขอให้แผลหาย ๆ นะคะ”

 

ทราเวียร์พยักหน้าน้อมรับส่งท้ายเป็นอันรับเรื่อง

 

ประตูห้องพลันปิดสนิท ปิดกั้นแบ่งแยกระหว่างเธอกับเขาอย่างชัดเจน คุณหนูสาวกะพริบตามองคล้ายต้องการดึงสติกลับมาและในเมื่อทุกสิ่งอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อยก็ถึงเวลาต้องกลับบ้านสักที

 

ฝ่ามือขาวเนียนหยิบจับโทรศัพท์กดโทรหาปลายสาย

 

“…”

 

“รบกวนเอารถออกด้วยค่ะ”

 

“…”

 

ไม่มีรอคอย

 

ไม่มีกล่าวทักทายตามมารยาท พอคุณหนูสาวกล่าวออกคำสั่งเสร็จสิ้น หล่อนก็กดตัดสายทิ้งทันทีไม่มีเหลือบมองอีกเป็นครั้งที่สอง ก่อนจะก้าวเท้าเดินมุ่งหน้าไปยังลิฟต์

 

มุ่งหน้าลงไปยังชั้นล่างสุดของอาคาร

 

“…”

 

 

คุณหนูสาวเมญ่าหยุดยืนรออยู่ด้านล่างตึก

 

ใช้ระยะเวลาไม่นานเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น ก่อนจะมีรถคันคำหรูหรามากไปด้วยรสนิยมมาจอดเทียบท่า คนรับใช้ไม่มีรอช้ารีบลงมาเปิดประตูให้กับเธอด้วยตัวเอง

 

เมญ่ามองเข้าไปในรถอยู่ครู่หนึ่ง คล้ายมีแนวคิดบางสิ่งอย่างปรากฎขึ้นในหัวสมอง แน่นอนว่าคนรับใช้ไม่อาจหาญมากพอที่จะร้องเรียกดึงสติอีกฝ่ายกลับมา เธอเลือกย้ายสายตามองขึ้นไป

 

มองไปยังตำแหน่งห้องของทราเวียร์ที่อยู่บนชั้น 5 ชั้นบนสุดของตึก

 

“…”

 

หล่อนมองนิ่งค้างอยู่อย่างนั้นหลายวินาที

 

ก่อนเรียวขาคู่งามจะก้าวเท้า ก้าวเข้าไปในรถหรูหรา พอเห็นผู้เป็นนายเข้าไปแล้ว คนรับใช้รีบปิดประตูเดินเร็วกลับขึ้นรถ และนำพารถหรูหรามากไปด้วยรสนิยมออกจากสถานที่

 

มุ่งหน้าออกสู่ถนนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรถยนต์ทันที

 

“…”

 

 

คุณหนูสาวเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง

 

เหลือบมองบรรยากาศโดยรอบด้วยสายตาราบเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์ ก่อนสุ้มเสียงทอดถอนหายใจสายหนึ่งจะดังขึ้นมาท่ามกลางความว่างเปล่า บอกกล่าวตามตรงตอนนี้เธอค่อนข้างลังเล

 

ค่อนข้างลังเลอยู่พอสมควรกับเรื่องราวต่อจากนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้น หากแต่สุดท้ายปลายทางสิ่งที่ต้องมายังไงก็ต้องมาอยู่ดีไม่อาจแปรเปลี่ยนเปลี่ยนอะไรได้ คุณหนูสาวสูดลมหายเข้าใจลึก

 

ก่อนจะเปิดปากกล่าวบอกออกคำสั่งให้คนขับรถทำตาม

 

“…”

 

“ติดต่อหาฮเยริน”

 

“…”

 

“ไม่ว่าหล่อนจะติดงานอะไรอยู่”

 

“โอนย้ายไปให้คนอื่นทำ”

 

“ถ้าเกิดมีใครขัดขืนคิดละเลยคำสั่ง”

 

“…”

 

“รู้ใช่ไหมว่าจะจัดการยังไง?”

 

คนขับรถวัยกลางคนเนื้อตัวสั่นสะท้านไม่กล้าเหลือบมองสบสายตา

 

ลองคุณหนูสาวได้เปิดปากบอกกล่าวด้วยตัวเอง เกิดมีใครเห็นเป็นอย่างอื่นคิดขัดขืนไม่ยินยอมทำตามคำสั่ง สิ่งที่รอคอยจุดหมายปลายทางการตัดสินใจอันโง่เขลาคงไม่พ้นต้องเป็นความตาย

 

เป็นความตายที่้ไม่อาจหลบเลี่ยงหลีกหนีได้

 

“…”

 

“ครับ!”

 

“…”

 

คนขับรถน้อมรับคำสั่งทันที

 

หลังจากมอบหมายส่งมอบคำสั่งให้เรียบร้อย คุณหนูสาวแสนสวยก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นอื่นแม้แต่น้อย เธอเพียงเปรยตามองฉากภาพนอกรถไปตามอารมณ์ มองด้วยความราบเรียบไม่มีแต่งแต้ม

 

ไม่มีอะไรอยู่ในห้วงลึกจิตใจ

 

“…”

 

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท