ตอนที่ 16 คุณหนูสาวติดอยู่ในลิฟต์
ทราเวียร์มาหยุดอยู่ที่หน้าถุงผ้า
หน้าถุงผ้าที่บรรจุข้าวของมากมายของตนที่พนักงานจัดการบรรจุใส่ให้เรียบร้อย แต่เขาก็ไม่ได้ขยับไปไหนเพียงแค่หยุดยืนนิ่งเงียบตามเดิม ซึ่งสาเหตุคงไม่พ้นเป็นฉากภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เกิดขึ้น
ก่อนตาข้างซ้ายจะกระตุกไม่พอใจหลายต่อหลายครั้ง
“…”
นอกจากตากระตุกไม่ชอบใจยังไม่เพียงพอ
ยังมีเส้นเลือดมากมายผุดปูดขึ้นมาบนหน้าผาก
ในตอนแรกเริ่มสุดหลังจากเกิดเรื่องราว เขาว่าเขาจะโอนเงินคืนให้กับหล่อน แต่ด้วยความหน้าด้านหน้าทน ที่ทำเมินเฉยต่อสายตาเดือดดาลของเขาทั้งยังหยิบจับของตัวเองมาจ่ายหน้าตาเฉย
ทำราวกับเขาเป็นเพียงอากาศธาตุไม่มีค่าให้เหลือบมอง
“…”
ด้วยพฤติกรรมทั้งหมดที่คุณหนูสาวแสดงออกมา
มันก็ทำให้เขาแทบจะอดทนอดกลั้นต่อไปไม่ไหน สุดท้ายปลายทางเพื่อตัดความรำคาญ
เขาก็เลยจำต้องปล่อยผ่าน เพราะรู้ว่าโต้เถียงต่อไปก็เปล่าประโยชน์ นอกจากเปล่าประโยชน์มันยังสร้างผลเสียมากกว่าผลดีอีกต่างหาก ที่สำคัญยิ่งกว่าคือมันยังมีต้นสายปลายเหตุใครอีกคน
ใครอีกคนที่เป็นต้นสายปลายเหตุหลักของเรื่องราวที่ต้องจัดการ
และยังจัดการง่ายกว่าด้วย
…‘ยัยนั้น’
…‘ปากมากไม่เข้าเรื่อง’
…‘สงสัยคงต้องแวะไปหาบ้างแล้วละ’
“…”
—
ณ ห้องพยาบาล
เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ทราเวียร์บ่นก่นด่า
เดิมทีห้องพยาบาลสมควรเป็นห้องเงียบงันปราศจากสุ้มเสียงรบกวน เนื่องจากภายในห้องมักจะมีผู้ป่วยเข้ามาใช้ห้องพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้เหมือนจะไม่เป็นแบบนั้น
เสียงไอดังหลายต่อหลายครั้งไม่มีหยุดหย่อน โดยต้นสายปลายกำเนิดของเสียงไอ ก็ไม่ใช่ใครคนไหน แต่เป็นหมอสาวประจำห้องพยาบาลนั้นเอง เหมือนหล่อนจะสำลักน้ำที่พึ่งดื่มเข้าไป
เลยยังไอต่อเนื่องไม่มีหยุดโดยมีนักเรียนหญิงข้างกายคอยช่วยเหลือ
คอยร้องถามด้วยความเป็นห่วง
“…”
“แค่ก!”
“แค่ก!”
“แค่ก!”
“…”
“อาจารย์คะ?!”
“…”
“มะ ไม่เป็นอะไร”
“ไม่เป็นอะไร”
“แค่สำลักน้ำเท่านั้นเอง”
“…”
“ค่อย ๆ ดื่มสิค่ะ”
หมอสาวห้องพยาบาลเพียงนิ่งเงียบ
นิ่งเงียบไม่นำพาคำพูดนักเรียนหญิงเบื้องหน้า สัญชาตญาณลางสังหรณ์ยอดเยี่ยมกำลังบอกกล่าว บอกคำใบ้ส่งมอบให้กับตน แต่เป็นหล่อนเองที่เลือกส่ายหน้าปฏิเสธ
ส่ายหน้าปฏิเสธไม่มียอมรับความเป็นไปได้ดังกล่าว
…‘ไม่ใช่หรอกมั้ง’
…‘คนอย่างเราน่ะเหรอ?’
…‘จะโดนนินทา’
“…”
—
หลังจากตรวจสอบของหมดสิ้น
ว่าครบถ้วนไม่มีลืมซื้ออะไรเพิ่มเติม เขาก็หยิบถุงผ้าเตรียมยกกลับบ้าน แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น พอตอนเขาจะยกถุง เขาดันเผลอใช้ข้างที่เป็นแผลทำให้เกิดอาการเจ็บแปลบไปชั่วขณะ
และด้วยความเจ็บปวดที่มารวดเร็วเหลือเกิน
เกินกว่าจะตอบสนองได้ทันท่วงที
“…”
“อึก!”
“…”
ทำให้เขาเผลอปล่อยถุงผ้าลงบนชั้นวางของ
ข้าวของกระจัดกระจายออกมาเล็กน้อย เขาลอบสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามดึงสติตัวเองกลับมา แน่นอนว่าฉากภาพเมื่อครู่มีคนเห็นพบเพียงหนึ่งนอกเหนือจากนั้นไม่มีใครผิดสังเกต
เนื่องจากทุกสิ่งอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก มากจนถ้าไม่สังเกตให้ดีคงไม่พ้นพลาดรายละเอียดแน่นอนคุณหนูสาวเตรียมจะกล่าวอะไรออกมา แต่ก็เห็นหางตาของทราเวียร์เหลือบมอง
เป็นสัญญาณบอกกล่าวว่าอย่าได้พ่นอะไรทั้งสิ้น
“…”
เอาเถอะ
ในเมื่อเจ้าตัวส่งสัญญาณมาให้อย่างชัดเจน
จะไปฝืนขัดขืนก็คงไม่ได้ เธอเลยจำต้องปล่อยผ่าน ส่วนพนักงานก็เก็บของใส่ถุงให้เรียบร้อย ก่อนจะยื่นให้เธอแต่เธอไม่ได้มองพนักงาน ห้วงสติอารมณ์ทั้งหมดของหล่อนล้วนอยู่กับทราเวียร์
จนพนักงานหนุ่มต้องกล่าวเรียกดึงสติ
“…”
“ทั้งหมด 368 บาทครับ”
“…”
นิ่งเงียบไร้ตอบสนอง
ยังคงมองทิศทางเดิมไม่มีเปลี่ยน
เธอมองทราเวียร์ด้วยสายตาเป็นห่วง
เพราะเธอรู้ดีว่าเขาในตอนนี้ต้องเจ็บมากแน่ พนักงานหนุ่มร้องเรียกเบาบางพอเห็นเมญ่าไม่หันมองก่อนจะมีตาเฒ่าคนหนึ่งเดินเข้ามาต่อแถวและเริ่มกระซิบแผ่วเบาเบาบาง
พอให้ดึงสติกลับมา
“…”
“แม่หนู”
“คะ?”
“โน้น”
“…”
“คือ รบกวนชำระเงินด้วยครับ”
พนักงานหนุ่มเริ่มขมวดคิ้วไม่ชอบใจ
ที่โดนเมินเฉย คุณหนูสาวพอรู้สึกตัวหล่อนรีบจ่ายเงินให้อีกฝ่ายทันที หลังจากจ่ายเงินเสร็จสิ้นเรียบร้อย หล่อนก็รีบยกถุงเตรียมพร้อมออกวิ่งตามอีกฝ่ายชายหนุ่มร่างสูง
แน่นอนว่าไม่มีลืมหันมากล่าวขอโทษทิ้งท้าย
“…”
“ขอโทษค่ะ!”
“…”
พอขอโทษที่ทำให้เสียเวลาเปล่าประโยชน์
คุณหนูสาวก็เริ่มออกวิ่งตามแผ่นหลังของทราเวียร์ ส่วนทางด้านพนักงานหนุ่มที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็ทอดถอนหายใจเจือปนไปด้วยห้วงอารมณ์อิจฉาในความสัมพันธ์ของทั้งสอง
ก่อนเขาจะเริ่มกลับมาปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองต่อ
“…”
—
นอกห้างเธอเห็นเขายังเดินหลังตรง
แต่ข้างที่ใช้ยกของกับเป็นอีกข้างที่ไม่ถนัดแทน เธอลังเลอยู่นาน ก่อนจะเดินขยับเข้าไปใกล้เขามากพอแต่ก่อนจะได้กล่าวอะไรออกไปทราเวียร์กับกล่าวดักหน้าปฏิเสธไม่คิดให้ช่วยเหลือ
คำกล่าวของเขาทำเอาเธอมึนงงไปเลย
“…”
“คือว่า”
“…”
“ไม่ครับ”
“คือ ฉันยังไม่ทันได้บอก”
“ยังไม่ทันจะได้บอกอะไรเลย”
“…”
“ไม่ครับ”
“…”
“ผมถือของผมเองได้”
ถูกปฏิเสธโดยที่ยังไม่ได้กล่าวถามด้วยซ้ำ
รอยยิ้มแห้งพลันปรากฏบนเค้าโครงหน้างดงามปานเทพธิดา ก่อนหล่อนจะทอดถอนหายใจเหนื่อยอ่อนออกมา ทั้งที่ยังไม่ทันจะได้กล่าวอะไรออกมาแท้ ๆ กับโดนกล่าวดักล่วงหน้าเฉย
เพียงแค่อยากจะช่วยเหลือด้วยใจจริง
ทำไมมันถึงได้ยากเย็นแบบนี้
“…”
“เฮ้อ!~”
“…”
คุณหนูสาวมองค้อน
หวังใช้สายตาแง่งอนบีบบังคับให้คนดื้อด้านรับรู้เสียที ว่าการที่หล่อนคิดออกหน้าช่วยเหลือด้วยตัวเองมันไม่ใช่สิ่งที่คนปรกติธรรมดาจะได้รับสิทธิ์เฉกเช่นนี้ด้วยซ้ำ ทั้งที่มีคนอยากจะช่วยเหลือ
กับดึงดันไม่เข้าเรื่องมันน่าหงุดหงิดยิ่งนัก
…‘หึ คนดื้อด้าน!’
“…”
—
บรรยากาศในลิฟต์นิ่งเงียบ
ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเมญ่าเพียงยิ้มไปตามอารมณ์ขณะที่หล่อนเหลือบมองไปที่ทราเวียร์ มองจนเขารู้สึกรำคาญ และด้วยความรำคาญใจขั้นสุด ทราเวียร์เลยหันกลับมาถาม
แต่สิ่งที่ได้รับกลับมากับเป็นคำกล่าวบ่ายเบี่ยงไม่คิดตอบ
“…”
“มองอะไร?”
“…”
“ไม่มีค่ะ”
“อีกอย่างไม่ได้มองสักหน่อย”
“คิดไปเองค่ะ”
“…”
“คิดไปเอง~”
คุณหนูสาวอมยิ้มหัวเราะเสียงหวาน
ก่อนจะก้มหน้ามองโทรศัพท์ ทั้งยังฮัมเพลงอารมณ์ดีไปด้วย แน่นอนว่าหล่อนอารมณ์ดีมีความสุข แต่ไม่ใช่สำหรับชายหนุ่มร่างสูง ทราเวียร์หัวคิ้วกระตุกหลายต่อหลายครั้ง
ก่อนแผนการหนึ่งจะปรากฏขึ้นในหัวสมอง
“…”
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก
เขากดปิดประตูทันทีและกดให้มันลงไปยังชั้นแรกสุด ก่อนเขาจะก้าวเท้าทิ้งให้หญิงสาวที่กำลังก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์โดยไม่อาจรับรู้อะไรเลย พอหล่อนคิดจะก้าวเท้าเดินหน้าต่อ
หน้าผากก็ชนเข้ากับประตูลิฟต์อย่างจัง
“…”
“เจ็บ!”
“…”
“ดะ เดี๋ยวก่อนสิ!”
“ดิฉันยังไม่ออกไปเลยนะ!”
“เดี๋ยวก่อน!”
“…”
“เปิดดดดด!”
เสียงกรีดร้องจากหญิงสาวดังจากด้านหลัง
ทราเวียร์เพียงยิ้มหัวเราะไม่ได้สนใจ ไม่ได้คิดเหลือบหันมองกลับไปด้านหลัง รอให้เขากลับเข้าไปในห้องก่อน สาบานได้เลยว่าเขาจะทิ้งให้หล่อนยืนอยู่นอกห้องสัก 10 นาทีก่อนจะเปิดให้
เผื่อท่วงท่าท่าทีที่หล่อนแสดงออกมามันจะเรียบร้อยมากขึ้น
…‘สมน้ำหน้า’
“…”