เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย – ตอนที่ 22 คุณหนูสาวผู้ตื่นตระหนกตกใจ

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

ตอนที่ 22 คุณหนูสาวผู้ตื่นตระหนกตกใจ

 

“!!!”

 

ตลอดเนื้อตัวคุณหนูสาวสั่นสะท้าน

 

ดวงตาทั้งสองข้างพลันเบิกกว้างแสดงอาการตื่นตระหนกตกใจขั้นสุด ก่อนหล่อนจะลุกขึ้นยืนด้วยเรียวขาทั้งสองข้างพร้อมออกแรงชี้หน้าใส่เขา ชี้หน้ากล่าวร้องเสียงดัง

 

กล่าวด้วยถ้อยคำตะกุกตะกัก

 

“ถะ ถอดเสื้อ?!”

 

“พะ พูดอะไรออกมา!”

 

“รู้ตัวรึเปล่าคะ?!”

 

ทราเวียร์พลิกหนังสือไปหน้าต่อไป

 

ถามว่าเขารู้ตัวรึเปล่าว่ากล่าวขออะไรออกไป แน่นอนว่าก็ต้องรู้ตัวอยู่แล้ว อีกทั้งถ้อยคำที่พึ่งกล่าวออกไปยังไม่ใช่ถ้อยคำง่ายดาย ไม่ใช่ถ้อยคำที่กล่าวออกไปอย่างมักง่ายไม่ครุ่นคิดไตร่ตรอง

 

แต่เพราะไตร่ตรองเรียบเรียงรายละเอียดดีแล้วต่างหากถึงได้กล่าวออกไป

 

“รู้ครับ”

 

“…”

 

“หรือว่าไม่ได้?”

 

“ก็ต้องไม่ได้อยู่แล้ว!”

 

“ไอ้เรื่องแบบนี้ไม่เห็นจะต้องให้บอก!”

 

“อีกอย่าง!”

 

“…”

 

“คำขอแบบนี้น่ารังเกียจที่สุด!”

 

“…”

 

“สรุปก็คือไม่ได้อยู่ดี?”

 

ผู้ชายน่าตายทั้งที่รู้แก่ใจแต่ก็ยังถามอีก

 

คุณหนูสาวลอบกัดปากตัวเอง เกิดมาทั้งชีวิตพึ่งจะมีเขาคนแรกเนี่ยแหละ ที่กล้าพูดจาหยอกล้อเกินเลยแบบนี้กับหล่อน แต่จะให้ทำยังไงได้ ก็ในเมื่อหล่อนเป็นคนเสนอเองว่าขออะไรก็ได้

 

ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายร้องขอมาแล้ว เธอก็ต้องมีหน้าที่ตอบสนองทำตามคำมั่นสัญญาที่เธอได้ให้เอาไว้ แต่ว่า แต่ว่ามัน คุณหนูสาวกำหมัดแน่นทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ

 

เหมือนรู้ว่าหล่อนกำลังครุ่นคิดสิ่งใดอยู่ ทราเวียร์ชายหนุ่มร่างสูงพลันทอดถอนหายใจ ทอดถอนหายใจเหนื่อยหน่ายกับสถานการณ์เบื้องหน้า

 

ก่อนจะกล่าวออกมาแผ่วเบา

 

“…”

 

“เอาเถอะครับ”

 

“…”

 

“ไม่ได้ก็ไม่ได้”

 

“ผมจะปล่อยผ่านไม่ทำให้คุณลำบากใจ”

 

“แต่ว่านะ”

 

“…”

 

“ทีหลังหากเป็นไปได้”

 

“อย่าสัญญาอะไรที่ทำไม่ได้อีก”

 

“คนที่รักษาสัญญาไม่ได้”

 

“ไม่มีใครเขาอยากจะเชื่อถือหรอกนะครับ”

 

“…”

 

“โปรดจำเอาไว้เป็นบทเรียนด้วย”

 

หัวคิ้วทั้งสองพากันกระตุกไม่พอใจไม่มีหยุดหย่อน

 

พอเห็นหล่อนตอบโต้ตอบสนองอะไรกลับมาไม่ได้ ก็ไล่บี้เล่นงานไม่มีหยุด ช่างเป็นผู้ชายที่เจ้าคิดเจ้าแค้นน่าตายยิ่งนัก คุณหนูสาวก้มหน้าเล็กน้อยขณะกล่าวโต้ตอบกลับไป แต่คำโต้ตอบของหล่อน

 

มันกับเหมือนคำแก้ตัวข้าง ๆ คู ๆ เสียมากกว่า

 

“…”

 

“คำขอของคุณมันเกินเลยไปต่างหาก”

 

“…”

 

“คำขอของผมมันเกินเลย?”

 

“จะเกินเลยหรือเปล่าอันนี้ไม่รู้?”

 

“ผมรู้เพียงแค่ว่า ผมร้องขอในสิ่งที่ผมต้องการ”

 

“ตามสิทธิประโยชน์ที่ผมควรจะได้รับ”

 

“หลังจากแข่งขันอย่างเป็นธรรม”

 

“และคุณ ก็ให้ในสิ่งที่ผมต้องการไม่ได้”

 

“เรื่องมันก็แค่นั้นเอง”

 

“…”

 

“งั้นคำขอแรกเดาว่าคุณคงปฏิเสธไม่ยอมรับ”

 

“แต่อย่างหลังที่คุณสัญญากับผม”

 

“อย่าบอกนะว่าคุณจะเบี้ยวผมอีก”

 

“…”

 

“ขอเวลาอีกนิดได้ไหมคะ?”

 

คุณหนูสาวเมญ่ายกมือชูนิ้วขอเวลา

 

กิริยาท่วงท่าน่ารักน่าหยิกถูกรีดเค้นออกมา หวังร้องขอช่วงเวลาจากชายหนุ่มร่างสูงเบื้องหน้า แน่นอนว่าสิ่งที่อยู่ในหัวสมองของหล่อน ว่าเขาจะต้องยินยอมโอนอ่อนให้ขอเพียงได้พานพบเห็น

 

หากแต่ความเป็นจริงที่ปรากฏกับโหดร้ายยิ่งนัก ทราเวียร์ปิดหนังสือของตนลง ก่อนจะเงยหน้า เงยหน้ามองสอดผสานสายตากับคุณหนูสาว ยิ่งนานเข้าหล่อนก็ยิ่งเหงื่อตกมากขึ้น

 

เพราะเหมือนว่าทุกสิ่งอย่างจะไม่ออกมาเหมือนกับที่คิดเอาไว้

 

“…”

 

 

“ตามข้อตกลงที่พวกเราทำร่วมกัน”

 

“เชิญครับ”

 

“ขอให้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย”

 

เสียงปิดกระแทกประตูส่งท้ายเป็นอันเสร็จสิ้น

 

คุณหนูสาวมองตรงนิ่งแข็งค้าง หัวสมองของหล่อนในตอนนี้ออกอาการมึนงงสับสนไม่เข้าใจ รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้หล่อนโดนลากออกมาทิ้งข้างนอกห้องเป็นที่เรียบร้อย พอรู้สึกตัวได้สติ

 

สีหน้าของหล่อนก็เหยเกขึ้นมาทันที

 

“…”

 

“ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ!”

 

“…”

 

คุณหนูสาวเมญ่ากระทืบพื้นไม่พอใจ

 

เธออุตส่าห์พยายามอย่างมากที่จะสานสัมพันธ์กับเขา พยายามรุกคืบเข้าไปในจิตใจ แต่ดูสิ่งที่เขาตอบสนองตอบโต้กลับมา มันช่างเป็นอะไรที่หยาบคายหยาบกร้านเหลือเกิน 

 

หลังจากกล่าวทิ้งท้ายเสร็จหล่อนก็เดินหายไปจากทางเดินทันที

 

…‘ครั้งหน้าไม่เป็นแบบนี้แน่!’

 

“…”

 

 

หลังจากปิดประตูกลับเข้ามาในห้อง

 

ชายหนุ่มร่างสูงเตรียมหวนคืนกลับไปอ่านหนังสือที่อ่านค้างเอาไว้ แต่พอก้าวเท้าไปได้หนึ่งก้าวเท่านั้น เขากับรู้สึกว่าฝ่าเท้าเหยียบเข้ากับอะไรสักอย่าง อะไรสักอย่างที่มันนุ่มนิ่มเหลือเกิน

 

พอเอาเท้าออกก็พานพบเจอเข้ากับก้อนสำลีที่เธอใช้เช็ดแผลเขา

 

“…”

 

ทราเวียร์เงยหน้ามองไปที่โต๊ะ

 

มองไปยังเก้าอี้ที่คุณหนูสาวนั่งหัวเราะหยอกล้อไปตามอารมณ์ใส่เขา ก่อนจะขยับย้ายสายตาไปที่กระเป๋าเก็บสมุดของตัวเอง เขาก้าวเท้าเดินเข้าไปใกล้และล้วงเข้าไปในกระเป๋า

 

พร้อมหยิบเอาสมุดการบ้านของตนขึ้นมา

 

“…”

 

สายตามองนิ่งค้างอยู่นาน

 

นานมากพอให้ชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งคิดทบทวน แนวทางความคิดเห็นของตัวเอง สุดท้ายปลายทางหลังจากตกผลึกทางความคิดเรียบร้อย ทราเวียร์ก็เงยหน้ามองเพดาน

 

ก่อนจะกล่าวเพียงถ้อยคำง่ายดายหากแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์

 

“…”

 

“ให้ตายสิ”

 

“…”

 

 

ในตู้ลิฟต์ชั้น 5 

 

ปลายนิ้วเรียวงามเคลื่อนไปกดที่ชั้น 1 ล่างสุด

 

หลังจากกดหมายเลขที่ต้องการ หล่อนก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา ออกมาเล่นฆ่าเวลาระหว่างรอคอยให้ลิฟต์ลงไปยังชั้นล่างสุดซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง แน่นอนว่าหล่อนไม่มีลืม

 

ไม่มีลืมพิมพ์บอกกล่าวให้คนของตนมารอรับ

 

“…”

 

ในระหว่างที่คุณหนูสาวเมญ่ากำลังก้มหน้า

 

ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ รวมไปถึงติดต่อให้คนของเธอมารับหลังจากทำธุระที่นี่เสร็จสิ้นเรียบร้อย และเป็นช่วงจังหวะเวลานั้นเอง ที่ิลิฟต์เคลื่อนตัวไปหยุดที่ชั้น 3 ประตูทั้งสองข้างก็พลันเปิดออก

 

ตามมาด้วยสุ้มเสียงพูดคุยเสียงดังจนน่าตกใจ

 

“จะไปไหนก็ไป!”

 

“…”

 

“แล้วอย่ามายุ่งวุ่นวายกับฉันอีก!—”

 

สุ้มเสียงด่ากราดเต็มเปี่ยมไปด้วยห้วงอารมณ์จางหายไม่มีหลงเหลือ

 

นอกจากสุ้มเสียงที่จางหายราวกับมีเวทมนตร์มาปิดกั้นทุกสิ่งอย่าง ตลอดเนื้อตัวยังพลันแข็งค้างขยับไปไหนไม่ได้อีกต่างหาก ทำได้แค่จดจ้องมองเบื้องหน้าอย่างเดียวเท่านั้นทำอะไรเป็นอื่นไม่ได้เลย

 

แม้กระทั่งจะกะพริบตาเรียกสติก็ยังทำไม่ได้

 

“…”

 

“!!!”

 

“…”

 

แววตาเปล่งประกายหลงรักหลงใหล

 

ฉากภาพในสายตาคล้ายชะงักงันเสมือนกาลเวลารอบตัวล้วนหยุดนิ่งเงียบ นับได้ว่าเป็นครั้งแรกเริ่มในชีวิตของมันเลย ที่ได้พานพบเห็นหญิงสาวที่งดงามปานเทพธิดาลงมาจุติ

 

สายตายิ่งมายิ่งจดจ้องมองไม่มีปล่อยผ่าน จับจ้องมองเขม็ง จับจ้องมองจนไม่คิดทำงานทำการ ไม่แม้กระทั่งทำอะไรทั้งสิ้น และเหมือนคุณหนูสาวจะรับรู้ได้ถึงสายตาที่กำลังจับจ้องมองมา

 

พอหล่อนเงยหน้ามอง 

 

“..”

 

สองสายตาพาสอดผสาน

 

เพียงแค่สบสายตาก็พาลมหายใจหยุดไปชั่ววูบ

 

เรียกได้ว่าพลังทำลายล้างขั้นสุด เจาะทะลุทะลวงเข้าไปในจิตใจอีกฝ่าย เจาะทะลุทะลวงสร้างร่องรอยไม่มีลืมเลือนในห้วงลึกจิตใจของชายหนุ่ม หัวใจที่เคยเต้นปรกติพลันเต้นแรงขึ้นกะทันหัน

 

ไม่มีสนใจปลายสายที่กำลังพูดคุยนิ้วมือกดตัดสายทิ้งทันที

 

ก่อนจะกล่าวทักทายด้วยแววตามากรัก

 

“…”

 

“สะ สวัสดีครับ”

 

“…”

 

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท