ตอนที่ 757 ถนนถูกปิดกั้นด้วยหิมะตกหนัก
หลังจากต้องจ่ายชดเชยค่ารักษาพยาบาลไปมากมาย ซูอวี้อิ๋งก็รู้สึกหดหู่ใจจนนอนไม่หลับทั้งคืน
หล่อนตื่นตั้งแต่ตีห้า
เป็นเพราะกลัวสามีตื่นขึ้นมาต่อว่า หล่อนจึงลุกจากเตียงอย่างแผ่วเบาไปยังห้องนั่งเล่น เปิดผ้าม่านและอยากจะเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
หล่อนรู้สึกราวกับมีหินก้อนใหญ่กดทับจนทำให้หายใจไม่ออก
ทันทีที่ดึงผ้าม่านออกและยังไม่ได้เปิดหน้าต่าง หล่อนพลันเห็นหิมะตกหนักอยู่ข้างนอก แสงสาดส่องมายังห้องนั่งเล่น
หล่อนเติบโตในเมืองหลวงตั้งแต่ยังเด็ก และเพิ่งได้เห็นหิมะตกหนักขนาดนี้นับตั้งแต่ประถม
ในตอนนั้นรถไฟหยุดให้บริการ และไม่รู้ว่าคราวนี้รถไฟจะหยุดให้บริการอีกหรือไม่
หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หล่อนก็โทรไปยังสถานีรถไฟ
พนักงานบอกหล่อนว่ารถไฟหยุดวิ่งตอนเที่ยงคืน
ซูอวี้อิ๋งทั้งประหลาดใจและดีใจ
การหยุดเดินรถไฟหมายความว่าจะไม่สามารถขนส่งพืชผลทางการเกษตรของหลินม่ายเข้าสู่เมืองหลวงได้
อย่างไรก็ตาม ช่องทางในการรับสินค้าของหล่อนนั้นแตกต่างจากช่องทางของหลินม่าย เนื้อสัตว์ ธัญพืช และน้ำมันทุกชนิดได้มาอย่างผิดกฎหมายจากสมาพันธ์เนื้อสัตว์และคลังเก็บธัญพืชของจีน
อาหารที่ไม่ใช่อาหารหลักอื่น ๆ ก็ได้รับจากโรงงานอาหารของรัฐภายใต้การช่วยเหลือของผู้เป็นพ่อ
ผัก ไข่ และของสดอื่น ๆ ถูกซื้อมาจากเขตชานเมืองของเมืองหลวง
ดังนั้น การหยุดรถไฟจึงไม่มีผลกับซูอวี้อิ๋ง
หล่อนโทรหาผู้จัดการเฉียนและผู้จัดการหม่าอีกครั้งและขอให้พวกเขาส่งพนักงานไปยังชานเมืองเพื่อซื้อสินค้าเกษตร
และให้เขาบอกเกษตรกรเหล่านั้นว่ารัฐบาลส่งมาซื้อพืชผลทางการเกษตร
มีกฎระเบียบว่าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรทั้งหมดในเขตชานเมืองของเมืองหลวงสามารถซื้อได้โดยพวกเขาเท่านั้น และพวกเขายังเป็นผู้กำหนดราคาอีกด้วย
ใครก็ตามที่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งจะต้องรับผิดชอบหลังจากภัยพิบัติหิมะสิ้นสุดลง
ทั้งผู้จัดการเฉียนและผู้จัดการหม่าต่างเกิดความสับสนในใจ การกระทำเช่นนี้ไม่เท่ากับผิดกฎหมายเหรอ?
พวกเขาแสดงความกังวลผ่านทางสีหน้า
แต่ซูอวี้อิ๋งไม่สนใจ หล่อนบอกว่าพ่อของตนจะแบกรับปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นเอง พวกเขาสามารถทำทุกอย่างได้ตามต้องการ
ผู้จัดการทั้งสองต้องทำตามคำสั่งของหล่อน
ในนามของรัฐบาล พ่อค้าแม่ค้าต่างรีบขายสินค้าเกษตรจำนวนมากในราคาต่ำ
การซื้อผักเรือนกระจกจากเกษตรกรในเมืองหูลู่ยังคงมีราคาต่ำ ซึ่งทำให้เกษตรกรในหมู่บ้านมากกว่าสิบคนโกรธมาก
พวกเขาคิดว่าด้วยหิมะที่ตกหนักเช่นนี้ ตลาดฮุ่ยหมินควรจะต้องขึ้นราคา แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าตลาดฮุ่ยหมินจะใจดำถึงขนาดนี้
ราวแปดนาฬิกา ซูอวี้อิ๋งออกไปข้างนอกโดยไม่คำนึงถึงลมแรงและหิมะ
หล่อนมีอาวุธครบมือ ดวงตาฉายแววโกรธเคือง และแอบไปยังตลาดฝูตัวตัว
เมื่อเห็นว่าตลาดฝูตัวตัวไม่ได้ขายอาหารสดในวันนี้ หล่อนก็รู้สึกมีความสุข และรีบไปที่ตลาดฮุ่ยหมินของตน
หล่อนไม่พอใจอย่างมากเมื่อเห็นว่าราคาสินค้าทั้งหมดเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
หล่อนบอกผู้จัดการเฉียนให้ขึ้นราคาของสดและนมเป็นสองเท่าทันที
ราคาธัญพืชและน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกห้าสิบเปอร์เซ็นต์
สินค้าอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์
หล่อนให้ความสำคัญกับการจัดการขึ้นราคาสินค้าอย่างมาก
สินค้าที่มีน้อย แต่ความต้องการในท้องตลาดสูงก็มักเป็นทางเลือกที่ดีที่จะขึ้นราคาได้ตามใจ
ผู้จัดการเฉียนตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้นพลางเอ่ยถาม “เราเพิ่มราคามากขนาดนี้ จะมีลูกค้าซื้อไหมครับ?”
ซูอวี้อิ๋งกลอกตาและพูดอย่างเหยียดหยาม “ตลาดสดฝูตัวตัวไม่มีสินค้าด้วยซ้ำ หากลูกค้าไม่มาซื้อที่เรา พวกเขาจะหาซื้อได้ที่ไหนอีก? เราควรใช้ประโยชน์จากภัยพิบัติหิมะนี้เพื่อสร้างรายได้ เพราะในอนาคตจะอาจไม่มีโอกาสเช่นนี้”
หล่อนวางแผนที่จะใช้ภัยพิบัติหิมะนี้หาเงินค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดที่เสียไป
ผู้จัดการเฉียนขบริมฝีปาก ไม่กล้าขัดขืน และจัดให้พนักงานกำหนดราคาตามที่ซูอวี้อิ๋งพูด
ณ ตลาดฝูตัวตัว ลูกค้าจำนวนมากมองไปยังพื้นที่ขายอาหารสดที่ว่างเปล่า และถามพนักงานในตลาด “ทำไมวันนี้ไม่มีผักและหมูขายเลยล่ะ?”
พนักงานขายอธิบายว่า สินค้าเกษตรทั้งหมดที่ขนส่งมาจากระยะไกลติดอยู่ที่สถานีในนครฉือเจียจวง
คุณหลินและคุณทังกำลังจัดรถบรรทุกเพื่อขนส่งสินค้าไปจากฉือเจียจวงมายังที่นี่
พนักงานขายบางส่วนเดินทางไปยังรอบนอกเมืองหลวงและพยายามอย่างหนักเพื่อหาซื้อผลผชิตทางการเกษตร พวกเขาอาจสามารถซื้อสินค้าเกษตรจำนวนหนึ่งได้ภายในเที่ยงวัน
หลังเที่ยงวัน พนักงานเหล่านั้นก็กลับมาพร้อมผักสด ปลา เนื้อ และไข่มากมาย
ลูกค้ามากมายเดินออกมาจากตลาดฝูตัวตัวด้วยความผิดหวัง
ทันทีที่พวกเขาออกมาจากตลาดฝูตัวตัว พวกเขาเห็นผู้แจกใบปลิวสองสามรายจากตลาดฮุ่ยหมินกำลังแจกใบปลิวให้กับทุกคน
พวกเขาตะโกนเสียงดัง “ตลาดสดฮุ่ยหมินขายทุกอย่าง คุณไปที่ตลาดสดฮุ่ยหมินเพื่อซื้ออะไรก็ได้ที่ต้องการ หิมะจะยังคงตกหนักนับสิบวัน หากไม่กว้านซื้อในตอนนี้ ของในตลาดฮุ่ยหมินอาจหมดลงในวันพรุ่งนี้”
คนธรรมดาที่ได้รับใบปลิวโกรธทันทีเมื่อเห็นราคาสินค้า “ผักกาดขาวหนึ่งหัว พวกคุณขายห้าเหมาเลยเหรอ? ทำไมถึงแพงขนาดนั้น?”
“ซี่โครงหมูพวกนั้นก็เหมือนกัน ขายชิ้นละห้าเหมาทั้งที่ไม่ใช่ของสด เป็นอาหารแปรรูปด้วยซ้ำ ขายแพงขนาดนี้ เราซื้อไม่ไหวหรอก!”
พนักงานกล่าวด้วยความเหยียดหยาม “จะซื้อหรือไม่ก็เรื่องของพวกคุณ แพงเกินไปก็ไม่ต้องซื้อ แต่ขอเตือนไว้เลยว่าพวกคุณหาซื้อที่ไหนไม่ได้แล้ว! และในอีกสองวันข้างหน้า แม้จะมีเงินมากมาย พวกคุณก็จะไม่สามารถหาซื้อได้!”
คำพูดของพวกเขาทำให้ฝูงชนตื่นตระหนก
ทุกคนต่างสนทนากันถึงพายุหิมะที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง และพวกเขาไม่รู้ว่าจะมันจะหยุดตกเมื่อใด
หากต้องใช้เวลานับสิบวันหรือนานกว่านั้น ครอบครัวจะต้องขาดแคลนอาหารอย่างแน่นอน
สิ่งที่ผู้คนกลัวที่สุดคือความหิวโหย
ทุกคนต่างคิดเห็นเช่นเดียวกันว่า แม้สินค้าในตลาดฝูตัวตัวจะมีราคาถูกกว่า แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายหากพวกเขาจะซื้ออาหารเหล่านี้กักตุนไว้
ไม่ว่าหิมะจะตกนานแค่ไหน ตราบใดที่มีอาหารอยู่ที่บ้าน พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัว
ลูกค้าที่เพิ่งเดินออกจากตลาดฝูตัวตัวหันกลับมาและจับกลุ่มกันอีกครั้ง
ไม่เพียงผู้แจกใบปลิวในตลาดฮุ่ยหมินเท่านั้นที่ตกตะลึง แต่แม้แต่ซูอวี้อิ๋งที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็ยังตกตะลึง
หล่อนคิดว่าหากตลาดฝูตัวตัวไม่ขายอาหารสด ลูกค้าจะไปที่ตลาดของหล่อนเพื่อจับจ่ายซื้อของ
แต่หล่อนไม่เคยคิดมาก่อนว่าลูกค้าเหล่านั้นจะซื้อธัญพืชและน้ำมันจากตลาดฝูตัวตัว
ซูอวี้อิ๋งจากไปด้วยความโกรธ
หล่อนคิดว่าหากธัญพืชและน้ำมันจากตลาดฝูตัวตัวขายหมด ลูกค้าจะต้องแห่กันไปยังตลาดของตนเพื่อซื้อสิ่งที่พวกเขาต้องการ
เมื่อถึงเวลานั้นหล่อนจะขึ้นราคาธัญพืชและน้ำมันเพื่อให้พวกเขารู้ว่าหล่อนแข็งแกร่งเพียงใด
เนื่องจากไม่มีปลา เนื้อ และผักสดขาย ทั้งยังมีลูกค้าไม่มากนัก พนักงานของตลาดฝูตัวตัวจึงเกียจคร้านมาก
ทุกคนยืนคุยกันเกี่ยวกับสภาพอากาศ ทันใดนั้นฝูงชนก็พุ่งเข้ามาราวกับกระแสน้ำหลาก
ขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง ฝูงชนต่างกรูกันเข้าไปซื้อธัญพืชและน้ำมัน
ราวกับว่าข้าว แป้ง น้ำมัน และธัญพืชทุกชนิดเป็นของหายาก และทุกคนต่างรีบจับจองเอาเป็นของตนเอง
บางคนหิ้วสองถุง บางคนหิ้วสามถุง แต่ละถุงหนักห้าสิบชั่ง
พนักงานขายธัญพืชและน้ำมันก็ยุ่งวุ่นวายอย่างมาก
พนักงานขายอาหารสดที่ไม่มีอะไรทำจึงวิ่งไปช่วยเหลือทันที
พนักงานอีกคนรายงานสถานการณ์ให้ทังอี้ทราบ
ทังอี้ออกมาและเห็นว่าผู้คนกลัวการปิดถนนและการขาดแคลนอาหาร จนตื่นตระหนก ดังนั้นพวกเขาจึงกักตุนอาหารและน้ำมันให้ได้มากที่สุด
เขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและตะโกนด้วยเสียงดัง โดยกำหนดว่าจะจำกัดให้แต่ละคนซื้อข้าวและแป้งได้เพียงหนึ่งถุง ซึ่งเท่ากับห้าสิบชั่ง
ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันงา น้ำมันถั่วลิสง หรือน้ำมันพืช จำกัดการซื้อได้ไม่เกินสามชั่งต่อคน
บะหมี่จำกัดไม่เกินสิบชิ้นต่อคน และธัญพืชเบ็ดเตล็ดจำกัดไม่เกินสามสิบชั่งต่อคน
หากไม่มีการจำกัดการซื้อ ธัญพืชพร้อมน้ำมันในตลาดและในสต็อกจะถูกขายหมดภายในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง และลูกค้าที่รอคอยอยู่จะไม่สามารถซื้ออะไรได้อีก
แม้ตลาดฝูตัวตัวจะออกนโยบายจำกัดการซื้อธัญพืชและน้ำมันเป็นการชั่วคราว แต่ลูกค้าก็เข้าใจเจตนาของพวกเขาและทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ในที่สุดความเร่งรีบในการซื้อธัญพืชและน้ำมันก็ได้รับการแก้ไข และหลังเที่ยง ความเร่งรีบในการซื้อนมผงก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
คนส่วนใหญ่ที่ซื้อนมผงคือครอบครัวที่เลี้ยงลูกด้วยนมผง
ด้วยกลัวว่าหิมะตกหนักจะขวางถนนจนครอบครัวเหล่านี้จะไม่สามารถซื้อนมผงได้ และลูก ๆ ของพวกเขาจะหิวโหย ดังนั้นพวกเขาจึงซื้อไปหลายถุง
นมผงขายหมดก่อนที่ตลาดฝูตัวตัวจะขึ้นป้ายระบุว่าจำกัดการซื้อนมผงเสียอีก
เมื่อทังอี้ประกาศจำกัดการซื้อนมผงอีกครั้ง ก็ไม่มีลูกค้ารายใดส่งคืนนมผงส่วนเกิน
พวกเขาสามารถยอมรับข้อจำกัดในการซื้ออาหารได้ เพราะไม่สำคัญว่าผู้ใหญ่จะหิวหรือไม่
แต่พวกเขาจะไม่อาจยอมรับได้หากทารกหิวโหย
ลูกค้าไม่ต้องการคืนนมผงที่ซื้อเกินไป และทังอี้ก็ไม่มีทางเลือก
เขาไม่สามารถฉกฉวยโอกาสจากลูกค้าได้ จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรีบโทรหาหลินม่ายและบอกเธอว่าธัญพืชและน้ำมันกำลังจะหมดสต็อก เช่นเดียวกับนมผง
หลินม่ายรับรู้ทันทีว่าธัญพืช น้ำมัน และนมผงมีอยู่เท่าไรในตลาด
เห็นได้ชัดว่าเพียงพอสำหรับการขายในสองสามวัน ทำไมจู่ ๆ ถึงหมดสต๊อก?
เมื่อทังอี้เล่าเรื่องทั้งหมดให้หลินม่ายฟัง หลินม่ายก็ไม่ใส่ใจที่จะกินอาหารกลางวันอีกต่อไป
เธอสั่งให้ทังอี้ติดต่อโรงงานนมผงของรัฐหลายแห่งในปักกิ่งเพื่อซื้อนมผง
แม้โรงงานนมผงของรัฐหลายแห่งจะปิดทำการเนื่องในเทศกาลปีใหม่ แต่ก็ยังมีสต็อกบางส่วนเหลือเพื่อรับประกันอุปทานในช่วงปีใหม่
ในยุคนี้ นอกจากวัตถุดิบสำรองของประเทศที่ขายไม่ได้หากไม่ได้รับอนุญาตแล้ว วัตถุดิบที่ไม่ใช่วัตถุดิบสำรอง เช่น นมผงและขนมขบเคี้ยวก็สามารถขายได้
ราคาตามกำหนดและไม่สูงเกินไปในท้องตลาด
พวกเขาขายให้กับห้างสรรพสินค้าของรัฐหรือร้านค้าขนาดเล็กตามราคาส่ง
แต่ผู้ประกอบอาชีพอิสระเช่น ตลาดฝูตัวตัว ต่างซื้อในราคาปลึก
ทังอี้วางสายโทรศัพท์ทันทีและไปยังโรงงานนมผงของรัฐเพื่อซื้อนมผงด้วยตนเอง
หลินม่ายโทรหาจ้าวเลี่ยงทันที
เธอขอให้เขารีบส่งธัญพืชสิบตันและน้ำมันปรุงอาหารมายังเมืองหลวงโดยเร็ว พอน้ำมันและธัญพืชในเมืองหลวงกำลังจะหมดลง
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
อย่างกับฉากในวันสิ้นโลกที่คนกรูมาซื้อเสบียงไปตุนเลย หิมะตกหนักนี่มันลำบากจริงๆ นะ
ไหหม่า(海馬)