แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 758 ซูอวี้อิ๋งขึ้นราคาสินค้า

ตอนที่ 758 ซูอวี้อิ๋งขึ้นราคาสินค้า

ตอนที่​ 758 ซูอวี้อิ๋ง​ขึ้นราคา​สินค้า​

จ้าว​เลี่ยง​ดู​เป็นกังวล​ขณะ​กล่าว​คำ​ “รีบเร่ง​ขนาด​นั้น​ ผม​คง​หา​ธัญพืช​สิบ​ตัน​ไม่ได้​ และ​ก็​แทบ​หา​ซื้อ​น้ำมันพืช​ไม่ได้​แม้แต่​ครึ่ง​ตัน​”

“แล้ว​ตอนนี้​คุณ​เอา​อาหาร​ออกมา​ได้​เท่าไหร่​?”

“แป้ง​บวก​ข้าว​ รวม​เป็น​สามตัน​” จ้าว​เลี่ยง​ตอบ​ “นี่​คือ​สินค้า​ทั้งหมด​ที่อยู่​ใน​คลัง​ของ​ผม​”

หลิน​ม่าย​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ “ถ้าอย่างนั้น​คุณ​ส่งธัญพืช​ทั้ง​สามตัน​มาที่นี่​ แล้ว​รีบ​ส่งคน​ไป​ยัง​ชนบท​เพื่อ​หา​ซื้อ​ธัญพืช​และ​น้ำมัน​”

จ้าว​เลี่ยง​ส่งเสียง​ตอบรับ​ หลังจาก​วาง​สายโทรศัพท์​ เขา​ก็​เริ่ม​ทำ​สิ่งต่างๆ​ ตามคำแนะนำ​ของ​หลิน​ม่าย​

หลิน​ม่าย​กลับ​ไป​ยัง​ห้องอาหาร​เพื่อ​รับประทาน​อาหารกลางวัน​

คุณปู่​ฟางและ​คนอื่นๆ​ นั่ง​อยู่​ที่​โต๊ะอาหาร​ขณะ​รอ​เธอ​คุย​ธุระ​เสร็จ​

หลิน​ม่าย​พูด​ขึ้น​อย่าง​ขุ่นเคือง​ “คุณปู่​คุณย่า​คะ​ ฉัน​บอก​ตั้ง​หลายครั้ง​แล้ว​ว่า​ให้​กินข้าว​ก่อน​เลย​ ใน​ฤดูหนาว​อาหาร​จะเย็น​เร็ว​ ดังนั้น​ไม่จำเป็นต้อง​รอ​ฉัน​~”

คุณปู่​ฟางยิ้ม​อย่าง​ร่าเริง​ “การ​กิน​หม้อไฟ​ก็​ต้อง​รอ​กิน​พร้อมกัน​ทั้ง​ครอบครัว​สิ ถึงจะอร่อย​”

คู่สามีภรรยา​เฒ่าหยิบ​หม้อไฟ​ขึ้น​มา ส่วน​อีก​คน​เติม​ถ่าน​ลง​ใน​เตา​ ก่อนที่​ไฟจะลุกโชน​ขึ้น​อีกครั้ง​

ทุกคน​กิน​หม้อไฟ​ด้วยกัน​

หลังจาก​กิน​หม้อไฟ​แล้ว​ ขณะที่​หลิน​ม่าย​ยก​จาน​ไป​ล้าง​ โทรศัพท์​ใน​ห้องนั่งเล่น​ก็​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง​

ปลาย​สาย​เป็น​ทัง​อี้​

เขา​บอก​หลิน​ม่าย​ผ่าน​ทาง​โทรศัพท์​ว่า​ โรงงาน​นม​ของ​รัฐ​ทุกแห่ง​ใน​เมืองหลวง​ถูก​ใคร​บางคน​ควบคุม​และ​ไม่ยอม​ขาย​นมผง​ให้​เขา​

หลิน​ม่าย​ไม่ยอมแพ้​ “เสนอ​ราคา​ที่สูง​ขึ้น​ ดู​สิว่า​พวกเขา​จะยอม​ขาย​หรือไม่​”

ใน​ยุค​ของ​การปฏิรูป​และ​การ​เปิด​ประเทศ​ หน่วยงาน​ของ​รัฐ​ก็​เริ่ม​พูดถึง​ผลประโยชน์​ทางเศรษฐกิจ​เช่นกัน​

หลิน​ม่าย​ไม่เชื่อ​ว่า​โรงงาน​นม​ของ​รัฐ​เหล่านั้น​สามารถ​ต้านทาน​การ​ล่อลวง​ด้วย​ราคา​ที่สูง​ได้​ เว้นแต่​ผู้นำ​ของ​พวกเขา​จะไม่สนใจ​ว่า​งบการเงิน​จะดูดี​หรือไม่​

ทัง​อี้​พูด​อย่าง​หดหู่​ “ผม​ลอง​แล้ว​ครับ​ พวกเขา​ยืนยัน​ว่า​จะไม่ขาย​แม้ให้ราคา​ที่สูง​กว่า​นี้​”

เห็นได้ชัด​ว่า​มุ่งเป้า​มาที่​ตลาดสด​ฝูตัว​ตัว​

หลิน​ม่าย​ไม่ใช่คน​โง่เขลา​ เธอ​รู้​อยู่แล้ว​ว่า​เรื่อง​ทุกอย่าง​มีซูอวี้อิ๋ง​ชักใย​อยู่​เบื้องหลัง​

มัน​ชัดเจน​แล้ว​ว่า​ซูอวี้อิ๋ง​เป็น​คน​เผยแพร่​เรื่อง​ลวงโลก​ใน​เขตชานเมือง​ของ​เมืองหลวง​ เพื่อ​ป้องกัน​ไม่ให้​เกษตรกร​ใน​ท้องถิ่น​ขาย​สินค้า​เกษตร​ให้​กับ​พนักงาน​ซื้อขาย​จาก​ตลาด​ของ​หลิน​ม่าย​

ซูอวี้อิ๋ง​มีความกล้า​มากเกินไป​ ถึงขนาด​แอบอ้าง​ชื่อ​ของ​รัฐบาล​เพื่อ​จำกัด​ไม่ให้​ผู้อื่น​ซื้อ​สินค้า​เกษตร​และ​ผลิตภัณฑ์​จาก​นม​ หล่อน​คิด​ว่า​พ่อ​ของ​ตัวเอง​มีอำนาจ​ยิ่งใหญ่​ค้ำฟ้า​ถึงเพียงนั้น​เชียว​หรือ​?

หลิน​ม่าย​กล่าว​ “ฉัน​จะแก้ปัญหา​นี้​เอง​”

ซูอวี้อิ๋ง​คิด​ว่า​ถ้าตัวเอง​ควบคุม​โรงงาน​นม​ทั้งหมด​ใน​เมืองหลวง​ แล้ว​หลิน​ม่าย​จะทำ​อะไร​ไม่ได้​งั้น​หรือ​?

หลิน​ม่าย​ต่อสาย​ถึงแม่ถ่าน่า​และ​ขอให้​เธอ​ซื้อ​นมผง​จาก​ซูกั๋ว​ให้​มาก​ที่สุด​เท่า​ที่จะ​เป็นไปได้​ รวมถึง​ผลิตภัณฑ์​จาก​เนื้อสัตว์​ของ​ซูกั๋ว​ด้วย​

จำเป็นต้อง​มีเนื้อวัว​และ​เนื้อ​แกะ​มาขาย​

แม่ถ่าน่า​กล่าว​ “ไม่มีปัญหา​หรอก​ที่จะ​หา​ซื้อ​นมผง​และ​ผลิตภัณฑ์​เนื้อสัตว์​เพิ่มเติม​จาก​ซูกั๋ว​ ปัญหา​คือ​เรา​มีพายุ​หิมะ​ที่นี่​แล้ว​รถไฟ​ก็​หยุด​วิ่ง​ ต้อง​ใช้เวลา​อย่าง​น้อย​สามวัน​จึงกลับ​สู่สภาพ​ปกติ​ ฉัน​ต้อง​ใช้เวลา​สามวัน​ใน​การขนส่ง​”

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​รับรู้​ “ขอบคุณ​สำหรับ​การ​ทำงานหนัก​ค่ะ​”

หาก​แม่ถ่าน่า​ไม่สามารถ​ส่งสินค้า​ได้​ทันเวลา​ เธอ​ต้อง​โทร​หา​จ้าว​เลี่ยง​และ​ขอให้​เขา​นำ​นมผง​ทั้งหมด​ใน​คลังสินค้า​ของ​เมือง​เจียง​เฉิงมา

ด้วย​ความกลัว​ว่า​นมผง​จะไม่พอ​ขาย​ หลิน​ม่าย​ขอให้​จ้าว​เลี่ยง​ติดต่อ​อุตสาหกรรม​นม​แม่น้ำ​แยงซี​ เพื่อ​ซื้อ​สินค้า​คงคลัง​ทั้งหมด​ของ​พวกเขา​ และ​ขอให้​ส่งมายัง​เมืองหลวง​โดยเร็ว​ที่สุด​

จ้าว​เลี่ยง​บอก​หลิน​ม่าย​ว่า​ ตอนนี้​เขา​ได้​ส่งธัญพืช​สามตัน​และ​น้ำมันพืช​ครึ่ง​ตัน​ไป​นคร​ฉือ​เจีย​จวง​โดย​รถไฟ​บรรทุก​สินค้า​ด่วน​พิเศษ​

มัน​จะไป​ถึงนคร​ฉือ​เจีย​จวง​อย่าง​ช้าที่สุด​เวลา​สี่ทุ่ม​ของ​วันนี้​ และ​ให้​พวกเขา​เตรียม​การจัดส่ง​ต่อ​ทันที​

หลิน​ม่าย​ขอให้​เขา​แจ้งข่าว​กับ​ทัง​อี้​เพื่อให้​จัดการ​เรื่อง​รับ​สินค้า​

แม้ว่าการ​ซื้อ​ธัญพืช​ น้ำมัน​ และ​นมผง​ใน​ตลาดสด​ฝูตัว​ตัว​จะถูก​จำกัด​ แต่​สินค้า​ทุกอย่าง​ก็​ขาย​หมด​ก่อน​บ่าย​สอง​โมง

ผู้คน​ตื่นตระหนก​เกินไป​และ​กว้านซื้อ​สินค้า​จำนวนมาก​

ลูกค้า​บางคน​ไม่ทัน​ได้​ซื้อ​ เนื่องจาก​เศรษฐกิจ​ไม่ดี​จึงไม่ยอม​ออก​นอกบ้าน​เป็นเวลา​นาน​

กระทั่ง​ทัง​อี้​ยืนยัน​ว่า​จะมีเสบียงอาหาร​และ​น้ำมัน​เข้ามา​เพิ่ม​ใน​บ่าย​วันพรุ่งนี้​ ลูกค้า​เหล่านี้​จึงเริ่ม​ทยอย​แยกย้าย​กลับ​ไป​

เมื่อ​เห็น​ว่า​ตลาดสด​ฝูตัว​ตัว​ไม่มีอาหาร​และ​น้ำมัน​ขาย​ ลูกค้า​ที่​มีฐานะ​บางส่วน​จึงไป​ยัง​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​

วันนี้​ใน​เมืองหลวง​อัน​กว้างใหญ่​ มีเพียง​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​เท่านั้น​ที่​ขาย​อาหารสด​ ทำให้​ใน​ตลาด​มีผู้คน​แวะเวียน​มาอย่าง​คับคั่ง​

เวลา​ยัง​ไม่ถึงเที่ยงวัน​ อาหารสด​ก็​ขาย​เกือบ​หมด​แล้ว​

ซูอวี้อิ๋ง​มองดู​ทุกอย่าง​ขณะที่​รู้สึก​ยินดี​อยู่​ใน​ใจ

หล่อน​บอก​จี้เจี้ยนจ​วิน​ผู้​เป็น​หุ้นส่วน​ให้​พา​พนักงาน​ซื้อขาย​ไป​ยัง​ชานเมือง​ของ​เมืองหลวง​เพื่อ​สินค้า​เกษตร​ต่อไป​

ใน​ความจริง​เพียง​ส่งพนักงาน​ไป​ซื้อ​สินค้า​เกษตร​ใน​ชานเมือง​ของ​เมืองหลวง​ก็​เพียง​พอแล้ว​

แต่​ซูอวี้อิ๋ง​มีเหตุผล​ที่​ขอให้​จี้เจี้ยนจ​วิน​เป็น​ผู้นำ​ทีม​

ทำไม​หล่อน​ถึงต้อง​ทำงานหนัก​เพื่อ​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​ทั้งสอง​สาขา​ ขณะที่​จี้เจี้ยนจ​วิน​คอย​รับ​ผลประโยชน์​อยู่​เฉย​ๆ?

แม้ว่า​พ่อ​ของ​จี้เจี้ยนจ​วิน​จะพยายาม​อย่าง​มาก​เพื่อ​ไม่ให้​ตลาด​สอง​แห่ง​นี้​ปิด​ตัว​ลง​ แต่​นั่น​ไม่ใช่เหตุผล​ที่​เขา​จะนั่ง​เอนหลัง​และ​เพลิดเพลิน​กับ​ผลประโยชน์​โดย​ไม่ทำ​สิ่งใด​

เมื่อ​จี้เจี้ยนจ​วิน​รับสาย​ซูอวี้อิ๋ง​ แม้เขา​จะไม่พอใจ​ แต่​ก็​ทำได้​เพียง​เชื่อฟัง​คำสั่ง​

หาก​พูด​ตามตรง​แล้ว​ ซูอวี้อิ๋ง​ลงแรง​พยายาม​อย่าง​มาก​เพื่อ​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​ทั้งสอง​สาขา​ และ​เขา​ต้อง​ทำ​อะไร​สัก​อย่าง​ ไม่อย่างนั้น​มัน​คง​เป็น​การเอาเปรียบ​มากเกินไป​

เมื่อ​เห็น​ว่า​เขา​กำลัง​ออกจาก​บ้าน​ ภรรยา​จี้เจี้ยนจ​วิน​ก็​ถามว่า​เขา​จะไป​ไหน​

จี้เจี้ยนจ​วิน​บอก​หล่อน​ว่า​ซูอวี้อิ๋ง​มอบหมาย​งาน​ให้​เขา​ไป​ซื้อ​สินค้า​เกษตร​ใน​เขตชานเมือง​ของ​เมืองหลวง​

ภรรยา​จี้เจี้ยนจ​วิน​ไม่พอใจ​ “คุณ​สอง​คน​เป็น​หุ้นส่วน​กัน​ ทุกคน​ล้วน​เท่าเทียม​ ทำไม​ซูอวี้อิ๋ง​ถึงกล้า​สั่งให้​คุณ​ทำ​แบบ​นั้น​?”

จี้เจี้ยนจ​วิน​อธิบาย​ “เพราะ​เรา​สอง​คน​เป็น​หุ้นส่วน​กัน​ เพื่อ​ไม่ให้​อวี้อิ๋ง​กังวล​เกี่ยวกับ​ตลาด​ทั้งสอง​สาขา​มากเกินไป​ ผม​จึงต้อง​เข้าไป​ช่วยเหลือ​บ้าง​” สิ้น​เสียง​ เขา​ออกจาก​บ้าน​ไป​ทันที​

ภรรยา​จี้เจี้ยนจ​วิน​วิ่ง​ไล่ตาม​ “อวี้อิ๋งๆ​ คุณ​เรียก​หล่อน​อย่าง​รักใคร่​เหลือเกิน​นะ​ ฉัน​นึก​ว่า​คุณ​ทำงานหนัก​เพื่อ​คนรัก​วัยเด็ก​ของ​คุณ​ซะอีก​”

จี้เจี้ยนจ​วิน​พูด​ทิ้งท้าย​ “ไม่มีเหตุผล​เอา​เสีย​เลย​” ก่อน​เดิน​จากไป​

เวลา​ราว​บ่าย​สอง​โมง ทัง​อี้​โทร​หา​หลิน​ม่าย​อีกครั้ง​และ​บอก​เธอ​ว่า​ พนักงาน​ซื้อขาย​หลาย​คน​ที่​ส่งไป​ยัง​ชานเมือง​รอบนอก​เพื่อ​ซื้อ​สินค้า​เกษตร​ได้​กลับมา​พร้อม​สินค้า​แล้ว​

โดย​ได้รับ​หมู​มีชีวิต​สามตัว​ และ​กำลัง​จัดการ​แล่​เนื้อ​มาขาย​

นอกจากนี้​ยังมี​ผักกาด​ขาว​ แครอท​ ต้น​หอม​ ผักกาด​ขาว​ปลี​ และ​กะหล่ำปลี​นำเข้า​เป็น​จำนวนมาก​

ใน​ชนบท​ทาง​ภาคเหนือ​ มีผัก​เมือง​หนาว​ที่​สามารถ​ปลูก​ได้​ใน​ฤดูหนาว​ไม่มาก​นัก​ และ​มีผัก​เหล่านี้​เพียง​ไม่กี่​ชนิด​เท่านั้น​

ซึ่งแตกต่าง​จาก​ชนบท​ทาง​ภาคใต้​ ที่​สามารถ​ปลูก​ผัก​เมือง​หนาว​ได้​หลายชนิด​

นอกจากนี้​ยัง​ได้​ซื้อ​ไก่​ เป็ด​ และ​ไข่​กลับมา​ด้วย​

แม้จะหา​ซื้อ​ผลิตภัณฑ์​ทาง​การเกษตร​มาได้​จำนวนมาก​ แต่​ราคา​ก็​ไม่ถูก​นัก​ มัน​สูงกว่า​ปกติ​ถึง 50%

หลังจาก​ทัง​อี้​รายงาน​สถานการณ์​ เขา​กล่าว​ต่อว่า​ “ราคา​ของ​สินค้า​เกษตร​ทั้งหมด​เพิ่มขึ้น​ขนาด​นี้​ เรา​ควร​ปรับราคา​อาหารสด​ให้​เหมาะสม​และ​ขาย​ใน​ราคาทุน​นะ​ครับ​ ตอนนี้​ราคาทุน​เท่ากับ​ราคา​ซื้อ​บวก​ค่า​น้ำมัน​และ​ค่าจ้าง​พนักงานขาย​ คุณ​คิด​ว่า​มัน​จะใช้ได้​ไหม​?”

หลิน​ม่าย​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​และ​พูดว่า​ “เรา​ขาย​ใน​ราคา​ซื้อ​กัน​เถอะ​”

ทัง​อี้​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ “หาก​ขาย​ใน​รา​คาที่​ซื้อ​มา เรา​ต้อง​จ่าย​ค่า​น้ำมัน​และ​ค่าจ้าง​คนขับรถ​เอง​ ผม​รู้​ว่า​ประธาน​หลิน​ต้องการ​บรรเทา​ความทุกข์ยาก​กับ​ชาว​เมืองหลวง​ ตราบใดที่​ไม่ได้​โกงเงิน​พวกเขา​มา เรา​ยังคง​ได้รับ​ความไว้วางใจ​โดย​ไม่ต้อง​ยอม​ขาดทุน​ นอกจากนี้​ธัญพืช​ น้ำมัน​ อาหารสด​ และ​นมผง​ที่​ขาย​ใน​ตลาด​ฮุ่นห​มิน​ขึ้นราคา​เป็น​สองเท่า​ ต่อให้​เรา​ขาย​ใน​ราคาทุน​ ชาวเมือง​จะต้อง​เห็น​ความมุ่งมั่น​ของ​เรา​ที่​ต้องการ​ช่วย​บรรเทา​ความทุกข์ยาก​ของ​พวกเขา​แน่นอน​”

หลิน​ม่าย​ตกตะลึง​ ซูอวี้อิ๋ง​ขึ้นราคา​สินค้า​ตอนนี้​ หล่อน​กำลัง​รนหาที่​ตาย​หรือ​อย่างไร​?

เธอ​ครุ่นคิด​เพียง​ครู่​จึงพูดว่า​ “ถ้าอย่างนั้น​เอา​แบบ​ที่​คุณ​ว่า​ เรา​มาขาย​ใน​ราคาทุน​กัน​เถอะ​”

เนื่องจาก​ราคา​สินค้า​ใน​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​นั้น​สูงมาก​ แม้ตลาดสด​ฝูตัว​ตัว​จะขาย​สินค้า​ใน​ราคาทุน​ แต่​ก็​เพียง​พอที่จะ​กระชาก​โฉมหน้า​อัน​น่ารังเกียจ​ของตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​ที่​แสวงหา​กำไร​ใน​ช่วง​วิกฤต​ และ​พวกเขา​ไม่จำเป็นต้อง​ขาย​แบบ​ขาดทุน​

ทัง​อี้​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​

เขา​กลัว​ว่า​หลิน​ม่าย​จะยืนกราน​ทำตาม​ความคิด​ตัวเอง​ หาก​ทำ​แบบ​นั้น​ ตลาด​จะต้อง​สูญเสีย​อย่าง​มาก​

หลิน​ม่าย​ถาม “ทำไม​คุณ​ถึงซื้อ​หมู​มาแค่​สามตัว​เท่านั้น​ มัน​เพียงพอ​สำหรับ​การ​ขาย​หรือ​?”

“แน่นอน​ว่า​ไม่พอ​ครับ​ แต่​ผม​หา​ซื้อ​มากกว่า​นี้​ไม่ได้​ หมู​สามตัว​ที่​ผม​ได้รับ​มาจาก​คน​ขาย​ที่​เดินทาง​จาก​หมู่บ้าน​หนึ่ง​ไป​ยังอีก​หมู่บ้าน​หนึ่ง​”

หลิน​ม่าย​รู้สึก​ประหลาดใจ​ “ไม่มีทาง​ มีคน​ห้าม​เกษตรกร​ไม่ให้​ขาย​หมู​งั้น​เหรอ​?”

“ไม่ใช่แบบ​นั้น​ครับ​ เกษตรกร​ส่วนใหญ่​ขาย​หรือ​เชือด​หมู​เมื่อ​ปี​ที่แล้ว​ ทำให้​ยัง​ไม่มีหมู​ขาย​ใน​ปี​นี้​”

หลิน​ม่าย​ลืม​คิด​เรื่อง​นี้​ไป​เลย​

หลังจาก​คุย​โทรศัพท์​กับ​ผู้จัดการ​ทัง​ หลิน​ม่าย​ต่อสาย​หา​การ​รถไฟ​ของ​ปักกิ่ง​และ​ถามว่า​สถานีรถไฟ​ใน​เมืองหลวง​จะกลับมา​เปิด​ดำเนินการ​ได้​อีก​เมื่อใด​

พนักงานรับโทรศัพท์​ตอบกลับ​อย่าง​เป็นทางการ​ว่า​ ขณะนี้​ไม่สามารถ​กำหนด​วัน​เปิด​โดยประมาณ​ได้​ และ​ทุกอย่าง​ขึ้นอยู่กับ​สภาพอากาศ​

หลิน​ม่าย​จึงโทร​หา​กรมอุตุนิยมวิทยา​ และ​ถามว่า​พายุ​หิมะ​จะสิ้นสุดลง​เมื่อใด​

ในเวลานี้​กรมอุตุนิยมวิทยา​ล้าหลัง​ใน​ทุก​ด้าน​ พวกเขา​ไม่มีดาวเทียม​พยากรณ์อากาศ​ ดังนั้น​จะทำนาย​ได้​อย่างไร​ว่า​พายุ​หิมะ​จะสิ้นสุดลง​วัน​ไหน​

เจ้าหน้าที่​ของ​กรมอุตุนิยมวิทยา​บอก​หลิน​ม่าย​ได้​เพียง​ว่า​ พายุ​หิมะ​อาจ​ไม่หยุด​ใน​สัปดาห์​หน้า​

วันนี้​เป็น​วัน​ที่สี่​หลัง​ปีใหม่​ตาม​ปฏิทิน​จันทรคติ​

สำหรับ​คน​ทั่วไป​ ไม่พวกเขา​จะตุน​เสบียง​มาก​แค่​ไหน​ใน​ช่วง​ปีใหม่​ พวกเขา​จะมีเสบียง​ไว้​กิน​เพียงพอ​สำหรับ​หนึ่ง​สัปดาห์​

ในเวลานั้น​หาก​พายุ​หิมะ​ยัง​ไม่หยุด​ ชีวิต​ของ​ผู้​คนใน​เมืองหลวง​จะต้อง​เกิด​ปัญหา​

แม้ว่า​คน​ทาง​ภาคเหนือ​จะมีนิสัย​ชอบ​ตุน​ของ​ใน​ฤดูหนาว​ แต่​ระบบสังคมนิยม​ยังคง​เป็นระบบ​หลัก​ โดยเฉพาะ​ธัญพืช​ น้ำมัน​ และ​ผัก​ ซึ่งทั้งหมด​ได้รับ​การ​ปันส่วน​ คน​ทั่วไป​จึงไม่สามารถ​ทำ​อะไร​ได้​แม้จะอยาก​ตุน​เสบียง​ไว้​ใน​ช่วง​ฤดูหนาว​

ปัญหา​แรก​และ​สำคัญ​ที่สุด​คือ​ การ​ที่​ไม่สามารถ​รับประกัน​ความต้องการ​ผักสด​ได้​

หลิน​ม่าย​ตัดสินใจ​เพิ่ม​การขนส่ง​ผัก​ตามฤดูกาล​และ​ราคา​ถูก​ ขณะ​พยายาม​สนองความต้องการ​ผัก​ของ​ประชาชน​ให้​มาก​ที่สุด​

ดูเหมือนว่า​เธอ​จะต้อง​โทร​หา​จ้าว​เลี่ยง​อีกครั้ง​

เธอ​โทร​หา​จ้าว​เลี่ยง​และ​ขอให้​เขา​ซื้อ​ผักกาด​ขาว​ ผักกาด​ขาว​ กะหล่ำปลี​ กะหล่ำ​ดอก​ ผักโขม​ แครอท​ และ​หัวไชเท้า​ใน​ปริมาณมาก​ใน​พื้นที่​ชนบท​ของ​หูเป่ย​… ผัก​เหล่านี้​เป็น​ผัก​ทั่วไป​และ​มีราคา​ถูก​ใน​ช่วง​ฤดูหนาว​ของ​หูเป่ย​ ผัก​ไร้ค่า​ถูก​ส่งไป​ยัง​เมืองหลวง​ใน​กรณี​ฉุกเฉิน​

ตลาดสด​ฝูตัว​ตัว​ของ​เธอ​ไม่ได้​ขาย​เฉพาะ​ผัก​โรงเรือน​เท่านั้น​

ไม่ว่า​ผัก​โรงเรือน​จะ ราคา​ถูก​แค่​ไหน​ พวก​มัน​ยังคง​แพง​กว่า​ผัก​ตามฤดูกาล​มาก​ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่​ประชาชน​ทั่วไป​สามารถ​ซื้อ​ได้​ทุกวัน​

ดังนั้น​จึงต้อง​ขาย​ผัก​ตามฤดูกาล​ราคา​ถูก​ให้​กับ​ประชาชน​

จ้าว​เลี่ยง​จาก​ปลาย​สาย​พูดว่า​ “ผม​คิด​เรื่อง​นี้​มานาน​แล้ว​ และ​เพิ่ง​ส่งพนักงาน​ซื้อขาย​ไป​ยัง​หมู่บ้าน​ใน​เมือง​เจียง​เฉิงและ​หมู่บ้าน​โดยรอบ​ เพื่อ​ซื้อ​ผัก​ตามฤดูกาล​เหล่านี้​ พอ​เกษตรกร​เหล่านั้น​ได้ยิน​ว่า​เรา​ซื้อ​ผัก​ตามฤดูกาล​เพื่อ​ช่วยเหลือ​คนใน​เมืองหลวง​ ก็​แทบ​ไม่มีใคร​ขึ้นราคา​เลย​ โดย​บอ​กว่า​พวกเขา​ต้องการ​ช่วยเหลือ​ชาว​เมืองหลวง​ด้วย​”

หลัง​นึกถึง​ภาพ​ฉาก​อัน​น่าประทับใจ​นั้น​ จ้าว​เลี่ยง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​ตื่นเต้น​

ช่างเป็นเรื่อง​น่ายินดี​เหลือเกิน​ที่​ได้รับ​การ​สนับสนุน​จาก​ทุกทิศทาง​เมื่อ​ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง​มีปัญหา​!

หลิน​ม่าย​กล่าว​ “เป็นการ​ดีกว่า​ที่จะ​ขึ้นราคา​ซื้อ​ผัก​จาก​เกษตรกร​เหล่านั้น​อย่าง​เหมาะสม​ เรื่อง​ที่​พวกเขา​เก็บ​ผัก​ไว้​ให้​เรา​ใน​ช่วง​ปีใหม่​ เรา​ต้อง​จ่าย​ค่าจ้าง​ล่วงเวลา​ให้​พวกเขา​ด้วย​

จ้าว​เลี่ยง​ตอบรับ​อย่าง​เข้าใจ​

หลิน​ม่าย​ถามเขา​ว่า​ หมู​ที่​ยัง​มีชีวิต​ยัง​สามารถ​หา​ซื้อ​ใน​พื้นที่​ชนบท​ของ​หูเป่ย​ในเวลานี้​ได้​หรือไม่​

จ้าว​เลี่ยง​กล่าว​ “ใคร​จะเก็บ​หมู​ไว้​ขาย​หลัง​ปีใหม่​ มัน​ไม่ดีกว่า​หรือ​ถ้าพวกเขา​ขาย​มัน​ใน​ราคา​สูงก่อน​สิ้นปี​?”

หลิน​ม่าย​รู้สึก​ผิดหวัง​เล็กน้อย​ หาก​เธอ​ไม่สามารถ​หา​ซื้อ​หมู​ที่​ยัง​มีชีวิต​จาก​หูเป่ย​ได้​ เนื้อหมู​ที่​ขาย​ใน​ตลาดสด​ฝูตัว​ตัว​ก็​จะขาดตลาด​ตั้งแต่​วันมะรืนนี้​

ได้ยิน​จ้าว​เลี่ยง​พูด​ต่อว่า​ “อย่างไรก็ตาม​ฟาร์ม​หมู​สอง​แห่ง​ของ​เรา​ยังมี​หมู​อีก​หลาย​ร้อย​ตัว​ ซึ่งจะนำมา​เชือด​ใน​กรณี​ฉุกเฉิน​เท่านั้น​”

หลิน​ม่าย​ค่อนข้าง​ประหลาดใจ​ “ครอบครัว​ของ​เรา​เริ่ม​ทำ​ฟาร์ม​หมู​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​ ทำไม​ฉัน​ไม่รู้​เลย​?”

“เรา​เริ่ม​ทำ​ปี​ที่​ตลาดสด​ฝูตัว​ตัว​ก่อ​ตั้งขึ้น​เป็นครั้งแรก​ เพราะ​คุณ​กังวล​ว่า​จะไม่สามารถ​รับ​หมู​มีชีวิต​มาได้​ใน​ช่วง​วัน​ปีใหม่​ จึงขอให้​พี่​เฟิงสร้าง​ฟาร์ม​หมู​ชั่วคราว​สอง​แห่ง​ และ​รวบรวม​หมู​ที่​ยัง​มีชีวิต​จำนวน​หนึ่ง​เพื่อ​เลี้ยง​พวก​มัน​ตั้งแต่​เนิ่นๆ​ ต่อมา​พี่​เฟิงได้​พัฒนา​ฟาร์ม​หมู​ชั่วคราว​ทั้งสอง​แห่ง​ให้​เป็น​ฟาร์ม​หมู​ถาวร​ ซื้อ​ลูก​หมู​ทุกปี​ และ​จ้างคนงาน​มาเลี้ยงดู​ เพื่อ​รับมือ​กับ​สถานการณ์​ที่​ไม่สามารถ​รับ​หมู​ที่​มีชีวิต​ได้​ใน​ช่วง​ตรุษจีน​หรือ​หลัง​ปีใหม่​ได้​ ปี​ก่อนหน้า​เรา​ได้รับ​หมู​เป็นมา​เพียงพอ​ หมู​จาก​ฟาร์ม​ทั้งสอง​แห่ง​จึงถูก​เลี้ยงดู​จน​มาถึงตอนนี้​ ซึ่งสามารถ​แก้ปัญหา​ความต้องการ​เร่งด่วน​ได้​”

หลังจากที่​จ้าว​เลี่ยง​พูด​จบ​ หลิน​ม่าย​ก็​จำเหตุการณ์​ตอนนั้น​ได้​ เธอ​จึงขอให้​จ้าว​เลี่ยง​จัด​รถบรรทุก​เพื่อ​ส่งหมู​ 100 ตัว​มายัง​เมืองหลวง​ก่อน​

นอกจากนี้​ยังมี​ไข่​ที่​ต้องหา​ซื้อ​ให้ได้​มาก​ที่สุด​ และ​ขนส่ง​มายัง​เมืองหลวง​โดยเร็ว​

เธอ​กลัว​ว่า​จะไม่สามารถ​หา​ซื้อ​ไข่​และ​หมู​มีชีวิต​จาก​เขตชานเมือง​ของ​เมืองหลวง​ได้​ง่ายดาย​

………………………………………………………………………………………………………………………..

สาร​จาก​ผู้แปล​

แพร่​เฟค​นิวส์​ระวัง​โดน​เด้ง​ออกจาก​ตำแหน่ง​นะ​ครอบครัว​ซู สร้างเรื่อง​ทำให้​รัฐ​เสียหาย​น่ะ​

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

Status: Ongoing

หลินม่ายได้กลับมาเกิดใหม่ในวันแต่งงานของตัวเอง​ และพบว่าทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตัวเองหรือครอบครัวสามีต่างก็ยังเป็นเศษสวะกันเหมือนเดิม​ แต่ขอโทษเถอะ…หลินม่ายคนนี้ไม่ใช่หลินม่ายคนเดิมแล้ว​ ใครหน้าไหนมารังแกฉัน​ คราวนี้แม่จะซัดให้หงาย​​ จะงัดมารยาสาไถทุกกระบวนมาใช้แก้เผ็ดมันให้หมด! จากนั้นก็จะหย่ากับสามีกะหลั่วแยกตัวออกมาสร้างฐานะแบบสวยๆ​ ไม่ต้องสนใจใครอีกแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท