รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 736 ข้าอุตส่าห์หนีออกมาด้วยความยากเข็ญ นี่ยังต้องกลับไปอีกหรือ?!

บทที่ 736 ข้าอุตส่าห์หนีออกมาด้วยความยากเข็ญ นี่ยังต้องกลับไปอีกหรือ?!

บท​ที่​ 736 ข้า​อุตส่าห์​หนี​ออกมา​ด้วย​ความ​ยากเข็ญ​ นี่​ยัง​ต้อง​กลับ​ไป​อีก​หรือ​?!

ถึงอย่างไร​อาณาจักร​ผืน​นี้​ก็​เคย​เฟื่องฟู​เมื่อ​ครั้ง​อดีต​ มิใช่อาณาจักร​ระดับ​ล่าง​ธรรมดา​ พื้นที่​ภายใน​อาณาจักร​กว้างขวาง​

เอ่ย​อย่าง​ไม่เกิน​จริง​เลย​ว่า​ ลำพัง​ระยะทาง​ระหว่าง​ดินแดน​ฝอ​และ​ดินแดน​หยิน​ ผู้ฝึก​ตน​ธรรมดา​เดินทาง​ทั้ง​ชีวิต​ก็​ไป​ไม่ถึงหาก​ไม่ใช้ค่าย​กล​เคลื่อนย้าย​

ทว่า​หนาน​ฉงนั้น​ไม่ธรรมดา​

ขอบเขต​ของ​เขา​สูงส่งจน​เหนือ​ขอบเขต​โกลาหล​ขึ้นไป​ ต่อให้​อยู่​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ก็​ยัง​กล้าแกร่ง​ไร้​เทียมทาน​!

ระยะทาง​แค่นี้​เป็น​แค่​เรื่อง​กระจิริด​สำหรับ​เขา​

เขา​ย่างเท้า​เบา​ ๆ ก็​ไป​ถึงใน​พริบตา​ พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​ตกใจ​แทบ​บ้า​ เขา​เป็น​บุคคล​ระดับ​ใด​กัน​นี่​

นี่​เป็น​เพียง​การ​ก้าว​เท้า​ธรรมดา​ปราศจาก​คลื่น​พลัง​ใด​ ๆ สุดท้าย​กลับ​ทะลุ​ห้วง​มิติ​ไป​ได้​ น่า​ครั่นคร้าม​ยิ่งกว่า​เมื่อคราว​เขา​ได้​พบ​จ้าว​แห่ง​เซียน​นาม​เฟ่ยชง​เสีย​อีก​!

เมือง​ชิงซาน​อยู่​เพียง​เบื้องหน้า​ หนาน​ฉงมิกล้า​บุกเข้าไป​ตรง ๆ​ จึงพา​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​เดินเท้า​ไป​ยัง​เมือง​ชิงซาน​

เป็นไปได้​สูงว่า​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ผู้​ประทับ​ใน​เมือง​ชิงซาน​คือ​ท่าน​ผู้​นั้น​ เขา​ไฉน​เลย​จะกล้า​เหิน​เข้าไป​ตรง ๆ​ นั่น​เป็นการ​รนหาที่​ตาย​ เขา​ไม่มีทาง​โง่เง่าเช่นนั้น​!

“จะใช่ท่าน​ผู้​นั้น​จริง​หรือไม่​”

แต่​หลังเขา​ก้าวเดิน​ไป​ยัง​เมือง​ชิงซาน​ก็​ค่อย ๆ​ เคลือบแคลง​ขึ้น​มา

มิใช่สาเหตุ​อื่น​ใด​ ทั้งหมด​ล้วน​เป็น​เพราะ​ที่นี่​คือ​เมือง​ปุถุชน​ ปราศจาก​ร่องรอย​การ​ฝึก​ตน​ใด​ ๆ จึงเหนือ​ความคาดหมาย​เขา​ไป​นิดหน่อย​

บุคคล​ระดับ​นั้น​พำนัก​ใน​เมือง​ปุถุชน​เช่นนี้​ได้​จริง​หรือ​

เขา​คิด​ว่า​ไม่น่า​เป็นไปได้​ จึงสงสัย​อย่าง​มาก​

ถึงอย่างไร​ บุคคล​ยิ่งใหญ่​ระดับ​นั้น​คง​เห็น​มาแล้ว​ทุกอย่าง​ เหตุ​ไฉน​ถึงยัง​จำเป็นต้อง​พำนัก​ร่วมกับ​ปุถุชน​

ทำ​เช่นนี้​ไปหา​ได้​มีความหมาย​ไม่!

“คิด​เช่นนั้น​มิได้​ หากว่า​มีความนัย​ที่​ข้า​ไม่เข้าใจ​แฝงอยู่​เล่า​!”

เขา​คิดในใจ​อีกครั้ง​ด้วย​ความ​รอบคอบ​ มิได้​ตัดสิน​เรื่อง​ใด​จาก​เพียง​ด้าน​เดียว​ ต้อง​พิสูจน์​ให้​แน่ใจ​อีก​หลาย​ ๆ ด้าน​

“เป็น​อีก​วันที่​ข้า​คิดถึง​คุณชาย​ห​ลี่​!”

“ถ้าคุณชาย​ห​ลี่​ยัง​อยู่คง​ดี​ไม่น้อย​ คุณชาย​ห​ลี่​ขึ้น​เขา​ครา​เดียว​ก็​พอให้​เรา​มีกิน​ไป​อีก​หลาย​วัน​!”

“ไม่รู้​ว่า​คุณชาย​ห​ลี่​จะกลับมา​เมื่อใด​!”

ระหว่างทาง​ นายพราน​สามสี่คน​เดินทาง​ไป​พลาง​ สนทนา​ไป​พลาง​

สัตว์​ใน​เขา​ชิงซาน​ล่า​ได้​ยาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ​ หน​นี้​พวกเขา​กลับมา​มือเปล่า​อีกแล้ว​ ช่วย​มิได้​ เขา​ชิงซาน​มิใช่ภูเขา​ลูก​ใหญ่​ สัตว์​ที่​ล่า​ง่าย​ก็​โดน​พวกเขา​ล่า​ไป​พอประมาณ​แล้ว​ ที่​เหลืออยู่​ล้วน​เป็น​สัตว์ป่า​จับ​ยาก​ทั้งสิ้น​

ทุกครั้ง​ที่เกิด​เหตุการณ์​เช่นนี้​ พวกเขา​จัก​นึกถึง​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​เก่งกล้า​สามารถ​ด้าน​ล่าสัตว์​ ไม่ว่า​จะเป็น​สัตว์ป่า​ที่​ล่า​ยาก​ปานใด​ ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ล้วน​ล่า​มาได้​อย่าง​ง่ายดาย​ และ​ทุกครั้งที่​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ขึ้น​เขา​ มักจะ​แบ่ง​เหยื่อ​ที่​ล่า​มาได้​ให้​พวกเขา​เป็น​จำนวนมาก​

“คุณชาย​ห​ลี่​?”

เมื่อ​หนาน​ฉงได้ยิน​บทสนทนา​ระหว่าง​นายพราน​ ก็​ถามออก​ไป​ “คุณชาย​ห​ลี่​ผู้​นี้​มีนาม​ว่า​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ใช่หรือไม่​”

“ใช่แล้ว​!”

“ดู​ก็​รู้​ว่า​สหาย​มาจาก​นอกเมือง​ใช่หรือไม่​! คนใน​เมือง​ล้วน​รู้จัก​คุณชาย​ห​ลี่​!”

นายพราน​ทั้งหลาย​เอ่ย​ยิ้ม​ ๆ

หนาน​ฉงถือโอกาส​นี้​สอบ​ถามถึงข้อมูล​ของ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ อยู่​ที่นี่​ เขา​มิกล้า​ใช้พลัง​อัน​ใด​ด้วย​กลัว​ว่า​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​คือ​ท่าน​ผู้​นั้น​แล้​วจะ​สร้าง​ความ​ขุ่นข้องหมองใจ​

มิฉะนั้น​ เขา​ไม่จำเป็นต้อง​ถาม ตั้ง​จิต​ครั้ง​เดียว​ก็​รับ​รู้เรื่อง​ที่​เขา​อยากรู้​ได้​

นายพราน​เหล่านี้​มิได้​ปิดบัง​อัน​ใด​ เพราะ​ไม่มีความจำเป็น​ต้อง​ปิดบัง​ สิ่งที่​พวกเขา​เล่า​ไป​เป็นที่​รู้กัน​ทั้งเมือง​

“ขอบคุณ​ทุกท่าน​!”

หนาน​ฉงบอกลา​เหล่า​นายพราน​ก่อน​จะชะงัก​ฝีเท้า​

ความกังขา​ที่​เขา​มีต่อ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​พุ่ง​ทะยาน​อีกครั้ง​ ตัวตน​สูงส่งอย่าง​หามิได้​เช่นนั้น​จะดี​กับ​ปุถุชน​ธรรมดา​เพียงนี้​เลย​หรือ​

ซ้ำยัง​ทำได้​อย่าง​แนบเนียน​!

ทว่า​ไหน ๆ​ เขา​ก็​มาแล้ว​ อย่างไร​ก็​ต้อง​เข้า​ไปดู​เสียหน่อย​

แม้ว่า​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​จะไม่อยู่​ แต่​เขา​สามารถ​ไป​เยี่ยม​ที่พำนัก​ของ​อีก​ฝ่าย​ได้​ ดู​ว่า​พอ​รู้​อะไร​จาก​มัน​ได้​บ้าง​หรือไม่​

จากนั้น​ เขา​พา​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​มุ่งหน้า​ต่อไป​ยัง​เมือง​ชิงซาน​

เมื่อ​มาถึงริม​ลำธาร​ จู่ ๆ เขา​ก็​ขมวดคิ้ว​ ลอบ​รำพึง​ว่า​แย่​แล้ว​ ก่อน​จะรีบ​แหวก​มิติ​หมาย​จะหนี​!

เขา​นั้น​ไม่ธรรมดา​จริง ๆ​ ต่อให้​รู้​แล้ว​ว่า​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ไม่อยู่​ใน​เมือง​ ก็​มิได้​ชะล่าใจ​แต่อย่างใด​ เมื่อ​ครั้ง​เพิ่ง​มาถึงริม​ลำธาร​ก็​พลัน​สัมผัส​ได้​ถึงพลัง​บางอย่าง​ที่​ปรากฏ​ออกมา​ได้​ พลัง​นั้น​ตั้งใจ​จะพา​เขา​กับ​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​เข้าไป​ใน​มิติ​แห่ง​หนึ่ง​

พลัง​ที่​ไม่รู้​ว่า​เป็น​ศัตรู​หรือ​พวก​เดียวกัน​เช่นนี้​เขา​ไฉน​เลย​จะยอม​ถูกลาก​เข้าไป​

หาก​ถูกลาก​เข้าไป​จริง ๆ​ เขา​ไม่รู้​ว่า​จะเกิด​สิ่งใด​ขึ้น​!

“เกิด​…อะไร​ขึ้น​?”

พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​ฉงนสนเท่ห์​ เดินทาง​กัน​ดี ๆ​ จู่ ๆ ไย​หนาน​ฉงถึงหนี​ไป​?!

“ไม่สิ! เขา​หนี​ไป​เพราะ​ความกลัว​!”

พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​ได้สติ​ ทำ​ท่าจะ​แหวก​มิติ​หนี​เช่นกัน​โดย​ไม่ลังเล​

แต่​เขา​ถูก​หยุด​ไว้​ก่อน​จะหนี​ไป​ได้​ และ​โดน​กักขัง​ไว้​ใน​มิติ​แห่ง​หนึ่ง​!

“แย่​แล้ว​!”

สีหน้า​ของ​เขา​ซีดเผือด​ หนาน​ฉงทรงพลัง​ปาน​นั้น​ยัง​ต้อง​ตื่นตกใจ​ พลัง​แค่นี้​ของ​เขา​ย่อม​ไม่พอให้​ต่อกร​!

อีก​ด้าน​ หนาน​ฉงแหวก​มิติ​รัว​เพื่อ​หนี​จน​ไกล​ห่าง​จาก​ที่นั่น​ได้​อย่าง​สิ้นเชิง​

“ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ผู้​นี้​มีความ​พิลึก​อยู่​บ้าง​จริง ๆ​!”

เขา​เอ่ย​เสียง​จริงจัง​ ความคิด​ที่ว่า​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​อาจ​เป็น​เพียง​ปุถุชน​ธรรมดา​ก่อนหน้านี้​มลาย​สิ้น​

ไม่ต้องสงสัย​เลย​ว่า​พลัง​ที่​ปรากฏ​ออกมา​ก่อนหน้านี้​ต้อง​เกี่ยวข้อง​กับ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​แน่นอน​ มิฉะนั้น​ ใน​เมือง​ปุถุชน​แบบ​นั้น​ไฉน​เลย​จะมีพลัง​ระดับ​นั้น​ปรากฏ​ออกมา​ได้​!

พลัง​นั้น​ไม่ธรรมดา​อย่างยิ่งยวด​ แม้แต่​สิ่งมีชีวิต​ขอบเขต​โกลาหล​ยัง​ใช่ว่า​จะต่อกร​ด้วย​ไหว​!

ต่อให้​แกร่งกล้า​ดุจ​เขา​ยัง​เพิ่ง​จับ​สัมผัส​ได้​ยาม​พลัง​นั้น​เข้าใกล้​ นั่น​ก็​สะท้อน​ให้​เห็น​ถึงความเก่งกล้า​ของ​พลัง​นั้น​แล้ว​!

เสียงดัง​ฟึ่บ​ เวลา​นั้น​เอง​ จู่ ๆ ก็​มีประกาย​สว่าง​วาบ​อยู่​ใน​ห้วง​มิติ​ ก้าน​หลิว​ก้าน​หนึ่ง​คืบคลาน​ออกมา​

หนาน​ฉงใจเย็น​อย่าง​มาก​ มิได้​รีบ​หนี​อุตลุด​แต่อย่างใด​

เขา​รู้​ที่มา​ของ​ก้าน​หลิว​ก้าน​นี้​ คง​เป็น​พลัง​มวล​นั้น​ที่​ไล่​ตามมา​แน่​

“สหาย​ ไม่ต้อง​กังวล​ไป​ ข้า​มิได้​มีเจตนาร้าย​!”

เขา​ปริปาก​บอก​

พลัง​ก่อนหน้านี้​หมายใจ​จะพา​เขา​เข้าไป​ใน​ห้วง​มิติ​บางแห่ง​ เขา​อยาก​หนี​ตาม​สัญชาตญาณ​ ช่วยไม่ได้​ เขา​ไม่อยาก​ถูก​กักขัง​ใน​ห้วง​มิติ​ใด​อีกแล้ว​!

เขา​ถูก​จองจำ​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​มานาน​เกินไป​ จน​กลายเป็น​ฝันร้าย​และ​ปม​ใน​ใจเขา​ไป​แล้ว​!

หลัง​มาอยู่​ที่นี่​เขา​ถึงใจเย็น​ลง​ เห็นได้ชัด​ว่า​พลัง​มวล​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ และ​ตัว​เขา​ก็​กำลังจะ​ไป​เยี่ยมเยียน​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ผู้​นี้​มิใช่หรือ​ไร​

ก่อน​นี้​เขา​ไม่ควร​หนี​ นี่​เป็น​โอกาส​ให้​เขา​ได้​ข้องแวะ​กับ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​

“ไม่มีเจตนาร้าย​อย่างนั้น​หรือ​”

เสียง​ของ​ต้น​หลิว​ดัง​ขึ้น​ ก่อน​จะเอ่ย​ต่อ​ “เจ้าต้องการ​ข้อมูล​ของ​คุณชาย​ไป​ทำ​อัน​ใด​”

หน​นี้​ มัน​ฟื้น​พลัง​กลับมา​เต็มที่​

หาก​มิใช่ว่า​มัน​ทิ้ง​จิตสำนึก​เสี้ยว​หนึ่ง​ไว้​ที่นั่น​ หนาน​ฉงไม่มีทาง​หนี​ไป​ไหน​ได้​

และ​ทันทีที่​ฟื้น​พลัง​กลับมา​เต็มที่​ มัน​ก็​เล็ง​พิกัด​หนาน​ฉงและ​ไล่​ตามมา​

“ข้า​มาครั้งนี้​ ก็​เพื่อ​มาเยี่ยมเยียน​คุณชาย​!”

หนาน​ฉงกล่าว​ “ข้า​อยาก​พบ​คุณชาย​สักครั้ง​”

“เช่นนั้น​ก็​กลับ​ไป​สนทนา​กัน​หน่อย​ สหาย​ของ​เจ้ายัง​รอ​เจ้าอยู่​ที่นั่น​” ต้น​หลิว​บอก​

“ไม่สนทนา​ใน​ห้วง​มิติ​ปิดผนึก​เช่นนั้น​ได้​หรือไม่​ ข้า​…ไม่อยาก​อยู่​ใน​ห้วง​มิติ​ปิดผนึก​!” หนาน​ฉงเอ่ย​

“ไม่ได้​!” ต้น​หลิว​เอ่ย​ปากเบา​ ๆ

พลัง​มวล​หนึ่ง​ซัดสาด​ออก​ไป​เพื่อ​พา​ตัว​หนาน​ฉงไป​ด้วย​

“เช่นนั้น​ก็​ช่างเถิด​ ไว้​ข้า​ค่อย​ไป​เยี่ยมเยียน​คุณชาย​ทีหลัง​แล้วกัน​!”

หนาน​ฉงตอบกลับ​ ไม่อยาก​อยู่​ใน​ห้วง​มิติ​ปิดผนึก​แล้ว​จริง ๆ​ เขา​พอกันที​กับ​สถานการณ์​ที่​ไม่อาจ​ควบคุม​อะไร​ได้​!

เขา​ปะทุ​พลัง​ทั้งหมด​เพื่อ​ไป​จาก​ที่นี่​

ทว่า​เรื่อง​เหนือ​ความคาดหมาย​ของ​เขา​คือ​ เขา​กลับ​ได้​พบ​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​!

เรื่อง​บ้า​อะไร​กัน​?!

สีหน้า​ของ​เขา​เปลี่ยนไป​อย่าง​มาก​ นี่​เขา​ถูก​พา​กลับมา​โดยที่​ไม่รู้ตัว​เลย​หรือ​

ฝีมือ​ระดับ​นี้​จะน่ากลัว​เกินไป​แล้ว​!

ต้น​หลิว​อยู่​ใน​ขอบเขต​ใด​กัน​แน่​!

ชั่วพริบตา​นั้น​ เขา​ไม่เหลือ​ข้อ​ข้องใจ​ใด​อีก​ ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​คือ​ท่าน​ผู้​นั้น​แน่​!

“มาเถิด​ บอก​ตื้นลึกหนาบาง​ของ​เจ้ามา ข้า​รู้สึก​ว่า​เจ้ามิใช่คนดี​อะไร​”

ต้น​หลิว​ปรากฏ​กาย​ใน​ห้วง​มิติ​แห่ง​นี้​

หนาน​ฉงทรมาน​ใจเป็น​หนักหนา​ รู้สึก​แย่​สุด​ ๆ เขา​สูญเสีย​อำนาจ​ควบคุม​ไป​อีกแล้ว​ ถูก​กักขัง​ไว้​ใน​ห้วง​มิติ​พิเศษ​บางแห่ง​

ทว่า​ถึงอย่างไร​เขา​ก็​มิใช่คนธรรมดา​ ไม่นาน​นัก​ก็​สงบใจ​ลง​ได้​

บอก​ตามตรง​ เขา​อยาก​ขอ​สมัคร​เป็น​พรรคพวก​ของ​ท่าน​ผู้​นั้น​

กองกำลัง​ปริภูมิ​เวลานี้​น่ากลัว​เกินไป​ หาก​เขา​ไร้​ที่พึ่ง​ ช้าเร็ว​ก็​ต้อง​ถูก​กองกำลัง​ปริภูมิ​เวลา​จับ​ไป​อยู่ดี​

เพราะ​อย่างนั้น​ เขา​ถึงต้อง​การพิสูจน์​ว่า​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ใช่ท่าน​ผู้​นั้น​หรือไม่​ เขา​ต้องการ​เป็น​ผู้​ใต้​บัญชา​ท่าน​ผู้​นั้น​ เช่นนี้​แล้ว​ เขา​จัก​ปลอดภัย​ขึ้น​มาก​

แน่นอน​ว่า​ต้อง​ให้​ท่าน​ผู้​นั้น​ยอมรับ​เขา​เข้า​เป็น​พวก​ก่อน​

“ได้​!”

หนาน​ฉงกล่าว​ “ข้า​ไม่มีเจตนาร้าย​จริง ๆ​ ข้า​มาเยี่ยมเยียน​ท่าน​ผู้​นั้น​ด้วย​จิตใจ​เลื่อมใส​!”

เขา​เล่า​ภูมิหลัง​และ​ประวัติ​ความเป็นมา​ของ​ตัวเอง​โดย​ไม่ปิดบัง​ รวมถึง​วิธี​ที่​ใช้เข้าใกล้​หยวน​อี​และ​พวก​จักรพรรดินี​ เรื่อง​ที่​เขา​เคย​คิด​จะวาง​อุบาย​หลอกล่อ​หยวน​อี​และ​พวก​จักรพรรดินี​

พลัง​ของ​ต้น​หลิว​สูงกว่า​เขา​มาก​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ เขา​รู้ดี​ว่า​ต่อให้​เขา​อยาก​ปิดบัง​ก็​ปิดบัง​มิได้​

“ไม่ใช่คน​ดีจริง​ด้วย​ บังอาจ​วาง​อุบาย​หลอกล่อ​หยวน​อี​เชียว​หรือ​! ไม่รู้​หรือ​ไร​ว่า​ข้า​ชอบ​ยาย​เด็ก​หยวน​อี​ผู้​นั้น​มาก​!?” ต้น​หลิว​เอ่ย​เสียง​โมโห​

‘ข้า​จะรู้​ได้​อย่างไร​! ก่อน​นี้​ข้า​ไม่รู้​ว่า​มีท่าน​อยู่​ด้วยซ้ำ​!’

หนาน​ฉงเอ่ย​ใน​ใจด้วย​รอยยิ้ม​ฝืด​เฝื่อน​

ครานั้น​ เขา​ไม่เคย​รู้​เลย​ว่า​เบื้องหลัง​หยวน​อี​จะน่า​ประหวั่นพรั่นพรึง​ถึงเพียงนี้​ หาก​เขา​รู้​แต่แรก​ ให้​ตาย​อย่างไร​ก็​ไม่มีทาง​คิด​หลอกล่อ​พวก​หยวน​อี​!

“ข้า​ขออภัย​ต่อ​การกระทำ​ของ​ข้า​ใน​อดีต​ ท่าน​โปรด​อภัย​ให้​ข้า​ด้วย​!” หนาน​ฉงรีบ​บอก​ต้น​หลิว​

“ขอโทษ​คำ​เดียว​แล้​วจะ​พลิก​ประวัติ​หน้า​นี้​เลย​หรือ​ เรื่อง​นี้​ไม่มีทาง​จบ​ง่าย ๆ​ แน่​!” ต้น​หลิว​หวด​ก้าน​ใส่หนาน​ฉง

มัน​ชื่นชอบ​หยวน​อี​มาก​ ทุกครั้งที่​หยวน​อี​มาจะรักษา​มารยาท​อยู่​เสมอ​ เป็น​เด็กสาว​ที่​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​

“อ๊ากกกก!”​

หนาน​ฉงร้อง​ลั่น​ด้วย​ความปวดร้าว​ ต้น​หลิว​เก่งกาจ​กว่า​เขา​มาก​จริง ๆ​ เขา​พยายาม​ต้านทาน​สุดกำลัง​แล้วก็​ต้าน​มิไหว​ ถูก​หวด​จน​ร้าวราน​ไป​ถึงทรวง​

สุดท้าย​ ต้น​หลิว​หยุด​มือ​

“เจ้ามีความเกี่ยวข้อง​กับ​ต้าเต๋อ​ ข้า​ไม่สะดวก​ลงมือ​ ขอ​ลบ​ความทรงจำ​ของ​เจ้าใน​ครา​นี้​ และ​ปล่อย​เจ้าไป​ตามยถากรรม​แล้วกัน​”

ต้น​หลิว​บอก​กับ​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​

มัน​ตั้ง​จิต​ครั้ง​เดียว​ก็​รับรู้​ถึงเรื่องราว​ระหว่าง​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​และ​ต้าเต๋อ​ รู้สึก​ว่า​เก็บ​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​ให้​ต้าเต๋อ​จัดการ​ดีกว่า​

จากนั้น​ มัน​ลบ​ความทรงจำ​ทั้งหมด​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​เหตุการณ์​ครั้งนี้​ของ​พระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​ และ​ส่งพระ​เก้า​ประทีป​พุทธเจ้า​ออก​ไป​

“ข้า​ใคร่รู้​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​ที่​เจ้าเล่า​มามาก​ ไป​กัน​เถิด​ ไปดู​ที่​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​กัน​หน่อย​”

ต้น​หลิว​กล่าว​ต่อ​หนาน​ฉง

การ​มาของ​หนาน​ฉงทำให้​มัน​ตระหนัก​ได้​ว่า​กองกำลัง​เบื้องหลัง​ปริภูมิ​เวลา​ไม่ธรรมดา​อย่างยิ่ง​ มัน​จึงอยาก​ไปดู​ว่า​จะได้​พบ​คู่มือ​บ้าง​หรือไม่​

หาก​ได้​พบ​คู่มือ​ ย่อม​เป็นผลดี​ต่อ​การฝึกฝน​ของ​มัน​ ดีกว่า​การ​ที่​มัน​ต้อง​ฝึกฝน​อยู่​ใน​ห้วง​มิติ​ตามลำพัง​มาก​!

“ไม่หรอก​กระมัง​?!” หนาน​ฉงหน้าเขียว​

เขา​อุตส่าห์​หนี​ออกจาก​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​ออกมา​ด้วย​ความ​ยากเข็ญ​ บัดนี้​ยัง​ต้อง​กลับ​ไป​อีก​หรือ​?

สวรรค์​!

หาก​รู้​อย่างนี้​แต่แรก​ ไม่ว่า​อย่างไร​เขา​ก็​คง​ไม่มีทาง​มาที่นี่​!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท