รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 739 ซีไปจากแดนบรรพโกลาหล มุ่งหน้าไปยังภพเซียน!

บทที่ 739 ซีไปจากแดนบรรพโกลาหล มุ่งหน้าไปยังภพเซียน!

บท​ที่​ 739 ซีไป​จาก​แดน​บรรพ​โกลาหล​ มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ภพ​เซียน​!

ที่นี่​มีฐาน​ตำหนัก​ตั้งอยู่​เรียงราย​ สถานที่​ไม่น้อย​มีอักขระ​แปลกประหลาด​สลัก​อยู่​ หาก​ได้​พินิจ​ดี ๆ​ จะเห็น​ว่า​ล้วน​มีความเกี่ยวข้อง​กับ​ปริภูมิ​เวลา​ อักขระ​ทุก​ตัว​ต่าง​มีอำนาจ​ควบคุม​ปริภูมิ​เวลา​ เป็นการ​แปลง​รูป​ของ​พลัง​ปริภูมิ​เวลา​ เผย​ให้​เห็น​ใน​ลักษณะ​อักขระ​

ขณะเดียวกัน​ ยังมี​รูปปั้น​อสูร​ศิลา​มากมาย​พิทักษ์​อยู่​รอบ​ ๆ ฐาน​ตำหนัก​ บน​หน้าผาก​ของ​อสูร​ศิลา​ทุก​ตัว​ต่าง​มีอักขระ​แปลกประหลาด​สลัก​อยู่​ แต่ละ​ตัวตั้ง​กัน​คนละ​มุม หาก​เชื่อมโยง​กัน​แล้ว​ดู​คล้าย​ค่าย​กล​บางอย่าง​

เสียงดัง​ตู้​ม แม่เฒ่าลงมือ​ทันที​ ชี้ต้น​หลิว​ด้วย​ไม้เท้า​หัว​มังกร​ ประกาย​เจิดจ้า​พวยพุ่ง​ มังกร​ยักษ์​สีทอง​ตัว​หนึ่ง​พุ่ง​ไป​สังหาร​ต้น​หลิว​

เป็น​นักโทษ​แล้ว​ยัง​กล้า​มาท้าทาย​อำนาจ​ที่นี่​อีก​หรือ​ ต้น​หลิว​ผู้​นี้​เก็บ​ไว้​มิได้​แล้ว​!

มังกร​ยักษ์​สีทอง​คำราม​ เสียง​กู่​ร้อง​มังกร​ดัง​กึกก้อง​อยู่​ใน​ฟ้าดิน​ เกล็ด​มังกร​ส่อง​ประกาย​วาววาม​ มัน​พ่น​อสนีบาต​สีทอง​ออกมา​ ระเบิด​แตกตัว​ใน​ฉับพลัน​

หนาน​ฉงตัวสั่น​ระริก​ วิญญาณ​สั่นสะท้าน​ เขา​ทน​คลื่น​พลัง​ปราณ​ที่​แผ่ซ่าน​ออกจาก​ตัว​มังกร​ยักษ์​สีทอง​มิได้​ ใกล้​เสียสติ​เต็มที​!

ร่างกาย​ของ​เขา​เริ่ม​มีรอยร้าว​ โลหิต​หลั่ง​ริน​ออกมา​ เมื่อ​อยู่​เบื้องหน้า​มังกร​ยักษ์​สีทอง​ ตัว​เขา​อ่อนแอ​จน​ไม่ควรค่า​แก่​การ​พูดถึง​

เวลา​นั้น​เอง​ เสียงดัง​ฟึ่บ​ ก้าน​หลิว​ก้าน​หนึ่ง​หวด​เข้าไป​ มังกร​ยักษ์​สีทอง​ผู้​ดุดัน​น่ากลัว​ตัว​แหลกลาญ​ไป​ใน​บัดดล​ กลายเป็น​เศษธุลี​ระยิบระยับ​!

นอกจากนี้​ มีแสงนวล​เนียน​ทาบ​ทับ​ลง​บน​ตัว​หนาน​ฉง รอยร้าว​บน​ตัว​หนาน​ฉงหาย​ไป​หมดเกลี้ยง​ แรงกดดัน​ที่​เคย​สัมผัส​ก็​อันตรธาน​ไป​เสีย​สิ้น​

ตู้​ม!

ร่าง​ทั้งหลาย​ด้านหลัง​แม่เฒ่าบุกเข้าไป​ พวกเขา​สำแดง​วิชา​แห่ง​ปริภูมิ​เวลา​ หมาย​จะเปลี่ยน​ต้น​หลิว​ให้​อยู่​ใน​วัย​ละอ่อน​!

ทว่า​ต่อมา​ พวกเขา​ก็​ต้อง​อึ้ง​งัน​

วิชา​ปริภูมิ​เวลา​ที่​พวกเขา​ผนึก​กำลัง​ใช้ออก​ไป​ เมื่อ​กระแทก​บน​ตัว​ต้น​หลิว​แล้ว​กลับ​ไม่ส่งผล​อัน​ใด​!

ต้น​หลิว​ไร้​รอยขีดข่วน​ มิได้​ถูก​เปลี่ยน​ให้​อยู่​ใน​วัย​ละอ่อน​

พรวด​! พรวด​! พรวด​!

ก้าน​หลิว​ก้าน​หนึ่ง​หวด​ใส่ร่าง​ทั้ง​หลายอย่าง​รวดเร็ว​ ร่าง​เหล่านั้น​หมายใจ​อยาก​หยุดยั้ง​เวลา​ ทว่า​กลับ​ทำ​มิได้​!

แม้จะหยุดยั้ง​เวลา​ไว้​แล้ว​ แต่​ก้าน​หลิว​ก้าน​นั้น​ไม่ได้รับ​ผลกระทบ​ ยังคง​หวด​กระแทก​ตัว​พวกเขา​ดังเดิม​!

ร่าง​ของ​พวกเขา​แหลกลาญ​ในทันที​ กลายเป็น​หมอก​เลือด​ เศษเนื้อ​สาด​กระจาย​เกลื่อน​พื้น​!

ดวงตา​แม่เฒ่าหรี่​ลง​ คิดไม่ถึง​ว่า​ต้น​หลิว​จะแข็งแกร่ง​ปานนี้​!

ร่าง​ทั้งหลาย​นี้​ต่าง​ฝึกฝน​จน​อยู่​ใน​จุด​สมบูรณ์​สูงสุด​ของ​ขอบเขต​ลอยชาย​ขั้น​เก้า​ ยาม​ผนึก​กำลัง​ สามารถ​ประมือ​กับ​ผู้บงการ​ได้​ด้วยซ้ำ​!

ผลสุดท้าย​ ยาม​อยู่​ต่อหน้า​ต้น​หลิว​กลับ​เปราะบาง​สิ้นดี​ ร่าง​แหลกลาญ​ด้วย​การ​หวด​จาก​ต้น​หลิว​อย่าง​ง่ายดาย​ เกิน​ความคาดหมาย​ของ​นาง​ไป​ไกล​มาก​!

มิน่า​ ต้น​หลิว​ถึงฝ่าออกจาก​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​ได้​!

“ฆ่า!”

ร่าง​ชราภาพ​ของ​นาง​เปล่งแสง​จรัส​นับ​ล้าน​ สำแดง​วิชา​ลับ​ปริภูมิ​เวลา​บางอย่าง​ออกมา​ ตราประทับ​ปริภูมิ​เวลา​ปรากฏ​ หมาย​จะสะกด​ต้น​หลิว​!

พลัง​ระดับ​นี้​เหนือกว่า​พลัง​ที่​ร่าง​ทั้งหลาย​ผนึก​กำลัง​กัน​ก่อนหน้านี้​มาก​ แม่เฒ่าเป็น​ผู้ดูแล​ที่นี่​ ระดับ​พลัง​ของ​นาง​อยู่​ใน​ขอบเขต​ผู้บงการ​แล้ว​!

ขณะเดียวกัน​ อักขระ​บน​ฐาน​ตำหนัก​เหล่านั้น​ก็​เปล่งประกาย​เจิดจ้า​ ร่วงหล่น​ลง​จาก​ฐาน​ตำหนัก​ บุก​สังหาร​ไปหา​ต้น​หลิว​!

อักขระ​เหล่านี้​มีความ​พิเศษ​เป็น​อย่างยิ่ง​ แฝงไว้​ด้วย​เต๋า​สูงส่ง มาจาก​เบื้องบน​เทวโลก​ แดน​กำเนิด​ของ​พวกเขา​!

โฮก​กก​!

รูปปั้น​อสูร​ศิลา​ก็​ ‘มีชีวิต​’ ขึ้น​มา พวก​มัน​ส่งเสียงคำราม​ สร้าง​ค่าย​กล​ขึ้น​มาได้​จริง ๆ​ ค่าย​กล​นี้​เป็น​ค่าย​กล​พิฆาต​ เป็น​ด่าน​ปราการ​สุดท้าย​ของ​พวกเขา​

“เปล่าประโยชน์​!”

ต้น​หลิว​ตวาด​เสียง​เบา​ ก้าน​หลิว​ฉวัดเฉวียน​ ลบล้าง​พลัง​อาคม​ทั้งหมด​ใน​พริบตา​ แม่เฒ่ากระเด็น​ออก​ไป​ อักขระ​ฐาน​ตำหนัก​ถูก​สะกด​ ค่าย​กล​พิฆาต​ที่เกิด​จาก​อสูร​ศิลา​ระเบิด​แตกตัว​!

แม่เฒ่าคิดไม่ถึง​เลย​ว่า​จะกลายเป็น​เช่นนี้​ เหตุใด​ต้น​หลิว​ถึงทรงพลัง​ได้​ถึงเพียงนี้​ มัน​มาจาก​ที่ใด​กัน​แน่​?!

ขอบเขต​ผู้บงการ​มีด้วยกัน​ทั้งหมด​เก้า​ขั้น​เช่นกัน​ ต้น​หลิว​อยู่​ขั้น​ใด​ใน​ขอบเขต​ผู้บงการ​กัน​?!

พลัง​ที่​ต้น​หลิว​เผย​ให้​เห็น​เป็น​พลัง​ที่อยู่​เหนือ​พวกเขา​โดยสิ้นเชิง​ นาง​สงสัย​ว่า​ต้น​หลิว​อาจ​บำเพ็ญตน​จน​อยู่​ใน​ขั้น​เก้า​ของ​ขอบเขต​ผู้บงการ​แล้ว​ หรือ​อาจ​บรรลุ​เหนือ​ขอบเขต​ผู้บงการ​ไป​แล้ว​ก็ได้​!

เรื่อง​นี้​ไม่ได้​สร้าง​ความ​เหลือเชื่อ​ให้​นาง​!

ต้น​หลิว​ผู้​แกร่งกล้า​เช่นนี้​ ไม่มีทาง​ถูก​ส่งตัว​มายัง​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​โดย​ไม่เต็มใจ​ ซาก​ปริภูมิ​เวลา​เป็น​เรือนจำ​ที่​ก่อ​ร่าง​สร้าง​ขึ้น​สำหรับ​จักรวาล​โกลาหล​นานัปการ​อัน​อยู่​ใต้​เบื้องบน​เทวโลก​ พลัง​เช่นนี้​ไม่มีทาง​ส่งผล​ต่อ​ต้น​หลิว​

ต้น​หลิว​ตาม​พลัง​นั้น​เข้าไป​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​ แล้ว​ตาม​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​มาที่นี่​ ต้น​หลิว​ต้องการ​สิ่งใด​

นาง​รู้สึก​ว่า​บางที​ต้น​หลิว​อาจ​มิใช่สิ่งมีชีวิต​จาก​เทวโลก​

หาก​ต้น​หลิว​เป็น​สิ่งมีชีวิต​จาก​เทวโลก​ มีหรือ​ต้อง​ทำ​เรื่อง​ให้​ยุ่งยาก​ ต้น​หลิว​ตรง​เข้ามา​ที่​เทวโลก​ได้​เลย​ ไม่จำเป็นต้อง​หลากหลาย​ขั้น​ต้อน​ขนาด​ต้อง​เข้าไป​ยัง​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​ก่อน​!

เทวโลก​นั้น​เข้า​ยาก​ กระนั้น​ก็​ขึ้นอยู่กับ​ว่า​ผู้​นั้น​เป็น​ใคร​

พลัง​แกร่งกล้า​เยี่ยง​ต้น​หลิว​ หาก​คิด​จะเข้ามา​ที่​เทวโลก​มิได้​ยากเย็น​นัก​

และ​นี่​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​เหลือเชื่อ​สำหรับ​นาง​!

ต้น​หลิว​ซึ่งมาจาก​ด้านนอก​เทวโลก​ ฝึกฝน​อย่างไร​ให้​อยู่​ใน​ขอบเขต​นี้​ได้​?!

เรื่อง​นี้​พลิก​โลกทัศน์​ของ​นาง​อย่าง​สิ้นเชิง​ เป็นเรื่อง​ที่​นาง​คาดไม่ถึง​เลย​!

“ที่นี่​คือ​ที่ไหน​”

ต้น​หลิว​เข้ามา​ประชิดตัว​แม่เฒ่าพลาง​ถาม

มัน​อยากรู้​ว่า​เหตุใด​ที่นี่​ถึงคล้าย​กับ​สถาน​ที่นั่น​ถึงเพียงนี้​!

อย่าง​ที่​คิด​!

หลัง​ได้ยิน​คำถาม​ของ​ต้น​หลิว​ แม่เฒ่าหมด​ข้อสงสัย​ ต้น​หลิว​มาจาก​นอก​เทวโลก​จริง ๆ​!

นาง​ก็​ว่า​อยู่​ หาก​ต้น​หลิว​เป็น​สิ่งมีชีวิต​จาก​เทวโลก​จริง​ ไฉน​เลย​จะกล้า​ท้าทาย​อำนาจ​พวกเขา​เช่นนี้​!

“ที่นี่​คือ​เทวโลก​ชั้น​ที่หนึ่ง​!”

แม่เฒ่าตอบ​ ทั้ง​ไม่กล้า​ปิดบัง​และ​ไม่อยาก​ปิดบัง​

นาง​อธิบาย​สถานการณ์​ใน​เทวโลก​ให้​ฟังโดยละเอียด​ ซ้ำยัง​ย้ำ​ถึงความเก่งกาจ​ของ​กองกำลัง​ปริภูมิ​เวลา​อย่าง​พวกเขา​เพื่อ​ข่มขวัญ​ต้น​หลิว​ ให้​ต้น​หลิว​รู้สึก​ยำเกรง​ มิกล้า​ทำ​ตามอำเภอใจ​

“มิน่า​…”

ต้น​หลิว​ถึงบางอ้อ​

มิน่า​ที่นี่​ถึงคล้ายคลึง​กับ​สถานที่​นั้น​อย่างยิ่ง​ ที่แท้​ทั้งสอง​ที่​ล้วน​อยู่​ใน​เทวโลก​!

เทวโลก​มีอยู่​ทั้งหมด​เก้า​ชั้น​ แต่ละ​ชั้น​ล้วน​กว้างใหญ่​ไร้​ที่​สิ้นสุด​ ใหญ่​เสีย​ยิ่งกว่า​จักรวาล​โกลาหล​ซึ่งมโหฬาร​ที่สุด​ และ​ยังมี​สิ่งมีชีวิต​จาก​เผ่าพันธุ์​ต่าง ๆ​ อาศัย​อยู่​มากมาย​นับไม่ถ้วน​

จาก​ชั้นหนึ่ง​ถึงชั้น​เก้า​ ชั้น​ที่หนึ่ง​คือ​ชั้น​ที่​อ่อนแอ​ที่สุด​ ชั้น​ที่​เก้า​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ แต่ละ​ชั้น​ที่สูง​ขึ้น​จะมีพลัง​แกร่งกล้า​ขึ้น​ เบื้องบน​เทวโลก​นั้น​ทรงพลัง​ที่สุด​ ที่นั่น​คือ​แก่น​สำคัญ​ ทุกสิ่งทุกอย่าง​ใน​เก้า​ชั้นนี้​ต่าง​มาจาก​เบื้องบน​เทวโลก​

ดินแดน​นั้น​อยู่​บน​ชั้น​ที่​เก้า​ เข้าใกล้​เบื้องบน​เทวโลก​มากยิ่งขึ้น​ สิ่งมีชีวิต​ใน​นั้น​ต่าง​ไม่ธรรมดา​ เก่งกล้า​สามารถ​อย่างยิ่งยวด​!

‘ข้า​ก็​ว่า​เหตุใด​ที่นั่น​ถึงน่า​ประหวั่นพรั่นพรึง​เพียงนี้​!’

ต้น​หลิว​คิดในใจ​

ที่นั่น​น่ากลัว​เกินไป​ ด้วย​ขอบเขต​พลัง​ของ​มัน​ใน​ตอนนี้​ยัง​ไป​มิได้​ เดิม​มัน​อยาก​รอ​ให้​พลัง​ยกระดับ​ขึ้น​แล้ว​ค่อย​ไป​ เพื่อ​เป็นการ​เคี่ยว​กรำ​ให้​ก้าวหน้า​ขึ้น​

ทว่า​บัดนี้​ดู​แล้ว​ มัน​ไม่จำเป็นต้อง​ทำ​เช่นนั้น​อีก​

มัน​คิด​ว่าที่​แห่ง​นั้น​เป็น​เพียง​ดินแดน​หนึ่ง​ ความจริง​กลับ​มิใช่เช่นนั้น​ ใต้​ดินแดน​นั้น​ยังมี​อีก​แปด​ชั้น​ มัน​สามารถ​ฝึกฝน​ไป​ทีละ​ชั้น​ แล้ว​ค่อย​เข้าไป​ยัง​ชั้น​ที่​เก้า​!

เช่นนี้​ การ​เคี่ยว​กรำ​และ​ความก้าวหน้า​ที่​ได้​จาก​การต่อสู้​ย่อม​ไว​กว่า​การ​บำเพ็ญ​ตามลำพัง​ของ​มัน​มาก​นัก​ มัน​เชื่อ​ว่า​ อีกไม่นาน​มัน​ก็​สามารถ​ไป​ยัง​ดินแดน​นั้น​ กวาดล้าง​ศัตรู​ทั้งหมด​!

จากนั้น​ มัน​ทิ้ง​หนาน​ฉงไว้​ที่​ชั้นนี้​ โดย​ส่งไป​ยัง​สถาน​ที่อื่น​ใน​ชั้น​

“สำหรับ​เจ้า นี่​คง​เป็น​วาสนา​อย่างหนึ่ง​ ถึงอย่างไร​เทวโลก​ก็​ไม่ธรรมดา​ เจ้าอยู่​ที่นี่​ จะฝึกฝน​ได้​ดีขึ้น​มาก​”

ต้น​หลิว​บอก​กับ​หนาน​ฉง “ทว่า​ที่นี่​ก็​อันตราย​กว่า​มาก​เช่นกัน​ หาก​สุดท้าย​แล้ว​เจ้ารอด​มาได้​ ข้า​จะพา​เจ้าไป​ด้วย​”

“ขอบคุณ​พี่​หลิว​!”

หนาน​ฉงกล่าว​ขอบคุณ​ต้น​หลิว​อย่าง​จริงจัง​

หาก​มิใช่ต้น​หลิว​ ก่อนหน้านี้​เขา​คง​ต้อง​ตาย​อยู่​ใน​ซาก​ปริภูมิ​เวลา​แล้ว​

และ​ที่​ต้น​หลิว​ว่า​มาก็​ไม่ผิด​ เขา​ได้​อยู่​ที่​ชั้นนี้​ต่อ​ ถือเป็น​วาสนา​ใหญ่หลวง​อย่าง​แท้จริง​ ต้อง​รู้​ว่า​ มีสิ่งมีชีวิต​ที่​กระโดด​ออกจาก​จักรวาล​โกลาหล​มากมาย​อยาก​เข้ามา​ใน​เทวโลก​ แต่​เข้ามา​ไม่ได้​!

แน่นอน​ว่า​ภยันตราย​ก็​มากกว่า​ด้วย​

ถึงอย่างไร​ที่นี่​ก็​คือ​เทวโลก​ แม้จะเป็น​ชั้น​ที่หนึ่ง​ กระนั้น​สิ่งมีชีวิต​ใน​นี้​ที่​แข็งแกร่ง​กว่า​เขา​ก็​มีอยู่​นับไม่ถ้วน​ หาก​เขา​ไม่ระวังตัว​ให้​มาก​ อาจ​จบชีวิต​ลง​ได้​ทุกเมื่อ​

สุดท้าย​ ต้น​หลิว​ไป​จาก​ชั้นนี้​

มัน​ผ่าน​ไป​ชั้น​แล้ว​ชั้น​เล่า​ แล้ว​หยุด​ตรง​ชั้น​ที่หก​

เพราะ​รู้สึก​ถึงแรงกดดัน​และ​ภยันตราย​ได้​จาก​ชั้น​ที่หก​ มัน​สามารถ​ฝึกฝน​เคี่ยว​กรำ​ใน​สถานที่​นี้​ได้​

ภายใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​

กาลเวลา​ผ่าน​เลย​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ พริบตาเดียว​ก็​ผลัด​เปลี่ยนไป​แล้ว​หลาย​เดือน​

ความเร็ว​ใน​การก้าวหน้า​ของ​ซีทำให้​จ้าว​ดินแดน​ต่าง ๆ​ อาทิ​จ้าว​แห่ง​ตง​ชิวต​ก​ตะลึง​อย่าง​แท้จริง​!

ใช้เวลา​เพียง​ไม่กี่​เดือน​ ซีถึงกับ​ฝึกฝน​จน​อยู่​ใน​ขอบเขต​เซียน​ขั้น​สมบูรณ์​ แล้ว​เหนือ​ขั้น​ขึ้นไป​จาก​ขอบเขต​เซียน​ มาอยู่​ใน​ขอบเขต​บรรพ​จารย์​เซียน​!

เป็นเรื่อง​น่า​ตกใจ​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​!

ต้อง​รู้​ว่า​ ขอบเขต​บรรพ​จารย์​เซียน​เป็น​ระดับ​พิเศษ​ มิใช่ระดับ​ตาม​เกณฑ์​ทั่วไป​ ใช่ว่า​ใคร ๆ​ ต่าง​บรรลุ​มายัง​ขอบเขต​นี้​ได้​ สิ่งมีชีวิต​ส่วนใหญ่​หลัง​บรรลุ​ขั้น​จักรพรรดิ​เซียน​แล้​วจะ​ไป​ถึงขอบเขต​โกลาหล​โดยตรง​

มีเพียง​ปัจเจกบุคคล​ผู้​มีความสามารถ​สะท้าน​โลกา​เท่านั้น​ จึงจะก้าว​สู่ขอบเขต​บรรพ​จารย์​เซียน​ที่​เต็มไปด้วย​ความมหัศจรรย์​!

และ​ระยะห่าง​ระหว่าง​สอง​ขอบเขต​นี้​ก็​ต่างกัน​ราว​ฟ้ากับ​เหว​!

ผู้​ที่​ก้าว​สู่ขอบเขต​โกลาหล​จาก​ขอบเขต​บรรพ​จารย์​เซียน​ ไม่ว่า​พลัง​ด้าน​ใด​ต่าง​เหนือกว่า​สิ่งมีชีวิต​ผู้​ก้าว​สู่ขอบเขต​โกลาหล​จาก​ขอบเขต​จักรพรรดิ​เซียน​อย่าง​สิ้นเชิง​ ซ้ำยัง​เป็น​ความเหนือกว่า​ชนิด​บดขยี้​!

ใน​หลาย​เดือน​ที่ผ่านมา​ ซีบรรลุ​สู่ขอบเขต​บรรพ​จารย์​เซียน​ตั้งแต่​ขั้น​เซียน​สมบูรณ์​ ความเร็ว​ระดับ​นี้​แม้แต่​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ก็​ไม่เคย​เกิดขึ้น​มาก่อน​!

แต่​ลอง​คิดดู​แล้ว​ ซีมีพรสวรรค์​เกรียงไกร​ ไม่ว่า​วิชาอาคม​เช่นไร​ นาง​อ่าน​เพียง​รอบ​เดียว​ก็​รู้แจ้ง​ได้​อย่าง​ถ่องแท้​ ซ้ำยัง​เจอ​จุดด่างพร้อย​ใน​นั้น​ จน​จ้าว​แห่ง​แดน​ต่าง ๆ​ อย่าง​จ้าว​แห่ง​ตง​ชิว​เริ่ม​เฉยชา​ลง​

ความเร็ว​ใน​การ​บรรลุ​ระดับ​นี้​จึงจะคู่ควร​กับ​พรสวรรค์​เกรียงไกร​ของ​ซี!

“ขอบคุณ​การ​ชี้แนะ​สอนสั่ง​จาก​อาวุโส​ทุกท่าน​! ข้า​อยาก​ออก​ไป​จัดการ​ธุระ​นอก​แดน​บรรพกาล​เสียหน่อย​!”

ซีบอก​กับ​จ้าว​แห่ง​ตง​ชิว​ และ​จ้าว​แห่ง​ดินแดน​อื่น​ ๆ

“อย่า​ได้​เอ่ย​ว่า​ชี้แนะ​สอนสั่ง​เลย​! พวกเรา​ช่วย​ได้​ไม่มาก​จริง ๆ​!”

“ใช่แล้ว​!”

จ้าว​แห่ง​ตง​ชิว​ และ​จ้าว​แห่ง​ดินแดน​อื่น​ ๆ เอ่ย​เสียง​เจื่อน​ ๆ ชี้แนะ​สอนสั่ง​อัน​ใด​กัน​ ซีชี้แนะ​สอนสั่ง​พวกเขา​สิไม่ว่า​

“เจ้ามีธุระ​อัน​ใด​ที่​ข้างนอก​หรือ​”

จ้าว​แห่ง​ก่วงห​ลิง​เอ่ย​ “ให้​พวกเรา​ไป​ช่วย​ดี​หรือไม่​”

นาง​กังวล​ว่า​จะเกิดเรื่อง​ไม่คาดคิด​กับ​ซีที่​ข้างนอก​นั่น​ ทว่า​หลัง​นาง​พูด​จบ​ ก็​ตระหนัก​ได้​ว่าความ​วิตก​ของ​นาง​นั้น​หา​ได้​จำเป็น​ไม่

จะเกิดเรื่อง​กับ​ซีได้​อย่างไร​กัน​?

ต่อให้​เกิดเรื่อง​กับ​นาง​ ก็​ไม่มีทาง​เกิดเรื่อง​กับ​ซี!

เบื้องหลัง​ของ​ซีมีท่าน​ผู้​นั้น​คอย​คุ้มครอง​อยู่​นะ​!

แม้กระทั่ง​ต้น​บรรพ​จารย์​ผู้​มาจาก​แดน​กำเนิด​พิศวง​ลางร้าย​อย่าง​แท้จริง​ยัง​ทำร้าย​ซีมิได้​ แล้ว​ผู้ใด​จะแผ้วพาน​ซีได้​เล่า​!

“แก้แค้น​!”

ดวงตา​ของ​ซีลุ​กวาว​ ยาม​เอ่ยถึง​ธุระ​ที่​นาง​จะออก​ไป​จัดการ​ข้างนอก​

นาง​ต้องการ​กลับ​ภพ​เซียน​ ล้างแค้น​ให้​กับ​ตระกูล​ของ​นาง​!

นาง​รอ​วันนี้​มาไม่รู้​ตั้ง​นาน​เท่าไหร่​!

นาง​ลืม​บิดา​มารดา​ที่​ตาย​อยู่​เบื้องหน้า​นาง​ไม่ลง​ และ​ลืม​คนใน​ตระกูล​ที่​ถูก​ตระกูล​เซียว​เข่นฆ่า​อย่าง​อำมหิต​ไม่ลง​ เพราะ​อย่างนั้น​ หลัง​นาง​บรรลุ​ขอบเขต​บรรพ​จารย์​เซียน​ ก็​จบ​การฝึกฝน​ทันที​ และ​ตัดสินใจ​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ภพ​เซียน​!

“ได้​!”

“พวกเรา​จะส่งเจ้าออก​ไป​เอง​!”

จ้าว​แห่ง​ตง​ชิว​ และ​จ้าว​แห่ง​ดินแดน​อื่น​ ๆ มิได้​ถามอัน​ใด​มาก​ พวกเขา​รับรู้​ถึงความ​แค้นเคือง​จาก​ตัว​ซี ซีคง​แบกรับ​หนี้​แค้น​ใหญ่หลวง​บางอย่าง​ไว้​แน่​!

แดน​บรรพ​โกลาหล​อยู่​ใน​สภาวะ​ปิด​สนิท​ พวกเขา​ร่วมมือ​กัน​เปิด​เส้นทาง​เส้น​หนึ่ง​ให้​ซี ทั้ง​ยัง​บอก​ซีว่า​ ยาม​ซีกลับมา​ ให้​ซีติดต่อ​พวกเขา​ล่วงหน้า​ แล้ว​พวกเขา​จะเปิด​เส้นทาง​นี้​ขึ้น​อีกครั้ง​

ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​นี้​ มีเส้นทาง​นี้​อยู่​เพียง​เส้น​ทางเดียว​ เป็น​เส้นทาง​ที่​ถูก​สร้าง​ขึ้น​โดย​บรรพ​จารย์​จาก​ดินแดน​ต่าง ๆ​ มีเพียง​จ้าว​แห่ง​ดินแดน​อย่าง​พวกเขา​ร่วมมือ​กัน​ประทับ​มือ​ลง​ไป​ที่​แท่น​ จึงจะเปิด​ใช้เส้นทาง​นี้​ได้​

“ขอบคุณ​!”

ซีกล่าว​ขอบคุณ​อีกครั้ง​ ก่อน​จะก้าว​สู่เส้นทาง​นั้น​ ออกจาก​แดน​บรรพ​โกลาหล​

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท