บทที่ 741 จักรพรรดิเซียนสิบแปดตนไม่ไหว ถ้าเพิ่มมาอีกเท่าตัวเล่า!
ภพเซียนอยู่ในช่วงจลาจลที่สุด
ขณะที่ต้องทำตามแผนกวาดล้าง ก็เป็นจุดเริ่มต้นของศึกแย่งชิงทรัพยากรครั้งใหญ่
ภพเซียนปิดสนิท มิอาจออกไปได้ จากนี้ไป ทรัพยากรมีแต่จะน้อยลงเรื่อย ๆ ทุกคนต่างอยากได้ทรัพยากรมากขึ้น เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตต่อไปได้นานขึ้น
เวลานี้ คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการช่วงชิงทรัพยากรอย่างไม่ต้องสงสัย แผนกวาดล้างจะกำจัดสิ่งมีชีวิตออกไปได้จำนวนมาก และจำนวนทรัพยากรจะเพิ่มขึ้น
การแย่งชิงตามลำพังนั้นยังดีไม่พออย่างเห็นได้ชัด กองกำลังนับคณามีการจับมือเป็นพันธมิตร หวังจะแย่งชิงทรัพยากรได้มากขึ้นในช่วงเวลานี้
ตระกูลเฟ่ยก็เลือกเป็นพันธมิตรกับตระกูลเซียวภายใต้สถานการณ์เช่นนี้
และบัดนี้ การปรากฏตัวของซียิ่งเป็นผลให้ผู้นำตระกูลเฟ่ยปีติยินดีจนต้องอุทานออกมา
พลังในกล่องสี่เหลี่ยมนั้นน่าอัศจรรย์เกินไป หากพวกเขาได้มาไว้ในครอบครอง ภพเซียนจะไม่สามารถกักขังพวกเขาไว้ได้อีก ถึงครานั้น พวกเขาก็ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องรอความตายอยู่ในภพเซียนแห่งนี้
ทว่าซีกลับเอ่ยว่าตาเขาไม่ดี สีหน้าผู้นำตระกูลเฟ่ยเย็นยะเยือกลงทันใด
เขากล่าวต่อผู้นำตระกูลเซียว “พวกเราจะเอาแต่ผลประโยชน์คงมิได้ เอาอย่างนี้ พวกเราจะลงมือกำราบนางเอง ถือว่าเป็นแรงกำลังให้พวกท่าน”
ผู้นำตระกูลเซียวคลี่ยิ้ม “ได้สิ”
หากเป็นเมื่อก่อน เขาไม่มีทางเอ่ยว่าจะแบ่งปันพลังในกล่องสี่เหลี่ยมกับตระกูลเฟ่ย ทว่าบัดนี้สถานการณ์แตกต่างออกไป
ทรัพยากรในภพเซียนลดฮวบลงมาก ตระกูลต่าง ๆ ลัทธิต่าง ๆ ล้วนตระหนักถึงหายนะนี้ และยินดีใช้แผนกวาดล้าง ต่อให้พวกเขาได้กล่องสี่เหลี่ยมมาแล้วก็ใช่ว่าจะหายห่วง ตระกูลต่าง ๆ ลัทธิต่าง ๆ ไม่ยอมรามือง่าย ๆ แน่
เขาในยามนี้ จำต้องแบ่งปันพลังในกล่องสี่เหลี่ยมให้กับตระกูลเฟ่ย
และท้ายที่สุด เขาอาจต้องเป็นพันธมิตรกับกองกำลังอื่น ๆ เพิ่มด้วย
หากไม่ทำเช่นนั้น พวกเขาไม่มีทางรักษากล่องสี่เหลี่ยมไว้ได้
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า เจ้า…แน่ใจหรือว่าต้องการแทรกแซง”
ซีมองผู้นำตระกูลเฟ่ยพลางกล่าว
“ไม่เกี่ยวได้อย่างไร บัดนี้ตระกูลเฟ่ยของเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับตระกูลเซียว!”
ผู้นำตระกูลเฟ่ยตวาด
“กำราบนางเสีย!”
เขาออกคำสั่งแก่ยอดฝีมือตระกูลเฟ่ยด้านหลัง
บรรดายอดฝีมือตระกูลเฟ่ยที่ติดตามมาที่นี่กับเขาล้วนมีฐานะไม่ธรรมดา มีสถานะสูงส่งในตระกูลเฟ่ย มิฉะนั้น คงไม่มีสิทธิ์ตามเขามาหารือในการเป็นพันธมิตรกับตระกูลเซียว
แน่นอนว่า ขอบเขตพลังของยอดฝีมือเหล่านี้ล้วนสูงส่ง แต่ละคนเป็นเซียนจวินกันแล้วทั้งสิ้น!
พริบตาที่พวกเขาลงมือ แสงเซียนสาดส่อง คลื่นพลังน่ากลัวโถมทับออกไปทั่วทุกที่ วิชาเซียนต่าง ๆ ถูกสำแดงออกมาพร้อมเพรียง ถล่มไปหาซี
“อันหนึ่งอันเดียวกันอย่างนั้นหรือ ข้าจะจำไว้”
ซีเอ่ยเสียงเบา น้ำเสียงนุ่มนวลประหนึ่งสายลมยามวสันต์ที่โชยพัดอย่างอบอุ่น
ทว่าลมหายใจต่อมา ความรู้สึกสายลมยามวสันต์ที่โชยพัดอย่างอบอุ่นก็หายเป็นปลิดทิ้ง ผู้คนในนี้ต่างรู้สึกหนาวสะท้านไปถึงกระดูก ขนลุกขนชันทั้งตัว ศีรษะชาวาบ!
พวกเขาตื่นกลัวจนตัวสั่นระริก สีหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ!
ซีผู้ดูเยาว์วัยถึงเพียงนั้น ทั้งยังบอบบางอ้อนแอ้น พลังที่มีกลับน่าประหวั่นพรั่นพรึงถึงเพียงนี้!
ยอดฝีมือระดับเซียนจวินทั้งหลายจากตระกูลเฟ่ยจู่โจมไปหาซี แต่ซีเพียงโบกมือเบา ๆ เท่านั้น เหล่าเซียนจวินแห่งตระกูลเฟ่ยก็กระเด็นออกไปด้วยพลังที่มองไม่เห็น ปากกระอักเลือดไม่หยุด แต่ละคนล้มระเนระนาดกับพื้น ไม่เหลือเรี่ยวแรงจะต่อสู้ได้อีก!
“อะไรกัน!”
ผู้นำตระกูลเฟ่ยตะลึง คิดไม่ถึงเลยว่าซีจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!
ซีเพียงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจก็จัดการยอดฝีมือระดับเซียนจวินไปได้ตั้งหลายคน ซีอยู่ขอบเขตระดับใดกัน?!
จักรพรรดิเซียนตนหนึ่งอย่างนั้นหรือ?!
ว่าที่จักรพรรดิเซียนยังไม่ดุดันเช่นนี้เลย!
ซีต้องบรรลุขอบเขตจักรพรรดิเซียนแล้วแน่ ๆ!
ผู้นำตระกูลเซียวก็ตกตะลึงเช่นกัน ม่านตาหรี่ลงรุนแรง
ทว่าไม่นาน เขาก็สงบใจลงได้
จักรพรรดิเซียนแล้วอย่างไร?
ตระกูลของเขาหาได้ขาดแคลนจักรพรรดิเซียนไม่!
ทั้งจักรพรรดิเซียนผู้เพิ่งบรรลุใหม่ ทั้งจักรพรรดิเซียนอาวุโส รวมแล้วสิบกว่าตน!
มิหนำซ้ำ ที่นี่ยังเป็นดินแดนตระกูลเซียวของพวกเขา มีกลไกลหลายชั้น ต่อให้ซีอยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตจักรพรรดิเซียนแล้วก็เท่านั้น ต้องถูกพวกเขาปราบปรามลงอยู่ดี!
“พลังของกล่องสี่เหลี่ยมนั้นไม่ธรรมดาจริง ๆ ช่วยให้เจ้าฝึกฝนจนมาถึงระดับนี้เชียวหรือ!”
ตาของเขาเป็นประกาย สายตาฉายแววละโมบยิ่งขึ้น
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ซีฝึกฝนจนมาอยู่ในระดับนี้ได้เพราะพลังในกล่องสี่เหลี่ยม มิฉะนั้น ซีไม่มีทางมาถึงขั้นนี้ได้!
เป็นผลให้เขายิ่งอยากได้กล่องสี่เหลี่ยมมากขึ้น!
“ให้ช่วยหรือไม่”
ผู้นำตระกูลเฟ่ยกล่าวต่อผู้นำตระกูลเซียว “ข้าขอให้จักรพรรดิเซียนในตระกูลข้ามาเป็นกำลังเสริมที่นี่ได้!”
“พี่เฟ่ย นี่ท่านดูแคลนตระกูลเซียวของเราหรือ”
ผู้นำตระกูลเซียวเอ่ย “ไม่ต้อง นางไม่มีทางก่อกรรมทำเข็ญอันใดได้อยู่แล้ว!”
“ให้จักรพรรดิเซียนของตระกูลเรามาเถิด ต่อจากนี้ต้องเอิกเกริกไม่น้อย จะได้ป้องกันมิให้กองกำลังอื่นเข้ามาแย่งชิงกับเรา…”
ผู้นำตระกูลเฟ่ยครุ่นคิดพลางกล่าว
เมื่อครู่ ยามบรรดาเซียนจวินตระกูลเฟ่ยลงมือก็อึกทึกครึกโครมไม่เบา หากต่อไปเปิดศึกจักรพรรดิเซียน สุ้มเสียงคงไม่เบาแน่
เป็นไปได้ว่าอาจดึงให้ตระกูลอื่น ๆ และลัทธิอื่น ๆ มายังที่นี่ด้วย
หากไม่เตรียมพร้อมไว้ก่อน เป็นไปได้ว่าอาจต้องเกิดเรื่อง
“ได้!”
ผู้นำตระกูลเซียวพยักหน้า ที่ผู้นำตระกูลเฟ่ยว่ามาก็ไม่ผิด จักรพรรดิเซียนจากตระกูลเฟ่ยรีบมาอยู่ที่นี่ ก็เป็นหลักประกันได้มากกว่า
จากนั้น เขาหันมองซีพร้อมหัวเราะเย็น ๆ
“ดูเอาเถิด นี่คือจุดจบของผู้ด้อยปัญญา! สิ่งใดหรือคือมหาตระกูล เจ้าไม่เข้าใจเลยสักนิด! เจ้าทึกทักเอาเองว่าก้าวสู่ขอบเขตจักรพรรดิเซียนแล้วจะแกร่งกล้าไร้เทียมทาน ล้างแค้นให้ตระกูลเจ้าได้ หารู้ไม่ นั่นเป็นเพียงความอวดดีของเจ้าเท่านั้น! ความแข็งแกร่งของมหาตระกูลเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการออก!”
เขากล่าวต่อ น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความทะนงศักดิ์และภาคภูมิ “ตระกูลเซียวของเรามิเคยขาดแคลนจักรพรรดิเซียน! ลำพังตัวเจ้าไม่อาจกำแหงในตระกูลเซียวของเราได้!”
สิ้นเสียงเขา ค่ายกลใหญ่พิทักษ์ตระกูลเซียวสำแดงฤทธิ์ออกมาเต็มที่ คลื่นริ้วค่ายกลโลดแล่นเป็นชั้น คลื่นพลังสยดสยองคืบคลานออกมา!
ดินแดนตระกูลคือรากฐาน ในกาลเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา ตระกูลเซียวเสริมพลังให้กับค่ายกลใหญ่พิทักษ์ตระกูลไม่หยุดหย่อน เมื่อค่ายกลใหญ่พิทักษ์ตระกูลเช่นนี้คลี่แผ่ออกไป ต่อให้เป็นจักรพรรดิเซียนอาวุโสเหล่านั้นก็ไม่อาจแผ้วพาน!
ถ้าหากจักรพรรดิเซียนอาวุโสเข้าไปติดในนั้น ค่ายกลใหญ่นี้มีพลังพอสังหารคนผู้นั้นได้เลย
ซีทึกทักเอาเองว่าสามารถทำตามอำเภอใจในตระกูลเซียว ล้างแค้นให้ตระกูลของนาง แท้จริงแล้วเป็นเพียงฝันกลางวัน ไม่มีทางเป็นจริงได้!
นอกจากนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องไม่คาดคิด เขาส่งข่าวให้จักรพรรดิเซียนทั้งหมดในตระกูล ให้จักรพรรดิเซียนในตระกูลมาเป็นกำลังหนุน
ผ่านไปไม่นาน แทบจะในลมหายใจต่อมา จักรพรรดิเซียนในตระกูลเซียวทั้งหลาย ทั้งผู้ที่บรรลุและผู้อาวุโสต่างมาอยู่ที่นี่กันทั้งหมด
จักรพรรดิเซียนสิบแปดตน ตระกูลเซียวสมเป็นมหาตระกูล รากฐานหนาแน่นยิ่งนัก
ระหว่างนี้ ซีมีท่าทีราบเรียบเรื่อยมา สีหน้ามิได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด
“มากันครบแล้วหรือ”
นางเอ่ยเสียงเบา มิได้แตกตื่นลนลานเพราะความกลัว แต่กลับถามประโยคนี้ออกมา จนผู้นำตระกูลเซียวและจักรพรรดิเซียนต่างผิดคาดกันหมด
“ผยองยิ่งนัก!”
“เจ้าอวดดีได้แค่เท่านี้แล้ว!”
จักรพรรดิเซียนทั้งสิบแปดตนหัวเราะเย็น ๆ ออกโรงพร้อมเพรียง เริ่มบดขยี้ซีจากทั่วสารทิศ ซีให้ความรู้สึกมองไม่ออก พวกเขามิกล้าชะล่าใจ ลงมือด้วยกำลังทั้งหมดที่มี!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ค่ายกลใหญ่พิทักษ์ตระกูลเซียวส่งเสียงอื้ออึง คลื่นริ้วค่ายกลระดับจักรพรรดิเซียนโลดแล่นไม่หยุด ลำแสงน่ากลัวลำแล้วลำเล่าจู่โจมไปหาซี!
ชั่วพริบตานั้น แสงอันเจิดจ้าท่วมท้นออกมา ศึกใหญ่ระดับจักรพรรดิเซียนปะทุในบัดดล!
คลื่นพลังระดับนี้ไม่อาจปิดบัง ภพเซียนสั่นสะเทือนไปทั้งปฐพี ประหนึ่งเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ จักรพรรดิเซียนสิบแปดตนลงมือเต็มกำลัง ประกอบกับอานุภาพของค่ายกลใหญ่พิทักษ์ตระกูลปะทุเต็มที่ พลังเช่นนี้น่าครั่นคร้ามเกินไป ไม่มีทางปกปิดไว้ได้เลย!
“เกิดอันใดขึ้น!”
“ตระกูลเซียว!”
สิ่งมีชีวิตนานัปการในภพเซียนต่างเพ่งมองไปยังตระกูลเซียว พวกเขารู้สึกถึงคลื่นพลังสยดสยองแห่งศึกจักรพรรดิเซียนกันได้ทั้งสิ้น
“ผู้ใดก่อศึกในตระกูลเซียวกัน”
“ไปเถิด เข้าไปดูกันหน่อย!”
ยอดฝีมือจากตระกูลและลัทธิต่าง ๆ มิได้ลังเล พากันเคลื่อนไหวมุ่งหน้าไปยังดินแดนตระกูลเซียว
ผู้นำตระกูลเฟ่ยส่งข่าวให้เหล่าจักรพรรดิเซียนในตระกูลไว้แล้ว จักรพรรดิเซียนเหล่านั้นจึงเคลื่อนไหวก่อน!
อีกด้าน ซีอยู่ในอาภรณ์สีขาวดุจหิมะ พลิ้วไสวตามลม สูงส่งไร้มลทินจนมิอาจบรรยาย!
นางบุกสังหารไปข้างหน้า มิได้ใช้พลังระดับบรรพจารย์เซียน นางไม่ได้ต่อสู้มานานแล้ว หนนี้จึงตัดสินใจสู้ให้หนำใจ จึงควบคุมพลังของตนให้อยู่ในระดับจักรพรรดิเซียน
ลำแสงจากค่ายกลใหญ่พิทักษ์ตระกูลถล่มมาถึงก่อน ซีฟาดฝ่ามือออกไป แม้จะมีพลังเพียงระดับจักรพรรดิเซียน กระนั้นก็น่าพรั่นพรึงเป็นที่สุด ลำแสงเหล่านั้นถูกลบล้างจนหมด ไม่เหลือแม้สักเศษเสี้ยว!
ประกายวาววามล้อมรอบตัวนาง นางบุกเข้าไปในหมู่จักรพรรดิเซียนสิบแปดตน แม้นกำลังต่อสู้ดุเดือด กระนั้นนางยังงดงามเฉิดฉัน ทุกอากัปกิริยาล้วนแฝงไว้ด้วยความโสภา
“สะคราญเหลือเกิน!”
เด็กหนุ่มตระกูลเซียวจ้องมองซีผู้งดงามไร้ที่ติแล้วเอ่ยออกมาอย่างอดมิได้
“อยากตายหรือ!”
“บังอาจกล่าวชมศัตรูเชียวหรือ!”
ผลสุดท้าย เขาได้รับสายตาพิฆาตมากมายจนต้องรีบหุบปากด้วยความกลัว มิกล้าเอ่ยวาจาใดอีก
ทว่านางงดงามจริง ๆ!
ถ้าหากมิใช่ศัตรูคงดี!
ดวงหน้าล่มเมืองของซีเหนือกว่าสตรีทุกนางในภพเซียน!
สมาชิกตระกูลเซียวที่พากันถลึงตาใส่เด็กหนุ่มคิดในใจ
พรวดดด!
เลือดสาดกระเซ็นประหนึ่งฝนโลหิต ซีไม่เพียงแต่เพริศพริ้งไร้ใดเปรียบ กำลังรบของนางยิ่งน่าทึ่ง เพียงพริบตาเดียวที่บุกไปถึงจักรพรรดิเซียนทั้งสิบแปดตน พวกเขาก็ต้านทานมิไหว บาดเจ็บสาหัสกันถ้วนหน้า บาดแผลชวนผวาเต็มตัวไปหมด!
“เป็นไป…ได้อย่างไรกัน!”
ผู้นำตระกูลเซียวกลัวจนแทบปัสสาวะราด จักรพรรดิเซียนสิบแปดตนออกโรงพร้อมเพรียง ซ้ำยังมีค่ายกลใหญ่พิทักษ์ตระกูลจู่โจมเรื่อย ๆ ซีกลับแกร่งกล้าไร้เทียมทาน บดขยี้จักรพรรดิเซียนทั้งสิบแปดตนได้ ซีมีกำลังรบน่าประหวั่นพรั่นพรึงเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!
นึกถึงตัวเขาที่เมื่อครู่ยังเย้ยหยันในความด้อยปัญญาของซี เขาต่างหากคือผู้ที่ด้อยปัญญา!
มิน่า ซีถึงกล้าบุกเข้ามาถึงตระกูลเซียวของพวกเขา ซีมีพลังที่จะทำเช่นนั้นได้จริง ๆ!
“ไม่ต้องตื่นตระหนกไป! จักรพรรดิเซียนตระกูลเรามาถึงแล้ว!”
ผู้นำตระกูลเฟ่ยกล่าว
ทันทีที่สิ้นเสียงเขา เหล่าจักรพรรดิเซียนแห่งตระกูลเฟ่ยก็ปรากฏตัวที่นี่ พวกเขามิได้ลังเล บุกโจมตีไปหาซีกันถ้วนหน้า!
“ฆ่า!”
จักรพรรดิเซียนแห่งตระกูลเซียวกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาในบัดดล ปะทุพลังออกมาเต็มที่ ร่วมถล่มซีกับเหล่าจักรพรรดิเซียนแห่งตระกูลเฟ่ย
จักรพรรดิเซียนสิบแปดตนไม่ไหว แล้วถ้าเพิ่มมาอีกเท่าตัวเล่า!?
พวกเขาไม่เชื่อว่าจะกำราบซีมิได้!
“ท่านผู้มาก่อนกาล ท่านผู้มาก่อนกาลจริง ๆ!”
ผู้นำตระกูลเซียวโล่งอก ในที่สุดก็เบาใจลงได้บ้าง และซาบซึ้งในตัวผู้นำตระกูลเฟ่ยอย่างยิ่งยวด
“วางใจเถิด! ไม่มีทางเกิดเรื่องไม่คาดคิด! ซีผู้นี้ต้องถูกเราปราบปรามลงในที่สุด!”
ผู้นำตระกูลเฟ่ยกล่าว
จักรพรรดิเซียนออกโรงพร้อมกันกว่าสามสิบตน ต้องเป็นพลังที่สยดสยองปานใด ซีต้องพ่ายแพ้ลงอย่างแน่นอน!