แต่ขาทั้งแปดของมันก็ยากที่จะรับมือทีเดียว เพราะถ้านางลั่นไก แมงมุมดำตัวนี้อาจจะใช้หนึ่งในขาของมันปัดกระสุน แล้วใช้ขาอีกข้างโจมตีเข้าที่ท้องของนางก็ได้
จากนั้นเฮ่อเหลียนเวยเวยก็ค้นพบว่าลางสังหรณ์ของนางถูกต้อง ขาทุกข้างของมันทำงานอย่างรวดเร็วจนน่ากลัวทันทีที่มันทับร่างของนาง ขาข้างหนึ่งของมันกำแขนที่หักของนางไว้อย่างโหดร้าย ขณะที่ใช้ขาอีกเจ็ดข้างตรึงไหล่นางให้อยู่กับที่ ขาบางส่วนก็พยายามฉีกท้องของนาง
ในตอนที่เฮ่อเหลียนเวยเวยกำลังจะเหนี่ยวไก จู่ๆ แมงมุมดำตัวนั้นก็ถูกพลังลึกลับสายหนึ่งขัดขวางเอาไว้ มันรู้สึกสับสนอย่างมาก และได้แต่สงสัยว่าเมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น
แม้กระทั่งขาทั้งสองข้างของมันก็ยังถูกหักอย่างโหดเหี้ยม
“อ๊าก!” แมงมุมดำส่งเสียงคำรามอันแหบแห้งออกมาเป็นครั้งแรกขณะพ่นใยแมงมุมออกมาทั่วร่าง ความเจ็บปวดนี้เป็นสิ่งที่มันไม่เคยสัมผัสมาก่อน และทำให้มันหยุดเคลื่อนไหวในทันที ดวงตาเล็กจิ๋วของมันจ้องมองขาข้างที่ขาดของตัวเองด้วยความเดือดดาล ก่อนที่จะกระโจนเข้าใส่หน้าท้องของเฮ่อเหลียนเวยเวยอีกครั้งด้วยหมายที่จะกรีดท้อง
ครั้งนี้พลังลึกลับนั้นแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก มันจัดการทุ่มร่างของเจ้าแมงมุมกลับหลัง ส่งมันกระแทกกับพื้นอย่างทรมาน
แม้จะมีใยแมงมุมป้องกันตัวอยู่ แต่มันก็ยังได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงจากการปะทะนั้น อวัยวะภายในของมันเจ็บปวดรวดร้าวจากการกระแทก แต่รสชาติแห่งความขมขื่นในลำคอของมันก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน!
“ฮึ่ม! กล้าดีอย่างไรถึงมารังแกท่านแม่ ลองเข้ามาอีกทีสิ ดูว่าข้าจะสอนบทเรียนให้เจ้าอย่างไร!” ทารกในท้องของนางรู้ว่าจะหาเรื่องคนอื่นได้อย่างไร น้ำเสียงอันเย็นชาแต่น่ารักของเขาแตกต่างไม่เหมือนใคร และนั่นทำให้ท่าทางของเขาดูชั่วร้ายและมีเสน่ห์อย่างมาก
แต่โชคร้ายที่ไม่มีใครได้ยินเขา นอกจากทารกที่ตัวเล็กกว่าเท่านั้น
“พี่ชาย ท่านสุดยอดไปเลยขอรับ!”
ในฐานะพี่ชาย ย่อมไม่มีสิ่งใดทำให้เขาภาคภูมิใจไปกว่าการได้รับคำชมจากทารกที่ตัวเล็กกว่า เขายืดอกเล็กๆ ของตัวเองอย่างวางมาด ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า ”ไม่ต้องห่วง พี่ของเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว ข้าจะไม่มีวันยอมให้เจ้าแมงมุมยักษ์ตัวเหม็นแสนอัปลักษณ์นี้เข้าใกล้เจ้าหรือท่านแม่ได้อย่างแน่นอน!”
“อื้ม!” ทารกที่ตัวเล็กกว่าพยักหน้ารัวเร็ว แม้ร่างกายของเขาจะอ่อนแอ แต่เขาก็เป็นห่วงท่านแม่ ดังนั้นเขาจึงใช้หูเล็กๆ ของตัวเองฟังเสียงที่เกิดขึ้นภายนอกนั้นอย่างตั้งใจ
แมงมุมดำพยายามขยับขาข้างที่บาดเจ็บของมัน แต่มันก็แทบจะไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้
นานเท่าใดแล้ว… ที่ข้าไม่ได้ตกอยู่ในสภาพน่าอดสูเช่นนี้!
แม้ว่ามันจะเคยประมือกับบรรดาผู้ขับไล่วิญญาณร้ายที่มีฝีมือร้ายกาจที่สุดมาแล้ว แต่มันก็สามารถกำจัดพวกเขาได้โดยไม่เปลืองแรง
เมื่อครู่นี้ผู้หญิงคนนี้ทำอะไรลงไป
นางหักขาของข้าได้เชียวหรือ!
ทุกคนต่างรู้ว่าขาทั้งแปดมีความสำคัญสำหรับแมงมุมเพียงใด เพราะพวกมันเป็นทั้งกรงเล็บ และยังเป็นเครื่องมือจำเป็นสำหรับการชักใยอีกด้วย
ยกโทษให้ไม่ได้!
ดวงตาของแมงมุมพิษเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยโทสะ จากนั้นการโจมตีของมันก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น แต่ท้ายที่สุด… มันก็ถูกผลักกลับมาอีกครั้ง ไม่เพียงแค่นั้น เวลานี้มันเหลือขาอยู่เพียงแค่สี่ข้างเท่านั้นจากทั้งหมดแปดข้าง
ร่างของแมงมุมพิษเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็นๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มันต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเช่นนี้
บางที… ข้าอาจจะเข้าใจผิดไปก็ได้
คนที่ผลักข้ากลับมาไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้!
แต่เป็นท้องของนางต่างหาก!
ใช่แล้ว จะต้องเป็นท้องของนางแน่ๆ!
ดวงตาของแมงมุมดำสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ขณะที่มันยกหนึ่งในขาที่เหลือของตัวเองขึ้นแล้วชี้ไปที่เฮ่อเหลียนเวยเวย แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเทาว่า ”อะไร อะไรอยู่ในท้องของเจ้า ปีศาจหรือ ไม่สิ เป็นไปไม่ได้! ข้ามั่นใจว่าข้าได้กลิ่นพลังวิญญาณอันแสนโอชะ มันน่าจะยังอ่อนแออย่างมาก แต่ทำไมกัน มันทรงพลังถึงเพียงนี้ได้อย่างไร!”
เฮ่อเหลียนเวยเวยเองก็รู้ว่าเด็กในท้องของนางพิเศษกว่าคนอื่น
นางรู้มาตลอดว่าลูกของนางไม่เหมือนกับมนุษย์ธรรมดา เพราะยีนส์ขององค์ชายนั้นโดดเด่นเกินไป ดังนั้นลูกของนางย่อมเป็นปีศาจตัวน้อยเช่นเดียวกันกับเขาอย่างแน่นอน
แต่เฮ่อเหลียนเวยเวยนึกไม่ถึงเลยว่าลูกที่ยังไม่เกิดของนางจะ… เก่งกาจถึงเพียงนี้
เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถเอาชนะแมงมุมพิษตัวนี้ได้!
ยิ่งกว่านั้น แม้เฮ่อเหลียนเวยเวยจะไม่แน่ใจนักว่านางคิดไปเองหรือไม่ แต่นางรู้สึกว่าลูกของนางตั้งใจเล็งไปที่ขาของแมงมุมพิษตัวนั้น บางทีอาจเป็นเพราะแมงมุมพิษตัวนี้ดูน่าขันยิ่งนักหลังจากเสียขาไปกระมัง
โบราณว่าไว้ว่า ไม่มีใครรู้จักลูกดีไปกว่าผู้เป็นแม่ของเขา
ในเวลาเดียวกันนั้น ทารกที่ตัวโตกว่าก็ชี้นิ้วให้ทารกที่ตัวเล็กกว่ามองไปมองแมงมุมพิษ พร้อมเอ่ยว่า ”ดูมันสิ น่าขันทีเดียวมิใช่หรือ ถ้าพวกเราออกไปได้เมื่อใด พี่จะจับแมงมุมพิษมาให้เจ้าเล่น ข้าจะหักขามันให้เจ้าทีละข้าง เจ้าจะได้เก็บมันไว้เป็นของเล่นได้”
“ขอรับ” ทารกที่ตัวเล็กกว่าหัวเราะ
เด็กทั้งสองได้รับนิสัยอันบิดเบี้ยวเล็กน้อยมาจากผู้เป็นบิดา…
จากนั้นแมงมุมพิษที่เร้นกายอยู่ในเงามืดก็พบปัญหา มันเป็นสัตว์ที่เฉลียวฉลาดอย่างมาก จึงสามารถคิดหาวิธีที่จะหลีกเลี่ยงการโจมตีนั้นได้อย่างรวดเร็ว ตราบใดที่มันสามารถเข้าใกล้นางได้อีกสักเล็กน้อย และสามารถพ่นใยใส่นางจากระยะนั้นได้ ใยแมงมุมที่มีความยืดหยุ่นของมันก็จะรัดคอผู้หญิงคนนั้นจนถึงแก่ความตายได้
แต่การทำเช่นนั้นจะทำให้รสชาติอันหอมหวานและความสดใหม่ของอาหารถูกทำลายไป เพราะอย่างไรหลังจากคนแม่ตาย เด็กที่อยู่ในท้องก็จะตายตามไปในเวลาเพียงหนึ่งก้านธูป
แต่สถานการณ์ปัจจุบันบังคับให้มันต้องทำเช่นนี้ ไม่อย่างนั้นมันก็คงไม่มีโอกาสที่จะชนะ
แมงมุมพิษยังคงระมัดระวังตัวอย่างมาก เพราะมันไม่รู้ว่าทารกในท้องของนางที่มีพลังปีศาจรุนแรงถึงเพียงนี้เป็นตัวอะไรกันแน่
มันเข้าใจไม่ผิด พลังจากท้องของผู้หญิงคนนี้เป็นพลังปีศาจไม่ผิดแน่
แต่ก็นับว่าแปลกทีเดียว มันมั่นใจว่าตัวเองได้กลิ่นพลังวิญญาณ แต่ทำไมพอมันเข้าใกล้นาง สิ่งนั้นถึงกลับกลายเป็นพลังปีศาจไปได้
แมงมุมพิษไม่รู้ว่าทันทีที่ปีศาจระดับสูงทำสัญญากับมนุษย์ กลิ่นอายของมนุษย์จะช่วยกลบกลิ่นอายของปีศาจได้ อีกทั้งยังมีผลทั้งกับปีศาจและลูกของปีศาจตนนั้นอีกด้วย
ดังนั้นจนถึงตอนนี้ แมงมุมพิษจึงไม่สามารถมองเห็นร่างที่แท้จริงของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยได้
นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้มันตัดสินใจทำในสิ่งที่น่าเสียดายที่สุดในชีวิตลงไป ซึ่งก็คือการพยายามฆ่าเฮ่อเหลียนเวยเวย
แมงมุมพิษหรี่ตาลงอีกครั้ง พร้อมกับขยับไปด้านหลัง มันตั้งใจว่าจะใช้ใยสีเงินของตัวเองรัดคอเฮ่อเหลียนเวยเวย
เฮ่อเหลียนเวยเวยรู้ตัว นางสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของแมงมุมพิษได้อย่างรวดเร็ว และรู้ว่ามันตั้งใจจะทำอะไร ดังนั้นนางจึงยกขาขึ้น…
แต่แล้วนางก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นเสียก่อน!
ก้อนหินที่ร่วงกราวลงมาจากผนังทางด้านซ้ายอัดเข้ากับขาทั้งสี่ข้างที่ยังบาดเจ็บอยู่ของแมงมุมพิษตัวนั้น ฝุ่นที่คลุ้งกระจายไปทั่วทำให้รังของแมงมุมพิษจมลงไปอยู่ใต้กองหินที่ร่วงลงมา จากนั้นร่างผอมเพรียวอันเต็มไปด้วยพลังปีศาจอันแข็งแกร่งก็ปรากฏตัวขึ้นจากม่านฝุ่นและควัน พลังปีศาจที่ปกคลุมอยู่รอบตัวของเขาดูเหมือนกับหมอกสีดำสนิท พวกมันทำให้เขาดูไม่มีตัวตน ราวกับได้ผสานเข้ากับความมืดมิดไปเสียแล้ว
เจ้าหมอนั่นเอง!
ชายที่เขาไม่ควรยื่นมือเข้าไปยุ่งด้วย!
เขาทำลายผนังหินเพื่อมาที่นี่จริงๆ หรือ
ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยเลือด แต่แมงมุมพิษได้กลิ่นและรู้ว่ามันไม่ใช่เลือดของมนุษย์ แต่เป็นเลือดของลูกหลานของมัน
เขาทำเพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับมือเรียวที่สวมถุงมือสีขาวราวหิมะเอาไว้ ชายแขนเสื้อและคอเสื้อของเขาดูประณีตสวยงามราวกับพวกผู้ดีในศตวรรษที่สิบเก้า แต่กระนั้นก็ยังทำให้นึกถึงหิมะอันโดดเดี่ยวบนยอดเขาที่อยู่สูงที่สุด มันเย็นชาหยิ่งผยอง แต่ก็งดงามอย่างมาก
แต่แมงมุมพิษรู้ว่าภายใต้ความงามนั้นมีจิตสังหารอันท่วมท้นซุกซ่อนอยู่
สัญชาตญาณกำลังบอกให้มันล้มเลิกความคิดที่จะทำร้ายเฮ่อเหลียนเวยเวย ดังนั้นมันจึงหันไปเผชิญหน้ากับไป๋หลี่เจียเจวี๋ย แล้วพ่นใยพิษใส่เขาแทน!