แมงมุมพิษรู้ว่าตราบใดที่มันโจมตีคู่ต่อสู้โดยไม่เปิดโอกาสให้เขาทันได้ตั้งตัวละก็ ใยแมงมุมของมันย่อมสามารถหักคออีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน ดังนั้นต่อให้ผู้ชายคนนี้จะเก่งกาจเพียงใด แต่เขาก็ไม่มีทางหลบหนีได้
เป็นอย่างที่คิด ใยสีเงินรัดเข้ารอบคอของอีกฝ่ายอย่างแน่นหนา
“หึ! ดูเหมือนเจ้าก็ไม่ได้วิเศษอะไรนักนี่” แมงมุมพิษจ้องมองไป๋หลี่เจียเจวี๋ยที่มีใยแมงมุมพันร่างอยู่ แล้วยกขาสี่ข้างที่เหลืออยู่ขึ้นและกำลังจะสัมผัสกับใบหน้าของชายหนุ่ม ก่อนหน้านี้มันคิดว่าการรับมือกับชายคนนี้จะน่าตื่นเต้นท้าทายกว่านี้มากนัก อย่างไรมันก็ได้เห็นชายคนนี้ทะลวงกำแพงหินเข้ามากับตา ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาน่าจะรับมือยากกว่าคนอื่น
แต่มันกลับนึกไม่ถึงเลยว่าทั้งที่มีฝีมือถึงเพียงนั้น คนคนนี้กลับโง่เขลาอย่างมาก เขาไม่ฉลาดพอที่จะตอบโต้มันด้วยซ้ำ เขาจึงต้องตกเป็นอาหารของมันอย่างไรเล่า
แมงมุมพิษหัวเราะเสียงดังลั่น ก่อนจะหรี่ตาลงอย่างมุ่งร้าย แล้วเอ่ยว่า ”เจ้ากล้าทำลายรังของข้า และยังฆ่าลูกหลานข้าไปตั้งมากมาย! เจ้าควรอยู่ให้ห่างจากเรื่องนี้ แต่เจ้ากลับเลือกที่จะมาหาที่ตายด้วยตัวเอง! ทีนี้ข้าจะให้เจ้าได้เห็นว่าข้าจะควักเครื่องในของเจ้าออกมาอย่างไร”
“โอ้? ควักเครื่องในข้าหรือ” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยยิ้มเมื่อสบตากับแมงมุมพิษ น้ำเสียงของเขากลับยังฟังดูผ่อนคลาย ราวกับว่าเขากำลังสนทนาเรื่องทั่วไปด้วยท่าทางเป็นมิตรอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เฮ่อเหลียนเวยเวยไม่สามารถทนมองแมงมุมพิษตัวนั้นได้อีกต่อไป เห็นได้ชัดว่าสัตว์อสูรตัวนี้ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ายิ่งองค์ชายดูเป็นมิตรมากเท่าใด เวลาที่เขาลงมือก็จะยิ่งน่าหวาดกลัวมากขึ้นเท่านั้น…
“พี่ชาย แมงมุมตัวนั้นอยากตายหรือขอรับ” ทารกที่ตัวเล็กกว่าเหลือบมองทารกที่ตัวโตกว่า
ทารกที่ตัวโตกว่ามองตอบอย่างใจเย็น แล้วเอ่ยว่า ”เจ้ารู้หรือไม่ว่าท่านพ่อนิสัยเสียถึงเพียงใด”
ทารกที่ตัวเล็กกว่าส่ายศีรษะเล็กๆ ของตัวเองพร้อมกับตอบว่า ”ไม่รู้ขอรับ” นี่ท่านพยายามที่จะตำหนิท่านพ่ออีกแล้วหรือ
“ยิ่งเจ้าเกลียดอะไร เขาก็จะยิ่งให้เจ้าได้ทำสิ่งนั้น หรือไม่ก็จะทำให้มั่นใจว่าเจ้าได้ทำตามใจตัวเองอย่างเต็มที่” ทารกที่ตัวโตกว่าเยาะขึ้นขณะเอ่ยเช่นนี้ ”เขาจะใช้วิธีการอันไร้ยางอายทุกรูปแบบจัดการกับคนพวกนั้น แต่แมงมุมตัวนั้นก็โง่จนน่าขันจริงๆ ที่กล้าหัวเราะเยาะท่านพ่อที่เป็นราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่”
ทารกที่ตัวเล็กกว่า : … สรุปว่าท่านก็แค่อยากตำหนิท่านพ่ออยู่ดีนี่เอง เฮ้อ ท่านพี่ก็เอาแต่วิจารณ์ท่านพ่อเช่นนี้อยู่เรื่อย ถ้าท่านออกจากที่นี่ไปได้เมื่อใด สิ่งแรกที่ท่านจะให้ความสำคัญก็คือการสู้กับท่านพ่อหรือ
แมงมุมดำไม่รู้เลยว่ามันได้ยั่วโมโหคนที่มันไม่ควรยั่วโมโหเข้าเสียแล้ว ระหว่างที่มันยกขาขึ้น มันก็รัดใยแมงมุมที่พ่นออกมาให้แน่นขึ้นแล้วคำรามออกมาว่า ”ตายซะ!”
“ส่วนตัวแล้ว ข้าเกลียดพวกของเหนียวๆ และสิ่งสกปรกอย่างมากเพราะพวกมันทำให้ข้ารู้สึก.. ขยะแขยง” หลังจากพูดคำสุดท้ายจบ อากาศโดยรอบของไป๋หลี่เจียเจวี๋ยทั้งหมดก็พลันถูกดูดหายวับไปกลายเป็นสุญญากาศ
ทันใดนั้น ตัวอะไรบางอย่างสีดำก็พุ่งออกมาจากพื้นที่อยู่ใต้เท้าของเขา…
แมงมุมดำนึกไม่ถึงว่าใยแมงมุมที่พันอยู่รอบชายหนุ่มจะละลายจนเหลือแค่แอ่งน้ำในเวลาเพียงแค่พริบตา
มันไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน
แมงมุมพิษกุมขาทั้งสี่ที่เหลืออยู่พร้อมกับมองภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดแสน
อันตราย…
อันตรายมาก!
ผู้ชายคนนั้นอันตรายมากเกินไป!
ดวงตาของมันเบิกกว้างด้วยความตกใจ ขนทุกเส้นบนร่างของมันตั้งชันจากความกลัว
ข้าต้องหนี ไม่อย่างนั้นข้าได้ถูกฆ่าตายแน่!
แม้แต่หายใจก็ห้ามทำ
กระทั่งเสียงหายใจก็อาจทำให้ถูกเขาฆ่าได้
แมงมุมพิษไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงได้มีปฏิกิริยาเช่นนี้ ถ้ามันอายุมากกว่านี้สักนิด หรือเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งกว่านี้ มันก็คงรู้ว่าความรู้สึกนี้คือความเกรงขามที่สัตว์อสูรมีให้กับผู้เป็นราชาของพวกมัน ความเคารพและความหวาดกลัวที่มีต่อเขาไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดของพวกมันทันทีที่เป็นสัตว์อสูร
ออกจากที่นี่! ข้าต้องออกไปจากที่นี่… ในใจของแมงมุมพิษเต็มไปด้วยความคิดนี้ มันเริ่มออกวิ่งทันที แต่ทว่า…
ความเจ็บปวดสุดแสนเข้ายึดร่างของมันอย่างกะทันหัน
หลังจากส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด มันก็ล้มลงไปนอนลงกับพื้น
ก่อนที่มันจะทันได้ตั้งตัว ชายคนนั้นก็ใช้เท้าเหยียบลงมาที่ตัวมันพร้อมกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น
ใช่ มันถูกเหยียบ!
รองเท้าที่เขาสวมอยู่แตกต่างไปจากรองเท้าสกปรกและเหม็นหืนที่คนส่วนใหญ่สวมเข้ามาที่นี่ รองเท้าหุ้มข้อที่ตรึงร่างของมันอยู่ในเวลานี้ได้รับการตัดเย็บมาอย่างไร้ที่ติ อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของไม้จันทน์อันยากจะอธิบายโชยออกมาอีกด้วย
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือมันมีน้ำหนักมากกว่ามนุษย์ทั่วไปถึงห้าเท่า หากว่ากันตามหลักการแล้ว มนุษย์ธรรมดาย่อมไม่มีทางเอาชนะแรงของมันได้ เว้นแต่คนที่ว่านั้นจะเป็นสัตว์อสูรหรือปีศาจที่ยิ่งใหญ่กว่ามัน
แต่ ผู้ชายคนนี้กลับ…
เขากลับเหยียบมันจมดินได้ด้วยเท้าเพียงข้างเดียว
นอกจากนั้น กระดูกซี่โครงของมันก็เหมือนจะหักจนไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว
“ข้าควรจัดการเจ้าต่อดีหรือไม่” รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นอีกครั้งทันทีที่เขาพูดจบ
ฟุ่บ!
ทันใดนั้น ขนนกสีดำก็ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า ขนนกพวกนั้นล่องลอยอยู่กลางอากาศเกิดเป็นภาพอันงดงามชวนหลงใหล
จากนั้นหมอกสีดำก็แผ่กระจาย ชายผู้ยากจะคาดเดาสาวเท้าเข้าไปหาแมงมุมพิษพร้อมกับขนนกที่ล้อมรอบตัว ดวงตาของเขาเป็นประกายชั่วร้ายด้วยแสงสีทองจางราวกับตาแมว เมื่อเขาหรี่ตาลง ประกายแห่งความเย็นชาก็พลันแผ่ออกมาจากตาคู่นั้น และทำให้แมงมุมพิษตัวแข็งอยู่กับที่!
ทันทีที่แมงมุมพิษเห็นดวงตาเรืองแสงสีทองของไป๋หลี่เจียเจวี๋ย เข่าของมันก็ทรุดฮวบลงกับพื้น จากนั้นมันจึงขดตัวเข้าหากัน บนใบหน้าของมันเต็มไปด้วยสีหน้าแห่งความเคารพและหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
“ไม่ ไม่เอาแล้ว!”
จะเป็นเขาไปได้อย่างไร
ราชาผู้ควบคุมความมืด และชื่นชอบการเล่นสนุกกับจิตใจคนมากที่สุด แม้มันจะอยู่มาแล้วถึงหนึ่งพันปี แต่คนคนนี้ก็คือราชาที่มันควรกราบไหว้
เขา… ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้
สวรรค์ ก่อนหน้านี้มันทำอะไรลงไป มันทำให้ราชาผู้ขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายโมโหเข้าเสียแล้ว!
แมงมุมพิษรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง
แต่ความเสียใจของมันไม่มีประโยชน์สำหรับไป๋หลี่เจียเจวี๋ย เขาโน้มตัวลงอุ้มเฮ่อเหลียนเวยเวยขึ้น แล้ววางนางลงบนขนนกนุ่มๆ เหล่านั้น จากนั้นจึงเหลือบมองแมงมุมที่กลัวจนหัวหดอยู่ตรงนั้นพร้อมกับกระตุกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มกระหายเลือด และกล่าวว่า ”ทำอย่างไรดี ข้ายังอยากฆ่าเจ้าอยู่เลย”
ทันทีที่พูดจบ ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยก็ยิ้มแล้วใช้ฟันกัดถุงมือสีดำออก จากนั้นจึงหัวเราะพร้อมกับหรี่ตาลง นัยน์ตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นสีทองอย่างสมบูรณ์
แมงมุมพิษรู้สึกเหมือนหัวใจของมันถูกขยำจนกลายเป็นก้อนเดียวกัน มันคุกเข่าลงอ้อนวอนอย่างน่าสมเพชอยู่ใต้เปลือกหนาของตัวเอง ”องค์ราชา… ข้า ข้าไม่รู้ว่าเป็นท่าน ได้โปรดมีเมตตาด้วยเถิด อย่างไรเราก็เป็นปีศาจเหมือนกัน!”
“โอ้?” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยทำเหมือนเขาเพิ่งได้ยินเรื่องตลก จากนั้นจึงเอ่ยต่อ ”เจ้ากำลังขอร้องให้ข้าไว้ชีวิตเจ้าอยู่หรือ”
ศีรษะขนาดยักษ์ของแมงมุมพิษผงกขึ้นลงรัวเร็ว!
“หึ” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยกระตุกริมฝีปากบางขึ้นพร้อมกับคว้าขาข้างหนึ่งของมันไว้ ก่อนจะเพิ่มแรงที่มือของตัวเอง ”เจ้าทำร้ายสิ่งที่มีค่าที่สุดของข้า แล้วยังกล้าร้องขอความเมตตาจากข้าอีกหรือ!”
กร๊อบ!
เสียงกระดูกหักดังก้องในอากาศ
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเป่าฝ่ามือตัวเอง ก่อนจะโยนร่างของแมงมุมพิษขนาดยักษ์ขึ้นกลางอากาศแล้วกระโดดตามขึ้นไปพร้อมเสื้อคลุมที่สะบัดอยู่ในสายลม เขางอขายาวและสง่างามของตัวเองเล็กน้อย แล้วจัดการทำลายขาข้างที่หกของแมงมุมพิษระหว่างคำรามว่า ”นางเป็นสมบัติล้ำค่าของข้า แต่เจ้ากลับกล้าที่จะกินนางหรือ”
ไม่ว่าแมงมุมจะตัวใหญ่เพียงใด แต่มันก็ไม่สามารถทนการทรมานทั้งจากทางร่างกายและจิตใจได้
แต่ความเข้าใจขององค์ชายที่มีต่อวิธีการฝึกสัตว์อสูรให้เชื่องนั้นค่อนข้างที่จะไม่เหมือนใครนัก
หลังจากถูกเขาอัดจนน่วม สุดท้ายแมงมุมพิษก็ตกอยู่ในสภาพปางตาย มันได้แต่ร้องครวญครางและกัดริมฝีปากของตัวเองพร้อมกับน้ำตา มันขอตายดีกว่าถูกชายคนนี้ทรมานต่อไปเช่นนี้
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยหัวเราะขึ้นอีกครั้ง แต่ดวงตาของเขากลับเย็นชา มันไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่นิดเดียว เขาเอ่ยถามขึ้นว่า ”หืม เจ้าบอกว่าเจ้าเพียงแค่คิด แต่ไม่กล้าลงมือทำจริงๆ อย่างนั้นหรือ”