ตอนที่ 778 ชะตากรรมของเหมาเซียงเอ๋อร์
อีกไม่นานก็จะถึงเวลาแถลงข่าวอีกครั้ง
ครั้งนี้มีนักข่าว ผู้ชม และผู้เข้าแข่งขันมากขึ้น หอประชุมก็คลาคล่ำไปด้วยผู้คน
ทันทีที่การแถลงข่าวเริ่มขึ้น นักข่าก็ถามหลินม่ายทันที “ผู้ชนะการประกวดนางแบบแห่งห้องเสื้อจิ่นซิ่วซึ่งจัดโดยบริษัทของคุณคือคุณเหมาเซียงเอ๋อร์ และหล่อนชนะการแข่งขันด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม เรื่องนี้ได้ตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์เมื่อสองสามวันก่อน และมีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ ขออนุญาตสอบถามว่า บริษัทของคุณจะทำอย่างไรต่อไปคะ?”
หลินม่ายตอบด้วยรอยยิ้ม “ก่อนอื่น แน่นอนว่าเราจะปลดเหมาเซียงเอ๋อร์จากตำแหน่งผู้ชนะเลิศและริบเงินรางวัลคืน และประการที่สอง เราจะจัดประกวดรอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง”
ผู้ชมและผู้เข้าแข่งขันทุกคนปรบมืออย่างกระตือรือร้นจนฝ่ามือของพวกเขาแดงก่ำ และทุกคนก็ตื่นเต้นมาก
นักข่าวพอใจกับการจัดการของหลินม่ายมาก
พวกเขาทำการสัมภาษณ์เรื่องอื่น ๆ เช่น การแข่งขันรอบสุดท้ายจะเริ่มใหม่เมื่อใด? เมื่อใดห้องเสื้อจิ่นซิ่วจะเปิดตัวเสื้อผ้ารอบฤดูใบไม้ผลิ? และงานแถลงข่าวก็จบลง
เมื่อเหมาเซียงเอ๋อร์ได้รับเงินรางวัลสามหมื่นหยวน หล่อนก็ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย
เมื่อห้องเสื้อจิ่นซิ่วเรียกเงินรางวัลคืนจากหล่อน หล่อนได้ใช้ไปครึ่งหนึ่งแล้ว
แต่หากไม่จ่ายเงินคืน ห้องเสื้อจิ่นซิ่วก็จะไม่ปล่อยหล่อนไป
เหมาเซียงเอ๋อร์คิดว่าในเมื่อทุกคนรู้เรื่องอื้อฉาวของหล่อนอยู่แล้ว หล่อนควรจะคว้าโอกาสนี้เพื่อกลายเป็นโสเภณีระดับสูง
หล่อนมีหน้าตาสะสวย แม้จะมีชื่อเสียงในเรื่องอื้อฉาว แต่สีดำย่อมเปลี่ยนเป็นขาวได้เสมอ
ยังมีตลาดสำหรับการเป็นผู้หญิงเลวระดับไฮเอนด์ในสถานที่ระดับไฮเอนด์อยู่
ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งเดือน หล่อนอาจรวบรวมเงินได้สามหมื่นหยวน และส่งกลับคืนห้องเสื้อจิ่นซิ่วได้
เมื่อเธอมาที่สำนักงานใหญ่ของหลินม่ายเพื่อคืนเงินรางวัล หลินม่ายก็บังเอิญอยู่ที่นั่นพอดี
เมื่อเห็นว่าเหมาเซียงเอ๋อร์สวมชุดแบรนด์ดัง ทาปากสีแดงเพลิง และหยิบเงินสามหมื่นหยวนออกมาอย่างง่ายดายพร้อมวางไว้ในห้องทำงานของผู้จัดการซุน เธอก็รู้ทันทีว่าเงินนั้นไม่ได้หามาด้วยวิธีการบริสุทธิ์แน่
เดิมทีหลินม่ายต้องการเกลี้ยกล่อมให้หล่อนเคารพตัวเอง
แต่เมื่อเห็นว่าเหมาเซียงเอ๋อร์วางท่าต่อหน้าผู้จัดการซุน หลินม่ายก็ล้มเลิกความคิดที่จะช่วยหล่อนทันที
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอเน่าเปื่อยถึงกระดูกแล้ว และไม่มีทางที่จะช่วยได้
แม้เงินของเหมาเซียงเอ๋อร์จะได้มาอย่างง่ายดาย แต่หล่อนมักจะถูกคู่ครองของผู้ชายที่หล่อนนอนด้วยไล่ล่าและทุบตี ชื่อเสียงของหล่อนก็ฉาวโฉ่มากขึ้นเรื่อย ๆ
ครั้งหนึ่งเมื่อหลินม่ายไปช้อปปิ้งกับรูมเมทสองสามคน เหมาเซียงเอ๋อร์ก็ถูกหัวหน้าห้องไล่ตามและทุบตีจนเสื้อผ้าของหล่อนขาดวิ่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ดูน่าอับอายมาก
แต่ผู้คนไร้ยางอายมักจะอยู่ยงคงกระพันในโลก
เหมาเซียงเอ๋อร์ไม่สนใจเรื่องชื่อเสียงเลย หล่อนสนแต่เรื่องเงินและความเพลิดเพลินเท่านั้น
เมื่อเห็นคนรวย หล่อนจะทำทุกอย่างเพื่อขอการสนับสนุนเหมือนกาฝาก
ในความเห็นของหล่อน แค่อ้าขาครั้งหนึ่งก็มีค่าเท่ากับทองคำหนึ่งหมื่นตำลึง ไม่มีทางไหนหาเงินได้ง่ายเท่านี้อีกแล้ว
แต่ครึ่งปีต่อมา จู่ ๆ เหมาเซียงเอ๋อร์ก็หายตัวไปจากเมืองหลวง
มีข่าวลือว่าหล่อนถูกฆ่าโดยภรรยาคนหนึ่งของคู่ขาที่มีภูมิหลังที่แข็งแกร่งเพราะไปเป็นภรรยาน้อยของสามีหล่อน
ว่ากันว่าหล่อนเสียชีวิตอย่างน่าสยดสยองโดยถูกชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่รุมโทรมจนตาย
คู่ขาคนเดิมกล่าวว่า เนื่องจากเหมาเซียงเอ๋อร์ชอบเป็นของเล่นของผู้ชาย ก็สมควรปล่อยให้หล่อนสมหวังและกลายเป็นของเล่นให้สาแก่ใจ
หลินม่ายไม่แยแสเมื่อได้ยินข่าวลือ
หากไม่คิดจะเป็นคนดีและเอาแต่วิ่งไล่จับผู้ชายมีเงินเพื่อให้พวกเขาเลี้ยงดู ก็สมควรถูกทรมานจนตาย
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา การประกวดนางแบบแห่งห้องเสื้อจิ่นซิ่วรอบชิงชนะเลิศก็ถูกจัดขึ้นอีกครั้ง
แน่นอนว่าการประกวดในครั้งนี้ไม่มีใครฝ่าฝืนกฏหรือคิดคดโกง
ผู้อำนวยการฉือและผู้อำนวยการเหลียวซึ่งเคยมีส่วนร่วมในกฎที่ไม่ได้พูดได้สูญเสียชื่อเสียงและทำลายอนาคตของตนเองไปแล้ว แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเดินตามรอยเท้าของพวกเขา
ดังนั้นรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้จึงเป็นไปอย่างยุติธรรม พวกเขาได้ทำการคัดเลือกผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง และรองชนะเลิศอันดับสองที่แล้วเขาก็จะถูกใจเหล่าผู้ชมอย่างมาก
ผลการตัดสินเป็นที่ยอมรับและทุกคนต่างพึงพอใจ
เดือนนี้เป็นเดือนมีนาคมตามปฏิทินสุริยะคติ
เดือนมีนาคมตามปฏิทินสุริยะคติ อากาศทางตอนเหนือยังคงหนาวเย็น แต่ไม่หนาวเหน็บเหมือนที่ผ่านมา
เป็นเวลาเกือบสิบวันแล้วที่หยางเซิงและหวงกุ้ยอิ๋งพยายามหางานทำ
อย่างไรก็ตาม ในสภาพแวดล้อมที่การจ้างงานเป็นเรื่องยาก และพวกเขายังเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้มีอำนาจ แล้วพวกเขาจะหางานได้อย่างไร
หวงกุ้ยอิ๋งโกรธมากจนขว้างหม้อและชามที่บ้านทุกวัน หล่อนต่อว่าหยางเซิงและแม่หยาง ชีวิตของพวกเขาก็ลำบากมากขึ้น
สามีและภรรยาที่สิ้นหวังไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมาหาหยางจิ้นและขอเรียนรู้ทักษะการทำเซาปิ่งจากเขา
แม้แม่หยางจะไม่ต้องการเห็นหยางจิ้นและภรรยาของเขา แต่หยางเซิงและภรรยาของเขาก็ต้องการความช่วยเหลือ แม้หยางจิ้นจะไม่ชอบน้องชายและน้องสะใภ้ของเขามากนัก
แต่ตอนนี้พวกเขามาที่นี่เพื่อเรียนรู้จากเขาเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อยึดครองทรัพย์สินของครอบครัว หลังจากหารือกับไป๋เหยียนแล้ว หยางจิ้นก็ตกลงตามคำขอของน้องชายและน้องสะใภ้ของเขา
หยางจิ้นเป็นคนใจดี หยางเซิงและภรรยาของเขาจึงได้เรียนรู้วิธีทำเซาปิ่ง อีกทั้งหยางจิ้นยังให้เงินพวกเขาในฐานะคนงานด้วย
ตามความเป็นจริง หยางเซิงและภรรยาควรให้เงินหยางจิ้นเพื่อตอบแทนการเรียนรู้งานฝีมือจากเขา
หยางเซิงและภรรยาคิดว่าหยางจิ้นและภรรยาจะไม่สอนทักษะให้พวกเขา
แต่ก็ยังคิดจะลองถามดู พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าทางพี่ชายและพี่สะใภ้จะตอบรับและเห็นด้วย
ทั้งสองเป็นคนฉลาด
ในอดีต แม้ว่าพวกเขาจะทำสิ่งที่น่ารังเกียจมากมายในการสนับสนุนให้แม่หยางกดขี่ครอบครัวของพี่ชายคนโตและกอบโกยผลประโยชน์ให้กับครอบครัวของพวกเขา
แต่พวกเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าพี่ชายและพี่สะใภ้จะลืมความผิดทั้งหมดก่อนหน้านี้ และยังคงช่วยเหลือพวกเขา
ถ้าเป็นพวกเขาก็คงไม่ใจกว้างขนาดนี้
จะเห็นได้ว่าเป็นแม่หยางที่ทำให้ครอบครัวภรรยาของหยางจิ้นขุ่นเคือง และประธานไป๋ก็ดำเนินการเพื่อล้างมลทินให้กับลูกสาวและลูกเขยของเขา
ทั้งคู่เกลียดแม่หยางมากยิ่งขึ้น
เหตุผลที่แม่หยางไม่พอใจพ่อไป๋ไม่ใช่เพราะเขาทำเช่นนั้นกับครอบครัวลูกชายคนเล็กของหล่อน
แต่ตอนนี้หล่อนถูกลูกชายคนเล็กและลูกสะใภ้ปฏิเสธทุกวิถีทาง และมีเพียงหล่อนเท่านั้นที่รู้ว่ามันรู้สึกอย่างไร
วันที่ 8 มีนาคมเดินทางมาถึงอย่างรวดเร็ว
แม้หลินม่ายจะแต่งงานแล้ว แต่เธอไม่คิดว่าวันสตรีเกี่ยวข้องกับเธอ
หมอฟางเคยกล่าวไว้ว่า เธอจะเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยวัยสิบแปดปีของเขาตลอดไป
วันสตรีจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอแม้เพียงเล็กน้อย
สิ่งเดียวที่เกี่ยวข้องกับเธอคือ แฟชั่นโชว์เปิดตัวเสื้อผ้าฤดูใบไม้ผลิแห่งห้องเสื้อจิ่นซิ่วจะถูกจัดแสดงในวันนี้
แต่เพียงสองวันก่อนถึงวันที่ 8 มีนาคม หลินม่ายได้รับจดหมายเชิญให้เข้าร่วมการประชุมชมเชยวันสตรีจากสถานีโทรทัศน์ CCTV
ในที่สุดวันสตรี 8 มีนาคมก็เข้ามามีส่วนร่วมกับเธอ และมันก็สมเหตุสมผล
การประชุมชมเชยวันสตรีในวันที่ 8 มีนาคมแห่งสถานีโทรทัศน์ CCTV ถูกบันทึกไว้ในตอนกลางวันและออกอากาศในตอนกลางคืน
หลินม่ายรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีส่วนร่วมในการประชุมยกย่องวันสตรีแห่งสถานีโทรทัศน์ CCTV ในวันที่ 8 มีนาคม และทางมหาวิทยาลัยได้ริเริ่มอนุมัติการลาออกของเธอ
หลังเลิกเรียนในวันที่ 7 มีนาคม หลินม่ายกลับมาที่บ้าน
คืนนั้นเธอจัดเตรียมเสื้อผ้าสำหรับพรุ่งนี้
เธอคิดว่าในสถานีโทรทัศน์ CCTV กล้องจะสแกนร่างกายของเธอตลอดเวลา
ดังนั้นเธอจึงคิดจะคว้าโอกาสนี้สร้างกระแสโฆษณาให้กับเสื้อผ้าของตัวเอง เธอเลือกชุดที่สวยงามและสะดุดตาที่สุดมาสวมใส่
หลินม่ายไม่ต้องการพลาดโอกาสนี้ไป เธอสวมเสื้อโค้ทขนสัตว์ตัวบางสีม่วงอ่อนกับกางเกงขากว้างสีดำ
รอบคอของเธอมีผ้าพันคอสีขาวครีมที่ทอขึ้นเอง ทำให้เธอดูสง่างามและน่ามอง
การบันทึกการประชุมชมเชยเริ่มขึ้นเมื่อเวลาสิบโมงเช้า และหลินม่ายมาถึงสถานที่นัดหมายเวลา 09:40 น.
มีคนมากมายนับพันถูกเชิญมาที่นี่ และเกือบทั้งหมดเป็นผู้หญิง
ถึงจะไม่รู้จักกัน แต่ก็คุยกันได้อย่างมีความสุข
หลังจากพูดคุยกับพวกเธอ หลินม่ายพบว่าพวกเธอเป็นสตรีผู้นำในบางชุมชนหรือเป็นแบบอย่างให้กับสังคม
เช่น ครูหญิงในชนบท คนงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มารดาผู้ห่วงใย และแพทย์หญิงเท้าเปล่าในชนบท…
เมื่อเทียบกับพวกหล่อนแล้ว หลินม่ายรู้สึกละอายใจอย่างมาก
เธอเป็นเพียงนักธุรกิจตัวเล็ก ๆ ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุม แม้ไม่มีอะไรน่ายกย่องเหมือนหญิงเหล่านี้เลย
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ทำตัวเป็นของเล่น ก็โดนเล่นจนตายน่ะแหละ โทษใครไม่ได้หรอก
แม่หยางรู้ซึ้งแล้วล่ะสิว่าสิ่งที่ทำกับลูกคนโตมันเจ็บแสบขนาดไหน
ไหหม่า(海馬)