ตอนที่ 782 เข้าร่วมการประมูล
ครึ่งชั่วโมงผ่านไปในพริบตา อู๋เสี่ยวเจี๋ยนเดินออกไปทีละก้าวอย่างไม่เต็มใจ
ทันทีที่ออกจากคุก เขาก็เริ่มค้นหาไป๋ซวงทั่วเมืองหลวง
เขาเริ่มจากตรอกเสี่ยวหยางตามเบาะแสที่หลินเพ่ยมอบให้
หลังพยายามมองหาบ้านที่แม่ไป๋และไป๋ซวงเช่าอาศัย ในที่สุดก็ได้รู้เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยที่ไป๋ซวงเข้าเรียน
เขารีบไปยังมหาวิทยาลัยเยว่จี พยายามเสี่ยงโชคเพื่อดูว่าจะพบไป๋ซวงหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ไร้ผล
ระหว่างทางกลับไปยังโรงแรมด้วยความสลดใจ เขาบังเอิญเห็นหลินม่ายที่งดงามปานนางฟ้ากำลังขับรถคันเล็กผ่านไป
ไม่ได้พบกันเพียงสองปี นังสารเลวนี่งดงามถึงขนาดนี้เชียวหรือ?
แม้อู๋เสี่ยวเจี๋ยนจะจำเธอได้ แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะทักทาย
ผู้หญิงตรงหน้าเขาในตอนนี้ดูงดงามอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ใช่เธอเหมือนเมื่อก่อน เธอในขณะนี้ดูสูงส่งราวกับนางฟ้า และการดำรงอยู่ของเธอก็ไกลเกินกว่าที่เขาจะเอื้อมถึง
ท่าทางอันสูงส่งของเธอทำให้เขาไม่กล้าเข้าประชิดตัว
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนกัดฟันด้วยความไม่พอใจ เขาอยากวิ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่งเพื่อที่จะได้กัดกินชิ้นเนื้อของหญิงผู้นี้ราวกับสุนัขดุร้าย
ทำไมที่รักของเขาถึงมีชีวิตที่รันทด แต่ผู้หญิงคนนี้กลับมีความสุขเสียเหลือเกิน
หลินม่ายไม่รู้เลยสักนิดว่ามีเงามืดกำลังจ้องมองเธอจากด้านหลัง
หลังจากลงจากรถ เธอก็เดินตรงไปยังสถานที่ประมูล
เธอเห็นว่าสถานที่นั้นเต็มไปด้วยชายฉกรรจ์วัยสามสิบที่สวมชุดสูทและเสื้อโค้ทขนสัตว์
แปดในสิบของผู้ชายเหล่านี้พูดภาษาจีนกลางด้วยสำเนียงท้องถิ่น ซึ่งทำให้พวกเขาดูเหมือนคนชนบท
ผู้ชายหยาบกระด้างเหล่านั้นไม่ได้มาจากชนบทเท่านั้น แต่ดูจากท่าทางและการสนทนาของพวกเขา รวมถึงผิวพรรณก็สามารถตัดสินได้ว่าเก้าในสิบของพวกเขามาจากชนบท
หลินม่ายรู้ว่าคนเหล่านี้มีเพียงไม่กี่คนที่เป็นหัวหน้าของบริษัทก่อสร้าง ส่วนใหญ่เป็นเพียงผู้รับเหมาก่อสร้าง
และเธอก็รู้ด้วยว่าผู้รับเหมาเหล่านี้ไม่มีฝีมือ แต่กล้าได้กล้าเสีย
แม้แต่ผู้รับเหมาที่ไม่มีทักษะเลยก็ยังกล้าทำโครงการของรัฐ นับประสาอะไรกับชุมชนครอบครัว
ไม่สำคัญว่าจะมีทักษะหรือไม่ หากทำออกมาได้สำเร็จก็ย่อมได้รับเงิน
ตราบใดที่ดำเนินการทุกอย่างได้ดีและไม่ทำให้โครงการล่มสลาย ก็จะได้รับเงิน
หลินม่ายเกลียดการแข่งขันกับผู้รับเหมาเหล่านี้
ไม่ใช่ว่าเธอดูถูกพวกเขาในฐานะคนชนบท แต่ชีวิตของพวกเขาไม่มีอนาคต
หากไม่มีฝีมือเจียระไนเพชรก็ไม่ควรทำงานเกี่ยวกับเพชร
หากคุณภาพของโครงการอสังหาริมทรัพย์ออกมาไม่ดี ก็เป็นไปได้ที่มันจะคร่าชีวิตผู้คน
แต่ผู้รับเหมาส่วนใหญ่ให้ความสำคัญเพียงผลประโยชน์ตรงหน้า และไม่คำนึงถึงสิ่งเหล่านี้
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ล่มสลายมากมายในไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า
หลังจากหน่วยงานที่สูงกว่าออกมาแก้ไข ก็ไม่มีใครกล้าใช้ผู้รับเหมาที่ไม่มีคุณสมบัติในการก่อสร้างเหล่านี้อีกต่อไป
พวกเขาเลือกที่จะใช้บริษัทก่อสร้างที่เชื่อถือได้ เช่น บริษัทไชน่า คอนสตรัคชัน เติร์ด เอนจิเนียริง บูโร และผู้รับเหมาที่ไร้คุณภาพก็ค่อย ๆ หายไป
ทันทีที่หลินม่ายปรากฏตัวที่หน้างาน เธอก็ดึงดูดความสนใจจากผู้รับเหมาเกือบทั้งหมด
ขณะผู้ชายกลุ่มหนึ่งกำลังเสนอราคา ทันใดนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา
ผู้หญิงคนนั้นดูเด็กมาก สวยมาก และทันสมัยมาก
ราวกับว่าเธอไม่ได้มาประมูล เธอแต่งตัวเรียบร้อยมาก ให้ความรู้สึกว่าเธอมาที่นี่เพื่อคุยธุรกิจ
แต่หากเธอมาที่นี่เพื่อประมูล ผู้หญิงจะรู้เรื่องงานด้านวิศวกรรมได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงคนนี้ยังดูไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไป ซึ่งทำให้ผู้คนเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
แม้ว่าเพลง ‘ชีวิตที่เบ่งบาน’ ของหลินม่ายจะโด่งดังมาก และเธอก็ได้แสดงในวีดีโอประกอบเพลงด้วย อย่างไรก็ตามผู้รับเหมาเหล่านี้ไม่ค่อยดูทีวี ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกคุ้นหน้าเธอ แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร
หลินม่ายไม่สนใจผู้รับเหมาที่จ้องมองเธออย่างไม่วางตา เมื่อสำรวจสถานที่แล้ว เธอก็เดินไปยังมุมที่ไม่เด่นก่อนจะนั่งลง
ทันทีที่เธอนั่งลง ผู้รับเหมาจากทุกทิศทุกทางก็โผล่หัวมาทันทีและถาม “สาวน้อย เธอมาทำอะไรที่นี่?”
พวกเขาเรียกเธอว่าสาวน้อยเพราะเธอบอบบางและยังดูเด็ก แม้จะแต่งตัวเป็นผู้ใหญ่ก็ตาม
การแต่งตัวและทรงผมตรงยาวทำให้เธอดูเหมือนนักศึกษา ไม่ใช่ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว
แต่เธอเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว
หลินม่ายพูดด้วยรอยยิ้ม “พวกคุณมาที่นี่เพื่ออะไร ฉันก็มาที่นี่เพื่อทำสิ่งนั้นแหละค่ะ”
ผู้รับเหมาคนหนึ่งถามอย่างสงสัย “คุณมาที่นี่เพื่อประมูลเหรอ?”
หลินม่ายพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ผู้รับเหมาเหล่านั้นคิดว่าเธอเป็นเสมียนที่บริษัทก่อสร้างส่งมาประมูล พวกเขาจึงถามเธอว่าเธอสังกัดบริษัทก่อสร้างใด
หลินม่ายถามพวกเขากลับว่า พวกเขาอยู่ในสังกัดบริษัทก่อสร้างแห่งใด
ผู้รับเหมาเหล่านั้นจะมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างได้อย่างไร?
ผู้รับเหมาเหล่านั้นไม่มีบริษัท ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถตอบคำถามของหลินม่ายได้
โดยปกติแล้วหลินม่ายจะไม่บอกพวกเขาว่าเธอทำงานให้กับบริษัทก่อสร้างใด
ทุกคนล้วนเป็นคู่แข่ง เป็นหัวขโมย และพวกเขาไม่ต้องการเปิดเผยไพ่ของตัวเอง
เมื่อเห็นว่าหลินม่ายไม่ยอมตอบ ผู้รับเหมาเหล่านั้นก็รู้สึกเบื่อทันที หันหน้าหนีและไม่สนใจเธอ
หลังจากนั้นไม่นาน กิจกรรมการประมูลก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
หญิงสาวที่ดูเหมือนเสมียนสองสามคนรวบรวมเอกสารการประมูลทั้งหมดที่ผู้ประมูลเตรียมไว้
เอกสารประกอบการประมูลเหล่านี้แสดงถึงความแข็งแกร่งของทีมงานของผู้รับเหมา โครงการที่สร้างเสร็จแล้ว เพื่อยืนยันว่าหากพวกเขาได้รับผิดชอบสร้างอาคารหอพักสวัสดิการของธนาคาร การดำเนินการทุกอย่างจะสำเร็จไปได้ด้วยดี
หลินม่ายชำเลืองมองผู้รับเหมา แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนหยาบกระด้าง แต่พวกเขาก็เตรียมเอกสารเสนอราคาไว้มากมาย ซึ่งหนากว่าของเธอมาก
หลังจากส่งข้อมูลแล้วก็จะเริ่มต้นประมูลราคา
ผู้รับเหมาเหล่านั้นบ้าคลั่งขึ้นทีละคน และเสนอราคาที่คิดว่าเหมาะสมแบะเป็นที่พึงพอใจ
แต่เมื่อราคาประมูลถูกกดและกำไรต่ำลงเรื่อย ๆ ผู้รับเหมาจึงสงบลงและหยุดประมูล
หลินม่ายคิดในใจ
ตามราคาสุดท้ายที่เสนอโดยผู้รับเหมาเหล่านี้ หากต้องการทำกำไรแล้ว คุณภาพของอาคารหอพักนี้อาจอยู่ในระดับไม่สามารถรับประกันได้
การซึมของน้ำในห้องครัวและห้องน้ำเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย แต่หากวันหนึ่งอาคารที่พักอาศัยพังทลายลงก็อาจทำให้ผู้คนมากมายเสียชีวิต
เจ้าภาพมองไปรอบ ๆ สถานที่ทั้งหมดแล้วจึงถาม “มีใครจะเสนอราคาอีกไหมครับ?”
ไม่มีใครตอบ
เมื่อเขาถามครั้งที่สามเห็นว่ายังไม่มีใครพูดอะไร เขาจึงเตรียมประกาศยุติการประมูล
ทว่าหลินม่ายกลับยกมือขึ้นพลางกล่าว “ฉันค่ะ”
ทุกคนมองเธอด้วยความประหลาดใจ
ราคาปัจจุบันต่ำมากแล้ว ผู้หญิงคนนี้ยังจะกดราคาลงอีกเหรอ?
หากกดราคาลงอีก แน่นอนว่าจะไม่มีกำไรเหลือเลย
ผู้หญิงคนนี้คงไม่ใช่คนโง่ใช่ไหม?
แม้ว่าเจ้าภาพจะตกใจ แต่เขาก็ยับยั้งสีหน้าอย่างรวดเร็วและพูดกับหลินม่าย “เชิญเสนอราคาของคุณครับ”
หลินม่ายพูดอย่างตรงไปตรงมา “ฉันไม่มีราคาเสนอค่ะ”
ดวงตาที่ประหลาดใจเป็นทุนเดิมของทุกคนที่อยู่ที่นั่นแทบจะหลุดออกมา
หมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าไม่มีราคาเสนอ? หล่อนจะสร้างบ้านพักสวัสดิการให้ธนาคารโดยไม่คิดเงินหรืออย่างไร?
เห็นได้ชัดว่าพิธีกรตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “ผมไม่เข้าใจ คุณช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมครับ?”
หลินม่ายกล่าว “แผนของฉันคือฉันจะซื้อที่ดินก่อนและสร้างอาคาร หลังจากผ่านการตรวจสอบแล้วก็ให้พนักงานธนาคารและพนักงานที่ได้รับมอบหมายลงคะแนนเสียง หากมีผู้ปฏิบัติงานและพนักงานพึงพอใจมากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ พวกคุณก็ค่อยจ่ายเงินให้กับฉัน การกระทำเช่นนี้จะช่วยขจัดปัญหาการรับเงินไปแล้วแต่ได้อาคารที่พักอาศัยคุณภาพต่ำ จะไม่มีเหตุการณ์ที่เหล่าผู้อยู่อาศัยทำการประท้วง”
เจ้าหน้าที่ธนาคารได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสะเทือนใจ
เพราะพนักงานของพวกเขาเป็นผู้กระทำเช่นนั้น
ในฐานะเลขานุการ ไม่ง่ายเลยสำหรับเขาที่จะเลิกจ้างพนักงานเหล่านั้น และเขาไม่ต้องการให้เกิดเรื่องราวแบบนั้นขึ้นอีก
เขาถามขึ้นทันที “แล้วเราควรจ่ายเงินให้คุณเท่าไหร่สำหรับโครงการ?”
หลินม่ายเสนอราคาที่ต่ำกว่าราคาที่เสนอโดยธนาคารถึงสิบเปอร์เซ็นต์
แม้ราคาจะสมเหตุสมผลในใจของหลินม่าย แต่ก็สูงกว่าราคาต่ำสุดที่ผู้รับเหมาเหล่านั้นประมูล
ในเวลานั้น ผู้รับเหมาหลายคนหัวเราะพลางกล่าว “ราคาไม่น้อยเลย!”
หลินม่ายพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “พื้นที่ครอบครัวที่ฉันสร้างขึ้น หลังจากสร้างแล้ว พวกคุณก็สามารถเลือกว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ และฉันแบกรับความเสี่ยงทั้งหมดไว้คนเดียว พวกคุณกล้าทำเหมือนฉันไหม? ถ้าไม่กล้าก็อย่าบอกว่าฉันเรียกราคาสูง อีกอย่างพวกคุณต่างก็เคยผ่านการสร้างบ้านมาแล้วไม่ใช่เหรอ? ภายใต้หลักการประกันคุณภาพบ้าน ราคาที่ฉันเรียกก็ไม่สูงเลย จริงไหมคะ?”
ผู้รับเหมาเหล่านั้นต่างหน้าซีด
หญิงคนนี้ผอมเพรียวและอ่อนแอ เสียงของเธอหวานและนุ่มนวล แต่คำพูดของเธอกลับเสียดแทงจิตใจพวกเขาจนรู้สึกเจ็บปวด
ช่างเป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน!
เจ้าภาพพยักหน้าให้เธอ “ผลการเสนอราคาจะประกาศในวันพุธหน้า และการเสนอราคาจะสิ้นสุดที่นี่”
หลินม่ายเก็บกระเป๋าและเตรียมจะจากไป
ผู้รับเหมารายหนึ่งถามเธออย่างสงสัย “ถ้าคุณสร้างบ้านแล้วธนาคารหาข้อแก้ตัวที่จะปฏิเสธที่จะจ่ายเงิน คุณจะได้รับความเสียหายและจะต้องเสียใจที่ทำแบบนั้นนะ”
หลินม่ายยิ้ม “ฉันมีวิธีของฉันเอง”
เธอได้หาทางออกให้กับตัวเองแล้ว นั่นคือหากธนาคารผิดสัญญาและไม่ยอมรับบ้านของเธอ เธอจะขายเป็นบ้านเชิงพาณิชย์
หลินม่ายก้าวออกจากสถานที่ประมูลด้วยรองเท้าบู้ทหนังสูงสามนิ้ว และมาที่รถเมเซเดส-เบนซ์ของเธอ ขณะเธอกำลังจะขับรถออกไปก็มีคนข้างหลังพลันเรียกชื่อ “ม่ายจื่อ”
เสียงนั้นฟังดูคุ้นเคยและน่าขยะแขยง ทำให้เธออยากจะอาเจียนหลังจากได้ยิน
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ประธานหลินเขามีวิธีของเขา อย่ากังวลแทนไปเลยค่ะ ห่วงแต่พวกคุณเองจะดีกว่า
เจออดีตรักเก่าในชาติก่อนจนได้สินะ
ไหหม่า(海馬)