บทที่ 759 ตามข้าไปเถิด เสี่ยวเฮย!
พลังพิศวงลางร้ายในตัวสุนัขดำปะทุเต็มที่ พลังปราณของมันเปลี่ยนไปฉับพลัน ดุดันขึ้นกว่าเก่าหลายเท่าตัว!
นี่มิใช่พลังพิศวงลางร้ายธรรมดา มิฉะนั้นด้วยพลังของมัน ไม่มีทางที่จะไม่สามารถขับไล่ออกไปได้ หลังจากมันยอมรับพลังพิศวงลางร้ายในตัวเต็มที่แล้ว พลังที่มันมีในตอนนี้ก็เพิ่มพูนทวีคูณ!
มันบุกไปหาหลี่จิ่วเต้าอีกครั้ง ไม่เหลือสติในแววตา ราวกับมันกลายเป็นอาวุธสังหารอย่างสิ้นเชิง เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมอำมหิต คล้ายว่าจะสังหารสิ่งมีชีวิตในใต้หล้านี้ให้สิ้นซาก
“เจ้าทำเช่นนี้ดูไม่ดีเท่าใด…”
หลี่จิ่วเต้าขมวดคิ้วเบา ๆ จู่ ๆ ตัวสุนัขดำก็เต็มไปด้วยอารมณ์มุ่งร้ายด้านมืด ไม่เหลือแม้แต่สติสัมปชัญญะ นี่มันเรื่องอะไรกัน สุนัขดำถูกพลังชั่วร้ายบางอย่างเข้าสิงหรือ
เขาเก็บหินห้าประภา ไม่ได้ใช้มันจัดการสุนัขดำอีกต่อไป หากแต่หยิบกิ่งไม้ออกมาท่อนหนึ่ง
บรรพจารย์ฝูเคยบอกว่ากิ่งไม้ท่อนนี้คือต้นวิเศษสัตตะ สะบัดแสงเจ็ดสีออกมาได้ ไม่มีสิ่งใดที่มันลบล้างมิได้ และไม่ว่าพลังอันใดก็สามารถลบล้างได้หมด
เขาโบกกิ่งไม้ ก็มีแสงเจ็ดสีปรากฏออกมาจริง ๆ แสงนั้นสาดกระทบบนตัวสุนัขดำ
ชั่วขณะนั้น สุนัขดำสูญเสียพลังทั้งหมด ล้มตึงลงกับพื้นจนเกิดหลุมใหญ่ เศษหินดินทรายปลิวว่อน!
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ท่านผู้นี้เป็นใครกันแน่!?
สิ่งมีชีวิตทุกตนในดินแดนนี้ต่างตะลึงกับฝีมือของหลี่จิ่วเต้า
สุนัขดำสยดสยองขึ้นถึงปานนั้นในเวลาต่อมา พวกเขามิได้กังขาเลยว่า หากสุนัขดำต้องการ ย่อมทำลายทั้งอาณาจักรนี้ได้ในพริบตา ให้สิ่งมีชีวิตทั้งปวงในอาณาจักรนี้ต้องดับสูญตามไปด้วย!
ทว่าหลี่จิ่วเต้าผู้นี้เล่า หยิบกิ่งไม้ออกมาเพียงท่อนเดียวเท่านั้นก็ลบล้างพลังทั้งหมดของสุนัขดำได้ จะมิให้พวกเขาตะลึงได้อย่างไร!
พวกเขาสะท้านใจเป็นหนักหนา สงสัยจากใจจริงว่าตาฝาดไปหรือไม่ ในใต้หล้านี้ยังมีตัวตนน่าประหวั่นพรั่นพรึงปานนี้อยู่อีกหรือ!?
“โฮ่ง!”
สุนัขดำแยกเขี้ยว ต่อให้ไม่มีพลังแล้วก็ยังตะเกียกตะกายขึ้นจากพื้นด้วยดวงตาแดงก่ำ ปรี่เข้าไปหมายจะกัดหลี่จิ่วเต้า
มันถูกพลังพิศวงลางร้ายเปลี่ยนจิตใจไปแล้วอย่างสิ้นเชิง ผลลัพธ์ที่ตามมานั้นร้ายแรงมาก มันแทบไม่มีทางกลับเป็นเช่นเดิมอีกเลย
และนี่ก็คือจุดที่น่ากลัวของความพิศวงลางร้าย!
สิ่งมีชีวิตในแดนบรรพโกลาหลต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตพิศวงลางร้ายอยู่เนือง ๆ จึงมิอาจหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่สิ่งมีชีวิตบางตนจะถูกพลังพิศวงลางร้ายแทรกแซง หากกำจัดพลังพิศวงลางร้ายได้ก่อนจะส่งผลกระทบถึงจิตใจก็ยังดี
แต่หากจิตใจถูกพลังพิศวงลางร้ายกระทบแล้ว ต่อให้กำจัดพลังพิศวงลางร้ายออกไปได้จนไม่เหลือแม้เศษเสี้ยวก็ไม่อาจหวนคืนกลับไปได้ดังเดิมอีกแล้ว ไม่มีทางมีสติสัมปชัญญะหลงเหลืออยู่อีก
“สะกด!”
เห็นสุนัขดำบุกมากัดเขาเช่นนี้ หลี่จิ่วเต้าหยิบลูกแก้ววาววามผ่องใสออกมาลูกหนึ่งพลางร้องตะโกน สุนัขดำถูกสะกดนิ่งในบัดดล
นี่คือลูกแก้วสะกดกาย บรรพจารย์ฝูเก็บหินผลึกขึ้นมาก้อนหนึ่ง ทั้งขัดทั้งฝนจนเป็นลูกแก้ว และกล่าวว่านี่คือสมบัติล้ำค่าตั้งแต่เมื่อครั้งเบิกนภา สะกดสรรพสิ่งได้ทั้งปวง
‘ช่างเป็นสุนัขที่น่าสงสารเหลือเกิน…’
หลี่จิ่วเต้าถอนหายใจเบา ๆ ขณะเอ่ยในใจ
เขาดูออกแล้วว่าสุนัขดำตัวนี้ถูกพลังด้านมืดบางอย่างเข้าสิงถึงได้กลายเป็นแบบนี้ สุนัขดำก็เป็นเหยื่อเหมือน ๆ กัน…
“ลองใช้ก้านหลิวชะล้างดูแล้วกัน!”
เขาหยิบก้านหลิวออกมาท่อนหนึ่ง บรรพจารย์ฝูเคยเอ่ยว่าก้านหลิวก้านนี้สามารถชะล้างพลังมืดมิดทั้งหมดในใต้หล้า เมื่อมีมันในมือ ก็ไม่ต้องเกรงกลัวพลังมืดมิดอันใดอีก
จากนั้น เขาก้าวออกไป ตวัดก้านหลิวผ่านร่างสุนัขดำเบา ๆ
ชั่วพริบตาเดียว ความแดงก่ำในแววตาสุนัขดำเริ่มถอยกลับไป สติสัมปชัญญะกลับมาอีกครั้ง
ร่างสุนัขของมันก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน เดิมเพราะผลกระทบที่พลังพิศวงลางร้ายมีต่อจิตใจ มันเคียดแค้นร่างพิการของตน จึงใช้พลังซ่อมแซมร่างกายให้สมบูรณ์ดังเดิม
บัดนี้ พลังพิศวงลางร้ายหายไปหมดแล้ว มันจึงกลับมาอยู่ในร่างสุนัขพิการอีกครั้ง
“เก่งกาจยิ่งนัก!”
กิเลนไฟเห็นแล้วสะท้อนใจอย่างยิ่งยวด ไม่มีเรื่องใดที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคุณชาย!
กรณีอย่างราชันสุนัขผู้ถูกพลังพิศวงลางร้ายเปลี่ยนแปลงจิตใจไปอย่างสิ้นเชิง แต่เดิมไม่มีทางฟื้นคืนกลับมาได้ ทว่าเมื่อคุณชายลงมือ ราชันสุนัขก็คืนสภาพเหมือนปกติ!
ไม่ใช่แค่พลังพิศวงลางร้ายที่ถูกกำจัดออกไปจนหมดสิ้น แต่สติสัมปชัญญะทั้งหมดของราชันสุนัขก็หวนคืนมาจนหมด!
น่าทึ่งเกินไปแล้ว!
ฝีมือคุณชายเกินความคาดหมายจริง ๆ ทรงพลังสุดยอด!
หลี่จิ่วเต้าเห็นสายตาสุนัขดำกลับมาปกติแล้ว จึงรู้ว่าก้านหลิวชะล้างได้ผล พลังด้านมืดอันชั่วร้ายในตัวสุนัขดำถูกชะล้างออกไปแล้ว
เขาคลายพลังที่สะกดสุนัขดำอยู่
“นี่คือรูปโฉมเดิมของเจ้าหรือ”
เขาแปลกใจนิดหน่อย เนื้อตัวสุนัขดำเต็มไปด้วยบาดแผลบุบแหว่ง ตามหลักแล้วไม่ควรเป็นเช่นนั้น สุนัขดำที่ก้าวสู่เส้นทางฝึกตนแล้วไฉนเลยจะอยู่ในสภาพเช่นนี้ การจะมีร่างกายอันสมบูรณ์ไม่น่าเป็นปัญหา
“อืม”
สุนัขดำพยักหน้า หลากหลายอารมณ์ประเดประดัง
มันคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะยังกลับมาเป็นปกติได้!
มันคิดว่า หลังมันยอมรับพลังพิศวงลางร้ายเต็มรูปแบบแล้ว ก็จะไม่มีทางให้ย้อนกลับอีก ภายหน้าต้องกลายเป็นสิ่งมีชีวิตพิศวงลางร้ายอย่างสมบูรณ์
แต่ผลสุดท้ายกลับเหนือความคาดหมาย
หลังมันยอมรับพลังพิศวงลางร้ายเต็มรูปแบบแล้ว จิตสำนึกของมันถูกลบล้าง ไม่มีความทรงจำในช่วงเวลานี้ ถึงแม้มันไม่รู้ว่าหลี่จิ่วเต้าทำได้อย่างไร กระนั้นอีกฝ่ายได้กำจัดพลังพิศวงลางร้ายในตัวมันออกไปแล้วจริง ๆ ซ้ำยังช่วยให้มันได้สติสัมปชัญญะทั้งหมดคืนมา!
ต้องเป็นพลังฝีมือระดับใดกัน เกินขอบเขตความเข้าใจของมันไปแล้ว!
ต้องรู้ว่า ต่อให้อยู่ในขอบเขตโกลาหลขั้นเก้า ขอบเขตระดับเดียวกับบรรพจารย์แห่งแต่ละดินแดนก็ไม่มีทางทำได้ขนาดนี้!
หรือว่ามันได้พบกับขอบเขตในตำนาน บรรพจารย์เต๋าโกลาหลท่านหนึ่ง!!!
มีเพียงบรรพจารย์เต๋าโกลาหลเท่านั้นที่ทำเช่นนี้ได้!
‘ซ้ำยังเป็นรูปโฉมดั้งเดิม…’
หลี่จิ่วเต้าคิดในใจ นึกไม่ถึงจริง ๆ
ดูท่าจะเป็นสุนัขดำที่มีเรื่องเล่ามากมาย มิฉะนั้น เหตุใดสุนัขดำถึงยังอยู่ในร่างพิการเช่นนี้ คงคืนร่างสมบูรณ์ไปนานแล้ว
“ช่วยเล่าเรื่องราวของบาดแผลตามตัวพวกเจ้าให้ข้าฟังทีได้หรือไม่”
หลี่จิ่วเต้ามองสุนัขดำพลางถาม
วาสนา!
นี่คือวาสนาสูงสุด!
กิเลนไฟคิดในใจ ตื้นตันเป็นที่สุด และดีใจแทนราชันสุนัขมาก
มันเคารพนับถือราชันสุนัข และอยากให้ราชันสุนัขได้ติดตามอยู่ข้างกายคุณชาย
บัดนี้ คุณชายกำลังมอบโอกาสนี้ให้ราชันสุนัขอย่างเห็นได้ชัด!
ยังมีเรื่องอันใดที่ปิดบังคุณชายได้อีกหรือ
จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร!
คุณชายรับรู้ถึงอดีตของราชันสุนัขได้ในจิตเดียว กระนั้นคุณชายยังให้ราชันสุนัขเป็นฝ่ายเล่าเอง เห็นได้ชัดว่าคุณชายกำลังให้โอกาสราชันสุนัขได้ติดตาม
หากมิใช่เช่นนั้น ไยคุณชายต้องเอ่ยถามแบบนั้นด้วย เมินราชันสุนัขไปก็จบ
คุณชายคิดจะรับราชันสุนัขไว้ใต้บัญชา
“ได้”
ถึงอย่างไรราชันสุนัขก็ไม่ธรรมดา สมกับเป็นตำนานที่ทลายขีดจำกัดต่าง ๆ ลงได้ ไม่นานนักมันก็สงบใจลงจากความตะลึง กลับมาอยู่ในอารมณ์ราบเรียบ
มันอธิบายสาเหตุความพิการของตัวเองให้ฟังโดยปราศจากอารมณ์โกรธแค้น ประสบการณ์ทุกข์ทรมานที่ครอบครัวนั้นนำมาได้ผ่านไปนานแล้ว
และที่มันรักษาความพิการนี้ไว้ก็เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจตัวเองว่า หากไม่แข็งแกร่งขึ้นก็ต้องถูกโบย มันต้องพัฒนาต่อไปไม่หยุดหย่อนจึงจะถูก
มิใช่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเพราะความเคียดแค้น
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง…”
หลังหลี่จิ่วเต้าฟังจบก็เข้าใจอย่างสมบูรณ์
สุนัขตัวนี้น่าสงสารจริง ๆ เคยถูกทรมานในวัยเยาว์ จึงมิใคร่จะชอบเผ่ามนุษย์เท่าไหร่ ต่อมาประสบกับการรุกรานจากพลังด้านมืดอันชั่วร้าย ถูกขยายความไม่ชอบนั้นออกมา สุนัขดำถึงได้เปลี่ยนเมืองนี้เป็นสภาพอย่างวันนี้กระมัง
“ตามข้าไปเถิด”
เขามองสุนัขดำ นึกอยากรับสุนัขดำตัวนี้มาเลี้ยง
อดีตอันน่าสังเวชของสุนัขดำชวนให้เขาเจ็บปวดใจ นอกจากนี้ เขาก็อยากให้สุนัขดำได้อยู่ข้างกายเขาด้วย ใช่ว่าเขาต้องการให้สุนัขดำเฝ้าบ้านเขา เพียงแต่กลัวว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีก
ถึงแม้พลังด้านมืดอันชั่วร้ายจะถูกชะล้างไปแล้ว กระนั้นเขาก็ยังกังวลว่าผลกระทบจากพลังด้านมืดอันชั่วร้ายยังไม่ถูกลบออกจากตัวสุนัขดำอย่างสิ้นเชิง
หากเป็นเช่นนี้ จะเกิดเรื่องกับสุนัขดำได้ง่าย เป็นไปได้ว่าจิตใจอาจเริ่มเบี่ยงไปทางด้านลบ ค่อย ๆ ก้าวสู่ด้านมืด ถึงครานั้น ความเจ็บปวดเมื่อครั้งเยาว์วัยที่เคยถูกทรมานคงถูกนำมาขยายความอีกครั้ง และก่อการฆ่าฟันครั้งใหญ่
เขาอยากเลี้ยงสุนัขดำไว้ข้างกาย อย่างน้อยก็เลี้ยงไว้สักระยะหนึ่งให้สุนัขดำได้สงบจิตใจ ลบล้างประสบการณ์ที่ถูกพลังด้านมืดอันชั่วร้ายแทรกแซงออกไปได้จริง ๆ
ส่วนประสบการณ์เจ็บปวดที่เคยถูกทรมานเมื่อครั้งเยาว์วัยนั้น เขามิได้เป็นห่วงเท่าใด ระหว่างที่สุนัขดำเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟัง เขาดูออกว่าสุนัขดำมิได้ฝังใจกับประสบการณ์เมื่อคราวนั้น
สิ่งที่เขากังวลจริง ๆ คือประสบการณ์ที่ถูกพลังด้านมืดอันชั่วร้ายแทรกแซง ประสบการณ์เช่นนี้ต่างหากที่ร้ายแรง ไม่ทันระวัง สุนัขดำอาจก้าวสู่ด้านมืดจริง ๆ
นี่มิใช่สิ่งที่เขาอยากเห็น
“ได้!”
สุนัขดำมิได้ลังเล ตอบตกลงทันที
มันปรารถนาที่จะแข็งแกร่งขึ้นมาตลอด ไฉนเลยจะไม่เต็มใจ ไฉนเลยจะลังเล
ไม่มีทางเลย
“ดี”
หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม “ต่อจากนี้ไป ข้าจะเรียกเจ้าว่าเสี่ยวเฮย”
เขามิได้ไปจากเมืองโบราณแห่งนี้ทันที หากแต่เดินชมเมืองโบราณแห่งนี้ต่อ เขาสนอกสนใจในวัตถุโบราณมาก ก่อนนี้ยังมิได้ตั้งใจเชยชมเลยสักครั้ง
…
“แหวะ…”
อีกด้าน ในช่วงเวลาครึ่งปีกว่าที่ผ่านมา บรรพจารย์ฝูดูดกลืนพลังจากศพไปแล้วตั้งไม่รู้กี่ร่าง เขาคลื่นไส้จนทนแทบไม่ไหว เดินไม่กี่ก้าวก็นึกอยากอาเจียน
ทว่าการดูดพลังเช่นนี้ได้ผลชัดเจนอย่างยิ่งสำหรับเขา พลังของเขาเพิ่มเป็นทวีคูณ!
ก่อนช่วงเวลาอันยาวนานเริ่มต้นขึ้น อาณาจักรผืนนี้เจิดจรัสเหลือแสน กำลังรบเหนือขอบเขตเซียนมีอยู่คณานับ เอ่ยอย่างไม่เกินจริงเลยว่า สิ่งมีชีวิตกำลังรบระดับเซียนยุคปัจจุบันในภพเซียนเทียบไม่ได้เลยกับยุคสมัยนั้น!
เมื่อครั้งความพิศวงลางร้ายปะทุ กำลังรบระดับเซียนขึ้นไปในอาณาจักรนี้ตายไปมหาศาล และศพของกำลังรบระดับเซียนขึ้นไปเหล่านี้ถูกเขาขุดออกมาจนหมด และดูดกลืนพลังไป!
“ใช้ได้แล้ว!”
นัยน์ตาของเขาเย็นเยียบ จิตสังหารพลุ่งพล่านอยู่ในตัว เขาจ่ายด้วยราคาอันแพง ครึ่งปีที่ผ่านมาต้องขุดศพดูดกลืนพลังไม่หยุด จุดมุ่งหมายเดียวคือไปล้างแค้นหลี่จิ่วเต้า ชิงสิ่งที่ควรเป็นของเขากลับมา!
“คราวนี้จะไม่มีลูกไม้ใด ๆ ข้าจะบุกไปหาเจ้าโดยตรง ให้เจ้าต้องยอมคายทุกอย่างออกมา!”
เขาเอ่ยเสียงเย็น มั่นใจในความสามารถของตนในตอนนี้มาก หลังเขาไปถึงที่นั่น ย่อมกำราบหลี่จิ่วเต้าลงได้แน่!