ตอนที่ 329 สาเหตุที่สูญเสียความสงบนิ่ง
ฉินหลิวซีไม่เคยเห็นสะใภ้หวังแสดงความอ่อนแอและลังเลมาก่อน แม้กระทั่งตอนที่พึ่งกลับมายังบ้านเก่า ใบหน้าของนางผอมซูบและซีดเซียว แต่แผ่นหลังของนางยังคงตั้งตรง ช่วงเวลาในตอนนั้นลำบากกว่าตอนนี้ แต่นางก็รับมือด้วยความใจเย็น
นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นนางเศร้าหมองและตื่นตระหนก
ฉินหลิวซีรู้สึกว่าเกิดเรื่องขึ้นกับสะใภ้หวังแล้ว
เมื่อสะใภ้หวังได้ยินนางถามเช่นนี้ รอบดวงตาก็เริ่มอุ่นขึ้นเล็กน้อย กลางหน้าอกรู้สึกอึดอัด กระทั่งลืมไปว่าเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าของนางเป็นเพียงเด็กที่พึ่งทำพิธีปักปิ่นไป
แต่นางก็ยังรู้สึกอยากจะระบาย
สะใภ้หวังยิ้มอย่างขมขื่นพลางเอ่ยว่า “เจ้าดูออกหรือ เมื่อก่อนตอนที่เป็นผู้ดูแลเรือนที่จวนใหญ่ ก็เพียงแค่ใช้อำนาจชี้แนะและตรวจดูสมุดบัญชีให้ตรงกัน แต่ไม่รู้ว่าการทำกิจการต้องมีความรู้มากมายเช่นนี้ หากไม่สังเกตก็จะตกหลุมพราง โดนหลอกจนไม่เหลืออะไรเลย” ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
เมื่อฉินหลิวซีได้ฟังดังนั้นก็สังเกตสีหน้านางอย่างละเอียด แม้ว่าจะดูหงุดหงิด แต่ก็ไม่ได้ดูเหมือนว่าได้สูญเสียเงินไป จึงเอ่ยว่า “ไปเจอนักต้มตุ๋นมาหรือ แต่ท่านยังคงสงบนิ่ง ไม่ได้ปล่อยให้เขาโกง”
“หากไม่ใช่เพราะเจ้าเตือนล่วงหน้า พวกเราก็คงจะลงนามในเอกสารแล้วโดนโกงค่าสินค้าไปแล้ว” สะใภ้หวังรู้สึกกังวลเล็กน้อย
แม้ว่านางกับฉินเหมยเหนียงจะเคยเป็นผู้ดูแลเรือนทั้งคู่ แต่หากพูดเรื่องการทำกิจการด้วยตัวเอง นี่นับว่าเป็นครั้งแรก เมื่อก่อนพวกนางมีร้านขายของมงคลสมรส แต่ก็มีผู้ติดตามคอยช่วยจัดการดูแล พวกนางเพียงแค่ต้องฟังผู้ดูแลรายงานบัญชีทุกๆ หนึ่งปีหรือครึ่งปีเท่านั้น แล้วค่อยทำการตัดสินใจ
แม้ว่าวันปกติทั่วไปจะเกิดเรื่องผิดพลาดในร้านขายของมงคลสมรส ก็จะมีบรรดาผู้ดูแลเสนอแผนจัดการแล้วค่อยให้พวกนางตัดสินใจ
แต่หลังจากที่ตัวเองลงมือ จึงได้พบว่าต้องใช้ความรู้มากมายในด้านนี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เพียงแค่เส้นทางการนำเข้าวัตถุดิบ พวกนางก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร บังเอิญไปเจอนายหน้าที่ท่าเรือ เขามีเส้นทางการจัดซื้อวัตถุดิบทำผลไม้แช่อิ่มถูกกว่าในตลาด เพียงแค่ต้องซื้อในปริมาณมาก
แน่นอนว่าสะใภ้หวังและคนอื่นๆ ดีใจ แต่เพื่อเป็นการระวังไว้ก่อน จึงตามอีกฝ่ายไปดูโกดังของผู้ขาย ล้วนเป็นผลไม้ชั้นดีและสดใหม่จริงๆ นอกจากนี้ยังมีเอกสารการขายที่เกี่ยวข้องด้วย เพียงแต่ว่าอีกฝ่ายมีเงื่อนไขคือต้องซื้อในปริมาณมาก หากซื้อปริมาณน้อยพวกเขาไม่ขาย ซ้ำยังต้องชำระค่าสินค้าทันที ไม่อาจรอช้าได้ เพราะพวกเขาก็รีบกลับเช่นกัน
เมื่อฉินหลิวซีได้ยินเช่นนี้จึงถามว่า “พ่อบ้านหลี่ไม่ได้ไปกับพวกท่านหรือ”
“ไปด้วย” สะใภ้หวังถอนหายใจ เอ่ยว่า “ความฉลาดของพวกเขาคือเอกสารและสินค้าล้วนเป็นของจริง เพียงแต่ว่าพวกเขาไปเช่าโกดังสินค้าและขายสินค้าเดียวกันหลายๆ ครั้ง สินค้าเหล่านั้นมีคนซื้อไปแล้ว เพียงแค่รอคนมารับไป”
“แล้วพวกท่านรู้ได้อย่างไร”
สะใภ้หวังสีหน้าเคร่งขรึมพลางเอ่ย “แม้แต่ท่านป้าใหญ่ของพวกเจ้าก็ยังรู้สึกว่าสินค้านี้คุ้มค่าในการซื้อ พ่อบ้านหลี่ก็บอกว่าต้นทุนในการได้มานั้นต่ำมาก แต่ข้ากลับนึกถึงคำพูดของเจ้า รีบร้อนไม่ได้ จึงหาข้ออ้างว่าจะไปหาเงินมาก่อน แล้วให้พ่อบ้านหลี่ไปลองถามคนแปลกหน้า แต่เพียงแค่วันเดียว พวกเรายังไม่ทันได้สืบจนรู้อะไร เจ้ารู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาขายสินค้าเดียวมาสามรอบแล้ว พ่อค้าหนีไปแล้ว พอคนที่มาซื้อคนที่สองมารับสินค้าจึงได้รู้ว่าโดนโกง เมื่อจับนายหน้าผู้นั้นได้ก็ทุบตี เอะอะโวยวายจนเรื่องไปถึงศาล”
เมื่อคิดว่าพวกนางเกือบจะถูกโกงเงินจำนวนหนึ่ง สะใภ้หวังก็กลัวจนเหงื่อเย็นซึมออกมา ทั้งรู้สึกโกรธและกังวล
“หากไม่ใช่เพราะเจ้าเคยเตือนไว้ พวกเราก็คงซื้อสินค้านั้นและถูกเอาเปรียบไปแล้ว”
ฉินหลิวซีขมวดคิ้ว “ลุงหลี่อยู่ที่เมืองหลีมานานแล้ว ตามหลักแล้วเขาก็คงพอจะรู้จักนายหน้าหลายคน แต่กลับไม่รู้ว่านายหน้าผู้นั้นเป็นนักต้มตุ๋น”
สะใภ้หวังเอ่ยว่า “นายหน้าผู้นั้นพึ่งมาที่เมืองหลีเมื่อไม่นานมานี้ เจ้าบอกว่าเขาเป็นนักต้มตุ๋น แต่เขาบอกว่าตัวเองก็เป็นผู้เสียหายเช่นกัน เป็นเพียงคนกลาง ไม่รู้ว่าพ่อค้าขายสินค้าเดียวกันไปหลายครั้งแล้ว เจ้าลองเดาดูว่าเขาเป็นคนตระกูลไหน”
“ใคร”
“พี่น้องของมารดาฮูหยินสามตระกูลติง”
ฉินหลิวซีเลิกคิ้ว “เหตุใดจึงมีคนของตระกูลติงไปเสียทุกที่”
สะใภ้หวังเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “มีตระกูลติงคอยหนุนหลัง แม้ว่านายหน้าผู้นี้จะขึ้นศาล แต่อย่างมากที่สุดก็เพียงแค่ถูกปรับเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากนั้นก็สามารถเดินออกมาได้อย่างสบายๆ เขาในฐานะที่เป็นคนกลาง ไม่เพียงแต่ทำอสังหาริมทรัพย์และการค้าเท่านั้น ซ้ำยังปล่อยเงินกู้อีกด้วย”
เรื่องนายหน้าคดโกงนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ฮูหยินติงสามผู้นั้นปล่อยเงินกู้ นั่นเป็นสิ่งผิดจรรยาบรรณ อย่างไรเสียเงินประเภทนี้ถูกปล่อยออกมาเพื่อเก็บดอกเบี้ยสูง แล้วคนทั่วไปที่ไหนจะไปยืมเงินที่มีดอกเบี้ย
หากไม่ใช่คนที่ต้องการเงินด่วนก็เป็นนักพนัน ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหน หากหามาคืนให้ไม่ได้ก็เป็นอันตรายถึงชีวิต อย่างไรเสียนักพนันก็มีครอบครัว หากเขาหามาคืนไม่ได้ จะไม่เป็นการทำให้คนในครอบครัวเดือดร้อนหรือ
ดังนั้นสะใภ้หวังจึงไม่เห็นด้วยและไม่พอใจพฤติกรรมของฮูหยินติงสามเป็นอย่างมาก
สะใภ้หวังตกตะลึง นางไม่ใช่คนโง่เขลา เข้าใจในความหมายของคำพูดฉินหลิวซีในทันที เอ่ยว่า “เจ้าสงสัยว่าตระกูลติงจงใจชักนำเราเข้าสู่กับดักหรือ”
“ไม่มีหลักฐาน ยากที่จะเอ่ยได้”
ฉินหลิวซียิ้มพลางเอ่ย “ท่านแม่ บางคนเมื่อรุ่งเรืองแล้ว รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่พวกเขาไม่อยากทำมากที่สุดคืออะไร”
สะใภ้หวัง “?”
“คือพูดถึงตอนที่ตัวเองยากจน พวกเขาแทบจะอยากกำจัดความยากจนนี้ออกไปให้หมดจดโดยไม่ให้มีใครรู้ ฝังกลบความไม่เป็นดั่งหวังในอดีต เผยเฉพาะความภาคภูมิใจในความสำเร็จให้ผู้อื่นเห็น เพื่อเน้นย้ำถึงความมั่งคั่งและความสำเร็จของพวกเขาแทนที่จะปล่อยให้ผู้คนจดจำความอัปยศของพวกเขาได้” ฉินหลิวซียิ้มเล็กน้อยพลางเอ่ย “ข้าไม่กล้าเอ่ยว่าตระกูลติงมีความคิดเช่นนี้หรือไม่ แต่หากเป็นเช่นนั้น ในเมื่อไม่ได้มีความแค้นอะไรต่อกัน เช่นนั้นก็เป็นความชั่วร้ายล้วนๆ”
สะใภ้หวังชะงักไป หลังเย็นวาบ
เมื่อฉินหลิวซีเห็นว่านางกำลังตกใจจึงเอ่ยปลอบว่า “หยุดพูดเรื่องนี้ไว้ก่อนเถิด นับว่าโชคดีที่ไม่มีการสูญเสีย ในส่วนของวัตถุดิบ ให้พ่อบ้านหลี่ไปหาเฉียนหยวนไว่ที่ข้าเคยเอ่ยถึง ตระกูลเขาทำกิจการ มีลู่ทางอยู่บ้างไม่มากก็น้อย อีกอย่างข้าได้คนอีกสองคนมาจากหนิงโจว พวกเขาเป็นบ่าวรับใช้ที่ได้รับการปล่อยตัวจากตระกูลขุนนางต้องโทษ ชงชาทำขนมได้ ฝีมือไม่เลวเลย สามารถใช้งานได้ ท่านพาไปที่ร้าน เมื่อเปิดกิจการแล้ว ให้พวกนางทำตามสูตรการทำชาผลไม้แช่อิ่มก็พอ”
สะใภ้หวังดีใจมาก “เชื่อถือได้หรือ อย่างไรเสียมันก็เป็นสูตรที่เจ้าให้มา จะปล่อยให้รั่วไหลออกไปไม่ได้ ต้องเซ็นสัญญาหรือไม่”
“มีการลงนามแล้ว ข้าดูโหงวเฮ้งด้วยตัวเอง พวกเขาล้วนมีความภักดีและเชื่อถือได้ หลังจากเปิดร้าน ให้เงินค่าจ้างเพียงพอ พวกนางก็จะทำงานในร้านอย่างสบายใจ”
“ย่อมเป็นเช่นนั้น” คิ้วของสะใภ้หวังผ่อนคลายลง เมื่อเห็นความสงบนิ่งของฉินหลิวซีจึงถอนหายใจพลางเอ่ย “เจ้าดูข้าสิ เพียงแค่เจอเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็วิตกกังวล ไม่สงบเหมือนกับเด็กสาวอย่างเจ้า ช่างน่าอายเสียจริง”
ฉินหลิวซีหัวเราะเบาๆ “ว่ากันว่าเสียรู้หนึ่งครั้งเท่ากับได้เรียนรู้หนึ่งครั้งเจ้าค่ะ หลังจากเหตุการณ์นี้ไม่ว่าท่านจะทำกิจการด้วยตัวเองหรือฟังรายงานจากผู้ดูแล ในใจก็จะรู้ดีว่าควรทำอย่างไรแล้ว จริงสิ บ่าวรับใช้จากตงเป่ยที่เรือนฮูหยินผู้เฒ่าผู้นั้นเป็นผู้ติดตามของท่านอาหญิงเล็กหรือเจ้าคะ”