Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 995 ที่เห็นมันแค่ครึ่งเดียว

ตอนที่ 995 ที่เห็นมันแค่ครึ่งเดียว

   หัวหน้าน่ารักเหลือเกิน!  หลี่บี๋เฟิงที่เห็นมื้อเย็นซึ่งชูฮันและเกาช้าวฮุ่ยเป็นคนจัดหามาให้ก็เอ่ยขอบคุณชูฮันด้วยความซาบซึ้งดีใจ แววตาแสดงความหิวโหยออกมาชัดเจน

  ซูเฟิงซึ่งตามหลังหลี่บี๋เฟิงมาและได้เห็นภาพนั้นก็มีสีหน้าเอือมระอาเขาใช้ไรเฟิลด้ามยาวสีทองเคาะลงหัวหลี่บี๋เฟิง  ไม่ต้องดีใจไปหรอก เพราะนายจะไม่ได้กินไปอีกนาน! 

   เฮ้ย!ซูเฟิง อย่าเอาไรเฟิลสีทองของนายมาเล่นกับฉันแบบนี้  หลี่บี๋เฟิงลูบหัวไปมาด้วยความเจ็บ  นายก็รู้ว่าอาวุธของนายไม่ธรรมดา ถึงแม้ความสามารถร่างกายฉันจะอยู่ที่ระยะ 6 แต่ถ้าพลาดขึ้นมาฉันก็รับมืออาวุธนายไม่ไหวนะ 

  ซูเฟิงไม่คิดต่อล้อต่อเถียงกับหลี่บี๋เฟิงอีกปืนไรเฟิลขนนกด้ามยาวสีทองนี้แม้จะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาก็จริง แต่มันยากที่จะเข้าใจถึงตัวตนที่จริงของอาวุธในมือเขาเอง มันมีที่มาที่ไปที่เขาเองก็ไม่รู้และก็ไม่มีใครรู้

  ชูฮันส่งไม้ที่มีเนื้อเสียบย่างให้หลี่บี๋เฟิงจากนั้นก็โบกมือเรียกซูเฟิง  เดินไปกับฉัน 

  ซูเฟิงเลิกคิ้วอย่างสงสัยและรีบเดินตามฝีเท้าชูฮันไปเกาช้าวฮุ่ยเองก็อยากจะตามไปด้วยแต่เขาถูกชูฮันสั่งเอาไว้ว่าต้องอยู่ที่เดิมและห้ามขยับไปไหน ดังนั้นเขาจึงทำได้แต่เพียงนั่งรออยู่ที่เดิม

  ณจุดหนึ่งห่างไกลออกมาจากตำแหน่งที่มีทหารกองทัพเขี้ยวหมาป่าสามร้อยคนรวมตัวกันอยู่ ชูฮันยังคงเดินไปตามแนวป่าช้าๆพร้อมส่งยิ้มให้ซูเฟิง  ระยะ 7? 

  ซูเฟิงส่งยิ้มกลับให้ชูฮัน ฉันไม่เคยปิดซ่อนการรับรู้ของหัวหน้าได้เลย ไม่คิดเลยว่าหลังจากกลับมาหัวหน้าจะได้ขึ้นเป็นระยะ 6″

  ชายหนุ่มทั้งสองคนกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดไปเรื่อยๆแต่ซูเฟิงค้างอยู่ที่ระยะ 6 เป็นเวลานานเกินไป แม้ว่าตอนนี้ซูเฟิงจะขึ้นไปที่ระยะ 7 แล้วก็ตามที แต่ถ้ามองที่ความเร็วในการยกระดับของชูฮันที่ขึ้นมาถึงระยะ 6 ได้แล้วมันทำให้ซูเฟิงประหลาดใจอย่างมาก เพราะวันที่ชื่อของชูฮันแสดงเด่นหราว่าเป็นอันดับที่หนึ่งของระยะ 5 ไปทั่วทั้งโลกมันพึ่งผ่านไปได้ไม่กี่วันเท่านั้นเอง

  มันคือความลับที่ไม่มีใครรู้และชูฮันไม่คิดจะบอกใคร…เพราะระบบล่มสลายช่วยเขาประหยัดเวลาไปได้อย่างมากการยกระดับเร็วราวกับจรวดจนน่าเหลือเชื่อ!

  ชูฮันยิ้มเยาะเผยให้เห็นฟันขาวจ้าเรียงตัวสวยงาม ก่อนจะถามคำถามสำคัญออกมา  หลังจากระยะ 5 นายติดอยู่ที่ระยะ 6 นานพอสมควร นายสัมผัสได้บ้างรึเปล่าว่าพลังงานในตัวมีอะไรผิดปกติไป? 

  ซูเฟิงที่ได้ยินคำถามก็หยุดชะงักฝีเท้าทันทีเขาหันไปจ้องหน้าชูฮันด้วยสายตาตกใจ จากนั้นก็ปล่อยพลังงานทั้งหมดที่มาออกมาโดยไม่พูดอะไรเลย

   ฟู่วววววฟิ้ววววว ~ 

  ทันใดนั้นก็เริ่มมีคลื่นพลังงานสีทองอ่อนๆก่อตัวขึ้นเป็นวงล้อมซูเฟิงเอาไว้โดยมีระยะรัศมีสองเมตรมันเป็นคลื่นพลังงานที่หมุนก่อตัวเป็นคลื่นลมไล่จากล่างขึ้นบนช้าๆ

  ใบไม้แห้งกรอบตามพื้นบนปลิวไสวไปมาในอากาศราวกับกำลังเริงระบำทั้งตัวของซูเฟิงมีพายุหมุนขนาดย่อมหมุนวนรอบตัว ชูฮันสัมผัสเองก็สัมผัสได้ถึงพลังงานหนักหน่วงที่ไหลเวียนไปมารอบๆ เสียงแรงลมที่ตีกันจนเกิดเสียงร้องดังนั่นไม่ต่างอะไรกับพายุเฮอริเคนเลย

  แน่นอนว่าชูฮันไม่ได้ขยับตัวเขาเพียงพับแขนเสื้อขึ้นเนื่องจากมันสะบัดไปมาตามแรงลมไม่หยุดหากสีหน้าของชูฮันนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย แววตามองไปที่สนามพลังงานสีทองอ่อนๆอย่างล้ำลึกและมั่นใจอย่างมากว่าสนามพลังงานของซูเฟิงเกิดขึ้นได้นั่นเพราะรับผลกระทบมาจากปืนไรเฟิลด้ามยาวสีทองคู่กายของซูเฟิง

  อย่างไรก็ตามการควบคุมพลังของซูเฟิงในตอนนี้ยังอ่อนแอเกินไปหากนำมาเทียบกับชูฮัน แต่ถ้าเทียบกับมนุษย์สายพันธุ์ใหม่คนอื่นๆในระยะ 5 หรือสูงกว่า เรียกว่าซูเฟิงอ่อนแอไม่ได้เลยแต่เขาคือยอดฝีมือที่ทรงพลังอย่างมากต่างหาก!

  ซูเฟิงที่มักจะสนใจมุมมองอื่นเสมอจึงมองไม่เห็นถึงพลังในมือที่ตัวเองมีและไม่สามารถเข้าถึงการควบคุมพลังได้ ดังนั้นสนามพลังงานที่เกิดขึ้นในตอนนี้จึงยังเป็นแค่สนามพลังงานครึ่งๆกลางๆเท่านั้น ยังไม่ใช่การควบคุมและปล่อยที่แท้จริงออกมาเต็มที่

  ถ้าไม่อย่างนั้น…

  เกรงว่าแม้แต่ชูฮันก็ไม่อาจจะเอาชนะซูเฟิงที่มีสนามพลังงานของวิวัฒนาการระยะ7 ได้!

   พรึบ~ 

  ซูเฟิงสลายสนามพลังงานออกไปหลังจากผ่านไปสักพักเขารีบหันมามองชูฮันด้วยแววตาไม่เข้าใจและสับสน  ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เมื่อไหร่ที่ฉันเรียกสิ่งนี้ออกมา ฉันรู้สึกได้ว่าพลังในตัวของฉันเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง และบริเวณรอบๆก็มีแสงสีทองอ่อนๆทุกอย่างในวงล้อมสีทองหยุดนิ่งและเชื่องช้าไปหมดสำหรับฉันแม้แต่มดตัวเล็กๆก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาฉันไปได้ แต่ฉันเป็นคนเดียวที่มีสิ่งนี้ แม้แต่หลี่บี๋เฟิงที่เป็นวิวัฒนาการระยะ 6 จุดสูงสุดก็ไม่มี 

  ในใจชูฮันนั้นอยากจะตะโกนคำว่า’ไร้สาระ’ ใส่ซูเฟิงใจจะขาด เพราะแม้หลี่บี๋เฟิงจะเป็นวิวัฒนาการระยะ 6 จุดสูงสุดที่ใกล้จะยกระดับขึ้นมาระยะ 7 รวมถึงหยางเทียนและฟานเจี้ยนที่มีพลังอำนาจอันดับต้นๆของเขี้ยวหมาป่า แต่ไม่ว่าทั้งสามคนจะอยู่ในระยะสูงแค่ไหนมันก็ไม่สำคัญ…

  เพราะกุญแจสำคัญในการสร้างสนามพลังงานไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่มีหรือระยะของมนุษย์สายพันธุ์ใหม่อะไรทั้งนั้นแต่มันคืออาวุธต่างหาก…ทว่าชูฮันยังไม่อยากจะเปิดเผยพลังที่แท้จริงให้ทุกคนได้รู้ในตอนนี้

  ชูฮันจึงเพียงเหล่ตามองซูเฟิงพร้อมส่งยิ้ม ต่อจากนี้ นายควรจะสนใจพลังงานที่ไหลเวียนอยู่ในตัวมากกว่านี้ แล้วนายจะแปลกใจอย่างมากกับผลประโยชน์ที่นายจะได้รับจากมันในอนาคต 

  ซูเฟิงหลุบตาขบคิดตามคำพูดของชูฮันอยู่ในหัว  ชูฮัน นายรู้ความลับมากมาย สิ่งที่ฉันพึ่งแสดงให้นายดูเมื่อครู่คือไพ่ลับของฉันแต่ดูเหมือนว่า…มันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่นายได้เห็นสิ่งนี้? 

  ชูฮันสบตากับซูเฟิงเผยรอยยิ้มลึกลับที่มีเลศนัย  มันเรียกว่าสนามพลังงาน นายควรจดจำวิธีการควบคุมและใช้งานมัน แล้วเมื่อนายสามารถควบคุมพลังทั้งหมดจริงๆได้ด้วยตัวเองเมื่อนั้นนายจะรู้ถึงพลังของมันได้เอง 

   ถ้าปล่อยออกมาได้ทั้งหมดจริงๆมันจะรุนแรงมากถึงขนาดไหนกัน?  ซูเฟิงไม่คิดเลยว่าสิ่งที่เขาภูมิใจ ที่คิดว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวที่มีในครอบครอง จะกลายเป็นแค่พลังงานครึ่งๆกลางๆที่ยังไม่มีประโยชน์มากพอในสายตาชูฮัน

   งั้นนายก็ดูเอาเองละกัน ชูฮันไม่คิดเก็บซ่อนความสามารถตัวเองต่อหน้าซูเฟิง ทันทีที่พูดจบเขาก็ระเบิดสนามพลังงานออกมาทันที

   ฟรึบ~ 

  แรงลมขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นจากใต้เท้าชูฮันและเกิดเป็นลมหมุนแรงสูงไม่เหมือนกับที่ซูเฟิงแสดงให้เห็นก่อนหน้านี้ ชูฮันนั้นสามารถควบคุมสั่งการพลังงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาสามารถเรียกมันออกมาได้ทันที แสดงให้เห็นถึงทักษะในการควบคุม!

   ตึง! 

  เกิดเสียงคำรามดังขึ้นพร้อมกับลูกบอลสีดำขนาดใหญ่จู่ๆก็ปรากฏขึ้นและแทบจะทันทีทันใดซูเฟิงซึ่งอยู่ใกล้ตัวชูฮันก็ถูกสนามพลังงานครอบเอาไว้อย่างรวดเร็วขนาดที่วิวัฒนาการระยะ 7 อย่างซูเฟิงตอบสนองไม่ทัน

  สนามพลังงานออกมาแล้ว!

  มันรวดเร็วและครอบคลุมกว้างกว่าของซูเฟิงถึงห้าเท่าและสามารถกดทับพลังในตัวซูเฟิงเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งๆที่มันเป็นเพียงแค่พลังงานเพียงครึ่งเดียวที่ชูฮันปล่อยออกมาเท่านั้นเอง!

  ในขณะเดียวกันหลังจากที่ชูฮันปล่อยลูกบอลสีดำยักษ์ออกมา สนามพลังงานของชูฮันก็เต็มไปหมดหมอกสีดำ บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความกดขี่และอำนาจที่กดทับทุกอย่างเอาไว้ทำให้ฝูงนกทั้งหลายที่เกาะอยู่ตามต้นไม้ในป่าตกใจหวาดกลัวส่งเสียงร้องดังลั่น พวกมันรีบกระพือปีกบินหนีออกไปจากบริเวณแห่งนี้ทันที

  ตัวสนามพลังงานสีดำยังคงหมุนวนต่อไปเรื่อยๆเกิดแรงบีบอัดอากาศจนกลายเป็นสุญญากาศ ลมหมุนสีดำหมุนวนรอบๆสนามพลังงานด้านนอก ทำให้ภายนอกไม่สามารถมองเข้ามาเห็นทุกอย่างภายในสนามพลังงานได้

  แม้พลังงานมหาศาลจะทำให้ทุกอย่างโดยรอบเกิดการเปลี่ยนแม้สภาพแวดล้อมด้านนอกจะเงียบสงบนิ่งจนได้ยินแม้แต่เสียงหัวใจเต้น แต่ราวกับมันเกิดการตัดขาดทั้งเวลาและสถานที่อย่างสิ้นเชิง ราวกับว่าภายในสนามพลังงานอยู่คนละมิติกับภายนอก เพราะคนภายในสนามพลังงานจะไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสรู้สึกอะไรกับภายนอกได้เลย…

  ��

 

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Status: Ongoing

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง

สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น

วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว

ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ

และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้

และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย

นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท