คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 354 รักษาอาการไม่ตั้งครรภ์ไม่ให้กำเนิดโดยเฉพาะ

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 354 รักษาอาการไม่ตั้งครรภ์ไม่ให้กำเนิดโดยเฉพาะ

ระหว่างที่ศิษย์อาจารย์กำลังพูดคุย นักพรตน้อยผู้หนึ่งมาหยุดยืนอยู่หน้าประตู เอ่ยรายงานอย่างนอบน้อมว่าด้านนอกมีผู้มีจิตศรัทธาต้องการรักษา บอกว่าต้องการให้อาจารย์ลุงปู้ฉิวช่วยตรวจให้

ฉินหลิวซี “ข้ามิได้มาปฏิบัติงาน เพิ่งขึ้นเขาก็มีคนมาขอรับการรักษาแล้ว” ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

นักพรตชื่อหยวนตวัดไม้แส้หางม้าออกไป “พูดมาก รีบไปดู” หันไปเอ่ยกับศิษย์หลานทั้งสอง “พวกเจ้าก็ติดตามไป แม้จะบอกว่าพวกเจ้าอายุยังน้อย แต่การเล่าเรียน ต้องได้ฟังได้ไตร่ตรอง จึงจะเกิดปัญญาความรู้ได้”

“ขอรับ/เจ้าค่ะ”

ฉินหลิวซีพาศิษย์ทั้งสองไปยังวิหารด้านหลัง ที่นั่นมีโต๊ะที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ สามารถใช้รักษาและทำนายดวงชะตาได้

เมื่อเข้ามาในวิหาร ฉินหลิวซีก็มองเห็นคนคุ้นเคยคนหนึ่ง คือเฉียนหยวนไว่นั่นเอง ด้านข้างเขามีชายหญิงดูสูงศักดิ์คู่หนึ่ง

นักพรตน้อยเอ่ยเตือนสติหนึ่งประโยค เฉียนหยวนไว่จึงรีบหันมา รีบเดินเข้ามา ยกมือประสานแสดงความเคารพ “อาจารย์ปู้ฉิว”

“เฉียนหยวนไว่ดูเหมือนจะแปะไขมันเอาไว้เยอะสักหน่อย ยิ่งดูร่ำรวยแล้ว” ฉินหลิวซีมองสำรวจเขาด้วยรอยยิ้ม

เฉียนหยวนไว่ลูบท้องที่อ้วนขึ้น หัวเราะเบิกบาน เอ่ย “ไม่ปิดบังท่าน ภรรยาตั้งครรภ์ดีขึ้นทุกวัน ข้าเชิญท่านหมอเหมาของหอฉังเซิงมาตรวจชีพจรเรื่อยๆ เว้นไม่กี่วัน บอกว่าลูกในครรภ์นั้นเติบโตเป็นอย่างดี มารดาเองก็สุขภาพร่างกายแข็งแรง คนเมื่อไม่มีเรื่องในใจ ยามปล่อยวาง ก็อ้วนขึ้นแล้ว”

ฉินหลิวซีเอ่ย “ปล่อยวางร่างกายอวบอ้วนเป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องระวังอาหารการกิน จะกินดื่มมากเกินไปไม่ได้ เดินเล่นหลังมื้ออาหารช่วยย่อยทำให้สุขภาพดี ออกกำลังกายอู่ฉินซี่ทุกวันจะทำให้ร่างกายแข็งแรง เช่นนี้แล้ว อายุก็ยืนยาวแล้ว จึงจะได้มีลูกหลานไปอีกหลายรุ่นใช่หรือไม่”

เฉียนหยวนไว่ได้ยิน รีบยกมือประสาน เอ่ย “ข้าเชื่อท่านอาจารย์ เอาเช่นนี้หรือไม่ เดี๋ยวอีกหน่อยท่านช่วยตรวจชีพจรให้ข้าด้วย ออกใบสั่งยาบำรุงอยู่เย็นเป็นสุขได้หรือไม่”

เอาค่าน้ำมันตะเกียงมามอบให้นี่นา นี่ก็ต้องเก็บ

ฉินหลิวซีพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ได้”

คู่ชายหญิงก้าวขึ้นมา ชายคนนั้นสะกิดข้อศอกเฉียนหยวนไว่ “เหล่าเฉียน”

“อ้อ ดูข้าสิ ท่านอาจารย์ ผู้นี้คือชิวหยวนไว่ เป็นรองหัวหน้าสมาคมการค้าหนิงโจวของเราเช่นกัน” เฉียนหยวนไว่รีบแนะนำ เอ่ย “ชิวหยวนไว่ได้ยินว่าวิชาการแพทย์ของท่านโดดเด่น จึงได้มาขอรับการรักษา”

ชิวหยวนไว่เบียดเฉียนหยวนไว่ออกไป คารวะฉินหลิวซีก่อน จากนั้นสองมือจับมือฉินหลิวซีเอาไว้ เอ่ยอย่างจริงใจ “ท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์ปู้ฉิว ท่านต้องช่วยพวกเราสองสามีภรรยานะขอรับ ขอเพียงท่านช่วยให้พวกเราสมปรารถนา ข้าเหล่าชิว จะยอมปูทางลาดถวายร่างทองแก่อารามของท่านอย่างแน่นอนขอรับ”

เปลือกตาของฉินหลิวซีสั่นไหว แกะมือของเขาออกเงียบๆ มองเขา จากนั้นมองไปยังผู้เป็นภรรยาในเสื้อคลุมตัวหนาและหนักที่สีหน้าซีดเหลืองโรยแรงอย่างเห็นได้ชัด เอ่ยว่า “ชิวหยวนไว่ มาขอบุตรหรือ”

ช่วงนี้ดูจะมีคนมีโรคไม่ท้องไม่คลอดอยู่มากสักหน่อย

ลมหายใจของผู้เป็นภรรยาสะดุดเล็กน้อย ในที่สุดก็มองฉินหลิวซีอย่างเต็มตา สายตามีความคาดหวังอยู่รางเลือน

“ใช่แล้วขอรับ ใช่แล้ว” เดิมชิวหยวนไว่เห็นฉินหลิวซีอายุน้อยก็ตกใจอยู่มาก แต่เมื่อนึกถึงการเทิดทูนของเหล่าเฉียน เขาเองก็เห็นสถานการณ์ของฮูหยินเฉียนในตอนนี้ด้วยตาของตัวเองแล้ว จึงได้กอดเอาความคาดหวังมาขอร้อง

แต่ไม่คิดว่าฉินหลิวซีจะมองเห็นถึงความปรารถนาของพวกเขาในปราดเดียว คงไม่เก่งกาจเพียงนี้กระมัง

“นั่งก่อน”

ฉินหลิวซีเชิญทั้งสองนั่งลง และเฉียนหยวนไว่เองก็รู้หน้าที่ บอกว่าจะไปจุดธูปให้ท่านปรมาจารย์ขอยันต์อยู่เย็นเป็นสุขที่วิหารใหญ่อย่างนี้อย่างนั้น

ชิวหยวนไว่รู้สึกขอบคุณกับสิ่งนี้มาก สนิทก็ส่วนสนิท แต่อย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนตัวของสามีภรรยา เฉียนหยวนไว่ปลีกตัวออกไป นั่นเป็นการเลี่ยงความกระอักกระอ่วนแล้ว

“ไม่ปิดบังท่านอาจารย์ เราสามีภรรยาแต่งงานกันมาเกือบยี่สิบปีแล้ว หลายปีมานี้เพราะไม่มีบุตร ไปหาหมอขอพรทั่วทุกสารทิศยังไม่เป็นผล กระทั่งรับเลี้ยงเด็กคนหนึ่งมาจากมูลนิธิแล้วตั้งนามให้ว่าไคจือ ก็ยังไร้ความหวัง ยามนี้ภรรยาอายุสี่สิบเอ็ดแล้ว หากยังไม่ตั้งท้อง หลังจากนี้เกรงว่าคงยากแล้ว” ชิวหยวนไว่มองไปยังภรรยาด้านข้าง ใบหน้ามีความกังวลเป็นทุกข์ และอีกฝ่ายเองก็มีความเศร้าปรากฏ

ฉินหลิวซียิ้มบาง “แม้แต่งงานมากว่ายี่สิบปีแล้วไม่มีบุตร แต่ชิวหยวนไว่ก็ไม่รับอนุภรรยาหรือ”

ชิวหยวนไว่ส่ายศีรษะ “พวกเราสามีภรรยาร่วมทุกข์เผชิญความลำบากมาด้วยกัน อาศัยมือของนางเย็บปักสร้างครอบครัวขึ้นมา จะรับอนุภรรยาเพราะไม่มีบุตรได้อย่างไร”

ฮูหยินชิวเอ่ย “หากครั้งนี้ยังไม่สำเร็จ ข้าจะรับสตรีจากครอบครัวดีๆ ให้ท่านสักคน เมื่อให้กำเนิดเด็กแล้ว ข้าเลี้ยงด้วยตนเองก็ได้”

แม้จะเอ่ยเช่นนั้น แต่ในน้ำเสียงอย่างไรก็มีความเจ็บปวดอยู่หลายส่วน

ชิวหยวนไว่ลูบหลังมือนาง เอ่ย “เราดูว่าท่านอาจารย์จะว่าอย่างไร เหล่าเฉียนบอกว่าท่านอาจารย์รักษาคนไม่มีบุตรได้เชี่ยวชาญเช่นกันมิใช่หรือ”

ขมับฉินหลิวซีกระตุก ปล่อยข่าวลือไปเรื่อยนี่นา

นางลูบจมูก กระแอมไอ เอ่ย “หลายปีไม่มีบุตร ใช่ว่าจะเป็นเพราะฝ่ายหญิงเสมอไป ต้องดูบุรุษด้วย”

ชิวหยวนไว่ตกใจ “?”

“ข้าไม่ได้ว่าท่าน อย่างไรก็มาแล้ว มาตรวจด้วยกันเถิด ฮูหยินท่านก่อนหรือไม่” ฉินหลิวซีหันไปมองฮูหยินชิว

เถิงเจาเช็ดโต๊ะแล้วจากนั้นนำหมอนยา[1]ที่ใช้สำหรับการตรวจมาวางให้เรียบร้อย

ฮูหยินชิวมองเขาเล็กน้อย เห็นเขาผิวขาวเนียบละเอียด ใบหน้าเล็กนิ่งขรึม รู้สึกพึงพอใจขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ นึกขึ้นได้ยกมือขึ้นมาลูบหน้าท้อง

นางวางแขนลงบนหมอนยา สองนิ้วของฉินหลิวซีวางลง จับชีพจรโดยละเอียด เอ่ย “ชีพจรจมลึกถี่ทว่าคลุมเครือ เลือดลมเหือดแห้ง ระดูของท่านมาไม่ตรงใช่หรือไม่”

ฮูหยินชิวใบหน้าแดงระเรื่อ มองไปรอบๆ ไม่มีคนอื่น ทว่าข้างกายฉินหลิวซีมีเด็กน้อยในชุดนักพรตสองคน จึงพยักหน้า เอ่ย “เป็นเช่นนั้นไม่ผิด ไม่เพียงวันไม่ตรง บางครั้งเดือนละครั้งยังไม่มี บางครั้งหนึ่งเดือนเป็นมาสองครั้ง มากะปริดกะปรอยไม่หยุด”

“สีเลือดเป็นอย่างไร”

ใบหน้าของฮูหยินชิวยิ่งร้อนขึ้น เอ่ย “สีดำเข้ม บางครั้งมีจุดเลือด บำรุงร่างกายแล้วดีขึ้นมาบ้าง แต่ก็เพียงเท่านั้น”

ฉินหลิวซีให้นางยื่นแขนอีกข้างออกมา จับชีพจร เอ่ย “เมื่อวัยเยาว์ฮูหยินได้รับไข้หวัดซังหัน[2]หรือ”

“นี่เกี่ยวกับไม่ตั้งครรภ์อย่างไรหรือ” ชัวหยวนไว่เอ่ยถามขึ้นมาทันใด

“ข้าดูแล้วพวกท่านก็ไม่ใช่คนที่จะขาดเงิน ในเมื่อหลายปีมานี้หาหมอขอยามาตลอด หมอหนึ่งคนตรวจไม่ถูก สองคนสามคน ก็คงจะดูออกแล้วกระมัง ยาปรับระดูก็น่าจะมี แม้อาจไม่ได้ถูกกับโรคโดยตรง ก็คงไม่เป็นอย่างตอนนี้ ชี่ไหลเวียนไม่คล่องทำให้เลือดไหลเวียนติดขัด อุณหภูมิไม่ปรับให้สมดุล ฮูหยินก็บอกแล้วว่าเมื่อปรับแล้วจะดีขึ้นมาสักหน่อย ไยจึงไม่ทำต่อไป เพราะไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงได้ จึงไม่อาจรักษาให้ถูกต้องได้จนไม่หายขาด ดังนั้นจึงกลับมาเป็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่อาจรักษาได้” ฉินหลิวซีจับชีพจรของนาง อธิบายต่อ “ยกตัวอย่าง เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ขึ้นมา ต้องมีสาเหตุ หากไม่อาจหาต้นเหตุมารักษา ใช้ยาไม่หยุด ก็ยังจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต้นเหตุไม่ขาด เกิดขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ ความหมายเช่นนั้น”

สองสามีภรรยาตกใจ ฮูหยินชิวครุ่นคิด เอ่ย “ข้าเกิดมายากจน อยู่กับความยากลำบากมาตั้งแต่เด็ก ทำงานหนักทุกวัน บาดแผลใหญ่ไม่มี แต่เป็นไข้อยู่ไม่น้อย จำได้ว่ามีปีหนึ่งที่เกิดพายุหิมะ มีคนตายจำนวนมาก ข้าอยู่บนเขาอยากเก็บฟืนก่อไฟ แต่ถูกหิมะถล่มปิดทางขังไว้ในนั้น เกือบตายแล้ว เป็นพรานผู้หนึ่งช่วยข้าเอาไว้ แต่ก็กลายเป็นคนกระเพาะเย็นกลัวความหนาว โดยเฉพาะยามมีระดูจะปวดไม่เบา หลังๆ มาเริ่มดีขึ้นแล้ว กินของบำรุงมาก มีการปรับสมดุล ดีกว่าเมื่อก่อนแล้ว ปีนั้นข้าเพิ่งสิบเอ็ดขวบ”

“เช่นนั้นก็ใช่แล้ว อายุสิบเอ็ดยังเป็นเด็ก กระดูกยังไม่ทันเติบโตเต็มที่ ความเย็นเข้าสู่กระดูก เกิดผลร้าย เดิมสตรีก็น่าวิตกกังวล อีกทั้งฮูหยินยังคลอดก่อนกำหนดใช่หรือไม่” ฉินหลิวซีเก็บนิ้วมือกลับ เอ่ยเสริมอีกหนึ่งประโยค

[1]หมอนยา ด้านในบรรจุสมุนไพร

[2] ไข้หวัดซังหัน เป็นโรคระบาดเก่าแก่และเกิดได้บ่อยในยุคสมัยจีนโบราณ มีอาการเหมือนไข้หวัดและระบาดได้ง่าย ส่วนใหญ่มักเกิดในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Status: Ongoing
คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้านางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่งฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไปเบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิวผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงินปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิดเมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้าเขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า!“เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ”“ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ”“ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง”“ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย“ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป…”ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ“เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน”“….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท