ตอนที่ 368 ข่าวซุบซิบที่ปีศาจโสมน้อยนำมา
ปีศาจโสมน้อยอยู่ในบ้านหลังใหม่อย่างมีความสุข ยังถูกย้ายมาอยู่ที่ริมหน้าต่างอีกด้วย หันหน้าเข้าหาแสงจันทร์ สูดลมหายใจลึกอย่างอดไม่ได้ ใช่แล้วกลิ่นนี้
มีเพียงซือเหลิ่งเย่ว์มองดูหม้อดินเก่าๆ ทั้งมุมหนึ่งยังแตกไปแล้ว อดกลั้นเอาไว้ เอ่ยว่า “หม้อดินนี้ไม่เหมาะเล็กน้อยหรือไม่ ที่บ้านข้ายังมีอ่างที่ทำจากหยกอยู่ ให้ส่งมาให้มันหรือไม่ พลังวิญญาณน่าจะเพียงพอยิ่งกว่า”
อย่างไรก็เป็นโสมที่บำเพ็ญเพียรมากว่าพันปี ใช้หม้อดินเผาแตกมาทำบ้าน น่าเวทนาไปสักหน่อย ครั้งหน้าจะเอาหยกมาสักอัน
ปีศาจโสมน้อยได้ยิน รีบกระโดดมาอยู่ตรงหน้าซือเหลิ่งเย่ว์ ยังเป็นแม่นางตระกูลซือผู้นี้ที่งดงามและจิตใจดี
“เกรงใจอะไรเช่นนี้ ข้าขอบคุณเจ้าแล้ว รอข้าออกผลโสมมา ข้าจะให้เจ้าหนึ่งลูกอย่างแน่นอน”
ฉินหลิวซียิ้มเย็น “การวาดภาพจินตนาการอันเกินตัวของเจ้าควรเปลี่ยนแล้วหรือไม่ วาดออกมามากมาย แล้วยังไม่เห็นผลเลย เที่ยวสัญญาไปทั่ว มีแต่คำโอ้อวดของเจ้าลอยเต็มท้องฟ้าแล้ว”
ปีศาจโสมน้อย “…”
ฉินหลิวซีหันไปเอ่ยกับซือเหลิ่งเย่ว์ “ไม่ต้องสนใจเขา มีหม้อดินให้เขาได้อยู่ก็นับว่าเป็นโชคดีของเขาแล้ว ถ้าไม่เห็นค่าข้าก็จะโยนมันทิ้งไป”
นางทำท่าจะไปผลักหม้อดิน
ปีศาจโสมกรีดร้องเสียงดัง มือเท้าคลุกคลานอยู่กับพื้น รีบเอ่ย “ข้าไม่เห็นค่าตรงไหนเล่า ท่านทำให้ ต่อให้เป็นหลุมหินไม่งดงาม ข้าก็ชอบ”
มันกลัวว่าฉินหลิวซีจะทำลายบ้านใหม่จริงๆ รีบมุดเข้าไปอยู่ในดิน โผล่หน้าขึ้นมามองฉินหลิวซี เอ่ย “ท่านเหนื่อยทำมันออกมา จะสิ้นเปลืองไม่ได้”
ฉินหลิวซีส่งเสียงหยันในลำคอ หยุดการกระทำ
ปีศาจโสมน้อยท่าทางน่าสงสาร ดูเหมือนต้องรีบออกผลจึงจะทำให้นางพอใจได้
ฉินหลิวซีเห็นเขาหยุดแล้ว ครุ่นคิด เอ่ย “โสมน้อย เจ้าอยู่ในพื้นที่ล้ำค่านั้น และยังอยู่มากว่าพันปี คำสาปอย่างของตระกูลซือ เจ้าเคยได้ยินหรือไม่ แม่มดดำที่สาปตระกูลซือผู้นั้น เจ้ารู้จักหรือไม่”
ปีศาจโสมน้อยเอนตัวเท้ากับขอบหม้อดิน เอ่ย “เคยได้ยินมาบ้าง ได้ยินมาจากโจวเล่อ ราชาผีเป่ยฟังคนก่อนเล็กๆ น้อยๆ ข้าจำได้ว่า ร้อยปีก่อนมีแม่มดดำที่มีพรสวรรค์และแตกต่างจากคนอื่นนามว่ากงเซียนฮู่ ร้อยปียากที่จะมีขึ้นมาสักคน ภายใต้การนำของนาง อำนาจของฝั่งพ่อมดดำเซิ่งกงมีมากขึ้นเรื่อยๆ นับวันยิ่งมีผู้ศรัทธามากขึ้น กระทั่งแซงหน้าอำนาจของฝั่งพ่อมดขาวเซิ่งเวยด้วยซ้ำ”
ฉินหลิวซีและซือเหลิ่งเย่ว์มองสบตากัน
“โจวเล่อไม่ให้ข้าออกจากเขาเกิงต้ง บอกว่าข้างนอกมีปีศาจมากมาย โสมดีอย่างข้าเพียงออกไป คงถูกจับไปไม่เหลือแม้เพียงขน…” ปีศาจโสมน้อยเอ่ยถึงโจวเล่อ สีหน้าหงอยเหงาลง เอ่ยขึ้นมาแล้ว มันสามารถบำเพ็ญเพียรจนมีจิตวิญญาณขึ้นมาได้ก็เพราะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของโจวเล่อ แต่ตอนนี้โจวเล่อกลับไม่อยู่แล้ว
“ไม่ต้องโศกเศร้าเสียใจแล้ว เล่าต่อ” ฉินหลิวซีขัดจังหวะการรำลึกความหลังและถอนหายใจอย่างเสียดาย
ซี[1]ใจดำเลือดเย็นไร้หัวใจ
ปีศาจโสมน้อยบ่นพึมพำในใจ เอ่ยต่อ “ข้าไม่ได้ออกจากเขาเกิงต้ง ไม่รู้เรื่องภายในมากมายนัก แต่เขาเกิงต้งเองก็มีผีมากมาย และยังมีปีศาจน้อยที่เร่ร่อนไปทั่ว ได้ยินข่าวมาบ้าง พูดกันมากที่สุด ก็คือเทพธิดาพ่อมดดำที่ชื่อกงเซียนฮู่ผู้นั้น ว่าอย่างไรนะ สมองมีแต่ความรัก”
ฉินหลิวซี “…”
ปีศาจโสมน้อยเท้าคางตนเอง นึกย้อนกลับไป เอ่ย “ได้ยินว่ากงเซียนฮู่ผู้นั้นยอมผิดใจกับผู้อาวุโสของฝั่งพ่อมดดำหลายคนเพราะชายชู้ผู้นั้น ไม่ใช่สิ บุรุษคนนั้นของนาง ทำให้สำนักพ่อมดดำศักดิ์สิทธิ์นั่นกลายเป็นนางคนเดียวทีมีสิทธิ์ตัดสินใจ”
ฉินหลิวซีรู้สึกสนใจขึ้น “จากนั้นเล่า”
“จากนั้นหรือ” ปีศาจโสมน้อยครุ่นคิดชั่วครู่ “ตายแล้วกระมัง ก็ไม่ใช่ตายเพราะคนตระกูลซือของนางหรือ ใช่แล้ว ชายผู้นั้นคือบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ได้รับการสืบทอดของตระกูลซือ เลี้ยงดูอยู่ข้างนอกมาโดยตลอด จุ๊ๆ ข้าได้ยินปีศาจเหอโส่วอู[2]ตนหนึ่งบอกว่า บุตรศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นเป็นเหมือนสุนัข คิดไม่ถึงว่าจะเป็นชายชั่วเล่นกับใจผู้อื่น บุรุษหล่อเหลาเกินไปไว้ใจไม่ได้จริงๆ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นไส้งาดำ[3]ก็เป็นได้ กัดคำเดียวก็ตายได้”
ฉินหลิวซี “!”
นางมองไปยังซือเหลิ่งเย่ว์ อีกคนกุมขมับ ใบหน้ากระอักกระอ่วน
ฉินหลิวซีกระแอมไอ ถลึงตาให้กับปีศาจโสมน้อย “เจ้ามีปากก็เอ่ยไปเรื่อย”
ปีศาจโสมน้อยรู้ตัวขึ้นมาว่าคนที่มันต่อว่าคือบรรพบุรุษของคนงามซือ รีบเอ่ยเสริม “ข้าฟังคนอื่นมา แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เอ่ยอย่างนี้ อย่างเสี่ยวเย่ว์เย่ว์ เป็นคนงามจิตใจดีมีเมตตา”
ซือเหลิ่งเย่ว์ยิ้มบาง “ไม่เป็นไร”
“นอกจากข่าวซุบซิบเหล่านี้แล้วยังมีข่าวมีประโยชน์อื่นใดหรือไม่” ฉินหลิวซีเอ่ยถาม
ปีศาจโสมน้อยเอ่ย “ก็มีเพียงข่าวซุบซิบพวกนี้ ล้วนเป็นคนอื่นเล่าให้ข้าฟัง…”
“เจ้ามีประโยชน์อะไรกัน” ฉินหลิวซีจ้องมันเขม็ง
ปีศาจโสมน้อยหดศีรษะ ท่าทางน่าสงสาร ซือเหลิ่งเย่ว์รีบเอ่ย “อย่าขู่เขา เขาก็ไม่เคยออกจากเขาเกิงต้ง ไม่รู้ก็ไม่แปลก”
ยังเป็นซือคนสวยที่ใจดี
ปีศาจโสมน้อยส่งสายตาขอบคุณไปให้ ครุ่นคิดชั่วครู่ เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “แต่ข้าเคยได้ยินผีน้อยตนหนึ่งบอกว่าเคยเห็นกงเซียนฮู่ ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ”
“ลองว่ามาสิ”
ปีศาจโสมน้อยครุ่นคิด เอ่ย “ผีตนนั้นบอกว่า กงเซียนฮู่ผ่าท้องตนเอง ควักทารกแฝดออกมา จากนั้นเย็บปิดด้วยตนเอง ใช้เลือดทารกแฝดนั่นวาดยันต์ออกมา แต่ผีตนนั้นมักขี้โม้ สิบเรื่องเป็นเรื่องจริงเพียงไม่กี่เรื่อง พวกเราคิดว่าเขาเพียงโม้ ทุกคนฟังเอาไว้เพื่อความสนุกเท่านั้น”
ซือเหลิ่งเย่ว์ขมวดคิ้ว เอ่ย “บรรพบุรุษไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ บอกเพียงว่าเทพธิดาพ่อมดดำใช้วิญญาณเซ่นไหว้อยู่ที่สำนักพ่อมดดำศักดิ์สิทธิ์”
“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่สำนักพ่อมดดำศักดิ์สิทธิ์” ปีศาจโสมน้อยเอ่ย “ผีตนนั้นเห็นอยู่ที่ภูเขาดำต่างหาก”
ซือเหลิ่งเย่ว์ได้ยินเช่นนั้น คิ้วสวยพลันขมวดมุ่นหนักขึ้น นางรู้ว่าในตัวมีคำสาปเลือดนี้ ไม่เคยอยู่นิ่งเฉยรอวันตาย เคยพลิกเปิดหาประวัติศาสตร์ของบรรพบุรุษ ต่างก็เขียนเอาไว้ว่าเทพธิดาพ่อมดดำบูชาโดยใช้ดวงวิญญาณเซ่นไหว้อยู่ที่แท่นศักดิ์สิทธิ์ของสำนักพ่อมดดำศักดิ์สิทธิ์ เลือดไหลจนตาย เพื่อคำสาปเลือดร้อยปีนี้
“ผีตนนั้นมีนามว่าอย่างไร” ฉินหลิวซีเอ่ยถาม
ปีศาจโสมน้อย “ผู้ใดจะรู้ว่าเขามีนามว่าอย่างไร พวกเราต่างเรียกเขาว่าผีขี้โม้ ได้ยินว่าตอนมีชีวิตเขาขี้โม้มาก ขี้โม้เกินไปจนถูกตีตาย แต่ท่านถามไปก็ไร้ประโยชน์ เขาไปเกิดใหม่แล้ว”
ฉินหลิวซีเคาะโต๊ะเบาๆ เอ่ย “จากเจ้าดู เจ้าคิดว่าผีตนนี้เอ่ยจริงหรือเท็จ”
“ท่านทดสอบข้าแล้ว ข่าวซุบซิบพวกนี้เพียงฟังผ่านๆ ไปเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้าด้วยซ้ำ ข้าไหนเลยจะไปคิดวิเคราะห์ว่าจริงหรือเท็จ…เฮ้ย ท่านอย่ามาถลึงตาใส่ข้า ข้าไม่ได้เอ่ยความจริงหรืออย่างไร” ปีศาจโสมน้อยรีบยื่นรากออกมาอยากปิดปากของนาง เอ่ย “หากไม่ใช่เพราะซือหญิงงามมา ไหนเลยข้าจะนึกถึงเรื่องของตระกูลซือได้ ข้ามีชีวิตอยู่มานานเกินไป เคยได้ยินได้ฟังมาหลายอย่าง ไหนเลยจะคิดได้ทุกเรื่องเล่า”
“อยู่มานานคงไม่อยากอยู่ต่อแล้วกระมัง ข้าจะส่งเจ้าไป ดูสิว่าเจ้าจะเป็นอย่างไร” ฉินหลิวซียื่นมือไปคว้าใบของมัน
ปีศาจโสมน้อยส่งเสียง โอ๊ยๆ เบี่ยงตัวหลบ เอ่ยร้องขอชีวิต ยอมเสียรากอีกหนึ่งรากเพื่อหลบหนีจากกรงเล็บปีศาจร้าย
มันเขี่ยใบบนศีรษะที่ถูกเด็ดไปหลายใบ ฝังลงไปในดินอย่างน่าสงสาร ปิดตนเองไว้
ร้ายกาจเกินไปแล้ว
ฉินหลิวซีจึงหันไปหาซือเหลิ่งเย่ว์ที่กำลังขมวดคิ้ว เอ่ย “ข้าว่าข่าวนี้คงไม่ได้ปล่อยออกมาโดยไร้มูล ตระกูลซือของเจ้าอาจโดนโจมตีแล้ว ถึงตอนนั้นพวกเราค่อยสืบดูสักหน่อย”
[1] หมายถึงฉินหลิวซี
[2] เหอโส่วอู สมุนไพรจีนช่วยให้ผมดำสวย
[3] ไส้งาดำ เปรียบเปรยว่าซ่อนความชั่วร้ายเอาไว้ข้างใน