ตอนที่ 253 องค์หญิงติ้งเถาบอกความลับ
เซียวอี้หัวเราะเสียงเบา
“พี่หลิว วันนี้ท่านไม่สุขุมมากพอ! ก่อนพบหน้าเกิดเรื่องใดขึ้น หรือว่าท่านพบผู้ใดมา เหตุใดจึงมีอิทธิพลกับท่านนัก”
พระราชบุตรเขยหลิวเป่าผิงย่อมไม่ยอมตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อหน้าเซียวอี้
ยิ่งไม่อยากให้ผู้ใดรู้เรื่องที่เขาขอให้ใต้เท้าอู๋ทำนายลายมือ
เขาตั้งสติ “พี่เซียวอย่าได้พูดเฉไฉไปเรื่องอื่น ท่านบอกว่าเคลื่อนไหว จะเคลื่อนไหวอย่างไร เคลื่อนไหวเมื่อใด ท่านโหวผิงอู่ สืออุนสนับสนุนความคิดของท่านหรือ”
เซียวอี้เลิกคิ้วยิ้ม มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย สีหน้าแสดงออกถึงความเย้ยหยัน
“ข้าไม่ได้เข้าวังเป็นเวลานาน แต่ก็รู้ว่าพระวรกายของฝ่ายบาทไม่ดี ทรงมีความกดดันอย่างมาก! ตระกูลขุนนางบีบเค้นกันเกินไป ฝ่าบาททรงไม่สามารถแบกรับความกดดันได้ พี่หลิวในฐานะพระราชบุตรเขย ย่อมต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงวันปีใหม่ในวังหลวง ท่านได้เห็นสีหน้าของฝ่าบาทด้วยตนเอง ภายในใจของท่านรู้ดีกว่าข้า แต่ดูจากกิริยาท่าทางของพี่หลิว ราวกับท่านไม่คิดจะมีการเคลื่อนไหวในปีนี้ ท่านติดใจกับการเป็นพระราชบุตรเขย หรือติ้งเถาทำให้ท่านหลงใหลจนลืมการใหญ่ภายในใจของท่านไปเสียแล้ว”
พระราชบุตรเขยหลิวเป่าผิงหัวเราะเยาะ “ในใจของข้าไม่เคยมีการใหญ่! พี่เซียวอย่าได้พูดจาเหลวไหล ท่านอย่าลืมว่าท่านแซ่เซียว ข้าแซ่หลิว แผ่นดินนี้เป็นของตระกูลเซียว”
เซียวอี้หัวเราะ ไม่ปฏิเสธ
หลิวเป่าผิงพูดอีก “ตามที่ท่านพูด พระวรกายของฝ่าบาทไม่ทรงดีนัก ท่านจึงตัดสินใจเคลื่อนไหว ไม่กลัวสูญเสียชีวิตหรือ”
เซียวอี้ยิ้มอย่างมีนัย ดวงตาจ้องมองเขาอย่างตรงไปตรงมา “คำว่าสูญเสียชีวิตไม่ใช่นิสัยการพูดของพี่หลิว ให้ข้าลองเดาดู หรือว่าวันนี้มีคนพูดจาเช่นนี้กับท่าน เป็นที่ปรึกษาของท่านหรือผู้ใดกัน”
พระราชบุตรเขยหลิวเป่าผิงไม่แสดงสีหน้า “หากพี่เซียวตั้งใจมาทายใจข้า ข้าคิดว่าควรสิ้นสุดการสนทนานี้ลงแล้ว”
เซียวอี้ยกชาขึ้นดื่มจนหมด “พี่หลิวโปรดอภัย ปีนี้เพิ่งเริ่มต้น แต่สถานการณ์กลับตึงเครียดกว่าที่ผ่านมา ท่านลุงของข้า ท่านโหวผิงอู่ส่งจดหมายมา ท่านคิดว่าสามารถเคลื่อนไหวได้ ทางตะวันตกเฉียงเหนือแห้งแล้งอย่างหนัก ถึงแม้พี่หลิวไม่อยากเคลื่อนไหว แต่ข้าคิดว่าหลิวซื่อจื่อก็คงอดทนไม่ได้ สู้พระราชบุตรเขยหลิวส่งคนกลับไปถามหลิวซื่อจื่อที่เหลียงโจวเสียดีกว่า ชีวิตในเหลียงโจวยากลำบากยิ่งนัก! หากเคลื่อนไหวในเวลานี้ ย่อมจะมีชีวิตรอดได้”
พระราชบุตรเขยหลิวเป่าผิงสีหน้าเรียบเฉย เขาดื่มสุราอย่างเงียบๆ สักพักจึงเอ่ยปาก “ท่านจะเคลื่อนไหวอย่างไร”
เซียวอี้หัวเราะขึ้นมา “ไม่ใช่ข้าอยากเคลื่อนไหวอย่างไร แต่ต้องดูว่าสถานการณ์จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ฤดูใบไม้ผลิเริ่มต้นมาระยะหนึ่งแล้ว มีแต่ฝนโปรยปรายลงมา ไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาภัยแล้ง ตระกูลขุนนางย่อมต้องอาศัยจังหวะนี้ในการบีบเค้นราชสำนักและฝ่าบาทให้ยอมจำนน หากฝ่าบาททรงยืนกรานไม่ยอมจำนน หากเวลานี้กองทัพเหนือได้รับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ ท่านลองเดาดูว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปยังทิศทางใด”
หลิวเป่าผิงขมวดคิ้วมุ่น “หากกองทัพเหนือได้ชัยชนะครั้งใหญ่ในเวลานี้ ความมั่นใจของฝ่าบาทก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น พระองค์ย่อมจะสู้จนถึงที่สุดกับตระกูลขุนนาง ไม่มีทางประนีประนอม หากเป็นเช่นนี้ สถานการณ์จะยิ่งอันตรายมากขึ้น สงครามจะปะทุขึ้นมาทันที หากให้ข้าเดา หรือว่ากองทัพเหนือจะได้รับชัยชนะตั้งแต่เริ่มปีใหม่”
เซียวอี้ยิ้มอย่างมีลับลมคมใน “พี่หลิวไม่ต้องมาถามถึงสถานการณ์ของกองทัพเหนือกับข้า เรื่องที่ข้ารู้มีจำกัด พี่หลิวควรให้ความใส่ใจกับราชสำนักมากกว่านี้ ทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงก็ลงมืออย่างเด็ดเดี่ยว อย่าได้หลงระเริงในอ้อมกอดอ่อนโยนของสตรีจนลืมเรื่องสำคัญ”
หลิวเป่าผิงหัวเราะเสียงเย็น “พี่เซียวทำท่าทางลึกลับ สงสัยว่าท่านคงได้ข่าวสงครามของกองทัพเหนือแล้ว ส่วนข้าจะหลงระเริงในอ้อมกอดอ่อนโยนของสตรีหรือไม่ ท่านไม่ต้องกังวล เวลาที่ควรเคลื่อนไหว ข้าย่อมจะเคลื่อนไหว เมื่อถึงเวลานั้น หวังว่าท่านจะตามทัน อย่าทำให้การใหญ่ล่าช้า”
เซียวอี้เลิกคิ้วยิ้ม “ข้าตัวคนเดียว ไร้ความกังวล ข้าจะจับตาราชสำนักและวังหลวงอยู่เสมอ ไม่ถ่วงขาของท่านอย่างแน่นอน แต่ท่านมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเรื่องสำคัญจริงหรือ”
หลิวเป่าผิงหัวเราะออกมา “ติ้งเถายังไม่มีเสน่ห์ถึงขนาดจะทำให้เรื่องสำคัญของข้าล่าช้า”
“เช่นนี้ย่อมดี!”
เซียวอี้ยุ่งมาก เมื่อเจรจาเรื่องสำคัญเสร็จสิ้น เขาก็จากไปทันที
พระราชบุตรเขยหลิวดื่มสุราอยู่ในเรือนเล็กต่อ
ที่ปรึกษาเดินออกมาจากห้องพัก นั่งดื่มกับเขา
“นายน้อยอย่าได้ดื่มมาก”
คิ้วของพระราชบุตรเขยหลิวยังไม่คลี่คลาย เขามีเรื่องหนักใจเต็มท้อง “ท่านก็คิดว่าควรเคลื่อนไหวในปีนี้หรือ”
ที่ปรึกษาตกใจ “นายน้อยเซียวพูดถูกหรือ นายน้อยไม่คิดจะมีการเคลื่อนไหวในปีนี้ หรือนายน้อยเกิดความรักต่อองค์หญิงติ้งเถาขึ้นมาจริงๆ แล้ว”
พระราชบุตรเขยหลิวส่ายหน้า “ข้ากำลังคิดถึงคำทำนายของใต้เท้าอู๋”
ที่ปรึกษาโกรธอย่างมาก
ใต้เท้าอู๋ตัวดี!
นอกจากแย่งงานเขาแล้ว ยังมีอิทธิพลต่อนายน้อยเพียงนี้
ใต้เท้าอู๋ ข้าจะเป็นปรปักษ์กับเจ้า
ที่ปรึกษารู้สึกวิกฤตอย่างมาก “ใต้เท้าอู๋ก็บอกเองว่าเขาพูดเหลวไหล นายน้อยอย่าได้คิดมาก”
พระราชบุตรเขยหลิวพยักหน้า ถึงแม้จะรับปาก แต่ภายในใจก็ยังไม่ปล่อยวาง
ดื่มสุราบรรเทาความกลัดกลุ้ม หลังจากเริ่มกรึ่มแล้ว เขาก็เดินทางกลับจวนองค์หญิง
เมื่อองค์หญิงติ้งเถาเห็น นางย่อมไม่พอใจ
โชคดีที่บนตัวเขาไม่มีกลิ่นเครื่องแป้ง
นางอดไม่ได้ที่จะบ่น “เหตุใดท่านจึงออกไปดื่มข้างนอกอีกแล้ว ดื่มจนเมากลับมาทุกครั้ง หากท่านอยากดื่มสุรา เพียงแค่สั่ง จวนองค์หญิงมีสุราทุกชนิด อีกทั้งข้ายังดื่มกับท่านได้ ดีกว่าท่านดื่มคนเดียว ท่านพูดความจริงกับข้ามา ระยะนี้เสด็จพ่อทรงทำให้ท่านลำบากใจใช่หรือไม่ ให้ข้าเข้าวังอ้อนวอนแทนท่าน…”
“องค์หญิงมานี่!”
พระราชบุตรเขยหลิวพูดขัดองค์หญิงติ้งเถา กวักมือเรียกนางเข้ามา ดวงตาของเขาทั้งอ่อนโยนและน่าหลงใหล
เพียงแค่สายตาเดียว ความไม่พอใจเต็มท้องขององค์หญิงติ้งเถาก็หายไปจนไร้ร่องรอย
แก้มของนางแดงระเรื่อ ตัวอ่อนระทวยราวกับตอนแต่งงานใหม่
นางไม่สามารถต่อต้านดวงตาที่น่าหลงใหลของพระราชบุตรเขยหลิวได้ นางเดินเข้าไปอย่างเชื่อฟัง
พระราชบุตรเขยหลิวยื่นมือดึงนางเข้ามาในอ้อมกอดของตนเอง
“คิดถึงข้าหรือไม่” น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ มีเสน่ห์ชวนให้คนหลงใหล
องค์หญิงติ้งเถาราวกับสูญเสียความสามารถทางด้านภาษา รู้แต่เพียงพยักหน้า
พระราชบุตรเขยหลิวหัวเราะเสียงเบา เสียงหัวเราะของเขาไพเราะอย่างมาก
ใบหน้าขององค์หญิงติ้งเถาแดงก่ำเหมือนแอปเปิลที่สุกงอม
พระราชบุตรเขยหลิวขบหูของนาง “อย่าพูดจาไร้สาระ ท่านบอกข้า ท่านต้องการบุตรหรือไม่”
“ต้องการ!”
องค์หญิงติ้งเถาต้องการมีบุตรแม้ยามฝัน
ตอนแต่งงาน นางคิดว่าตนเองจะตั้งครรภ์อย่างรวดเร็ว
ผ่านไปเพียงชั่วพริบตา นางแต่งงานมาเป็นเวลาหนึ่งปีกว่าแล้ว แต่ท้องของนางก็ไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย
นางตื่นตระหนกอย่างมาก
แอบให้หมอหลวงมาตรวจ อีกทั้งยังแอบดื่มยา แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นผล
หมอหลวงบอกว่าร่างกายของนางไม่มีปัญหา อาจเป็นเพราะวิตกกังวลมากเกินไป ส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกาย
นางก็อยากผ่อนคลาย ปล่อยไปตามธรรมชาติ
แต่นางไม่สามารถผ่อนคลายได้
นางกลัวที่จะเห็นสีหน้าผิดหวังของพระราชบุตรเขยหลิวเป่าผิงอย่างมาก
นางกอดคอของเขาแน่น ถามอย่างระมัดระวัง “แต่งงานมานานเพียงนี้ ท้องของข้าไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย ท่านไม่โทษข้าหรือ”
“องค์หญิง ข้าจะโทษท่านได้อย่างไร ตั้งครรภ์มีบุตรเป็นเรื่องของคนสองคน”
“ขอบคุณ!” องค์หญิงติ้งเถารู้สึกซาบซึ้งและโชคดี
เวลานี้ นางคือสตรีที่มีความสุขที่สุดในโลก
การแต่งงานกับหลิวเป่าผิงเป็นเรื่องที่นางโชคดีที่สุดในชีวิตนี้
พระราชบุตรเขยหลิวเป่าผิงลูบหัวของนางอย่างแผ่วเบาเป็นการปลอบประโลม
เขาถามนางอย่างไร้สาเหตุ “ท่านเสียใจที่แต่งงานกับข้าหรือไม่”
แต่ทันทีที่ถามออกมา เขาก็เสียใจเอง
วันนี้ผิดปกติเกินไป ปฏิกิริยาผิดปกติเกินไป
องค์หญิงติ้งเถาไม่เห็นสีหน้าหงุดหงิดบนใบหน้าของเขา มีแต่ความดีใจและมั่นใจ
“ไม่เสียใจ! ข้าไม่เสียใจ”
นางตอบอย่างหนักแน่นและแทบจะทันควัน
มันเป็นความคิดในใจของนาง
หลิวเป่าผิงหัวเราะออกมา ท่าทางยิ่งอ่อนโยนมากขึ้น ทั้งดวงตาและน้ำเสียงล้วนเต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนหลงใหล
เขาเหมือนปีศาจจิ้งจอก เกิดมาเพื่อหลอกลวงหัวใจของหญิงสาว
มุมปากของเขาเปื้อนยิ้ม ไม่ตอบโต้
องค์หญิงติ้งเถาพิงอยู่ในอ้อมกอดของเขา พูดด้วยความซาบซึ้ง “การพบท่านเป็นเรื่องที่โชคดีที่สุดของข้า”
หลิวเป่าผิงพูดเสียงเบา “ข้าคิดว่ากำเนิดในราชวงศ์ เกิดมาก็เป็นองค์หญิงจึงจะเป็นเรื่องที่โชคดีที่สุดของท่านเสียอีก”
“ไม่! ฐานะองค์หญิง ไม่ใช่ความโชคดี แต่เป็นความหายนะมากกว่า”
อารมณ์ขององค์หญิงติ้งเถาไม่มั่นคง นางนึกถึงเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นมา
หลิวเป่าผิงปลอบนางอย่างอ่อนโยน “ไม่กลัว ไม่กลัว มีข้าอยู่ ไม่มีผู้ใดทำร้ายท่านได้”
“ท่านต้องปกป้องข้า บนโลกนี้ข้าเชื่อแค่ท่าน” องค์หญิงติ้งเถาหวาดกลัวเล็กน้อย ตัวของนางสั่นเทา
หลิวเป่าผิงใช้ความอดทนและความอ่อนโยนอย่างสูงสุดในชีวิตปลอบประโลมองค์หญิงติ้งเถา
เขาไม่ถามนางว่าเกิดเรื่องใดที่ทำให้นางหวาดกลัวเช่นนี้
มันทำให้องค์หญิงติ้งเถารู้สึกดีไม่น้อย
นางคิดภายในใจ พระราชบุตรเขยเป็นเนื้อคู่ของนางอย่างแท้จริง เป็นที่พึ่งในชีวิตนี้ของนาง
นางลังเล “ท่านไม่ถามข้าว่าเกิดเรื่องใดขึ้นหรือ”
หลิวเป่าผิงเผยรอยยิ้มอบอุ่น ดวงตาแสดงออกถึงกำลังใจและเชื่อใจ “เมื่อท่านอยากพูด ข้าจะเป็นผู้ฟังอยู่ข้างท่าน”
องค์หญิงติ้งเถากัดริมฝีปาก “ความจริงแล้ว บอกท่านก็ไม่เป็นอันใด”
“หากลำบากใจ หรือเกี่ยวข้องกับความลับ อย่าได้พูดออกมาเด็ดขาด”
หลิวเป่าผิงห้ามไม่ให้นางพูดความลับภายในใจออกมา
สิ่งใดคือการแสร้งปล่อยเพื่อจับ
มันก็คือสิ่งนี้!
เขาทำท่ากังวลอย่างมาก “หากพูดออกมาจะทำร้ายท่าน ข้ายินดีที่จะไม่รับรู้เรื่องใดทั้งสิ้นเหมือนคนโง่ อีกอย่างความลับของราชวงศ์ ความจริงแล้วข้าไม่สนใจเพียงนั้น”
องค์หญิงติ้งเถาทำหน้ามีความสุข ภายในใจถูกความสุขและความพึงพอใจเติมเต็ม
องค์หญิงติ้งเถาที่ลังเลอยู่ในเดิมทีแน่วแน่ขึ้นมาในเวลานี้
นางตัดสินใจบอกเขา
“ข้าแอบบอกท่านเรื่องหนึ่ง ข้าไม่เคยพูดกับผู้ใดมาก่อน พี่สามของข้าเคยมีคู่หมั้น นามว่าเถาชี นางเป็นคุณหนูของตระกูลเถา”
หลิวเป่าผิงกะพริบตา บีบแก้มของนาง ไม่ตอบโต้
องค์หญิงติ้งเถายิ่งแน่วแน่ นางต้องพูดออกมาให้ได้ “เถาชีตาย ทุกคนต่างคิดว่านางป่วยตาย แต่ข้ารู้ นางถูกคนฆ่าตาย นางถูกเสด็จแม่และเสด็จพี่สองฆ่าตาย
เพียงเพราะตระกูลเถาตกต่ำ เสด็จแม่จึงดูถูกตระกูลเถาและเถาชี แต่ก็ไม่ยอมถอนหมั้น เพราะเกรงว่าจะน่าเกลียดเกินไป ดังนั้นเถาชีจึงต้องตาย ตายอย่างไม่เป็นธรรม คนที่วางแผนทั้งหมดนี้ก็คือเสด็จพี่สอง
เขาเป็นคนชั่วร้ายที่จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต ท่านต้องอยู่ให้ห่างจากเสด็จพี่สองให้มาก นอกจากนี้อย่าเปิดเผยเรื่องนี้ต่อหน้าเสด็จพี่สอง เสด็จพี่สองเคยเตือนข้าว่าถ้าเขารู้ว่าข้าบอกท่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาจะไม่ปล่อยเราไปแน่นอน อย่ามองว่าเขาเป็นคนป่วย ความจริงแล้วเขามีแผนการและกลอุบายชั่วร้ายเต็มไปหมด ทุกสิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริง ท่านต้องเชื่อข้า!”