คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง – ตอนที่ 273 ปีศาจพันปี

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

ตอนที่ 273 ปีศาจพันปี

“นายน้อย เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เยียนอวิ๋นเกอมาขอรับ”

พ่อบ้านใหญ่หลิงกุ้ยวิ่งมาพบหลิงฉางจื้อที่ห้องตำราด้วยความตระหนก

เยียนอวิ๋นเกอเดินทางมาในเวลานี้ เป็นไปได้ว่านางมาเพื่อหาเยียนอวิ๋นฉวน

เพียงแต่นางรู้ได้อย่างไรว่าเยียนอวิ๋นฉวนหลบอยู่ในจวนตระกูลหลิง

นางได้ข่าวมาจากที่ใด

เยียนอวิ๋นฉวนคงไม่ได้เป็นฝ่ายบอกนางเองใช่หรือไม่

เมื่อหลิงฉางจื้อได้ยิน เขาก็ประหลาดใจเล็กน้อย

เขาถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไร้ซึ่งความตระหนก “เยียนอวิ๋นเกอได้บอกหรือไม่ว่าเหตุใดจึงมาเยือนอย่างกะทันหัน ไม่มีส่งข่าวมาแจ้งก่อนก็เดินทางมา ไม่ใช่เรื่องที่สตรีสมควรทำ”

พ่อบ้านใหญ่หลิงกุ้ยส่ายหน้า “นางบอกว่าต้องการพบนายน้อย ส่วนจุดประสงค์ที่มา ต้องรอพบนายน้อยก่อนจึงยอมบอก”

หลิงฉางจื้อหัวเราะ “ดูท่าทางนางมั่นใจแล้วว่าเยียนอวิ๋นฉวนอยู่ในจวน ในเมื่อนางต้องการพบข้า ข้าก็จะให้เกียรตินาง เชิญนางมายังห้องโถง ข้าจะตามไป”

“ข้าน้อยรับคำสั่ง!”

หลิงฉางจื้อไปพบเยียนอวิ๋นฉวน

เมื่อพบหน้าเขาก็พูดขึ้นทันที “เยียนอวิ๋นเกอมา!”

พู่!

เยียนอวิ๋นฉวนที่กำลังดื่มชาพ่นชาออกมาทั้งหมด

เขาทั้งประหลาดใจ ทั้งตกใจ อีกทั้งยังร้อนใจ “นางมาได้อย่างไร นางรู้ว่าข้าอยู่ที่นี่หรือ นางได้ข่าวจากที่ใด”

“มันเป็นคำถามที่ข้าต้องการถามพี่อวิ๋นฉวนเช่นเดียวกัน ในจดหมายของพี่อวิ๋นฉวนได้เปิดเผยร่องรอยของเจ้าหรือไม่”

หลิงฉางจื้อจ้องมองเขานิ่ง

เยียนอวิ๋นฉวนส่ายหน้าระรัว “ข้าจะเปิดเผยร่องรอยของข้าต่อนางได้อย่างไร ข้าซ่อนตัวยังไม่ทัน จะพูดแหล่งหลบซ่อนตัวเองได้อย่างไร ย่อมต้องมีส่วนอื่นทำให้ข่าวรั่วไหลออกไป หากเป็นเช่นนั้นองครักษ์จินอู่จะสืบว่าข้าหลบซ่อนอยู่ในจวนของพี่ฉางจื้อได้ด้วยหรือไม่”

เมื่อนึกถึงองครักษ์จินอู่ เยียนอวิ๋นฉวนยิ่งตระหนก

เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด หากตนเองตกอยู่ในเงื้อมมือขององครักษ์จินอู่จะเป็นอย่างไร

ถึงแม้ไม่ตาย แต่เกรงว่าหนังของเขาก็ต้องถลอก

เขามีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายมาแต่เด็ก เคยได้รับความลำบากทางร่างกายเพียงแค่ช่วงเวลาที่ฝึกฝนอยู่ในกองทัพเท่านั้น

มาเมืองหลวงเป็นเวลาสี่ห้าปี ร่างกายของเขาห่างไกลจากการเดินทัพ ลืมรสชาติของความลำบากไปเรียบร้อยแล้ว เคยชินกับชีวิตในเมืองหลวงที่สุขสบาย

หากตกอยู่ในมือขององครักษ์จินอู่จริง เขารู้สึกว่าตนเองต้องทนไม่ไหวอย่างแน่นอน

เกรงว่าเพียงแค่แส้โบยลงไป เขาจะยอมรับทุกอย่าง ไม่ว่าเรื่องใดก็ยอมสารภาพ

ดังนั้นเขาจะตกอยู่ในมือขององครักษ์จินอู่ไม่ได้เด็ดขาด

หลิงฉางจื้อปลอบเขา “พี่อวิ๋นฉวนไม่ต้องกังวลเกินไป ข้าจะไปพบเยียนอวิ๋นเกอ สืบเจตนาของนางก่อน เมื่อมีข่าว ข้าจะให้คนมาบอกเจ้า”

“ขอบพระคุณพี่ฉางจื้อ! บุญคุณของพี่ฉางจื้อ ข้าซาบซึ้งอย่างมาก”

“ไม่ต้องเกรงใจกับข้า”

หลิงฉางจื้อเดินทางมาช้า

เยียนอวิ๋นเกอนั่งดื่มชาไปครึ่งถ้วยแล้ว

“คุณหนูสี่! ข้ามีงานมาก ทำให้คุณหนูสี่รอนาน ขออภัย”

เยียนอวิ๋นเกอเลิกคิ้วยิ้ม “ใต้เท้าหลิงเกรงใจแล้ว! ท่านเป็นขุนนางราชสำนัก ยุ่งย่อมเป็นเรื่องธรรมดา ข้ารอได้ แต่เหตุใดข้าได้ยินว่าระยะนี้สำนักหยาเหมินเงียบเหงา ขุนนางจำนวนมากต่างไม่ไปทำงานที่สำนักหยาเหมิน ได้ยินว่าใต้เท้าหลิงก็ไม่ได้ไปทำงานที่สำนักหยาเหมินระยะหนึ่งแล้ว หรือว่าเวลานี้สำนักหยาเหมินเปลี่ยนกฎ อนุญาตให้ทำงานในจวนได้หรือ”

หลิงฉางจื้อหัวเราะร่า “คุณหนูสี่ช่างพูดเสียจริง! เจ้าเป็นคนฉลาด เหตุใดต้องพูดจนทำให้ข้าหมดทางไป มันไม่มีผลดีต่อเจ้า”

“ขอบพระคุณใต้เท้าหลิงที่ชี้แนะ เพียงแต่ใต้เท้าหลิงก็ไม่ควรปิดบังข้า ท่านไปพบเยียนอวิ๋นฉวนก็พูดมา ข้าเข้าใจได้ ไม่จำเป็นต้องหลอกข้าว่างานยุ่ง”

เยียนอวิ๋นเกอยิ้มอย่างรู้ทัน เพียงแค่เอ่ยปากก็โจมตีเข้าจุดอันตราย

หลิงฉางจื้อเลิกคิ้ว รอยยิ้มค่อยๆ หายไป “คุณหนูสี่มีตาพันลี้หรือหูตามลม แต่ข้ายังคงต้องเตือนเจ้า ข้าวกินไปเรื่อยได้ แต่คำพูดนั้นทำไม่ได้”

“ฮ่าๆๆ…”

เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะเสียงดัง “ใต้เท้าหลิงเข้าใจผิดแล้ว! ข้าทั้งไม่มีตาพันลี้ ทั้งไม่มีหูตามลม นอกจากนี้ข้าไม่เคยพูดมั่วซั่ว ทุกคำที่ข้าพูดออกมาล้วนมีหลักฐาน แต่ว่าท่านวางใจ วันนี้ข้ามาเยือนเพื่อเจรจาบางอย่าง ไม่ได้ตั้งใจมาหาเรื่อง ยิ่งไม่ต้องการจะเป็นปรปักษ์กับใต้เท้าหลิง

พวกเราพูดอย่างตรงไปตรงมาดีกว่า ใต้เท้าหลิงสามารถช่วยเหลือเยียนอวิ๋นฉวนในยามวิกฤตได้ ช่างมีคุณธรรมเสียจริง สมกับเป็นอาจารย์และสหายที่ดีของเยียนอวิ๋นฉวน ท่านคงสงสัยอย่างมาก ข้ารู้ร่องรอยของเยียนอวิ๋นฉวนจากที่ใด ไม่ปิดบังท่าน เยียนอวิ๋นฉวนเป็นคนบอกข้าเองว่าเขาหลบอยู่ในจวนตระกูลหลิง”

“เป็นไปไม่ได้!”

หลิงฉางจื้อปฏิเสธ “ที่นี่ไม่มีเยียนอวิ๋นฉวน คุณหนูสี่มาผิดที่แล้ว เจ้าเชิญกลับเถิด นอกจากนี้ หากวันใดท่านหาเยียนอวิ๋นฉวนพบแล้ว ทักทายเขาแทนข้าด้วย หวังว่าเขาจะปลอดภัยจากภัยครั้งนี้”

เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะ “ลืมบอกใต้เท้าหลิง เยียนอวิ๋นฉวนไม่ได้เปิดเผยร่องรอยของเขาผ่านเนื้อหาทางจดหมาย หากแต่ผ่านทางกระดาษจดหมาย”

หลิงฉางจื้อหรี่ตาลงเล็กน้อย รอคอยประโยคต่อไป

เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะเสียงเบา พลันพูดต่อ “รายละเอียดบางอย่าง เยียนอวิ๋นฉวนและใต้เท้าหลิงอาจไม่ได้สังเกต จดหมายที่เยียนอวิ๋นฉวนให้ข้านั้น กระดาษจดหมายที่ใช้เป็นกระดาษชั้นดีจากโรงกระดาษของตระกูลหลิง ในตลาดหาซื้อไม่ได้ ล้ำค่าอย่างมาก

แต่กระดาษจดหมายที่เยียนอวิ๋นฉวนใช้ประจำนั้น ถึงแม้จะเป็นกระดาษชั้นดี แต่ก็ไม่ล้ำค่าเท่ากระดาษชั้นดีที่ออกจากโรงกระดาษของตระกูลหลิง เมื่อจำกระดาษได้ ย่อมสามารถเดาได้ว่าเขาหลบอยู่ในจวนตระกูลหลิง นอกจากนี้มีเพียงหลบอยู่ในจวนตระกูลหลิงถึงจะมีโอกาสรอดชีวิตได้ อีกทั้งยังสามารถใช้กระดาษจดหมายจากโรงกระดาษของตระกูลหลิงเขียนจดหมายได้ ดังนั้นวันนี้ใต้เท้าหลิงจึงได้พบกับข้า”

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!

เขาบอกแล้วว่าเยียนอวิ๋นฉวนไม่มีทางเปิดเผยร่องรอยของตนเอง ย่อมต้องมีจุดใดผิดพลาดไปอย่างแน่นอน

เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเป็นเพราะกระดาษชั้นดีที่วางไว้ในเรือนแขกให้เยียนอวิ๋นฉวนใช้เป็นสิ่งที่เปิดโปงร่องรอยของเขา

หลิงฉางจื้อเปล่งเสียงหัวเราะ

หลังจากหัวเราะแล้ว เขาจึงพูดขึ้น “คุณหนูสี่ช่างรอบคอบเสียจริง สามารถคาดเดาแหล่งซ่อนตัวของพี่อวิ๋นฉวนได้จากกระดาษ ยอดเยี่ยม เจ้าทายไม่ผิด เยียนอวิ๋นฉวนอยู่ในจวนจริง แต่หากคุณหนูสี่ต้องการพบเขา ก่อนอื่นต้องแจ้งจุดประสงค์ก่อน จากนั้นข้าจะเป็นคนตัดสินใจว่าจะให้พวกเจ้าพบหน้ากันหรือไม่”

เยียนอวิ๋นเกอเม้มปากยิ้ม “ข้าบอกแล้ว ที่ข้ามาวันนี้ก็เพื่อพูดคุย”

“พูดเรื่องใด”

“จะอยู่หรือจะหนี”

“เจ้ายังอยากให้เขาอยู่? ไม่กลัวเขาตกอยู่ในมือขององครักษ์จินอู่?”

“ใต้เท้าหลิงไม่ได้ไปสำนักหยาเหมินนานเพียงใด ข่าวของท่านล่าช้าไปมาก”

หลิงฉางจื้อหรี่ตาลง “ขอให้เจ้าพูดตามตรง”

เยียนอวิ๋นเกอยิ้มอย่างมีนัย “เมื่อวานท่านแม่ข้าถูกฮ่องเต้ทรงเรียกเข้าเฝ้า ใต้เท้าหลิงรู้หรือไม่”

หลิงฉางจื้อพยักหน้า เรื่องนี้เขาย่อมรู้

เยียนอวิ๋นเกอถามต่อ “ท่านแม่ของข้าออกจากวังหลวงมาอย่างราบรื่น ฮ่องเต้ไม่ทรงกลั่นแกล้งนาง ใต้เท้าหลิงรู้สาเหตุหรือไม่ มีส่งคนไปสืบหรือไม่”

หลิงฉางจื้อครุ่นคิดเรื่องนี้

เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะออกมา “ใต้เท้าหลิงคิดว่าท่านแม่ข้าใช้เยียนอวิ๋นฉวนเป็นข้อแลกเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัย อีกทั้งยังสงสัยว่าการมาของข้าในวันนี้ เพื่อพาตัวของเยียนอวิ๋นฉวนไป ส่งมอบเขาให้องครักษ์จินอู่ใช่หรือไม่”

“อ่อ? วันนี้คุณหนูสี่เดินทางมา ไม่ใช่เพื่อนำตัวของเยียนอวิ๋นฉวนไป?”

“ข้านำเขาไปทำอันใด เขาเป็นเพียงภาระ”

“ฮ่าๆๆ…ฟังจากที่เจ้าพูด ท่านหญิงจู้หยางมีสัญญาบางอย่างกับฝ่าบาท วิกฤตของพี่อวิ๋นฉวนถูกขจัดแล้ว?”

เยียนอวิ๋นเกอไม่ปฏิเสธ เพียงแค่ถาม “เวลานี้ใต้เท้าหลิงยอมให้ข้าพบเยียนอวิ๋นฉวนหรือไม่”

หลิงฉางจื้อเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “ข้าสงสัยอย่างมาก ท่านหญิงจู้หยางสัญญาสิ่งใดกับฝ่าบาท หากคุณหนูสี่ยอมเปิดเผยเล็กน้อย ข้าจะซาบซึ้งอย่างมาก”

เยียนอวิ๋นเกอยิ้มอย่างรู้ทัน “คำขอบคุณด้วยวาจาไม่เพียงพอที่จะแสดงความจริงใจ นอกจากนี้ข้าก็ไม่ขาดแคลนความซาบซึ้งของใต้เท้าหลิง”

“ฮ่าๆๆ…เจ้าพูดถูก คำขอบคุณด้วยวาจาไม่เพียงพอ ไร้ซึ่งความจริงใจ ไม่รู้ว่าเจ้าต้องการสิ่งใด เพียงแค่ข้าให้ได้ ข้าย่อมไม่ตระหนี่”

เยียนอวิ๋นเกอพูดด้วยรอยยิ้ม “ใต้เท้าหลิงสามารถรอต่ออีกไม่กี่วัน เมื่อถึงเวลานั้น พระราชวังย่อมมีพระราชโองการออกมาประกาศต่อแผ่นดิน ท่านไม่จำเป็นต้องมาหาคำตอบจากข้า”

“ไม่! ข้าต้องการข่าวที่แน่นอนจากทางคุณหนูสี่เสียมากกว่า ไม่ใช่รอวันที่พระราชวังมีพระราชโองการออกมา”

หลิงฉางจื้อแน่วแน่อย่างมาก

สิ่งที่ต้องแลก ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือสิ่งอื่น เขาก็จ่ายไหว

เยียนอวิ๋นเกอเม้มปากยิ้ม “อย่างนี้ดีกว่า ใต้เท้าหลิงบอกข้าเรื่องหมั้นหมายของเยียนอวิ๋นฉวน ตระกูลหลิงของพวกท่านมีแผนการอย่างไร”

หลิงฉางจื้อแสร้งโง่อย่างตั้งใจ “เรื่องหมั้นหมายของพี่อวิ๋นฉวน เจ้าไม่ควรถามข้า เรื่องคู่หมั้นของเขา ตระกูลหลิงไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้ ถึงแม้เขากับข้าสนิทกันมาก แต่ข้าก็ไม่อาจล้ำเส้นแทรกแซงเรื่องการหมั้นหมายของเขา เจ้าควรเขียนจดหมายกลับไปถามท่านพ่อเจ้าที่แคว้นซ่างกู่ เขาถึงจะเป็นคนที่ตัดสินใจ!”

เยียนอวิ๋นเกอยิ้ม “ใต้เท้าหลิงไม่จริงใจแม้แต่น้อย! ตามที่ข้ารู้ เยียนอวิ๋นเพ่ยยังมีชีวิตอยู่ดี รักใคร่กับหลิงฉางเฟิงเหมือนเคย นอกจากนี้ยังให้กำเนิดบุตรสาว”

หลิงฉางจื้อทำหน้าจริงใจ “น้องสะใภ้ให้กำเนิดบุตรสาวจริง ส่วนพวกเขาสามีภรรยาจะรักใคร่เหมือนก่อนหรือไม่ ข้าไม่แน่ใจ”

เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะ “ใต้เท้าหลิงไม่จริงใจ! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สู้เชิญเยียนอวิ๋นฉวนออกมาเถิด ข้าจะถามคำถามเขาต่อหน้าท่าน”

“คุณหนูสี่ยังไม่ได้บอกข้า ท่านหญิงจู้หยางสัญญาสิ่งใดกับฝ่าบาท”

“ใต้เท้าหลิงไม่จริงใจ ข้าย่อมไม่มีเรื่องใดจะพูด”

ความหมายก็คือ ไม่มีการแลกเปลี่ยนที่เป็นธรรมก็ไม่มีข่าว

ต้องการข่าว ได้!

เรื่องหมั้นหมายของเยียนอวิ๋นฉวน ตระกูลหลิงวางแผนไว้อย่างไร พูดให้กระจ่าง

ล้วนเป็นปีศาจพันปี แสร้งทำไร้เดียงสา!

——————-

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

Status: Ongoing
ณหนูจวนอื่นชื่นชอบแพรพรรณงดงาม กวี ภาพเขียน บุรุษหล่อเหลา แต่คุณหนูสี่จวนโหวกลับคลั่งไคล้ในเงินทอง! การค้ารูปแบบใดที่แผ่นดินนี้ไม่เคยมีล้วนออกมาจากสมองของนางและทั้งหมดล้วนทำให้เงินทองไหลมาเทมา!นิยายโรแมนติกจีนโบราณ ที่นางเอกมากความสามารถและคลั่งไคล้เงินสุดๆ!คุณหนูสี่แห่งจวนโหว เยียนอวิ๋นเกอ เป็นใบ้เพราะอุบัติเหตุตอนยังเด็กทำให้อุปนิสัยดุร้าย อารมณ์ร้อน มุทะลุยิ่งนักใครๆ ล้วนมองว่านางเป็นหญิงเอาแต่ใจไม่เคยคำนึงถึงสิ่งใดแต่จิตวิญญาณด้านในของนางนั้นคือหญิงสาวผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวในวันสิ้นโลกอาจเพราะความยากลำบากในชาติก่อนสิ่งเดียวที่นางกลัวที่สุดก็คือกลัวอดตาย!ดังนั้นหากไม่อยากอดตายต้องทำอย่างไรก็ต้องมีเสบียง! และการจะมีเสบียงได้นั้นก็ต้องมีเงิน!เพื่อการนั้นนางจะทุ่มเทสมองในการบุกเบิกการค้า ปูรากฐานทุกอย่างเพื่อพี่น้องและมารดาด้วยมันสมองของคนยุคใหม่นางไม่เชื่อว่าจะทำไม่ได้ทหารต่อให้เก่งกาจเพียงใดหากไม่มีเสบียงแล้วไซร้ก็ยากจะรบต่อไปได้ถึงตอนนั้นในแผ่นดินที่ฮ่องเต้จ้องจะกวาดล้างอำนาจขุนนาง ครอบครัวนางย่อมหยัดยืนได้อย่างมั่นคง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท