คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง – ตอนที่ 283 สงบ

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

ตอนที่ 283 สงบ

ภายในห้องตำรา เสียงลูกคิดดีดดังเปาะแปะ

เสียงดังต่อเนื่องเป็นระลอกเหมือนบทเพลงที่แสนไพเราะ

เยียนอวิ๋นเกอหลับตาดื่มด่ำ นางชื่นชอบเสียงดีดลูกคิดอย่างมาก ไพเราะเสนาะหู

สิ่งสำคัญที่สุดคือเสียงนี้เป็นตัวแทนของเงิน

สาวรับใช้ทั้งหลายอย่างอาเป่ยล้วนได้รับการอบรมจากเยียนอวิ๋นเกอ พวกนางต่างคิดบัญชีเป็น เวลานี้กำลังดีดลูกคิดอย่างสนุกสนาน

โอย แต่ละคนล้วนถูกนางฝึกจนกลายเป็นเด็กรักเงิน

จี้ผิงโน้มตัวเล็กน้อย ยืนอยู่หน้าโต๊ะตำราอย่างเงียบๆ

ผ่านไปเป็นเวลานาน เยียนอวิ๋นเกอถึงได้ลืมตาขึ้นมองเขา

นางพลิกดูตำรา “ข้าพลิกดูรายชื่อ ภายในระยะเวลาครึ่งปี เรือนพักที่อยู่ในมือของเจ้าเปลี่ยนคนไปเกือบร้อยคน เรื่องนี้ข้าไม่เคยทักท้วง มันคือการสนับสนุนของข้าที่มีต่อเจ้า

ในเมื่อข้าคัดเลือกเจ้ามาทำงานในเรือนพักเอง อีกทั้งยังเป็นด้านบุคลากร ข้าย่อมเชื่อใจในการตัดสินใจของเจ้า แต่เวลานี้ข้าต้องการคำอธิบาย หากเจ้าสามารถโน้มน้าวข้าได้ ต่อจากนี้ข้าจะสนับสนุนเจ้าเหมือนเคย”

“ขอบพระคุณคุณหนู!”

จี้ผิงสูดลมหายใจเข้า “คุณหนูโปรดดูรายชื่อ ท่านคงจะดูออก คนที่ถูกเปลี่ยนส่วนใหญ่ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับพ่อบ้านในเรือนพัก ยังไม่ต้องกล่าวถึงความสามารถ แต่การมีอยู่ของคนเหล่านี้ทำให้เรือนพักเกิดการเกาะกลุ่มจำนวนมากลับหลัง”

“ที่ผ่านมา พ่อบ้านใหญ่เยียนสุยมักจะหลับตาข้างหนึ่งต่อเรื่องเหล่านี้ เขาคิดว่าเพียงแค่ไม่ขัดขวางการดำเนินการของเรือนพักก็ไม่มีปัญหา แต่ข้าน้อยไม่คิดเช่นนี้ การมีอยู่ของกลุ่มคนเล็กๆ เหล่านี้ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการของเรือนพักแล้ว

ทั่วไปแล้วการตัดสินใจหนึ่ง อาทิการปล่อยน้ำเพื่อการเกษตรในฤดูใบไม้ผลิที่ง่ายที่สุด ตั้งแต่พ่อบ้านจนบ่าวรับใช้ยังต้องมีปากเสียงกัน คนผู้นี้บอกว่าให้ดูแลแปลงนาทางตะวันออกก่อน คนผู้นั้นบอกว่าให้ดูแลแปลงนาทางตะวันตกก่อน

บางครั้งโต้เถียงกันไปมายังเกิดการลงไม้ลงมือขึ้นมาได้ ด้วยเหตุนี้ยังส่งผลกระทบต่อผู้ลี้ภัยและผู้เช่าแปลงนาเหล่านั้น ผู้เช่าแปลงนาของชุมชนตระกูลหลี่สนับสนุนพ่อบ้านหลี่ ผู้เช่าแปลงนาของชุมชนตระกูลหวังสนับสนุนพ่อบ้านหลิว…ทะเลาะกันจนบรรยากาศสังคมไม่ดี

อีกทั้งยังก่อให้เกิดการพนันใต้ดิน วางแผนลอบทำร้ายผู้อื่น ยังมีคนกระทำความผิดปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูง…ข้าน้อยบังอาจ ต้านทานเสียงตำหนิเปลี่ยนคนเหล่านี้ทิ้งก็เพื่อข่มกลุ่มคนขนาดเล็กเหล่านี้ที่กลายเป็นเจ้าถิ่นไปแล้ว”

เยียนอวิ๋นเกอขมวดคิ้วมุ่น “เจ้าพูดมาเป็นความจริงทั้งหมดหรือ”

“จริงแท้แน่นอน! เพื่อหาความผิดของพวกเขา ข้าน้อยตั้งใจสืบค้นหลักฐานที่สามารถสืบค้นได้ทั้งหมดเอาไว้”

“หลักฐานอยู่ที่ใด”

“ข้าน้อยขออนุญาตออกไปสักพัก”

เยียนอวิ๋นเกอพยักหน้า อนุญาตให้เขาออกไป

จี้ผิงออกไปสักพัก จากนั้นเขาก็ขนย้ายตำราเอกสารหนึ่งตะกร้าเข้ามาพร้อมกับหัวหน้าองครักษ์เยียนหนาน

เขาบอกเยียนอวิ๋นเกอ “เพื่อป้องกัน ข้าน้อยจึงได้รวบรวมหลักฐานที่สืบหาได้ทั้งหมดเป็นเล่ม วางไว้ในห้องของหัวหน้าองครักษ์เยียน เพราะว่าข้าน้อยรู้ว่าต้องมีคนแอบเข้าไปรื้อค้นในห้องของข้าน้อยอย่างแน่นอน แต่คนทั้งเรือนพัก ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าห้องของหัวหน้าองครักษ์เยียน ของวางไว้ในห้องเขา ปลอดภัยที่สุด”

เยียนอวิ๋นเกอไม่คัดค้าน นางหยิบตำราเล่มหนึ่งขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ เนื้อหาภายในละเอียดชัดเจน

เวลา สถานที่ เรื่องราว บุคคล…

รายละเอียดที่ควรมีล้วนมี

แม้แต่ปากคำที่ได้มาจากการสอบสวนก็บันทึกไว้ด้านบน

เรือนพักที่มีคนนับหมื่นคนไม่มีทางมีแต่พื้นที่สะอาด

อย่างไรย่อมต้องมีคราบสกปรกซ่อนเร้นเอาไว้ ย่อมต้องมีพื้นที่มืดมิดที่แสงอาทิตย์สาดส่องไปไม่ถึง

คนย่อมต้องมีกิเลส

การจัดตั้งพนันใต้ดินเพื่อสร้างชื่อเสียงและผลประโยชน์เป็นเรื่องปกติอย่างมาก

การปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงก็เป็นเรื่องปกติเช่นเดียวกัน

เรื่องแบบนี้สามารถพบเห็นได้ง่ายในที่อื่น ไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก

แต่ในเรือนพักร่ำรวย เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องต้องห้าม

เรือนพักร่ำรวยย่อมมีกฎระเบียบของตนเอง ข้อแรกก็คือห้ามพนัน ห้ามปล่อยเงินกู้

การพนันทำร้ายคน ทำให้บ้านแตกสาแหรกขาด สามารถพบเห็นตัวอย่างได้ทั่วไป

เรือนพักร่ำรวยต้องการพัฒนาไปในทางที่ดี ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้มีการพนัน

เพราะมันจะทำลายรากฐานของเรือนพัก

นางพลิกไปทีละหน้า แต่ละเรื่องล้วนมีการบันทึกไว้อย่างละเอียด

มันคือหลักฐานที่ใส่ใจอย่างมาก

เพียงแต่หลักฐานมีจำนวนมาก นางไม่สามารถอ่านจนครบในระยะเวลาอันสั้น

นางพูดกับจี้ผิง “เจ้ามีใจแล้ว! หลักฐานเหล่านี้ทิ้งไว้ตรงนี้ ข้าจะให้คนไปตรวจสอบความจริง เมื่อมีผลออกมา พวกเราค่อยคุยเรื่องนี้กันต่อ”

จี้ผิงโน้มตัวเล็กน้อย “ปฏิบัติตามคำสั่งของคุณหนูอย่างเคร่งคัด!”

“เยียนหนานอยู่ก่อน!”

จี้ผิงออกจากห้องตำรา เยียนหนานยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ

เยียนอวิ๋นเกอสั่งให้คนเก็บหลักฐานตะกร้านี้เอาไว้

จากนั้นนางซักถามเยียนหนาน “เยียนสุยกับจี้ผิง เจ้าว่าสองคนนี้เป็นอย่างไร”

เยียนหนานเป็นทหาร เขามีใบหน้าเหลี่ยมที่แข็งกระด้าง มีหนวดเคราสั้น ยืนตัวตรง ทำหน้าเคร่งขรึม

เขาพูดตามความจริง “พ่อบ้านใหญ่เยียนสุยให้ความสำคัญกับความรักและความยุติธรรม ได้ใจคนอย่างมาก เพียงแต่เมื่อให้ความสำคัญกับความรักและความยุติธรรมเกินไป บางครั้งโหดเหี้ยมขึ้นมาไม่ได้ บางครั้งหูเบา เมื่อผู้อื่นอ้อนวอน เขาก็เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจ แต่ว่าเขาดูแลเรือนพักตามหน้าที่ได้อย่างดี ทำให้เรือนพักเป็นระเบียบเรียบร้อย เขาเป็นพ่อบ้านเรือนพักที่เหมาะสม แต่บางครั้ง ข้าก็รู้สึกเหนื่อยแทนเขา”

เยียนอวิ๋นเกอกระจ่างใจ

คนที่ให้ความสำคัญกับความรักและความยุติธรรมมักจะมีชีวิตที่ค่อนข้างเหนื่อย เพราะว่าเขาต้องแบกรับภาระที่มากยิ่งขึ้น

อีกทั้งยังจะแบกรับหนี้และภาระของผู้อื่นมาใส่ตัวด้วย

นางบอกเยียนหนาน “พูดต่อ!”

“คุณหนูให้จี้ผิงดูแลบุคลากร ข้าน้อยคิดว่าถูกต้องแล้ว จี้ผิงเป็นคนโหด เย็นชาไร้เยื่อใย ทำงานตามกฏระเบียบ ผู้ใดอ้อนวอนก็ไร้ประโยชน์ มักจะทำให้คนหมดทางไป แต่เรือนพักไม่มีคนอย่างเขาไม่ได้ มีพ่อบ้านใหญ่เยียนสุยเป็นคนดี ย่อมต้องมีคนเลวอย่างจี้ผิง มันลดภาระให้พ่อบ้านใหญ่เยียนสุยได้จำนวนมาก ไม่มีคนที่ต้องรับมือมากมายเหมือนแต่ก่อน”

เยียนอวิ๋นเกอครุ่นคิด พลันถาม “เจ้าคิดว่ายังมีเรื่องใดต้องปรับอีกหรือไม่ พวกเขาสองคนเป็นอย่างไรต่อกัน”

“ถือว่าสงบ!”

“สงบ?”

คำนี้ใช้ได้อย่างน่าอัศจรรย์

เยียนหนานครุ่นคิดอย่างละเอียด “บางทีอาจพูดได้ว่า พวกเขาไม่ยุ่งเกี่ยวซึ่งกันและกัน พ่อบ้านใหญ่เยียนสุยไม่ได้อาศัยที่ตนเองมีประสบการณ์มากกว่าไปกดขี่จี้ผิง จี้ผิงก็ไม่เคยแทรกแซงการตัดสินใจของพ่อบ้านใหญ่เยียนสุย พวกเขาต่างดูแลเรื่องของตนเอง น้อยครั้งที่จะเกิดการโต้เถียง ดังนั้นจึงสงบ!”

เยียนอวิ๋นเกอเข้าใจแล้ว

ทั้งสองคนเป็นความสัมพันธ์เพื่อนร่วมงานทั่วไป ไม่สนิทแต่ก็ไม่ห่างเหิน ต่างคนต่างรับผิดชอบหน้าที่ของตนเอง

เจ้าอย่าแทรกแซงเรื่องของข้า ข้าก็จะหลบเลี่ยงเจ้าให้ไกล

ลับหลัง เมื่อพบหน้ากันก็มีพูดคุยหัวเราะบ้าง

หากเป็นการทานอาหารก็จะเชิญอีกฝ่าย

มันคือความสัมพันธ์เพื่อนร่วมงานที่แข็งแรง

ไม่ใกล้ไม่ไกล กำลังดี

เยียนอวิ๋นเกอชี้ไปที่หลักฐานเต็มตะกร้า “เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร”

เยียนหนานพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เรื่องเกี่ยวกับการผลิตในเรือนพัก ข้าน้อยไม่เข้าใจ ไม่สามารถออกความเห็นได้”

“เรื่องที่จี้ผิงพูด หลักฐานที่รวบรวมมาเป็นเรื่องจริงหรือไม่”

“ตามที่ข้ารู้ มันเป็นความจริง แต่ว่าร้ายแรงเพียงใด ข้าน้อยไม่รู้”

ดูแล้วเยียนหนานกับจี้ผิงก็เป็นเพื่อนร่วมงานทั่วไป

เขาไม่ได้แทรกแซงงานของจี้ผิง เพียงแค่ช่วยจี้ผิงรักษาหลักฐาน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สถานการณ์อย่างละเอียด

เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะขึ้นมา “เจ้าคิดว่าจี้ผิงทำถูกหรือไม่”

เยียนหนานลำบากใจมาก “ข้าน้อยไม่รู้!”

“อย่าแกล้งโง่ ข้าต้องการฟังความจริงจากเจ้า”

เยียนหนานครุ่นคิด “ทำลายการพนันใต้ดินย่อมเป็นเรื่องที่ดี ผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าบางคนก็ถูกหลอกลวงให้ไปเข้าร่วมการพนัน หากจี้ผิงไม่ได้สืบเรื่องนี้ ข้าก็คงไม่รู้”

“แทรกซึมเข้าไปในค่ายองครักษ์แล้วหรือ”

ร้ายแรงแล้ว

เยียนอวิ๋นเกอรีบออกคำสั่ง “เพิ่มการเฝ้าระวัง แอบสืบเรื่องการพนัน หาแหล่งตั้งต้นให้ได้”

เยียนหนานตะโกน “ขอรับ!”

หูของพวกอาเป่ยสะเทือนจนเกือบไม่ได้ยิน

หลายวันต่อมา เยียนอวิ๋นเกอไม่ได้ออกจากประตูเรือนแม้แต่ก้าวเดียว

ในหนึ่งวัน ไม่ใช่ตรวจดูบัญชีก็พลิกดูหลักฐานของจี้ผิง

ลับหลัง นางได้ส่งคนจำนวนมากไปตรวจสอบความจริงของเนื้อหาบนหลักฐานแล้ว

พายุกำลังจะโหมกระหน่ำ…

แต่ไม่มีผู้ใดรับรู้

มีเพียงจี้ผิงที่กำลังแอบคาดหวัง

เขาคาดหวังให้มีพายุโหมกระหน่ำเพื่อชำระล้างหนอนภายในเรือนพัก

ชำระล้างมุมมืดทั้งหมดสักรอบ คืนความสะอาดให้แก่เรือนพัก

เขาคาดหวังว่าเถ้าแก่จะเห็นถึงความสามารถของเขา สามารถใช้คนได้อย่างถูกต้อง

ผลงานของเขา จี้ผิงไม่ได้จำกัดแค่เพียงภายในเรือนพักร่ำรวยอย่างแน่นอน

เขายังสามารถเดินขึ้นไปต่อ เดินไปอยู่ด้านหน้า เดินไปถึงจวนท่านหญิง เดินไปถึงห้องตำราของเถ้าแก่เพื่อเป็นที่ปรึกษา…

เดิมทีเขาเป็นเพียงคนสวนที่ไม่โดดเด่นในจวนท่านหญิง แต่ละวันเอาแต่ก้มหน้ามองดิน แผ่นหลังชี้ฟ้า ทำงานที่เหน็ดเหนื่อย พอประทังความอิ่มท้อง

ครั้งแรก ร้านน้ำแกงเครื่องในหนานเป่ยต้องการคัดเลือกคน เขาไขว่คว้าโอกาสเอาไว้ พยายามแสดงความสามารถของตนเอง ดังนั้นเขาจึงได้ออกจากแปลงสวน

หลังจากผ่านความพยายามมา เขากลายเป็นจั่งกุ้ยของร้านน้ำแกงเครื่องในหนานเป่ยสาขาหนึ่ง

เขาทำงานตามหน้าที่ของตนเองอย่างขยันขันแข็ง หลังจากนั้นนับปี ในที่สุดก็ถูกเลื่อนขั้น

หลังจากความพยายาม ในที่สุดเขาก็ก้าวเข้าไปในสายตาของเถ้าแก่ ได้รับภารกิจสำคัญมายังเรือนพักร่ำรวย

ก่อนมาเรือนพักร่ำรวย เขาก็ตักเตือนตัวเอง หากไม่ทำก็แล้วไป หากจะทำก็ต้องทำการใหญ่

สุดท้ายเขาก็ทำการใหญ่จริงๆ

แต่เขายังคงรู้สึกเสียดาย

ความสนับสนุนที่เถ้าแก่มีให้เขามีจำกัด จนทำให้เขาอยากจะยอมจำนนอย่างเงียบๆ ในบางครั้ง ไม่สามารถขับไล่หนอนทั้งหมดออกไปจากเรือนพักตามเจตนา

แต่คราวนี้…

เป็นโอกาสของเขา

เขาสามารถไขว่คว้าโอกาสที่หาได้ยาก เปล่งประกายต่อหน้าเถ้าแก่อีกครั้งหรือไม่

0

——————-

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

Status: Ongoing
ณหนูจวนอื่นชื่นชอบแพรพรรณงดงาม กวี ภาพเขียน บุรุษหล่อเหลา แต่คุณหนูสี่จวนโหวกลับคลั่งไคล้ในเงินทอง! การค้ารูปแบบใดที่แผ่นดินนี้ไม่เคยมีล้วนออกมาจากสมองของนางและทั้งหมดล้วนทำให้เงินทองไหลมาเทมา!นิยายโรแมนติกจีนโบราณ ที่นางเอกมากความสามารถและคลั่งไคล้เงินสุดๆ!คุณหนูสี่แห่งจวนโหว เยียนอวิ๋นเกอ เป็นใบ้เพราะอุบัติเหตุตอนยังเด็กทำให้อุปนิสัยดุร้าย อารมณ์ร้อน มุทะลุยิ่งนักใครๆ ล้วนมองว่านางเป็นหญิงเอาแต่ใจไม่เคยคำนึงถึงสิ่งใดแต่จิตวิญญาณด้านในของนางนั้นคือหญิงสาวผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวในวันสิ้นโลกอาจเพราะความยากลำบากในชาติก่อนสิ่งเดียวที่นางกลัวที่สุดก็คือกลัวอดตาย!ดังนั้นหากไม่อยากอดตายต้องทำอย่างไรก็ต้องมีเสบียง! และการจะมีเสบียงได้นั้นก็ต้องมีเงิน!เพื่อการนั้นนางจะทุ่มเทสมองในการบุกเบิกการค้า ปูรากฐานทุกอย่างเพื่อพี่น้องและมารดาด้วยมันสมองของคนยุคใหม่นางไม่เชื่อว่าจะทำไม่ได้ทหารต่อให้เก่งกาจเพียงใดหากไม่มีเสบียงแล้วไซร้ก็ยากจะรบต่อไปได้ถึงตอนนั้นในแผ่นดินที่ฮ่องเต้จ้องจะกวาดล้างอำนาจขุนนาง ครอบครัวนางย่อมหยัดยืนได้อย่างมั่นคง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท