การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า – ตอนที่ 18

การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

ฉันยังหาคำดีๆ มาอธิบายความรู้สึกนี้ไม่ได้เลย มันเหมือนลอยขึ้นไปเรื่อยๆ แต่กลับเหมือนจมลงไปในความว่างเปล่าบางอย่าง… เป็นความกระวนกระวายคล้ายๆ กับเวลายืนอยู่กลางเมืองใหญ่ ปนเปไปกับความสบายใจเหมือนเวลานอนตาลอยอยู่คนเดียวในฟูกนุ่มๆ

อา… ไม่รู้แฮะ

 

แต่ว่า…ฉันรู้ว่าฉันเคยมาที่นี่มาก่อนนะ สถานที่ที่รู้สึกคุ้นๆ นี่

ฉันหมายถึง ร่างกายของฉันก็ยังหลับสนิทดี มีแต่ความคิดของฉันที่วิ่งวุ่นไปมา

คือ ที่ฉันพยายามจะบอกก็คือ…

 

“สวัสดีค่ะคุณลีน ผ่านมา 1 สัปดาห์แล้วสินะคะ โอ้! เรามีขนมทานคู่กับน้ำชาด้วย ทานด้วยกันหน่อยมั้ยคะ?”

 

…ดูเหมือนฉันจะถูกท่านเทพชั่วร้ายท่านนี้อัญเชิญมาอีกแล้ว แถมท่านยังเปลี่ยนบรรยากาศรอบๆ ขึ้นมาใหม่ให้ดูผ่อนคลายกว่าเมื่อครั้งก่อนเยอะเลย

ฉันควรจะถามท่านก่อนดีมั้ยว่าขนมทานคู่น้ำชาพวกนั้นมาอยู่ในโลกวิญญาณนี่ได้ยังไง? หรือฉันจะกินเข้าไปได้ยังไงทั้งๆ ที่ตอนนี้ฉันไม่มีกระเพาะล่ะคะ ท่านอิซึสึ?

 

“เราจำลองรสชาติเรียบร้อยแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นไม่มีปัญหาแน่นอน เหมือนพวกเกม VRMMORPG จากโลกเดิมของเธอยังไงล่ะคะ”

 

ท่านทราบใช่มั้ยคะว่าในระดับโลกแล้ว นั่นมันเฉพาะกลุ่มมากเลยน่ะ ว่าแต่ แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะ? นี่ฉันตายอีกแล้วเหรอ?

 

“เปล่าค่ะ เปล่า ครั้งนี้เธอแค่หลับไปเท่านั้นค่ะ เราก็เพียงเข้ามาหาเธอในตอนนั้นเท่านั้น จากการที่เราได้แทรกแซงสติของเธอเมื่อคราวก่อน ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างเรากับเธอนั้นแข็งแกร่งขึ้นจนสามารถทำได้แม้ว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่ก็ตาม ขอเพียงเธอไม่ได้สติก็พอ อย่างที่เราเคยบอกเอาไว้ว่า ‘เราจะเข้าแทรกแซงสติของเธออีกเป็นครั้งคราวในอนาคต’ เมื่อสัปดาห์ก่อนค่ะ”

 

ค่ะ ฉันได้ฟังและยังจำได้อยู่ค่ะ

ฉันก็นึกว่าตัวเองสลบไปเพราะการฝึกที่ไร้เหตุผลอะไรซักอย่าง หรืออะไรทำนองนั้นซะอีก

ฉันไม่คิดว่าท่านจะเชื่อมต่อกับฉันได้ด้วยแค่การนอนหลับเท่านั้นเอง

 

“ต้องขอโทษด้วยที่เราไม่ได้อธิบายอย่างละเอียดเมื่อคราวก่อนนะคะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะมาหาเธอที่ข้างเตียงได้ทุกคืนหรอกนะคะ ที่จริง ในตอนนี้ เราไม่ได้ยุ่งอะไรนัก การควบคุมโลกไว้ให้เสถียรก็ยังเป็นไปได้ด้วยดี แถมจอมมารเองก็จัดการบนโลกได้ดีด้วย เพราะแบบนั้น เราจึงไม่จำเป็นต้องส่งเทพพยากรณ์ลงไปบ่อยๆ เพราะเหตุนั้น เราจึงอยากฆ่าเวลาด้วยการจัดงานเลี้ยงน้ำชากับเธอเสียหน่อยค่ะ”

 

จะสบายเกินไปแล้วนะคะ ท่านเทพ

ถ้าท่านไม่มีอะไรทำเป็นพิเศษ ฉันขออนุญาตกลับไปนอนต่อแบบดีๆ… โดย… เร็ว………? …เออ… ขนมพวกนั้นคือ…

 

“อ้อ สังเกตเห็นแล้วเหรอคะ? เป็นขนมจากบนโลกเดิมของเธอนั่นแหละคะ อามาเทราสึจังเอามาฝากฉันบ้างเป็นครั้งคราว ยังไงขนมพวกนี้ทานคู่กับชาจึงจะดีที่สุดใช่มั้ยล่ะคะ? โอ๊ะ แต่ดูเหมือนเธอจะกลับแล้วสินะคะ งั้นก็ช่วยไม่ได้ เดี๋ยวเราช่วยพาจิตของเธอกลับเข้าร่างเลยก็แล้วกันนะคะ”

 

ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่เป็นไรค่ะ

ฉันไม่สามารถเพิกเฉยต่อคำเชิญจากท่านเทพอยู่แล้วล่ะค่ะ เพราะงั้นฉันขอเข้าร่วมตามความเหมาะสมด้วยนะคะ

 

“ไม่ ไม่ เธอมีสิทธิจะปฏิเสธได้ค่ะ เพราะเราเป็นคนบังคับพาเธอขึ้นมาเอง เราต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่เดี๋ยวเราทานขนมหวานๆ อร่อยๆ พวกนี้แทนให้เองแล้วกันนะคะ แถมที่นี่เป็นโลกวิญญาณ ทานขนมพวกนี้มากแค่ไหนก็ไม่ทำให้เทพอ้วนขึ้นหรอกค่ะ เพราะงั้น เราจะส่งเธอกลับบ้านโดยเร็วนะคะ”

 

ขอโทษด้วยค่ะ ฉันขอโทษที่พยายามจะทำแบบนั้น แต่ได้โปรดให้ฉันได้ทานด้วยเถอะนะคะ

ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่โดยที่มีแค่ผลไม้เป็นของหวาน ฉันคิดถึงวิปครีมกับช็อกโกแลตมากเลยค่ะ

 

“ดีค่ะ เช่นนั้นแล้ว เชิญอร่อยกับมื้อนี้ได้เลยค่ะ”

 

ขอบพระคุณมากเลยค่ะ

*ง่ำ ง่ำ ม่ำ ม่ำ*

อ๊า…หวานจัง~

ไม่เหมือนผลไม้เลย มีแค่ความหวานเลย~ ความรู้สึกนี้~

ความสมบูรณ์แบบระหว่างสปอนจ์เค้ก, ครีม, ช็อกโกแลต และสตรอเบอรี่นี่มัน~!

ฉันเป็นเด็กผู้หญิง และฉันก็เป็นพวกกินหวานอยู่แล้ว ฉันเชื่อว่าความหวานนี่แหละคือที่สุด

ชาติก่อนของฉันน่ะไม่มีอะไรดีเลย แต่ฉันก็มีความสุขทุกครั้งเลยค่ะเวลาได้กินอะไรหวานๆ…

 

“เราดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะคะ แล้วก็ ดูเหมือนเธอจะสามารถเข้าร่วมกับกองทัพจอมมารได้อย่างปลอดภัย แถมดูเหมือนเธอจะได้ฝึกได้อย่างเต็มที่ไปอีกสักพักสินะคะ”

 

โอ้ ใช่ค่ะ ตอนนี้ฉันหลับอยู่ในห้องที่ได้รับมา เป็นห้องในฐานที่มั่นของกองทัพจอมมารค่ะ

…อ้อ จริงด้วย ท่านอิซึสึคะ ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าท่านจอมมารจะเป็นแวมไพร์น่ะ!

 

“โอ๊ะ! จริงสินะคะ เราพลาดไปหน่อย”

 

ไม่ได้ตั้งใจหรอกเหรอคะ?!

 

“เราได้รู้จักกับจอมมารมามากกว่า 500 ปีแล้ว แถมยังลืมไปนานมากแล้วค่ะว่าเธอเป็นเผ่าพันธุ์อะไร เพราะในตอนนี้ ทั้งเอลฟ์ ทั้งคนแคระ ทั้งมนุษย์สัตว์ ทั้งยักษ์ ก็ถูกเหมารวมกันเป็นเผ่ามารไปหมดเลยค่ะ เราที่ต้องรับหน้าที่ดูแลทั้งหมดนั่น การที่จะลืมไปว่าจอมมารจะเป็นเผ่าอะไรก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยไม่ใช่เหรอคะ?”

 

เออ ฉันพูดไม่ออกเลยค่ะพอได้ยินแบบนั้น…  

 

“ใช่มั้ยล่ะคะ? ใช่มั้ยล่ะคะ? อีกอย่าง จอมมารนั้นเป็นตัวตนที่มีสเตตัสสูงที่สุดในโลกค่ะ นอกจากจะเป็น [ต้นตระกูล] ซึ่งก็แกร่งมากอยู่แล้ว แต่ก็ยังเป็นจอมมารด้วย ไม่จำเป็นต้องดื่มเลือด หรือแม้แต่ต้องทานอาหารเลยด้วยซ้ำ เป็นอมตะ และสามารถรับการอวยพรจากดวงจันทร์ได้หลายเท่าอีกด้วย ทำให้เธอเป็นตัวตนที่แกร่งราวกับโกงเลยล่ะค่ะ นับว่าเธอก้าวข้ามขอบเขตของแวมไพร์ไปไกลมากเลย”

 

…ท่านทำให้ฉันเห็นอีกมุมของท่านอีกแล้วค่ะ ท่านอิซึสึ นอกจากท่านเป็นเทพชั่วร้ายชั้นยอด แถมการที่ท่านสามารถกล่าวถึงทุกสิ่งที่ท่านเห็นออกมาได้โดยปราศจากความรู้สึกต่อต้านเลยนี่ น่าชื่นชมมากเลยค่ะ

 

“เรายินดีกับคำชมของเธอนะ”

 

ไม่ได้ชมค่ะ ว่าแต่…แล้วท่านเชิญฉันขึ้นมาทำไมเหรอคะ?

คงไม่ใช่แค่เพราะท่านอยากจะจัดงานเลี้ยงน้ำชาใช่มั้ยคะ?

 

“หุหุ ถูกต้องเลยค่ะ คุณลีน เราไม่ได้เรียกเธอมาโดยไม่มีสาเหตุหรอกค่ะ ครั้งนี้ที่เราเรียกเธอมา…”

 

อ๊ะ…ก่อนจะคุยเรื่องเครียดๆ นั่นล่ะก็…มากินเค้กนี่ให้หมดก่อนกันดีกว่าค่ะ

 

“โอ้ จริงด้วยสินะคะ เอาแบบนั้นแล้วกัน… โห ทีรามิสุนี่อร่อยดีนะคะ *หม่ำ หม่ำ*…… เอาล่ะค่ะ งั้นได้เวลากลับเข้าเรื่องแล้วนะคะ”

 

TN: Tiramisù (ทีรามิสุ) เป็นขนมหวานรสกาแฟชนิดหนึ่งจากประเทศอิตาลี ทำจากแท่งขนมปังกรอบซาวอย (biscotto savoiardo) จุ่มน้ำกาแฟเอสเปรสโซเพียงชั่วครู่ แล้วนำไปเรียงเป็นชั้นสลับกับส่วนผสมที่ประกอบด้วยไข่, น้ำตาล, และเนยมัสคาร์โปเนตีเข้าด้วยกัน แต่งกลิ่นรสด้วยผงโกโก้

 

เข้าใจแล้วค่ะ *หม่ำ หม่ำ*

 

“ที่เราเรียกเธอขึ้นมาที่นี่ก็เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับแผนของเธอในอนาคต และเพื่อบอกเธอเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของผู้กล้าค่ะ”

 

การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

Status: Ongoing
เซนโจ โยนะ เด็กหญิงที่ถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแก๊สระเบิด หลังจากนั้น ด้วยความช่วยเหลือของเทพชั่วร้าย อิซึสึ เธอก็ได้มาเกิดใหม่เป็นลูกสาวของผู้นำเผ่าแวมไพร์ [ลีน บลัดลอร์ด] ชีวิตอันสงบสุขกำลังรอเธออยู่ รายล้อมไปด้วยครอบครัวและเพื่อนพ้องที่รักเธอ สิ่งที่เธอต้องการมาโดยตลอดจากชาติก่อน … แต่เวลาเหล่านั้นก็ต้องสิ้นสุดลง จากการกวาดล้างเผ่าพันธุ์แวมไพร์ด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์อย่างไร้เหตุผล “อา เข้าใจแล้ว ชีวิตของฉันต้องพังทลายเพราะว่ามีพวกมนุษย์อยู่งั้นสินะ” อีกด้าน มีเด็กสาวที่ถูกมองเป็นตัวน่ารำคาญในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เธอได้รับ [คุณสมบัติของผู้กล้า] พร้อมทั้งพรสวรรค์และศักยภาพอันล้นเหลือ แต่จิตใจของเธอกลับถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์ เพื่อล้างสมอง และเปลี่ยนเธอเป็นอาวุธมีชีวิต “จริงๆ แล้ว…ไม่อยากปกป้องพวกมนุษย์ซักหน่อย เราไม่ได้อยากเป็นผู้กล้า…” และพวกเธอผู้เกลียดชังต่อมนุษย์ ก็กลายมาเป็นภัยพิบัติต่อมนุษยชาติ นี่คือเรื่องราวของเด็กสาว 2 คนที่ชีวิตต้องถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ และสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตไป เหลือเพียงแค่ชีวิตของตัวเอง และพวกเธอจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อล้างแค้นและกวาดล้างมนุษยชาติให้สิ้น

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท