Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 1027 ฆ่าทิ้งซะ

ตอนที่ 1027 ฆ่าทิ้งซะ

  ซูเฟิงเป็นคนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดในการต่อสู้ครั้งนี้แม้ว่ามันจะไม่ค่อยสะดวกในการต้องอยู่ภายใต้สนามพลังงานของชูฮัน หากเขาก็เข้าใจชัดเจนดีว่านี้คือการสอนแบบสดๆจากชูฮัน แสดงให้เห็นถึงสนามพลังงานที่แท้จริงและวิธีการใช้มันเพื่อสู้กับคู่ต่อสู้

  อู๋หลิงฉิงที่เดิมทีได้รับบาดเจ็บจากปืนไรเฟิลพิเศษของเฉินช่าวเย่ประกอบกับตอนนี้ที่ถูกขังอยู่ในสนามพลังงานของชูฮันซึ่งส่งผลต่อพลังที่เธอมีอย่างมาก ราวกับว่าพลังของเธอถูกกดเอาไว้ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่เมื่ออยู่ในวงล้อมแห่งนี้

  ดังนั้นอู๋หลิงฉิงในตอนนี้จึงตกอยู่ในสภาพอ่อนแรงหากชูฮันที่เป็นต่อกลับไม่จัดการอู๋หลิงฉิงให้จบๆไป กลับกันเขาเลือกที่จะค่อยๆสาธิตวิธีกำจัดลูกผสมระยะสูงให้ซูเฟิงได้เรียนรู้

  ทุกๆครั้งที่ชูฮันโจมตีใส่อู๋หลิงฉิงจะล้มลงไปกองที่พื้นก่อนจะตะเกียจตะกายลุกขึ้นยืน และทุกอย่างก็เกิดขึ้นวนซ้ำอยู่แบบนั้น

  อู๋หลิงฉิงถูกทรมานจนเนื้อตัวบอบช้ำอย่างมากเพราะทุกอย่างดำเนินซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้งความเคียดแค้นเกลียดชังต่อชูฮันฝังแน่นลึกเข้ากระดูกดำของอู๋หลิงฉิง

  แบะในที่สุดหลังจากอู๋หลิงฉิงไม่เหลือแรงที่จะต่อต้านได้อีกชูฮันก็หยุดการทรมานอู๋หลิงฉิงลงและเริ่มการสอบปากคำ

  ซูเฟิงยืนเฝ้าระวังดูการเคลื่อนไหวของอู๋หลิงฉิงไม่วางตาขณะที่คอยมองดูการต่อสู้ที่วนเวียนซ้ำเดิมไปมาอยู่หลายรอบระหว่างชูฮันและอู๋หลิงฉิง กลับกันความเข้าใจของการควบคุมพลังงานของซูเฟิงก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว

   เร็วเข้าบอกมามีลูกผสมระยะ 7 แบบแกกี่ตัวในเมืองหยิน?  ชูฮันมีสีหน้าเย็นชาขณะใช้ปลายคมของขวานซิ่วโหลจ่อที่คอของอู๋หลิงฉิงเอาไว้

   หึ!กี่ตัว?  อู๋หลิงฉิงแสยะยิ้ม  แกคิดว่าลูกผสมระยะ 7 แข็งแกร่งและยากที่จะรับมือสินะ แต่รู้ไว้ซะว่ามันมีเต็มเมืองหยินไปหมด! 

   ปั่ก! 

  ชูฮันเหยียบบยหลังของอู๋หลิงฉิงเต็มแรงย่อตัวลงไปถามอู๋หลิงฉิงอีกครั้ง  แสดงว่าระยะพลังของมู๋เย๋คงไม่ได้สูงสินะ? 

  ความหมายของคำพูดอู๋หลิงฉิงนั้นค่อนข้างขัดแย้งกับข้อมูลที่ชูฮันได้รับรายงานมาจากเฉินยู่เทียนหากชูฮันก็ไม่สนใจเพราะไม่ว่าจะมีลูกผสมระยะ 7 มากมายแค่ไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือพลังของมู๋เย๋ที่มีในตอนนี้ต่างหาก?

   ลองเดาระยะของท่านราชาลูกผสมดูสิ? อู๋หลิงฉิงแม้จะตกเป็นรองหากก็ยังพยายามปั่นหัวชูฮันเพื่อความสะใจ  ก่อนอื่นเลยฉันไม่รู้ และต่อให้ฉันรู้ฉันก็ไม่มีทางบอกพวกแก 

   อย่าปากดี! ชูฮันนิ่วหน้า แต่แล้วจู่ๆเขาก็ยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมา  แกคงจะไม่รู้เรื่องการร่วมมือระหว่างลูกผสมกับตระกูลป่ายสินะ?    นี้คือเหยื่อที่ชูฮันจงใจทิ้งไว้ที่จริงแล้วนอกจากชูฮันที่รู้เส้นทางในอนาคตแล้ว มันก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ถึงความลับนี้

   ตระกูลป่าย? อู๋หลิงฉิงมีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่าเธอไม่รู้เรื่องราวที่ชูฮันพูดถึงเลยแม้แต่น้อย

   แกได้เจอกับเหย่จือโปรึเปล่าล่ะ? จู่ๆชูฮันก็ถามอีกคำถามขึ้นมาแทน

   เหอะ!ไอ้ขี้ขลาดนั่นไม่สมควรที่จะได้รับการพิจารณาจากท่านราชาด้วยซ้ำ ไม่รู้ทำไมถึงได้มอบหมายงานสำคัญให้คนอย่างมันทำ?  อู๋หลิงฉิงเผยข้อมูลออกมาตามอารมณ์อย่างไม่รู้ตัว

  เดิมทีชูฮันเองก็ไม่แน่ใจว่ามันมีการเชื่อมโยงระหว่างเหย่จือโปและมู๋เย๋จริงหรือไม่?

  เพราะก่อนหน้านี้เหย่จือโปก็อ้างว่ามันเป็นตัวแทนของตระกูลเกาหากมู๋เย๋กลับแสดงออกชัดเจนว่าตัวมันมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลป่าย  และพอเมื่อชูฮันถามอู๋หลิงฉิงเรื่องชื่อเหย่จือโปอู๋หลิงฉิงที่ควบคุมตัวเองไม่อยู่จึงเผลอพูดสิ่งที่รู้ออกมาและมันไม่เพียงแค่แสดงให้เห็นว่าเธอรู้จักเหย่จือโป แต่ยังดูเหมือนจะไม่ชอบอีกฝ่ายเอามากๆ?

  ชูฮันเหลือบมองอู๋หลิงฉิงด้วยสายตามีนัยนะจากนั้นก็หันไปสบตากับซูเฟิงที่กำลังยืนงงก่อนจะพูดเสียงเรียบ  ฆ่าทิ้งซะ 

  ซูเฟิงมีจิตวิญญาณของทหารแม้จะไม่เข้าใจหากเขาก็ไม่คิดจะไล่ถามอะไรจากชูฮัน ไหนเมื่อชูฮันสั่งให้ฆ่า เพียงชั่ววินาทีหลังจากชูฮันออกคำสั่ง หอกด้ามยาวสีทองในมือก็ถูกง้างขึ้นทันที

  ในทางตรงกันข้ามอู๋หลิงฉิงที่กำลังเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง นี้เป็นครั้งแรกที่มันรู้สึกใกล้ชิดกับความตายมากขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะโดนชูฮันทรมานและทำให้อับอายมากขนาดไหนเธอก็ไม่เคยสัมผัสถึงความต้องการจะฆ่าเธอจากชูฮันเลย

  แต่แล้วเมื่อชูฮันสั่งให้ซูเฟิงฆ่าเธอทิ้ง…อู๋หลิงฉิงก็ค้นพบว่าตัวเธอเข้าใจผิดไป

  ชูฮันไม่สนใจเรื่องข้อมูลอะไรทั้งนั้นเขาถามไปโดยไม่ได้จริงจังกับคำตอบจากเธอเลยเพราะตั้งแต่แรกเริ่มชูฮันไม่ได้คิดจะไว้ชีวิตเธออยู่แล้ว…

  อู๋หลิงฉิงที่สามารถกินลูกสาวที่เป็นทารกของเธอเองในตอนที่เกิดการปะทุของโลกาวินาศช่วงแรกได้เพราะความหิวโหยแสดงให้เห็นชัดว่าเธอเป็นคนที่กลัวตาย ความสิ้นหวังและการประสบความสำเร็จที่มีในตอนนี้จะยิ่งเป็นแรงผลักดันให้เธออยากห่างออกจากความตายเข้าไปอีก

  มันคือสัญชาตญาณที่เป็นธรรมชาติของความเป็นมนุษย์…เธอไม่อยากตาย!

  น่าเสียดายที่ทุกอย่างจบสิ้นแล้วเพราะตั้งแต่ตอนนี้ที่เดินก้าวเดินออกมาจากเมืองหยิน เธอน่าจะภาวนาให้ตัวเองไม่ต้องได้เจอกับชูฮันซะ!

   พัฟ!    ขณะที่ความคิดมากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัวอู๋หลิงฉิงก่อนความตายมาเยือนปลามแหลมของหอกด้ามยาวสีทองของซูเฟิงก็แทงเข้าที่หัวใจของอู๋หลิงฉิง เลือดพุ่งทะลักกระจายไปทั่วก่อนที่หัวใจของลูกผสมระยะ 7 จะหยุดเต้นลงตลอดกาล

  ซูเฟิงยังคงไม่ได้สติกลับมาหลังจากฆ่าอู๋หลิงฉิงเสร็จ เขาก็ถามชูฮันขึ้นช้าๆ  ไม่ถามอะไรอีกเหรอ? ดูเหมือนมันจะกลัวตายมาก! 

   ถามไปแล้ว ชูฮันตอบอย่างครุมเครือ

   เอ่อ ซูเฟิงคิดไม่ออกว่าควรจะพูดหรือทำอะไรต่อ

  ชูฮันเพียงแค่ยิ้มและไม่อธิบายอะไรต่อความคับข้องใจระหว่างตระกูลลึกลับนั้นไม่สามารถชี้แจงให้ใครฟังได้ ทว่าครั้งนี้ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้อย่างหนึ่ง นั่นก็คือ…จริงๆแล้วเหย่จือโปคือตัวแทนของตระกูลป่ายที่แอบอ้างว่าเป็นตัวแทนของตระกูลเกา และทั้งหมดคือแผนการของตระกูลป่าย

  ส่วนเหตุผลสำหรับการกระทำของตระกูลป่ายนั้น…ชูฮันเองก็ไม่รู้

  หากสำหรับตอนนี้อย่างน้อยชูฮันก็มั่นใจได้ว่าตระกูลเกาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำลายเขาและความขัดแย้งก่อนหน้านี้มันเกิดจากการที่ตระกูลป่ายแอบอ้างชื่อของตระกูลเกามาในการสร้างเรื่อง

  ขณะคิดชูฮันก็ยกมือขึ้นจับปลายคาง…ถ้างั้นก็แสดงว่าเกาช้าวฮุ่ยเป็นคนดีที่อยากจะช่วยเขาจริงๆงั้นเหรอ?

  ในเวลานั้นเองภายนอกของสนามพลังงานการต่อสู้ระหว่างทั้งห้าทีมพิเศษของกองทัพเขี้ยวหมาป่าและกลุ่มลูกผสมก็ได้เข้าสู่ความดุเดือด

  เสียงกรีดร้องพร้อมกับการลอบฆ่าลูกผสมที่เกิดขึ้นไปเรื่อยๆจนในที่สุดพวกลูกผสมก็เริ่มสังเกตเห็น พวกมันจึงเริ่มทำการรวบตัวกันเกาะกลุ่มเพื่อโจมตีเป็นทีม

  แต่พอกลุ่มลูกผสมเริ่มการเคลื่อนไหวนี้มันก็สายเกินไปที่จะเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ได้ทันแล้ว เพราะจำนวนของลูกผสมในขณะนี้มันเหลือไม่ถึงหนึ่งร้อยตัวด้วยซ้ำ ตรงกันข้ามกลับฝั่งเขี้ยวหมาป่าที่ตั้งแต่แรกเริ่มมีทหารตายไปไม่ถึง 50 คนด้วยซ้ำ และสมาชิกที่เหลือก็ยังคงเกาะกลุ่มเป็นทีมคอยโจมตีต่อไป ไม่เพียงแค่จำนวนผู้เสียชีวิตฝั่งเขี้ยวหมาป่าจะน้อยกว่า ทว่ายิ่งได้เห็นเพื่อนทหารต้องตายไป พวกเขาก็ยิ่งฮึกเฮิมและมีความกล้าเพิ่มมากขึ้นไปอีก

  ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นไปตามการคาดการณ์ตั้งแต่แรกเพราะกว่าที่ลูกผสมจะรู้ตัวและได้ทันตอบโต้ ข้อได้เปรียบทุกทางก็ตกเป็นของเขี้ยวหมาป่าหมดแล้ว

  ท่ามกลางการต่อสู้ที่ดุเดือดนี้มันก็ชายคนหนึ่งยืนอยู่กลางสนามรบ เขายืนนิ่งค้างเฉยๆมาเป็นเวลาค่อนข้างนาน สีหน้าเอื่อยเฉื่อยมึนงง แววตามีความลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด

   เกิดอะไรขึ้น?ทำไมอยู่ๆก็สู้กัน?  เกาช้าวฮุ่ยพึมพำถามตัวเอง และในเวลาเดียวกันก็มีลูกผสมตัวหนึ่งที่พยายามเข้าประชิดลอบโจมตีเขาจากด้านหลังอยู่หลายที หากทุกครั้งเกาช้าวฮุ่ยก็สามารถหลบหลีกได้อยู่เสมอ

 

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Status: Ongoing

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง

สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น

วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว

ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ

และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้

และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย

นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท