บทที่ 1047 เชิญมาดื่ม
บทที่ 1047 เชิญมาดื่ม
ซูฉางจิ่วยังอยู่ที่เมืองหลวง
เขาคิดว่าถ้าหาร้านไม่ได้ ภรรยาคงกลับด้วยกัน แต่ไม่คิดเลยว่าจะเจอเร็วขนาดนี้
หลังจากลงหลักปักฐาน เขาจึงกลับไปหมู่บ้านเพียงลำพัง
ที่นั่นมีงานที่ต้องจัดการอยู่
เสี่ยวเถียนเตือนมาเหมือนกันเรื่องโรงงานอย่าปล่อยให้ล่าช้า ถ้าคว้าโอกาสไม่ได้เราตามหลังคนอื่นแน่นอน ตอนนี้หมู่บ้านทางใต้ได้โอกาสและเริ่มพัฒนากันแล้ว
ปีนี้ซูฉางจิ่วได้มาเยือนเมืองหลวงถึงสองรอบ เงินเก็บที่มีใช้จ่ายไปหมดแล้ว แต่ประสบการณ์ที่ได้กลับมาก็มากมายเช่นกัน
วิสัยทัศน์ของเขาต่างไปจากเมื่อก่อน และตั้งใจว่าจะวางรากฐานให้กับชาวบ้าน
หลังลงจากรถ คนแรกที่พบคือซูเสี่ยวถงนักบัญชีหนุ่มของหมู่บ้านหนานหลิ่ง
อีกฝ่ายเห็นเขาพลันเข้ามาทักทายอย่างมีความสุข
“ไอ้หนุ่ม มาทำอะไรตรงนี้เล่า?”
“ผู้ใหญ่บ้านกลับมาแล้วหรือครับ? ผมแค่มาดูว่าคุณกลับมาหรือยังน่ะ เห็นว่าไปนานเลย”
“ไปเรียนรู้มาน่ะ ไม่เรียนก็ไม่ได้ด้วย เสี่ยวถง ฉันจะบอกอะไรให้นะ โลกภายนอกต่างจากโลกของเรามากเลย” ซูฉางจิ่วตื้นตันใจ
ความรู้สึกครั้งนี้กับครั้งก่อนต่างกันมากเลย เสี่ยวเฉ่าเคยพูดอะไรไว้นะ?
สิ่งต่าง ๆ พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
เสี่ยวเถียนยังบอกอีกว่าอนาคตจะไปไวกว่านี้อีก
ซูเสี่ยวถงอิจฉาผู้ใหญ่บ้านจริง ๆ ที่ได้ไปเมืองหลวง
แต่เขาก็รู้ตัวดีว่าเป็นชาวนาต่ำต้อยไม่ได้เรียนมาสูง จะอิจฉาเขาไม่ได้หรอกนะ
แต่ถ้าเลี้ยงลูกให้ดีอนาคตได้เรียนมหาวิทยาลัย มีงานการดี ๆ ทำ อาจจะได้เข้าเมืองหลวงแบบผู้ใหญ่บ้านก็ได้
“กลับบ้านกันก่อนเถอะ!”
ซูเสี่ยวถงมองรถประจำทางก็รู้สึกเหมือนใครจะหายไป!
“เอ๊ะ? คุณป้าล่ะครับ? ทำไมไม่เห็นท่านเลยล่ะครับ? ลืมลงจากรถหรือ?”
ซูฉางจิ่วหันกลับมามอง
“เธอจะอยู่ที่เมืองหลวงต่ออีกสักพักน่ะ แต่ฉันห่วงทางฝั่งนี้เลยกลับมาก่อน”
“เดี๋ยวผมช่วยถือของนะครับ”
คนเป็นผู้ใหญ่มองเด็กหนุ่มร่างกายแข็งแรงกำยำ ก่อนยื่นกระเป๋าหนัก ๆ สองใบไปให้
“ผู้ใหญ่บ้าน เอาอะไรกลับมาบ้างครับเนี่ย? หนักมากเลย”
ชายหนุ่มประเมินน้ำหนัก เดินโซเซขณะพยายามให้สมดุล
“โอกาสน่ะ อาจจะไม่ได้ดีเท่าตาแก่อย่างฉันก็เถอะ ว่าแต่ที่หมู่บ้านเป็นยังไงบ้าง?”
เขาใช้เวลาครึ่งชีวิตเพื่อหมู่บ้านแห่งนี้ และทำใจไม่ได้จริง ๆ ที่ต้องจากมันไป
แต่พอนึกภาพภรรยาไปอยู่เมืองหลวงไม่ได้กลับมาอีก ส่วนตัวเองตามไปทีหลังช้าดันรู้สึกไม่สบายใจ
โชคดีที่ตลอดสองปีนี้ซูเสี่ยวถงทำได้ค่อนข้างดี จึงอดมองอีกฝ่ายอย่างลึกซึ้งขึ้นไม่ได้
ไม่รู้ตอนเราไปแล้วเขาจะทำหน้าที่เป็นผู้ใหญ่บ้านได้ดีหรือเปล่า
ไม่มีคนอื่นเหมาะ ๆ แล้วน่ะ แถมเด็กคนนี้ก็เหมาะที่สุดแล้วด้วย
ไว้เข้าตำบลไปคุยกับผู้นำแล้วกัน
ชายหนุ่มรู้สึกขนลุก ทำไมผู้ใหญ่บ้านมองเขาแบบนั้น?
มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?
หรือไม่พอใจอะไรที่เขาทำช่วงนี้ไหม?
“หมู่บ้านเรียบร้อยดีครับ หลังจากคุยโทรศัพท์กับคุณวันนั้น ผมก็หาคนมาเก็บกวาดฟาร์มเราแล้วละ”
“มันโทรมลงไปเยอะเลยครับ การปรับปรุงใหม่ถือเป็นโครงการใหญ่เหมือนกันนะ”
เขาเอ่ยลอย ๆ
“ผู้ใหญ่บ้านตั้งใจจะสร้างฟาร์มขึ้นมาใหม่หรือเปล่าครับ? ยากอยู่นะ ถ้าสร้างเสร็จแล้วเราจะขายเนื้อให้ใครล่ะ?”
“ไปกันเถอะเสี่ยวถง วันนี้มาดื่มที่บ้านฉันนะ!”
ซูฉางจิ่วมีเรื่องต้องพูดจริง ๆ
จากนั้นก็พาชายหนุ่มไปที่บ้านโดยไม่อธิบายใด ๆ
ซูเสี่ยวถงสงสัยมาก
ไปดื่มเหล้าที่บ้านผู้ใหญ่บ้านหรือ?
ท่านลืมไปหรือเปล่าว่าไม่มีคนจุดเตาน่ะ จะดื่มแต่เหล้าเฉย ๆ ไม่ได้ล่ะมั้ง?
กับแกล้มอีกล่ะ?
เดี๋ยว… เรื่องพวกนั้นสำคัญที่ไหนกัน
สิ่งสำคัญคือตอนนี้บ้านท่านน่าจะมีแต่ฝุ่นใช่ไหม?
ซูฉางจิ่วอ่านใจอีกฝ่ายออก
“ขากลับมาฉันเอาอาหารดี ๆ มาเพียบเลย ทั้งยังหิ้วเหล้ามาก็พอ”
แต่ซูเสี่ยวถงยังคงสงสัย
ใช้เวลาตั้งหลายวันกว่าจะถึงหนานหลิ่งนะ
อาหารที่เอามาน่าจะผ่านมาหลายวันแล้วสิ
ทำไมท่านทำตัวแปลก ๆ แบบนี้ล่ะ
ณ บ้านของซูฉางจิ่ว
เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้แขกนั่งกลางดินกินกลางทรายหรอก ถึงบอกให้เข้ามานั่งในบ้านก็ไม่ไหว อยู่ใต้ต้นไม้แล้วกัน
“เสี่ยวถงไปเชิญเลขาหมู่บ้าน ปู่เจ็ด ปู่สาม แล้วก็ลุงเก้าตู้มาดื่มหน่อยไป”
ชายหนุ่มวางกระเป๋าไว้ที่ลานบ้านก่อนจะออกไปทำหน้าที่
ระหว่างทางเกิดความรู้สึกไม่มั่นใจเท่าไร จึงแวะบ้านให้แม่กับภรรยาช่วยทำกับแกล้ม ไม่ลืมทิ้งท้ายว่าผู้ใหญ่บ้านกลับมาแล้ว
ภรรยาซูเสี่ยวถงตำหนิ “แล้วทำไมไม่ชวนท่านมากินข้าวบ้านเรา จะทำให้มันลำบากทำไม?”
“ก็ผู้ใหญ่บ้านไม่มา เธอรีบไปเตรียมกับแกล้มหน่อยเถอะ” จากนั้นก็รีบวิ่งออกไป
สองแม่สามีและลูกสะใภ้เตรียมกับแกล้ม ระหว่างนั้นกำลังคิดอยู่ว่าต้องไปช่วยทำความสะอาดอีกหรือเปล่า
ซูฉางจิ่วเปิดบ้านเข้าไปดู โอ้โห ขี้ดินเขรอะกว่าลานบ้านเสียอีก
ช่วงนี้ลมแรงสินะ
ตรงลานบ้านน่าจะได้ภรรยาเสี่ยวถงเข้ามากวาดให้ตอนเธอมาช่วยเลี้ยงไก่
จากนั้นเขาก็ถือสุราสองขวดออกมาไว้ที่โต๊ะใต้ต้นสาลี่
ฝุ่นเขรอะมาก เขาวางของแล้วหากะละมังกับผ้าขี้ริ้วมา
แล้วรีบเช็ดโต๊ะกับเก้าอี้ให้สะอาด จากนั้นเข้าครัวไปหาจานกับตะเกียบ
เขาเอาไปล้างน้ำแล้วกลับมาที่โต๊ะ
ซูเสี่ยวถงพร้อมด้วยกรรมการหมู่บ้านเดินทางมาถึง สิ่งที่เห็นคือซูฉางจิ่ววางตั้งโต๊ะไว้ใต้ต้นสาลี่
ถือว่าดูดีเล็กน้อย มีจานชามวางอยู่เจ็ดแปดใบ แต่บ้านผู้ใหญ่บ้านไม่มีอะไรให้กินเนี่ยสิ!
ตอนนั้นเองที่ชายหนุ่มเบิกตากว้างตอนเห็นผู้ใหญ่บ้านหยิบบรรจุภัณฑ์สีสันสดใสออกมาจากกระเป๋า
“เลขา ลุงสาม ลุงเจ็ดมาแล้วหรือครับ?”
“ฉางจิ่วเพิ่งกลับมาเรอะ ไม่พักสักหน่อยเล่าดื่มแต่จ้อเลย”
“ผมเอาของดี ๆ จากเมืองหลวงมาฝากเพียบเลยครับ เลยชวนมากินที่บ้านจะได้คุยกันด้วย”
จากนั้นก็หยิบบรรจุภัณฑ์พลาสติกขึ้นมา
“อันนี้คืออะไรหรือ?”
เลขาหยิบมาดู เหมือนจะเป็นเนื้อนะ แต่ทำไมถึงเอามาใส่แบบนี้ล่ะ?
“เสี่ยวถง ลุงเก้าตู้เขายังไม่มาหรือ?”
“ท่านติดงานครับ เดี๋ยวตามมาทีหลัง!”