บทที่ 1069 เรียนรู้
บทที่ 1069 เรียนรู้
วันนี้หลี่ว์หรูหยาตั้งใจมาเยี่ยมชมจริง ๆ
ถึงจะแตกต่างจากโรงงานผ้าไหม แต่เขาคิดว่ารูปแบบการจัดการในโรงงานสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงกันได้
ว่ากันตรง ๆ คือมาเพื่อเรียนรู้จากท่านปรมาจารย์น่ะ
ไม่คิดเลยว่าฝ่ายนั้นจะเป็นคนริเริ่มพูดเอง
เขาย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว
ซูเสี่ยวเถียนพาหลี่ว์หรูหยาเดินทางมาชม
“เสี่ยวเถียน โอ๊ะ ตอนนี้ต้องเรียกว่าคุณซูเนอะ”
พอได้มาเห็นจริง ๆ ความเข้าใจที่มีต่อซูเสี่ยวเถียนพลันก้าวกระโดดขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
เด็กคนนี้ไม่ใช่เด็กธรรมดา ๆ เธอบริหารโรงงานได้ดีมากแม้จะยังเรียนอยู่ ส่วนพวกเราเหมือนพวกล้มเหลวเลย
“เรียกเสี่ยวเถียนเหมือนเดิมนั่นแหละค่ะ”
“เธอโตไวจริง ๆ นะ ทำให้เราเหมือนพวกแก่ ๆ ไร้ประโยชน์เลย!”
หลี่ว์หรูหยาเสียใจ
เมื่อก่อนยังคิดสู้เพื่ออำนาจและผลประโยชน์อยู่เลย แล้วมาดูเสี่ยวเถียนตอนนี้สิ การต่อสู้ที่ผ่านมาช่างไร้ค่าเหลือเกิน ทั้งยังทำให้โรงงานถดถอยลงเรื่อย ๆ อีก
การจะดีได้ต้องร่วมมือกันทำงาน
แต่โรงงานเราทำไม่ได้น่ะสิ ตั้งแต่ระดับผู้นำไปจนถึงเหล่าคนงาน ทุกคนคิดใครคิดมันกันทั้งนั้น
เอาแต่ส่งเสียงดังอื้ออึงคิดหาผลประโยชน์ลูกเดียว แล้วโรงงานจะไปดีได้ยังไง?
แต่คนงานในโรงงานอาหารรักที่ทำงานของตนเองมาก ผู้นำคิดพัฒนาตลอดแทนที่จะหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง
ตั้งแต่ระดับบนลงล่างจับมือร่วมกัน จะไม่ให้พัฒนาไวได้ยังไง?
“อย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะ โรงงานคุณเป็นโรงงานรัฐนะคะ ไม่ว่าเราจะพัฒนายังไงก็คงเทียบไม่ได้หรอก”
จากนั้นเด็กสาวจึงว่าต่อ “อย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคะ ขนาดเงินบำนาญโรงงานเรายังไม่มีกับเขาเลยค่ะ!”
เรื่องนี้ติดค้างในใจเธอมานานแล้ว
ได้แต่รอว่าเมื่อไรจะเริ่มจ่ายสักที จะได้หาโรงงานรัฐเพื่อร่วมเป็นพันธมิตรและจ่ายเงินบำนาญให้กับคนงาน เธอจะได้สบายใจเสียที
“ตอนนี้ไม่น่ามีวิธีแก้ปัญหานะ แต่ถ้าเธอเริ่มคิดฉันเชื่อว่าสักวันจะต้องได้รับการแก้ไข”
หลี่ว์หรูหยาเอ่ยด้วยความชื่นชม
โรงงานแห่งนี้เป็นธุรกิจเอกชนที่ซูเสี่ยวเถียนตั้งขึ้นมาเอง นั่นหมายความว่าเงินทั้งหมดเป็นของเธออยู่แล้ว ไม่ต้องไปคิดให้มันมากความ
คนมาทำงานให้ เธอจ่ายค่าจ้างคืน เป็นความสัมพันธ์ที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน
“หวังว่าปัญหานี้จะคลี่คลายในเร็ววันนะคะ แล้วก็ขอบคุณที่ให้โอกาสฉันสร้างรายได้กับโรงงานเล็ก ๆ แห่งนี้ด้วยค่ะ”
หลี่ว์หรูหยาถาม “ไม่พอหรือ? ฉันว่ามันก็ทำให้คนงานเธอต้องทำงานล่วงเวลาเลยนะ?”
ไม่รู้ว่าพวกเขาจะคัดค้านหรือเปล่า
ถ้าเป็นโรงงานตนจะต้องคัดค้านแน่นอน
“คนงานของฉันเตรียมจะไม่กลับบ้านแล้วค่ะ รอทำงานรับค่าจ้างล่วงเวลากันน่ะ!”
เพราะเงินที่ให้เยอะพอตัว จึงเลือกไม่กลับเพื่อที่จะได้ช่วยภรรยาและลูก ๆ มีชีวิตที่ดีขึ้น
หลี่ว์หรูหยาพอจะเข้าใจ
ตำแหน่งคนงานของเรากับเขาต่างกัน
ทั้งเรื่องสถานะ เรื่องความสำคัญต่อหน้าที่การงาน
คนงานเป็นพนักงานประจำ หาเลี้ยงชีพไปวัน ๆ ตามความสามารถ
เพื่อให้ได้รับค่าตอบแทนกลับมาเยอะ ๆ จึงจำต้องทำให้เป็นอาชีพหลัก
ส่วนคนงานโรงงานผ้าไม้เป็นอาชีพที่มั่นคง เงินมากเงินน้อยไม่ได้วัดตรงจำนวนงานที่ทำ
แต่ถ้าทุกคนทำแบบนี้บ้าง ผลลัพธ์จะต่างออกไปแน่นอน
รูปแบบการบริหารของเสี่ยวเถียนนำไปประยุกต์ใช้ยากจริง ๆ
แต่เขาจะลองชวนผู้อำนวยการดู
อาจจะเปลี่ยนโอกาสของเราก็เป็นได้
หลี่ว์หรูหยาตระหนักได้ถึงสิ่งที่ต้องการ เขาเอ่ยขอบคุณและขอตัวกลับ
ซูเสี่ยวเถียนอยู่ฟาร์มต่ออีกสองวัน หลังจากแน่ใจว่าเพื่อนสนิทปรับตัวได้จึงกลับบ้านด้วยความสบายใจ
สิ่งแรกที่ทำหลังจากกลับมาถึงคือไปเยี่ยมต่งหยวนจงพร้อมของขวัญ
นอกจากนี้ยังไปเยี่ยมผู้นำหลาย ๆ ท่านที่สนิทกันด้วย
ของขวัญที่นำไปเรียบง่ายมาก มันคือแพ็กเกจของขวัญของหลู่เซียงเซียง
ถ้าไปขายในยุคปัจจุบัน สิ่งนี้ถือว่าเป็นบรรจุภัณฑ์หยาบ ๆ เกินกว่าจะสะดุดตา แต่ในยุคนี้กำลังเป็นกระแสมาก
ยามต่งหยวนจงเห็นการออกแบบ เขาถึงกับทอดถอนใจ เป็นแพ็กเกจของขวัญที่ทำให้คนเห็นรู้สึกได้ถึงความรื่นเริงนัก
แล้วต่อมาก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าหลานสาววางแผนเตรียมการสร้างหอพักให้คนงาน
ถึงตนไม่สามารถอนุมัติที่ดินได้โดยตรง ทว่าให้คำสัญญาได้ว่าจะหาหนทางให้ ซึ่งเสี่ยวเถียนจะต้องใช้เงินด้วยนะ
ซูเสี่ยวเถียนมาเพื่อทำเป้าหมายให้ลุล่วงอยู่แล้ว จึงไม่คิดประหยัดเงินหรอก
หากเป็นที่ดินที่ได้มาฟรี ๆ เธอกลัวว่าถ้าอนาคตนโยบายมีการปรับเปลี่ยนจะต้องเสียเปรียบทางด้านพัฒนาในทันยุคสมัยแน่นอน
แต่สำหรับที่ดินที่ใช้เงินจ่าย มันจะกลายเป็นของเธอเอง และทำกำไรให้แน่นอน
“ปู่รองไม่ต้องห่วงค่ะ โรงงานหนูหาเงินได้”
ต่งหยวนจงยิ้มแย้ม “เสี่ยวเถียนของปู่รู้งานดีจริง ๆ”
“แล้วปู่ช่วยเพิ่มโควตาอีกหน่อยได้ไหมคะ หนูตั้งใจจะขยายโรงงานกับรับสมัครคนงานเพิ่มค่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นอาจจะต้องสร้างที่พักอาศัยเพิ่มในอนาคตด้วย”
“เด็กคนนี้ทะเยอทะยานมากเลยนะ แต่ปู่ได้ยินพี่ใหญ่บอกว่าหนูกำลังสร้างตึกอยู่ไม่ใช่หรือ ใช้เงินจนหมดเลยนี่?”
ถึงจะรู้ว่าหลานหาเงินได้ แต่ไม่รู้ว่าหาได้เท่าไร
จากที่คิดคือซื้อโรงงานร้างมาแล้วสร้างตึกใหม่ คงทำให้เธอหมดตัวจริง ๆ
“ไม่เหมือนกันสักหน่อยค่ะ อันนี้ไม่ใช่เงินหนู เงินโรงงานต่างหาก!”
แต่ชายชราไม่เข้าใจ
โรงงานของเสี่ยวเถียน กำไรก็เป็นของเสี่ยวเถียนนี่นา?
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ถ้าหาเงินได้ก็แล้วกันไป ช่วงปีใหม่เดี๋ยวจัดการให้เอง
รอกลับไปบ้านเกิดเมื่อไรค่อยลงมือทำได้