เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 1078 จูหลานฮวาโกรธจัด

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 1078 จูหลานฮวาโกรธจัด

บทที่ 1078 จูหลานฮวาโกรธจัด

ด้วยความเป็นพี่สะใภ้มาหลายปี จางไฉ่อวิ๋นจึงรู้จักเถียนเสี่ยวเหอพอตัว

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะคิดการใหญ่

เจ้าตัวตกใจมากเมื่อได้ยินอีกฝ่ายคิดวิธีเอาสินสอดจากตระกูลซูมาเป็นของตัวเอง

“เธอป่วยจนร้อนขึ้นสมองหรือ? สินสอดของเสี่ยวเฉ่ามันไปเกี่ยวอะไรกับเธอไม่ทราบ?”

หน้าด้านจริง ๆ ถึงเมื่อก่อนเธอจะคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องพวกนี้แต่ก็ยังมียางอายอยู่บ้างนะ

แล้วดูนังผู้หญิงคนนี้สิ

“ทำไมต้องพูดจารุนแรงด้วยล่ะ? พี่ไม่คิดบ้างเลยหรือ? ไม่อิจฉาหรือไง?” เถียนเสี่ยวเหอไม่ได้สนใจคำพูดเย้ยหยันพวกนั้น

“พี่รู้ตัวเองดีนี่ งั้นก็มาอย่าด่าฉันสิ เด็กนั่นมันก็แค่เด็กเก็บมาเลี้ยงไม่ใช่หรือ แต่เลี้ยงดูจนได้ดิบได้ดีจนตอนนี้ได้ใส่ทั้งเงินทั้งทองเลย ทำไมกัน? มันควรให้พวกเราไม่ใช่หรือ?”

เถียนเสี่ยวเหอรู้สึกว่าพี่สะใภ้คนนี้ก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร ถ้าดีจริงจะมาคิดแข่งกับตนไปทำไมล่ะ?

เพราะโลภเหมือนกันไม่ใช่หรือ?

จางไฉ่อวิ๋นมองอีกฝ่ายด้วยความตกใจ

โง่หรือเปล่า พูดจาแบบนี้ออกมาได้ยังไงเนี่ย?

แต่ยังไงก็เป็นถึงเครื่องประดับทองเชียวนะ จะบอกไม่อิจฉาก็คงโกหก ทว่ามันเป็นของคนอื่นนี่

จางไฉ่อวิ๋นเป็นคนที่สู้เพื่อของที่ควรแก่การต่อสู้ และไม่สนใจของที่ไม่ใช่ของตนด้วย

ตอนนี้เลยไม่ค่อยลำบากเท่าไร ตั้งใจทำงานหาเงินแค่นี้ก็พอแล้ว

ฐานะครอบครัวเธอถือว่าค่อนข้างดีถ้าเทียบกับในหมู่บ้านนะ

เธอพึงพอใจกับชีวิตในตอนนี้มาก ยิ่งมีโรงงานเราจะหาเงินได้ง่ายขึ้น

และไม่คิดจะเอาสินสอดเจ้าสาวมาเป็นของตัวเองด้วย ไม่ชอบเหมือนกันที่เถียนเสี่ยวเหอมีความคิดเช่นนั้น

“เธอหน้าใหญ่มาจากไหนหรือ? นั่นเป็นของที่ซานกงเขาให้เสี่ยวเฉ่าเขา คิดอะไรเพ้อเจ้อ?” จางไฉ่อวิ๋นตอกกลับด้วยความโมโห

เถียนเสี่ยวเหอไม่นึกว่าจะโดนด่าอีก

เธอคิดกบฏ แต่ไม่สามารถเอาของพวกนั้นมาได้ด้วยเพียงลำพัง

ตนก็ไม่อยากให้จางไฉ่อวิ๋นเข้าร่วมหรอก

เพราะอยากจะได้เครื่องประดับมาเป็นของตัวเองทั้งหมด

แต่ถ้าพาจางไฉ่อวิ๋นมาร่วมด้วยจะต้องเสียไปอย่างหนึ่ง

ได้ครึ่งเดียวดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

เพื่อของพวกนั้นเลยจำต้องชักชวนอีกฝ่ายมาด้วยกัน

“ดูที่พี่พูดสิ พวกเราแทบไม่พอกินแล้วนะ แต่เสี่ยวเฉ่านี่มันใส่เงินใส่ทองได้ยังไง? ไม่ดูสารรูปบ้างว่าคู่ควรหรือเปล่า!”

“ถ้าให้ฉันพูดนะ หลายปีที่ผ่านมาถือเป็นบุญคุณอันใหญ่หลวงที่ได้เลี้ยงมันมาเลย สมควรแล้วสิที่จะเอาเงินมาให้เรา”

จางไฉ่อวิ๋นโมโหจัดจนลืมโยนฟืนเข้าเตา

“เธอบ้าไปแล้วหรือ ซานกงมอบไว้แก่ว่าที่ภรรยาเขา แต่เธออยากได้เนี่ยนะ? ทำไม? จะเป็นเมียซานกงหรือไง?”

“ทำไมไม่ลองตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองบ้างล่ะ อยากแต่งงานใหม่แล้วคิดว่าฝ่ายชายเขาเอาไหม? หนังหน้าเหี่ยว ๆ แบบแกได้สักกี่หยวนของทองกัน?”

“ฉันยังได้มัน อยากให้ต้องกินน้ำทั้งขันก็เอา!”

จางไฉ่อวิ๋นตวาดเสียงดังจนเกือบกรีดร้องออกมา

เดิมทีก็ไม่ชอบมันอยู่แล้ว แต่ไม่กล้าด่าตรง ๆ คราวนี้อีกฝ่ายมาเสนอหน้าถึงบ้าน

สีหน้าคนโดนด่าเปลี่ยนไปทันที เพราะไม่ใช่คนที่จำยอมกับการเสียเปรียบจึงคิดจะสู้

ถึงจะดูฉลาดแต่ไม่ได้เก่งอะไรสักนิด

ด่าไม่เก่งไม่พอ ยังสู้เขาไม่ได้อีก

จางไฉ่อวิ๋นแรงดีกว่ามาก จึงลากอีกฝ่ายออกไปข้างนอกหาคนตัดสินให้

ตอนนั้นหลาย ๆ บ้านกำลังกินข้าวอยู่ บางคนกินเสร็จหูได้ยินเสียงอึกทึกคึกโครมเลยออกมาดู

ชาวบ้านตื่นเต้นมากเมื่อรู้ว่าเป็นลูกสะใภ้บ้านผู้ใหญ่บ้าน

จางไฉ่อวิ๋นพูดสิ่งที่อีกฝ่ายว่าเอาไว้ดังฉอด ๆ โดยไม่คิดไว้หน้าน้องสะใภ้สักนิด

ตอนนี้ทุกคนรู้กันหมดแล้วว่าเถียนเสี่ยวเหอคิดจะเอาสินสอดของน้องสามีจริง ๆ

พวกเขามองอีกฝ่ายราวกับเห็นคนโง่งม

ไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อนเลย สมองคิดอะไรอยู่?

ข่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าก็ไปถึงหูผู้ใหญ่บ้านในที่สุด

ตอนนั้นผู้อาวุโสหลาย ๆ คนกำลังดื่มเหล้ากันอยู่ พอได้ยินเรื่องนี้ก็ได้แต่มองหน้ากันด้วยความตกใจ

ภรรยาซูฉางจิ่วเป็นคนแข็งแกร่งมาก ใคร ๆ ก็คาดหวังไว้สูง แต่ไม่นึกเลยว่าลูกสาวกำลังจะแต่งงานแท้ ๆ แต่สะใภ้ที่บ้านกลับสร้างปัญหา

สุดท้ายก็ทนไม่ไหวจำต้องไปจัดการ

ตอนจูหลานฮวามาถึงทั้งสองยังสู้กันอยู่เลย ข้าง ๆ มีคนส่งเสียงเชียร์ดังลั่น

เธออับอายขายขี้หน้ามาก

“เถียนเสี่ยวเหอ ไม่สร้างเรื่องสักวันจะตายหรือไง? พวกเราให้ข้าวให้น้ำแกน้อยไปหรือ? กะอีแค่สินสอดน้องสามีก็ยังอยากจะได้!”

“แล้วมีอะไรที่อยากได้ไม่ได้หรือ แม่ลองถามตัวเองสิ สินสอดลูกสาวบ้านไหนไม่ได้มีไว้ใช้ดูแลลูกชายบ้างล่ะ? อีกอย่างนะ ทำไมตอนเสี่ยวเฉ่าแต่งงานทำไมถึงได้เครื่องประดับทอง แล้วทำไมตอนฉันแต่งไม่เห็นจะมีบ้าง?”

เถียนเสี่ยวเหอไม่ได้สำเหนียกเลยว่าตัวเองทำอะไรผิด เอาแต่ตะโกนอ้างเหตุผลไปเรื่อย

จูหลานฮวาอยากระเบิดหัวเราะใส่หน้า หน้าด้านเหลือเกิน

ชาวบ้านบางส่วนยังทนอายแทนไม่ไหว

เพราะมันมีคนทำแบบนี้จริง ๆ

“ถ้าแกคิดว่าบ้านเราเอาเปรียบนักก็ไสหัวกลับบ้านเกิดไปซะ ดูซิจะมีใครหน้าไหนอยากเอาทองคำมาแลกกับคนแบบแกหรือเปล่า!”

ความโกรธของจูหลานฮวาระเบิดใส่ลูกสะใภ้คนเล็กเต็มที่

สายตาไม่ลืมมองสะใภ้ใหญ่ด้วยเช่นกัน

พอกันทั้งคู่ ไม่รู้หรือไงว่าไม่ควรเอาเรื่องในครอบครัวมาเปิดเผยให้ชาวบ้านเขารู้?

ทำไปเพื่ออะไร?

“แล้วฉันไปทำอะไรให้แม่ถึงให้ฉันกลับบ้านเกิดน่ะ? บากบั่นทำงานอยู่นี่มาตั้งหลายปีผลงานก็ไม่ได้!” เถียนเสี่ยวเหอไม่คิดยอมแพ้

“เถียนเสี่ยวเหอ สองวันนี้แกทบทวนตัวเองซะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าแม่สามีแบบฉันไม่ไว้หน้าแกก็แล้วกัน จะลากไปถามแม่บังเกิดเกล้าแกเลยว่าสั่งสอนลูกสาวมายังไง!”

จูหลานฮวาโมโหควันแทบออกหัว ถ้าที่บ้านไม่ได้มีงานคงจะพามันไปตระกูลเถียนตอนนี้แล้วละ

ฝ่ายเถียนเสี่ยวเหอไม่เคยเห็นแม่สามีโกรธขนาดนี้มาก่อน จึงไม่กล้าสร้างเรื่องไปอีกพักใหญ่

ถึงไม่พอใจก็ทำได้แค่กลับบ้านไปเท่านั้น

แต่ใจยังไม่หยุดคิดเรื่องทองนะ

มันคือของที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนเชียวนา!

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท