Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 1033 ฉายเดี่ยว

ตอนที่ 1033 ฉายเดี่ยว

  เป็นเวลาพักใหญ่ที่ฝ่ายเสี่ยวเซียวแบ่งกองกำลังออกเป็นทีมย่อยๆกระจายไล่ตามทีมเขี้ยวหมาป่าไปคนละทิศทางเสี่ยวเซียวเองก็เข้าร่วมในการไล่ล่าครั้งนี้เช่นกัน หากทีมที่เสี่ยวเซียวเข้าร่วมด้วยคือทีมที่มีแต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดรวมตัวกันอยู่…

   มีร่องรอยอยู่ตรงนี้ ระหว่างเส้นทางไล่ล่า ชายคนหนึ่งในทีมที่คอยสอดส่องหาเบาะแสอยู่ก็รีบรายงานเสี่ยวเซียวทันทีที่พบเห็น

  เสี่ยวเซียวที่มีความรู้มากมายอัดแน่นในหัวเพียงแค่เหลือบตามองดูร่องรอยแวบเดียวเขาก็สามารถทำการวิเคราะห์ออกมาได้ในทันที  มันเป็นร่องรอยที่พวกนั้นจงใจทิ้งเอาไว้เพื่อล่อให้เราไปทางซ้าย ทั้งๆที่ความจริงไม่มีใครอยู่ด้านซ้ายหรือถ้ามีก็มีคือดักซุ่มรอโจมตีเราอยู่ 

   ถ้างั้นเราจะไปทางไหนดีครับ? คนในทีมได้ฟังการวิเคราะห์ก็ตัดสินใจไม่ออกว่าควรจะไปทางไหนดี

   ไปทางขวากัน สีหน้าของเสี่ยวเซียวเหมือนกำลังคิดวางแผนบางอย่างอยู่  เพราะทางซ้ายจะต้องไม่มีชูฮันอยู่แน่ๆ 

  สมาชิกทีมกุ้งเสือดำที่โจมตีอยู่ทางซ้ายต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอกกันทั้งนั้นในแววตาของทุกคนมีความอิจฉาอย่างเห็นได้ชัด ต้องยอมรับเลยว่าการตัดสินใจของเสี่ยวเซียวนั้นถูกต้องอย่างสมบูรณ์แต่ก็ใช่ว่าจะหนีพ้นแผนการของหัวหน้าชูฮันซะที่ไหน

  ฟรึบ!พรึบ! ตึก!

  ในพื้นที่อื่นๆภายในสนามรบอันกว้างใหญ่หลายคนต่างกำลังเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องไปตามพุ่มไม้สูงใหญ่ทั้งหลาย และในท่ามกลางกลุ่มคนมากมาย หนึ่งในนั้นกำลังจะปะทะกันในอีกไม่ช้าแล้ว

  จางโบฮั่นซึ่งเป็นสมาชิกหญิงเพียงคนเดียวของทีมกุ้งเสือดำตั้งแต่แรกเริ่มจนกระทั่งปัจจุบันแม้จะเป็นผู้หญิงแต่เธอไม่แสดงความอ่อนแอหรือเมตตาออกมา เมื่อถึงเวลาต้องสู่เธอสามารถฆ่าทุกคนได้ทันทีอย่างไม่ลังเลจนกระทั่งบางทีเธออดไม่ได้ที่จะกลัวความบ้าคลั่งหัวรุนแรงของตัวเอง

  ขณะนี้จางโบฮั่นกำลังซ่อนตัวอยู่หลังลำต้นไม้หนาความสามารถของเธอนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากสุดๆ ในตอนระยะต้นๆเธอสามารถใช้เกราะที่มีป้องกันการรับรู้ของซอมบี้ภายในระยะที่กำจัด ทว่าขณะนี้จางโบฮั่นซึ่งเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 5 มีเกราะหนาภายในรัศมีกว้างไกลและเป้าหมายก็มากกว่าแค่ซอมบี้อย่างเมื่อก่อน

  ที่จริงเธอกลายเป็นไพ่สำคัญที่คอยปกป้องทีมกุ้งเสือดำ

  กริชสีดำในมือมีประกายเย็นแวบผ่านจางโบฮั่นหลับตาลงเพื่อให้หูของเธอทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เธอได้ยินเสียงบางอย่างจากตรงข้างหน้าฝั่งซ้าย มันคือเสียงของกิ่งไม้ที่แตกหักและก็เสียงหายใจ สิ่งที่ได้ยินทำให้เธอตัดสินใจได้ว่า…   มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ผู้ชายประมาณระยะ4

  พั้วะ!

  เมื่อพิจารณาตำแหน่งและจังหวะได้อย่างเหมาะสมแล้วจางโบฮั่นก็ไม่มีความลังเลเลยสักนิด เธอดึงกริชสีดำออกมาและพุ่งไปยังตำแหน่งของศัตรู

  ร่างของเธอเหมือนกับวิญญาณที่มองไม่เห็นและไม่มีเสียงใดๆมีเพียงแค่กริชสีดำในมือและจิตสังหารจำนวนมากที่ระเบิดโพล่งใส่ศัตรูอย่างทันที!

  พัฟ!

  กริชสีดำปักเข้ากลางหัวใจของศัตรูอย่างง่ายๆตาของจางโบฮั่นเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก เธอไม่แม้แต่จะมองสีหน้าของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

  ตายภายในการโจมตีครั้งเดียว!

  ปั่ก!

  ร่างของศัตรูล้มลงกระแทกพื้นตามมาด้วยเลือดที่ไหลออกมานองจนเป็นแอ่ง  กุ้งเสือดำเก่งที่สุดในด้านการลอบสังหารเมื่อเทียบกับการแบ่งเป็นทีมย่อยทีมละสิบคน การฉายเดี่ยวนั้นจะทำให้ความสามารถที่แท้จริงตามธรรมชาติถูกปลดปล่อยออกมาได้ดีกว่า

  นี้ก็เป็นอีกหนึ่งชั้นในกระบวนการแผนการของชูฮันชูฮันจงใจให้ทีมกุ้งเสือดำแบ่งออกเป็นทีมย่อยเพื่อก่อกวนและลอบทำร้ายฝ่ายศัตรู จากนั้นก็ถอยห่างและหนีจากไปโดยใช้ต้นไม้สูงหนารอบๆเป็นที่กำบัง

  ทันทีที่ทีมกุ้งเสือดำกระจายหายเข้าไปในป่าทึบถ้าพวกเขาไม่ต้องการให้ใครหาเจอก็จะไม่มีทางหาได้เจอเด็ดขาด

  ถ้าพวกเขาต้องการลอบสังหารศัตรูศัตรูก็จะถูกฆ่าโดยไม่ทันรู้ตัว จากนั้นพวกเขาก็จะจากไปโดยไม่มีแม้แต่ร่องรอยใดๆทิ้งไว้

  นี้คือแง่มุมที่น่ากลัวที่สุดของกุ้งเสือดำ…ความสามารถที่แท้จริงซึ่งปิดซ่อนอยู่ในความมืดมายาวนาน!

  ทันทีที่จางโบฮั่นฆ่าอีกฝ่ายสำเร็จแต่แล้วจู่ๆสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน

   ปัง! 

  หูของจางโบฮั่นได้ยินเสียงยิงปืน

  พลั่ก!

  ปฏิกิริยาตอบสนองของจางโบฮั่นรวดเร็วอย่างมากเธอขยับตัวเบี่ยงหลบกระสุนที่มาจากทางด้านหลังจนล้มลงไปอยู่ที่พื้น แต่ถึงกระนั้นกระสุนก็ยังเฉียดผิวตรงหัวไหล่ไปทำให้เกิดเลือดซึม ความเจ็บเล็กน้อยพลันก่อตัวขึ้น

  ขณะเดียวกันไม่ไกลออกไปจากตำแหน่งของจางโบฮั่นก็มีร่างของฝ่ายศัตรูปรากฏตัวขึ้นมาจากพุ่มหญ้าสูง ในมือของฝ่ายมีปืนที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดในตอนนี้อยู่พร้อมกับค่อยๆขยับเข้าใกล้ตำแหน่งของจางโบฮั่นอย่างระมัดระวัง กระสุนยังคงถูกยิงฝ่าออกไปจนเกิดเสียงดังสนั่นไปรอบบริเวณ

  จางโบฮั่นพยายามถอยหนีและใช้พุ่มหญ้าสูงหนาเพื่อช่วยปกปิดตัวตนและหลีกเลี่ยงกระสุนจากศัตรูหากมันกลับดูไร้ประโยชน์เพราะอีกฝ่ายกำลังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆทุกขณะ เขาสามารถมองเห็นและหาตำแหน่งที่ซ่อนของจางโบฮั่นได้อย่างง่ายๆจากมุมมองระดับสูงที่ได้เปรียบกว่า

  และในตอนนั้นเอง!

  ทันใดนั้นที่ด้านหลังของศัตรูก็มีร่างหนึ่งกระโดดถีบขาคู่จากที่สูงลงใส่บ่าของศัตรูอย่างกระทันพร้อมกับกริชสีดำที่ถูกแทงจ้วงเข้าใส่

  พัฟ!

  กริชคมกริบปักเข้าที่ลำคอของอีกฝ่ายอย่างแรง

  เสียงยิงปืนพลันหยุดลงเลือดพุ่งกระเซ็นราวกับน้ำพุ และคอของอีกฝ่ายก็หักและห้อยโตงเตงจนเหมือนจะหลุดแยกออกจากตัวอยู่ร่อมร่อ ก่อนร่างของมันจะลงไปกองอยู่ที่พื้น

  จางโบฮั่นถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะยืนขึ้นและเอ่ยขอบคุณเสี่ยวเคินที่ช่วยชีวิตเธอไว้  ขอบคุณ 

  เสี่ยวเคินไม่ได้พูดอะไรตอบเขาก้มลงหยิบปืนที่พื้นขึ้นมาโยนให้จางโบฮั่น  เวลาฆ่าอย่าหุนหันพลันแล่น มันอาจจะมีคนซุ่มอยู่ข้างหลังเธอได้ 

  หลังจากพูดจบเสี่ยวเคินก็จากไปยังทิศทางที่มีศัตรูอยู่

  แกร๊ก!ปั่ก!

  จางโบฮั่นสำรวจปืนให้พร้อมใช้งานไม่สนใจบาดแผลบนหัวไหล่ตัวเองและมุ่งหน้าไปยังทิศทางตรงกันข้ามกันเสี่ยวเคิน

  เหตุการณ์ลอบสังหารคล้ายกันนี้ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่รอบๆทั้งหมดมีการปะทะ การสูญเสีย ไหนจะขาดข้อมูลและการติดต่อจากพวกเดียวกัน ทำให้ตอนนี้มันไม่สามารถนับได้เลยว่าฝ่ายตัวเองเสียคนไปเท่าไหร่และเหลือคนเท่าไหร่

  สำหรับชูฮันที่อยู่เพียงคนเดียวไม่เหมือนกับทีมกุ้งเสือดำชูฮันไม่ได้ทำการลอบสังหารใคร กลับกันเขายืนถือขวานยักษ์ซิ่วโหลที่แสนจะโดดเด่นอยู่ในที่แจ้งอย่างไม่คิดหลบซ่อนใดๆ

  แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่สร้างทีมสังหารอย่างกุ้งเสือดำขึ้นมาเองแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตัวชูฮันจะชอบใช้วิธีนั้น เทียบกับการลอบสังหารแล้ว…เขาชอบการประจันหน้าแบบตัวต่อตัวในที่สว่างมากกว่า

   มันคือชูฮัน! ทันทีที่ได้เห็นขวานยักษ์สีดำในมือชูฮัน ทีมฝ่ายศัตรูที่มีคนสิบคนก็ส่งเสียงร้องลั่น แถมหนึ่งในนั้นยังหมุนตัวเพื่อเตรียมจะวิ่งออกไปแจ้งให้ที่เหลือได้ตามมาสมทบ

   อยากไปงั้นเหรอ?! ชูฮันพูดเสียงดัง ตาเป็นประกายวาวขณะมองชายคนหนึ่งที่วิ่งหนีห่างออกไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นชูฮันก็ปล่อยสนามพลังงานสีดำออกมาครอบคลุมศัตรูที่เหลืออีก 9 คนเอาไว้

  ชูฮันรู้ว่าทหารระดับสูง70 คนของกุ้งเสือดำจะสามารถจัดการปัญหาเรื่องกองกำลังมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะสูงที่เป็นศัตรูได้อยู่แล้ว เพราะงั้นชูฮันจึงไม่ได้เครียดและปล่อยให้อีกคนรอดไปคาบข่าวบอกพรรคพวก ยิ่งถ้ามันสามารถพาตัวเสี่ยวเซียวและพรรคพวกส่วนใหญ่ทั้งหมดมาได้ก็ยิ่งดีเพราะเขาก็จะได้จัดการทุกอย่างในทีเดียวซะ

  แค่หวังว่าพวกที่มาจะไม่ได้มาหลายร้อยคนพร้อมกันในทีเดียว…

  ทั้ง9 คนตะลึงค้างไปเลยเมื่อจู่ๆก็มีสนามพลังงานขึ้นมาคลุมรอบพวกเขาเอาไว้ พวกเขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิตจึงไม่แปลกที่จะมีท่าที่ตื่นตระหนก หลายคนที่เป็นมือปืนก็ตัดสินใจยกปืนขึ้นยิงรัวใส่ชูฮัน

  ทว่าภายในสนามพลังงานของชูฮันทุกอย่างถูกควบคุมโดยชูฮันในตอนนี้ที่มีห่ากระสุนหนากำลังพุ่งเข้ามา ชูฮันที่มักเตรียมพร้อมอยู่เสมอกลับไม่ขยับตัวหนีเพราะจู่ๆมันก็มีกำแพงหมอกหนาปรากฏขึ้นกั้นร่างของชูฮันระหว่างกระสุนเอาไว้

 

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

Status: Ongoing

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง

สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น

วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว

ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ

และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้

และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย

นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท