บทที่ 1112 ฉลองส่งท้ายปีเก่า
บทที่ 1112 ฉลองส่งท้ายปีเก่า
ท่าทางอีกฝ่ายเหมือนอยากจะกินหัวใครสักคนเลย
ซูหม่านซิ่วเป็นกังวล กลัวหลานจะเสียเปรียบ
แต่หาทางช่วยไม่ได้เลย
เธอทนมองหลานตัวคนเดียวไม่ได้
ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนสุดท้ายเธอก็แค่เด็กคนหนึ่ง
กลัวจะรับมือไม่ไหว
โดยเฉพาะหญิงชราคนนั้น ท่าทางดูไม่เหมือนคนใจดีเลย อาจจะคิดไม่ดีอยู่ก็ได้
ไม่ได้การ ต้องไปตามคนมาช่วย
เธอมองไปรอบ ๆ
เหมือนว่าแถวนี้จะมีสถานีตำรวจอยู่นะ
ถ้าเรียกตำรวจมากทุกอย่างคงราบรื่นแน่
ซูหม่านซิ่วคว้าลูกได้ก็รีบวิ่งไปทันที
ฝั่งซูเสี่ยวเถียนมองด้วยสายตาสงสัย ให้แน่ใจว่าเป็นการแสดงหรือเปล่า
แต่ก็ไม่รู้ว่าแสดงเก่งหรือรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ เพราะไม่เจอความผิดแผกเลย
ซูเสี่ยวเถียนยังไม่เชื่อ
จึงเดินไปหาเด็ก ๆ ทั้งสอง
“หนูน้อย พี่ให้ลูกอมนะ!”
เธอหยิบลูกอมสองเม็ดออกมา เป็นลูกอมกระต่ายขาวของโปรดเด็กยุคนี้
ก่อนยื่นไปให้
อย่างที่คาดไว้ เด็ก ๆ มีความสุขมาก
คนโตยังลังเล แต่คนเล็กคว้าไปแล้ว
จากสายตาก็รู้แล้วว่าอยากกินแค่ไหน
การที่เด็ก ๆ ไม่ได้โกหกเธอเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าค่าครองชีพในชีวิตคงไม่ดี ขนาดลูกอมยังเป็นของหายาก
โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ ต่อให้เป็นครอบครัวยากจนก็ยังซื้อขนมให้เด็ก ๆ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้กินมานานแล้ว
ฝ่ายแม่เห็นก็ร้อนใจ จึงรั้งลูกไว้ด้านหลัง
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนเลว ลูกจะไปเอาลูกอมจากเขาไม่ได้นะ! เขาจะให้พ่อเข้าคุก!”
เด็ก ๆ ชักมือกลับ แต่สายตายังจ้องมองลูกอมอยู่
ขนาดเรื่องของพ่อ เด็กมันยังไม่ใส่ใจเลย
เด็กสาวถอนหายใจ สี่คนนี้คงใช้ชีวิตลำบากยากแค้นแน่ ๆ
แถมลูกสาวก็ดูไม่เห็นความสำคัญของพ่อด้วย
อย่างน้อยก็ไม่มากเท่าลูกอมพวกนี้น่ะ
แล้วเซี่ยงอิงมันเอาเงินไปไหนหมด?
ซ่อนหรือ?
เธอแปลกใจ คนเราบ้าเงินก็เพื่อให้ชีวิตสุขสบายไม่ใช่หรือ?
เพื่อตัวเอง เพื่อลูกหลานและพ่อแม่ที่บ้านไม่ใช่หรือไง
และทำอะไรอีกหลายอย่าง…
ถึงเราจะไม่ได้ติดต่อกันบ่อย แต่รู้ได้ว่าอีกฝ่ายอยู่สบายเลยแหละ
แต่งตัวดี ใส่สูทผูกไทที่ราคาไม่ใช่น้อย ๆ ถือว่ามีระดับในโรงงานด้วยซ้ำ
ตอนที่เห็นไม่ได้นึกหรอก เพราะเงินเดือนที่ให้ก็มากพอที่จะอยู่กินอย่างสะดวกสบายแล้ว
บ้านไหนภาระเยอะก็คงแต่งตัวธรรมดาลงมาหน่อย ส่วนบ้านไหนภาระน้อยก็อาจจะแต่งตัวดีขึ้น
ดูท่าพวกเขาจะมีปัญหาจริง ๆ
แต่เงินพวกนั้นเซี่ยงอิงไม่น่าจะใช้คนเดียวนะ
“แกมันคนใจร้าย ต้องการให้ลูกฉันเป็นเด็กไม่มีพ่อ กล้าทำแบบนี้ได้ยังไง? ลูกฉันยังเล็กอยู่เลย ถ้าไม่มีพ่อแล้วพวกเราสามคนจะอยู่ยังไง? กล้าดียังไงมาทำลายครอบครัวฉัน?”
คนเป็นแม่จ้องเขม็ง จากนั้นก็ปิดหน้าปิดตาร้องไห้
คนรอบข้างสังเกตเห็นเสื้อผ้าครอบครัวนี้และเริ่มสงสัยในคำพูดซูเสี่ยวเถียน
ถ้าจริงอย่างที่ว่า งั้นเงินแปดพันที่ยักยอกไปมันทำให้ชีวิตน่าสังเวชได้ขนาดนี้เลยหรือ?
อันที่จริง เงินจำนวนเท่านั้นทำให้อยู่ดีกินดีไปได้อีกหลายปีเลยนะ มันไม่ควรเป็นแบบนี้สิ!
ท่าทางน่าสงสารของสามแม่ลูกทำเอาคนเห็นสงสารจับใจ!
“สาวน้อย เธอจำผิดหรือเปล่า? ดูสภาพพวกเขาสิ ไม่เหมือนคนมีเงินเลยนะ!”
หญิงชราคนหนึ่งทนไม่ไหวจนต้องเอ่ยออกมา
จากนั้นตามด้วยคนอื่น ๆ
พวกเขาสงสัยว่าหลังจากซูเสี่ยวเถียนใช้ประโยชน์พนักงานเสร็จก็เขี่ยทิ้งไป
เลยเอ่ยถามออกไป
เด็กสาวยืนฟัง
ไม่เชื่อด้วยว่าคนฉลาดจะไม่ตามืดบอดตลอดไป
เด็กสาวจึงจำต้องชี้แจงชัด ๆ
จากนั้นเธอก็พูดเสียงดัง “ถึงฉันจะไม่รู้ว่าสามีของคุณเอาเงินไปทำอะไร ถึงได้ทำให้คนที่บ้านมีสภาพเป็นแบบนี้ แต่เขาก็ยังเป็นคนที่ยักยอกเงินของโรงงานเราอยู่ดีค่ะ”
“จากเงินเดือนที่ได้ ถ้าเขาไม่ได้ทำเรื่องผิดกฎหมาย ยังไงเสียก็ไม่มีทางใช้ชีวิตในสภาพนี้อยู่ดี สามีเป็นพนักงานด้านฝ่ายขาย เงินเดือนเดือนละหนึ่งร้อยหยวน รวมรายได้จากยอดขาย เบ็ดเสร็จแล้วร่วมสองร้อยหยวน”
“แล้วที่บ้านพวกคุณใช้เงินเดือนละเท่าไรก็ลองคำนวณดู ฉันคิดว่าคงมีเหตุผลอื่นที่ทำให้สภาพที่บ้านเขาเป็นแบบนี้”
สองร้อยหยวนเป็นจำนวนที่ใคร ๆ ต่างเฝ้าฝัน
เงินจำนวนนี้มากพอจะทำให้ใช้ชีวิตสุขสบาย หากบอกว่าได้กินเนื้อสัตว์ทุกมื้อคงไม่เกินจริง
หรือคนพวกนี้แสดงจริง?
ไม่เหมือนจะเป็นแบบนั้นนะ ดูท่าทางแล้วคงไม่เสแสร้งแน่ ๆ
ยิ่งกับเด็ก ๆ สองคนนั้นอีก สีหน้าตอนเห็นลูกอมน่าสงสารมาก
เด็กที่มีกินมีใช้ไม่มีทางแสดงสีหน้าแบบนั้นออกมาได้หรอก
—————————————————————–